ฉากเมื่อคืนนี้ถือว่าเป็นฉากที่ทำให้ จขกท.ถึงกับอึ้งและตะลึงกับฝีมือและการแสดงของนักแสดงทั้งสองคน นุสบา vs ทับทิม...ที่ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ้าวิเคราะห์ถึงเนื้อในและแก่นแท้ของการแสดงฉากนี้แล้ว นับว่าไม่ธรรมดา
เมื่อแม่ต่าย พยายามจะบัฟและตะล่อมเตรียมตะครุบเหยื่ออย่างหนูลี ให้อยู่หมัดเพื่อคาดคั้นเอาข้อมูลบางอย่างจากหนูหลี...การสนทนาในฉากนี้ ทั้ง 2 คนใช้จิตวิทยาสู้และเชือดเฉือนกัน โดยฝ่ายรุกฆาต อย่างแม่ต่ายแสดงออกปานนางพญาสิงห์ ถึงความหนักแน่น น่าเกรงขาม ทรงพลัง ในขยะที่เหยื่อตัวน้อยอย่างหนูลี ก็อาศัยความนิ่ง ความสงบ เก็ยซ่อนอารมณ์ภายใน ไม่ให้ฝ่ายรุกฆาตจับผิดเธอได้
แม่ต่าย ยิงคำถามเด็ดๆสั้นๆที่หนูลี ไม่อาจจะเลี่ยงการตอบได้ ด้วยคำถามที่ว่า..."หนูลิลิน รู้จักตาบุญช่วย(เหยื่อที่โดนฆาตกรรม)ได้อย่างไร"
ซึ่งอารมณ์ของหนูลี ในขณะนั้นคงถึงกับอึ้งและงง ว่าคุณแม่ต่ายรู้ได้อย่างไรว่า ตนกับตาบุญช่วยรู้จักกันมาก่อน...ไม่มั่นใจว่าถ้านักแสดงคนอื่นๆ หรือผู้กำกับคนอื่นๆ คงตีโจทย์ให้ฉากนี้ นักแสดงต้องแสดงสีหน้า แววตา และอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความฉงนสนเท่ใจ แต่สำหรับทับทิม เธอเก็บสีหน้า แววตา และอารมณ์ได้นิ่งมาก แววตาเธอไม่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนก ไม่เบิกโพง ไม่ประหม่า ไม่มีการสูดลมหายใจลึก เพื่อบ่งบอกถึงความเพรี่ยงพร้ำ เธอนิ่งสงบ ในขณะที่ในใจเธอกำลังกระอักกระอ่วนลังเลใจที่จะตอบคำถามอย่างไรดี จนทำให้คุณแม่ต่ายไม่สามารถจับผิดระแคะระคายในตัวเธอได้เลย เธอสงบจนