ก็เป็นไปตามรูปแบบเดิมคือ เมื่อเห็นว่าตนเริ่มเพลี่ยงพล้ำ และเล่นงานไม่ได้ เพราะ
"นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ออกมาแถลงชี้แจงได้ซะละเอียดยิบเป็นข้อๆ จนได้ใจประชาชนไปอีกไม่น้อย หลายท่านก็เริ่มหูตาสว่างกันได้บ้าง ทั้งๆ ที่ มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยแท้ๆ ในเรื่อง "จำนำข้าว"
ความเสียหายที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ามากมายไม่น้อย แต่ความเสียหายเหล่านั้นไม่ใช่เพราะพวกปลวกมอดที่คอยกัดแซะหรอกรึ... เช่น การปล่อยข่าว ตัดต่อภาพว่า ข้าวเน่า ข้าวมีสารพิษ ปล่อยข่าวว่า ข้าวโดนกักอยู่ที่ด่านของสหรัฐฯ จนสหรัฐฯเองต้องมาออกข่าวว่าไม่มีข้าวที่ถูกกัก
แต่ข่าวชั่วร้ายเหล่านี้ก็ได้กระจายไปทั่วโลกแล้ว จนทำให้บางประเทศหันไปสั่งข้าวจากประเทศอื่นแทน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการอันโสมมในการที่จะกำจัด โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของชาติ แล้วแบบนี้จะครองใจผู้คนได้อย่างไรกัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเคยคิดหรือไม่ว่า การใช้ "โจร" ทำงาน ไม่มีใครมองว่า ท่านดี หรือ น่าชื่นชมเคารพ หรอกนะครับ
"เพื่อบรรลุถึงจุดมุ่งหมาย ไม่คำนึงถึงวิธีการที่ใช้" นั่นมันเป็นคำที่ควรใช้กับ "ผู้เหี้ยมหาญ" มากกว่า "ผู้กล้าหาญ"
ขายข้าวแบบ "จีทูจี หรือ รัฐต่อรัฐ" ก็ปล่อยข่าวว่าไม่มีจริง แต่เมื่อความจริงปรากฏ ว่ารัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ได้ส่งข้าวแบบจีทูจีล็อค 2 ไปให้ เพราะเขาทวงมา จึงได้รู้ว่ามันมีจริง แต่ "เพื่อไทย" ก็ดูเลวไปแล้วในสายตาคนไทยที่ไม่คิดจะหาความจริงหรือมีอคติอยู่ก่อน
จะระบายข้าวด้วยการเปิดการประมูล ก็พาพวกไปก่อความวุ่นวาย ตัดน้ำตัดไฟ ไม่ให้ประมูลได้
ครั้นจะทำข้าวถุงราคาถูกเพื่อมาขาย และเป็นการระบายข้าวไปในตัวเพื่อนำเงินมาจ่ายชาวนาอีกต่อ ก็ถูกสั่งระงับ เล่นกันทุกทาง
ครั้นจะกู้เงินออมสินมาจ่ายชาวนา ก็ไปปิด ไปขู่ออมสินไม่ให้จ่าย บอกว่ารัฐบาลไม่ชอบธรรมใ้กู้แล้วจะไม่ได้คืน แห่กันไปถอน ไปปิด โดยไม่สนใจว่าชาวนาจะฆ่าตัวตายเพราะมีหนี้สินแต่ไม่มีเงินจ่าย
เลวยิ่งกว่านั้น ปล่อยข่าวว่า "ยิ่งลักษณ์ ทำให้ชาวนาฆ่าตัวตาย"
ลองให้ เด็ก ป.4 พิจารณาดูก็รู้ว่าใครทำให้ชาวนาต้องฆ่าตัวตาย
แต่พอรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งที่จริงย่อมน่ากลัวในเรื่องความเชื่อถือในการชำระเงินมากกว่า ปล่อยเงินที่ค้างให้ชาวนา ออมสินและอีกหลายธนาคาร แย่งกันให้กู้ โดยเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อให้ธนาคารของตนได้เป็นผู้ให้กู้ เนื่องจากจะได้ดอกเบี้ยจำนวนไม่น้อย เหล่าคนดีหายหัวกันเงียบกริ๊บ
ทั้งหมดทั้งมวลคือ การสร้างข่าวให้ดูเลว ฟ้องร้องเพื่อเตะสะกัด ทำให้ชาติบ้านเมืองต้องหยุดชะงักเสียหาย แต่เพราะความมืดบอดของคนไทยอีกไม่น้อยที่ไม่เคยค้นหาควารมจริงเลย
เพียงเพราะเขาปลุกปั่นตั้งแต่ครั้ง
"พันธมิตร" ว่า
"ทักษิณจะล้มเจ้า" เพียงแค่นี้เท่านั้น ก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ แม้ภายหลังจะมีผู้มาชี้แจงแก้ข่าวให้ก็ไม่คิดอ่าน หรือแกล้งไม่เชื่อซะ ด้วยความมืดบอดของจิตใจ
-------------------------
คราวนี้เมื่อ
"นายกฯยิ่งลักษณ์" ชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างจะแจ้งเป็นข้อๆ ก็พยายามดาหน้ากันออกมาเล่นงานกันต่อ เพื่อกดดันให้ สนช. เล่นงานยิ่งลักษณ์ให้ได้ ตามสไตล์ที่
"ประชาธิปัตย์" ใช้บ่อย
เล่นแม้กระทั่งเรื่อง หาว่า
"อ่านสคริป" ซึ่งผมดูแล้วแกก็แค่มองหัวข้อประเด็นหลัก เพื่อชี้แจงเป็นข้อๆ การมองแค่เสี้ยววินาที คงไม่อาจอ่านเป็นประโยคได้หรอกนะครับ ผิดกับตัว "นายวิชา มหาคุณ" ที่ทำเหมือนเด็กประถมอ่านหนังสือให้ครูฟัง แต่เนื้อหาที่กล่าวมา ไร้ค่า ไร้ราคา
"นายวิชา มหาคุณ" หนึ่งใน ป.ป.ช. ที่ไม่เคยได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเลย แต่บ้านนี้เมืองนี้กลับให้อำนาจเขาถอดถอนนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งได้ซะนี่
คนนี้นับเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันที่แท้จริง ที่ออกมาสู้อย่างชนิด ไม่กลัวผู้คนสาปแช่งไปในภายภาคหน้า เร่งรัดแต่จะตัดสินคดี "เพื่อไทย" อย่างชนิด คุ้มเกินเงินเดือน
แต่คดีในลักษณะเดียวกัน อย่างคดี "ประกันราคาข้าว" โดนทวงถามว่าทำไมไม่ไปถึงไหน กลับบอกว่า เอกสารจมน้ำไปตั้งแต่ปี 2554 ทั้งๆ ที่ก่อนน้ำจะท่วมได้มีการประกาศเตือนล่วงหน้าแล้ว แถมอาคารก็เป็นตึกหลายชั้น หาได้เป็นกระท่อมมุงจากชั้นเดียวไม่ พอตรวจสอบเจอว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) เพิ่งส่งเอกสารเกี่ยวกับการระบายข้าวไปให้ ดีเอสไอ. เมื่อเดือน มีนาคม 2556 นับหมื่นชิ้น กลับเงียบเป็นเป่าสาก แล้วเรื่องก็เงียบหายไป
หลานของตัวเอง
"นายเอกชัย มหาคุณ" ถูก ดีเอสไอ. แจ้งข้อหา
"หลบเลี่ยงภาษีศุลกากร" นำเข้าไวน์จากฝรั่งเศส นายวิชาได้ให้เลขาฯ ส่วนตัวยื่นขอประกัน และรับรองว่าจำเลยจะไม่หลบหนี และมารายงานตัวต่ออัยการ ทว่ากลับหลบหนีไปอยู่อเมริกา เพื่อรอคดีหมดอายุความในปี 2561 โ
ดยที่เลขาฯ และนายวิชา ไม่ได้รับผิดชอบใดๆ
อยากถามว่ากรณีนี้ มีใครออกมาเรียกร้องให้
"ส่งผู้ร้ายข้ามแดน" กันบ้างหรือไม่ ทั้งๆ ที่หลักฐานชัดเจน? แต่เรื่องจำนำข้าวบอกว่า "ส่อว่าจะทุจริต" ทั้งๆ ที่ยังไม่เกิด หากเกิดแล้วทำไมไม่ไปจับคนทุจริต แล้วเล่นมาเป็นทอดๆ
ปล่อยข่าวว่าเสียหายหลายแสนล้าน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็เรียกร้องให้ตรวจสอบด้วยกันก็ไม่ยอมทำ เหมือนตั้งธงว่าจะเล่นให้ได้ ไม่สนใจว่าผิดหรือไม่ ปล่อยข่าวว่า
ขนเงินไปต่างประเทศแล้ว 7 แสนล้าน (ซึ่งคงต้องขนกันเป็นโบกี้ และธนาคารแห่งประเทศไทยต้องพบความเคลื่อนไหวก่อนแน่) พอตอนหลังหุบปากสนิท บอกไม่ได้พูดซะงั้น
ช่างน่าตบปากให้ฟันปลอมหลุดนัก
ในช่วงเหตุการณ์วิกฤตตุลาการ ปี 2535
นายวิชา ก็เป็นหนึ่งในผู้พิพากษาที่ถูก
ไล่ออกจากราชการ เพราะกระทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งไม่น่าจะได้กลับมาเลยด้วยซ้ำ สำหรับผู้มีประวัติราชการเยี่ยงนี้...
✿✿✿✿✿✿
"
นายประสาร มฤคพิทักษ์ สปช. และกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง"
นายคนนี้ยังไม่มีอะไรโดดเด่นนัก เคยไปขึ้นเวที กปปส. มาแล้ว และต่อต้านทักษิณ สุดๆ โจมตีโครงการณ์รถไฟความเร็วสูงสุดๆ ว่า 2.2 ล้าล้าน "กู้ชาตินี้ ใช้คืนชาติหน้า"
พอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำโครงการณ์เดียวกัน แต่ไม่มีรถไฟความเร็วสูง 3.3 ล้านล้าน เงียบกริ๊บ ไม่กล้าเผยอปากพูด สรุป "ห่วงชาติ" จริงหรือเปล่าเนี่ย?
ตอนนี้ก็ออกมาโจมตีว่า
"นายกฯ ยิ่งลักษณ์" อ่านโพยเรื่องเดิมๆ หากไม่พูดเรื่องเดิมๆ ก็แสดงว่าที่ท่านเคยพูดมาก็โกหกน่ะสิ!
พยายามเสนอหน้าออกสื่อบ่อย ไม่ให้ตกเทรน แบบ สุริยะใส เพื่อความก้าวหน้าในอนาคต แบบหลายรายที่เคยได้รับกันมา
คือ ออกมาแสดงบทบาท ด่า เพื่อไทย ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ได้มากเท่าไหร่ ก็ก้าวหน้าเร็วเท่านั้น
พี่ชายเป็นบุคคลแรกๆ ที่จัดการทอล์คโชว์ขึ้นในประเทศไทย จนทำให้ได้รับการขนานนามว่า
"ต้นตำรับนักพูดเมืองไทย" ซึ่งผมก็ชื่นชมแกมาตลอด
แต่ในช่วงสงครามอิรัก ในปี พ.ศ. 2546 ที่สหรัฐอเมริกาบุกโจมตีอิรักทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน "ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ " ผู้เป็นพี่ชายนายประสาน ซึ่งเคยเป็น ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อของ
"พรรคไทยรักไทย" ได้แสดงความเห็นว่า
"หากสหรัฐอเมริกาต้องการเอาชนะอิรักให้ได้อย่างเด็ดขาด ให้ใช้
"ระเบิดน้ำมันหมู" ทำให้ถูกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมหลายภาคส่วนถึงความเหมาะสม ทำให้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็น ส.ส. ทันที
ในความเป็นจริง ก็คงโดน ส.ส. ร่วมพรรคกดดันด้วย เพราะโดนด่ากันทั้งประเทศ ไม่รู้ว่านี่เป็นสาเหตุแห่งความแค้นหรือเปล่าจากสาเหตุที่พี่ชายแกโดน แต่ก็สมควรแล้ว พูดไม่ยั้งปากเอง
และเคยมีคดีที่มีคำสั่งศาลล้มละลายกลาง โดยธนาคารกรุงเทพ เป็นโจทย์ผู้ฟ้องร้อง สั่งให้
"ทินวัฒน์" และ
"มาลีรัตน์" ภริยา เป็นบุคคลล้มละลาย และมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ในบริษัทของเจ้าตัว
✿✿✿✿✿✿
ชื่อ-นามสกุล :
"สมชัย ศรีสุทธิยากร"
วันเดือนปีเกิด : วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2501
บิดา :
"นายประสิทธิ์ ศรีสุทธิยากร"
มารดา :
"นางเอ็ง ศรีสุทธิยากร"
ประวัติครอบครัว :
ภรรยาชื่อ
"นางจิราวดี ศรีสุทธิยากร" มีบุตร-ธิดา 2 คน
1. ณัฐชัย ศรีสุทธิยากร
2. ณัฐวดี ศรีสุทธิยากร
ประธานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต)
รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย
แกนนำกลุ่ม "รัฐบุคคล" ที่จัดประชุมที่โปโลคลับเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เรียกร้องให้มีทหารออกมา
ป.ล. ห้ามเอาชื่อ พ่อ-แม่ แกไปล้อเด็ดขาดนะ
ก.ก.ต. คนเดียวที่ปากกล้าและไม่อยากให้มีการเลือกตั้งมากที่สุดในปฐพี กินเงินเดือน เดือนละ 122,250 อยู่ในตอนนี้ โดยไม่ต้องทำอะไรมากนัก แค่ออกมาพูดยั่วให้คนเกลียด กับเขียนกลอนแสดงความยิ่งใหญ่ ใครไม่กล้าหือไปวันๆ เพราะมีแบ็คหนุนดี เห็นว่าเป็นลูกเขยคนดัง ใครก็ไม่รู้...
เจ้าของวาทะ
"เอียงเพื่อชาติ"
ก่อนหน้า คยพยายามสมัครมาเป็น ก.ก.ต. แต่ไม่ได้รับความสนใจใยดี แต่ก็ไม่ละความพยายามจนได้มาเป็น และพยายามออกหน้าแสดงตัวมากกว่า "ประธาน ก.ก.ต." ซะอีก เหมือนมองไม่เห็นหัว จนคนทั้งประเทศคิดว่ามี ก.ก.ต. เพียงคนเดียว
ตอนนี้ถูก ผู้ว่าฯ, ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และเหล่าปลัด ออกมาพูดให้ลาออก ขนาดคนเป็นลูกศิษย์ยังเคยโพสต์ข้อความในทำนอง อายที่เป็นศิษย์ และให้ลาออกมาแล้ว
เลือกตั้งล้ม แต่ดันจะให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งๆ ที่ตนเองมีหน้าที่ต้องทำให้สำเร็จ หากทำไม่สำเร็จถือว่าบกพร่อง
ทั้งๆ ที่รู้ล่วงหน้าว่า มีคนจะไปปิดกั้นขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง กลับไม่เคยคิดขอกำลังตำรวจ ทหาร ไปช่วยดูแล แถมยังบอกอีกว่า ผู้มาปิดกั้น ขัดขวาง
"มีสิทธิอันชอบธรรม"
รัฐบาลก็พยายามหาทางปรึกษาเพื่อจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงหลบเลี่ยง หรือไม่ก็นัดประชุมให้ใกล้ที่ชุมนุม เพื่อว่าจะได้โดนล้มการประชุม
ปากก็บอกพร้อมจะประชุมปรึกษาหารือด้วย แม้จะเป็นที่
"โรงแรมโฟร์ซีซั่น" ก็ตาม นี่เป็นอีก 1 วาทะ ที่สร้างความเกลียดชังได้มากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยใบหน้าที่ดูหล่อเหลา เรียบเนียนนั่นเลย...
มีข่าวล่าสุดมา
"ปู" ซวยซ้ำซ้อน สิ้นเดือน ม.ค. กกต. นัดวินิจฉัย"ทัวร์นกขมิ้น"
------------------
"สั่งให้ลุงกำนันประกาศไล่ล่าตอนปิดบ้านปิดเมือง พอนายกฯ ยิ่งลักษณ์หลบไปต่างจังหวัดเพื่อดูแลราษฎร และเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุความรุนแรง ก็จะฟ้องว่าไป "หาเสียง" ซะอีก พวกนี้เล่นกันเป็นทีม"
"จูกัดหลง"
ป.ล. หากเถิกใจมิตรรักแควนเพลง โปรดกด + ให้เป็นกระทู้แนะนำนิด
✿ ประสาร มฤคพิทักษ์ - สมชัย ศรีสุทธิยากร - วิชา มหาคุณ เหล่าหัวหมู่ทะลวงฟัน ที่ถูกส่งออกมา ✿
ก็เป็นไปตามรูปแบบเดิมคือ เมื่อเห็นว่าตนเริ่มเพลี่ยงพล้ำ และเล่นงานไม่ได้ เพราะ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ออกมาแถลงชี้แจงได้ซะละเอียดยิบเป็นข้อๆ จนได้ใจประชาชนไปอีกไม่น้อย หลายท่านก็เริ่มหูตาสว่างกันได้บ้าง ทั้งๆ ที่ มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยแท้ๆ ในเรื่อง "จำนำข้าว"
ความเสียหายที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ามากมายไม่น้อย แต่ความเสียหายเหล่านั้นไม่ใช่เพราะพวกปลวกมอดที่คอยกัดแซะหรอกรึ... เช่น การปล่อยข่าว ตัดต่อภาพว่า ข้าวเน่า ข้าวมีสารพิษ ปล่อยข่าวว่า ข้าวโดนกักอยู่ที่ด่านของสหรัฐฯ จนสหรัฐฯเองต้องมาออกข่าวว่าไม่มีข้าวที่ถูกกัก
แต่ข่าวชั่วร้ายเหล่านี้ก็ได้กระจายไปทั่วโลกแล้ว จนทำให้บางประเทศหันไปสั่งข้าวจากประเทศอื่นแทน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการอันโสมมในการที่จะกำจัด โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของชาติ แล้วแบบนี้จะครองใจผู้คนได้อย่างไรกัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเคยคิดหรือไม่ว่า การใช้ "โจร" ทำงาน ไม่มีใครมองว่า ท่านดี หรือ น่าชื่นชมเคารพ หรอกนะครับ
"เพื่อบรรลุถึงจุดมุ่งหมาย ไม่คำนึงถึงวิธีการที่ใช้" นั่นมันเป็นคำที่ควรใช้กับ "ผู้เหี้ยมหาญ" มากกว่า "ผู้กล้าหาญ"
ขายข้าวแบบ "จีทูจี หรือ รัฐต่อรัฐ" ก็ปล่อยข่าวว่าไม่มีจริง แต่เมื่อความจริงปรากฏ ว่ารัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ได้ส่งข้าวแบบจีทูจีล็อค 2 ไปให้ เพราะเขาทวงมา จึงได้รู้ว่ามันมีจริง แต่ "เพื่อไทย" ก็ดูเลวไปแล้วในสายตาคนไทยที่ไม่คิดจะหาความจริงหรือมีอคติอยู่ก่อน
จะระบายข้าวด้วยการเปิดการประมูล ก็พาพวกไปก่อความวุ่นวาย ตัดน้ำตัดไฟ ไม่ให้ประมูลได้
ครั้นจะทำข้าวถุงราคาถูกเพื่อมาขาย และเป็นการระบายข้าวไปในตัวเพื่อนำเงินมาจ่ายชาวนาอีกต่อ ก็ถูกสั่งระงับ เล่นกันทุกทาง
ครั้นจะกู้เงินออมสินมาจ่ายชาวนา ก็ไปปิด ไปขู่ออมสินไม่ให้จ่าย บอกว่ารัฐบาลไม่ชอบธรรมใ้กู้แล้วจะไม่ได้คืน แห่กันไปถอน ไปปิด โดยไม่สนใจว่าชาวนาจะฆ่าตัวตายเพราะมีหนี้สินแต่ไม่มีเงินจ่าย
เลวยิ่งกว่านั้น ปล่อยข่าวว่า "ยิ่งลักษณ์ ทำให้ชาวนาฆ่าตัวตาย"
ลองให้ เด็ก ป.4 พิจารณาดูก็รู้ว่าใครทำให้ชาวนาต้องฆ่าตัวตาย
แต่พอรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งที่จริงย่อมน่ากลัวในเรื่องความเชื่อถือในการชำระเงินมากกว่า ปล่อยเงินที่ค้างให้ชาวนา ออมสินและอีกหลายธนาคาร แย่งกันให้กู้ โดยเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อให้ธนาคารของตนได้เป็นผู้ให้กู้ เนื่องจากจะได้ดอกเบี้ยจำนวนไม่น้อย เหล่าคนดีหายหัวกันเงียบกริ๊บ
ทั้งหมดทั้งมวลคือ การสร้างข่าวให้ดูเลว ฟ้องร้องเพื่อเตะสะกัด ทำให้ชาติบ้านเมืองต้องหยุดชะงักเสียหาย แต่เพราะความมืดบอดของคนไทยอีกไม่น้อยที่ไม่เคยค้นหาควารมจริงเลย
เพียงเพราะเขาปลุกปั่นตั้งแต่ครั้ง "พันธมิตร" ว่า "ทักษิณจะล้มเจ้า" เพียงแค่นี้เท่านั้น ก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ แม้ภายหลังจะมีผู้มาชี้แจงแก้ข่าวให้ก็ไม่คิดอ่าน หรือแกล้งไม่เชื่อซะ ด้วยความมืดบอดของจิตใจ
-------------------------
คราวนี้เมื่อ "นายกฯยิ่งลักษณ์" ชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างจะแจ้งเป็นข้อๆ ก็พยายามดาหน้ากันออกมาเล่นงานกันต่อ เพื่อกดดันให้ สนช. เล่นงานยิ่งลักษณ์ให้ได้ ตามสไตล์ที่ "ประชาธิปัตย์" ใช้บ่อย
เล่นแม้กระทั่งเรื่อง หาว่า "อ่านสคริป" ซึ่งผมดูแล้วแกก็แค่มองหัวข้อประเด็นหลัก เพื่อชี้แจงเป็นข้อๆ การมองแค่เสี้ยววินาที คงไม่อาจอ่านเป็นประโยคได้หรอกนะครับ ผิดกับตัว "นายวิชา มหาคุณ" ที่ทำเหมือนเด็กประถมอ่านหนังสือให้ครูฟัง แต่เนื้อหาที่กล่าวมา ไร้ค่า ไร้ราคา
"นายวิชา มหาคุณ" หนึ่งใน ป.ป.ช. ที่ไม่เคยได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเลย แต่บ้านนี้เมืองนี้กลับให้อำนาจเขาถอดถอนนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งได้ซะนี่
คนนี้นับเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันที่แท้จริง ที่ออกมาสู้อย่างชนิด ไม่กลัวผู้คนสาปแช่งไปในภายภาคหน้า เร่งรัดแต่จะตัดสินคดี "เพื่อไทย" อย่างชนิด คุ้มเกินเงินเดือน
แต่คดีในลักษณะเดียวกัน อย่างคดี "ประกันราคาข้าว" โดนทวงถามว่าทำไมไม่ไปถึงไหน กลับบอกว่า เอกสารจมน้ำไปตั้งแต่ปี 2554 ทั้งๆ ที่ก่อนน้ำจะท่วมได้มีการประกาศเตือนล่วงหน้าแล้ว แถมอาคารก็เป็นตึกหลายชั้น หาได้เป็นกระท่อมมุงจากชั้นเดียวไม่ พอตรวจสอบเจอว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) เพิ่งส่งเอกสารเกี่ยวกับการระบายข้าวไปให้ ดีเอสไอ. เมื่อเดือน มีนาคม 2556 นับหมื่นชิ้น กลับเงียบเป็นเป่าสาก แล้วเรื่องก็เงียบหายไป
หลานของตัวเอง "นายเอกชัย มหาคุณ" ถูก ดีเอสไอ. แจ้งข้อหา "หลบเลี่ยงภาษีศุลกากร" นำเข้าไวน์จากฝรั่งเศส นายวิชาได้ให้เลขาฯ ส่วนตัวยื่นขอประกัน และรับรองว่าจำเลยจะไม่หลบหนี และมารายงานตัวต่ออัยการ ทว่ากลับหลบหนีไปอยู่อเมริกา เพื่อรอคดีหมดอายุความในปี 2561 โดยที่เลขาฯ และนายวิชา ไม่ได้รับผิดชอบใดๆ
อยากถามว่ากรณีนี้ มีใครออกมาเรียกร้องให้ "ส่งผู้ร้ายข้ามแดน" กันบ้างหรือไม่ ทั้งๆ ที่หลักฐานชัดเจน? แต่เรื่องจำนำข้าวบอกว่า "ส่อว่าจะทุจริต" ทั้งๆ ที่ยังไม่เกิด หากเกิดแล้วทำไมไม่ไปจับคนทุจริต แล้วเล่นมาเป็นทอดๆ
ปล่อยข่าวว่าเสียหายหลายแสนล้าน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็เรียกร้องให้ตรวจสอบด้วยกันก็ไม่ยอมทำ เหมือนตั้งธงว่าจะเล่นให้ได้ ไม่สนใจว่าผิดหรือไม่ ปล่อยข่าวว่า ขนเงินไปต่างประเทศแล้ว 7 แสนล้าน (ซึ่งคงต้องขนกันเป็นโบกี้ และธนาคารแห่งประเทศไทยต้องพบความเคลื่อนไหวก่อนแน่) พอตอนหลังหุบปากสนิท บอกไม่ได้พูดซะงั้น ช่างน่าตบปากให้ฟันปลอมหลุดนัก
ในช่วงเหตุการณ์วิกฤตตุลาการ ปี 2535 นายวิชา ก็เป็นหนึ่งในผู้พิพากษาที่ถูกไล่ออกจากราชการ เพราะกระทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งไม่น่าจะได้กลับมาเลยด้วยซ้ำ สำหรับผู้มีประวัติราชการเยี่ยงนี้...
"นายประสาร มฤคพิทักษ์ สปช. และกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง"
นายคนนี้ยังไม่มีอะไรโดดเด่นนัก เคยไปขึ้นเวที กปปส. มาแล้ว และต่อต้านทักษิณ สุดๆ โจมตีโครงการณ์รถไฟความเร็วสูงสุดๆ ว่า 2.2 ล้าล้าน "กู้ชาตินี้ ใช้คืนชาติหน้า"
พอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำโครงการณ์เดียวกัน แต่ไม่มีรถไฟความเร็วสูง 3.3 ล้านล้าน เงียบกริ๊บ ไม่กล้าเผยอปากพูด สรุป "ห่วงชาติ" จริงหรือเปล่าเนี่ย?
ตอนนี้ก็ออกมาโจมตีว่า "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" อ่านโพยเรื่องเดิมๆ หากไม่พูดเรื่องเดิมๆ ก็แสดงว่าที่ท่านเคยพูดมาก็โกหกน่ะสิ!
พยายามเสนอหน้าออกสื่อบ่อย ไม่ให้ตกเทรน แบบ สุริยะใส เพื่อความก้าวหน้าในอนาคต แบบหลายรายที่เคยได้รับกันมา
คือ ออกมาแสดงบทบาท ด่า เพื่อไทย ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ได้มากเท่าไหร่ ก็ก้าวหน้าเร็วเท่านั้น
พี่ชายเป็นบุคคลแรกๆ ที่จัดการทอล์คโชว์ขึ้นในประเทศไทย จนทำให้ได้รับการขนานนามว่า "ต้นตำรับนักพูดเมืองไทย" ซึ่งผมก็ชื่นชมแกมาตลอด
แต่ในช่วงสงครามอิรัก ในปี พ.ศ. 2546 ที่สหรัฐอเมริกาบุกโจมตีอิรักทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน "ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ " ผู้เป็นพี่ชายนายประสาน ซึ่งเคยเป็น ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อของ "พรรคไทยรักไทย" ได้แสดงความเห็นว่า
"หากสหรัฐอเมริกาต้องการเอาชนะอิรักให้ได้อย่างเด็ดขาด ให้ใช้ "ระเบิดน้ำมันหมู" ทำให้ถูกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมหลายภาคส่วนถึงความเหมาะสม ทำให้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็น ส.ส. ทันที
ในความเป็นจริง ก็คงโดน ส.ส. ร่วมพรรคกดดันด้วย เพราะโดนด่ากันทั้งประเทศ ไม่รู้ว่านี่เป็นสาเหตุแห่งความแค้นหรือเปล่าจากสาเหตุที่พี่ชายแกโดน แต่ก็สมควรแล้ว พูดไม่ยั้งปากเอง
และเคยมีคดีที่มีคำสั่งศาลล้มละลายกลาง โดยธนาคารกรุงเทพ เป็นโจทย์ผู้ฟ้องร้อง สั่งให้ "ทินวัฒน์" และ "มาลีรัตน์" ภริยา เป็นบุคคลล้มละลาย และมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ในบริษัทของเจ้าตัว
ชื่อ-นามสกุล : "สมชัย ศรีสุทธิยากร"
วันเดือนปีเกิด : วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2501
บิดา : "นายประสิทธิ์ ศรีสุทธิยากร"
มารดา : "นางเอ็ง ศรีสุทธิยากร"
ประวัติครอบครัว :
ภรรยาชื่อ "นางจิราวดี ศรีสุทธิยากร" มีบุตร-ธิดา 2 คน
1. ณัฐชัย ศรีสุทธิยากร
2. ณัฐวดี ศรีสุทธิยากร
ประธานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต)
รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย
แกนนำกลุ่ม "รัฐบุคคล" ที่จัดประชุมที่โปโลคลับเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เรียกร้องให้มีทหารออกมา
ป.ล. ห้ามเอาชื่อ พ่อ-แม่ แกไปล้อเด็ดขาดนะ
ก.ก.ต. คนเดียวที่ปากกล้าและไม่อยากให้มีการเลือกตั้งมากที่สุดในปฐพี กินเงินเดือน เดือนละ 122,250 อยู่ในตอนนี้ โดยไม่ต้องทำอะไรมากนัก แค่ออกมาพูดยั่วให้คนเกลียด กับเขียนกลอนแสดงความยิ่งใหญ่ ใครไม่กล้าหือไปวันๆ เพราะมีแบ็คหนุนดี เห็นว่าเป็นลูกเขยคนดัง ใครก็ไม่รู้...
เจ้าของวาทะ "เอียงเพื่อชาติ"
ก่อนหน้า คยพยายามสมัครมาเป็น ก.ก.ต. แต่ไม่ได้รับความสนใจใยดี แต่ก็ไม่ละความพยายามจนได้มาเป็น และพยายามออกหน้าแสดงตัวมากกว่า "ประธาน ก.ก.ต." ซะอีก เหมือนมองไม่เห็นหัว จนคนทั้งประเทศคิดว่ามี ก.ก.ต. เพียงคนเดียว
ตอนนี้ถูก ผู้ว่าฯ, ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และเหล่าปลัด ออกมาพูดให้ลาออก ขนาดคนเป็นลูกศิษย์ยังเคยโพสต์ข้อความในทำนอง อายที่เป็นศิษย์ และให้ลาออกมาแล้ว
เลือกตั้งล้ม แต่ดันจะให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งๆ ที่ตนเองมีหน้าที่ต้องทำให้สำเร็จ หากทำไม่สำเร็จถือว่าบกพร่อง
ทั้งๆ ที่รู้ล่วงหน้าว่า มีคนจะไปปิดกั้นขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง กลับไม่เคยคิดขอกำลังตำรวจ ทหาร ไปช่วยดูแล แถมยังบอกอีกว่า ผู้มาปิดกั้น ขัดขวาง "มีสิทธิอันชอบธรรม"
รัฐบาลก็พยายามหาทางปรึกษาเพื่อจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงหลบเลี่ยง หรือไม่ก็นัดประชุมให้ใกล้ที่ชุมนุม เพื่อว่าจะได้โดนล้มการประชุม
ปากก็บอกพร้อมจะประชุมปรึกษาหารือด้วย แม้จะเป็นที่ "โรงแรมโฟร์ซีซั่น" ก็ตาม นี่เป็นอีก 1 วาทะ ที่สร้างความเกลียดชังได้มากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยใบหน้าที่ดูหล่อเหลา เรียบเนียนนั่นเลย...
มีข่าวล่าสุดมา
"ปู" ซวยซ้ำซ้อน สิ้นเดือน ม.ค. กกต. นัดวินิจฉัย"ทัวร์นกขมิ้น"
------------------
"สั่งให้ลุงกำนันประกาศไล่ล่าตอนปิดบ้านปิดเมือง พอนายกฯ ยิ่งลักษณ์หลบไปต่างจังหวัดเพื่อดูแลราษฎร และเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุความรุนแรง ก็จะฟ้องว่าไป "หาเสียง" ซะอีก พวกนี้เล่นกันเป็นทีม"
"จูกัดหลง"
ป.ล. หากเถิกใจมิตรรักแควนเพลง โปรดกด + ให้เป็นกระทู้แนะนำนิด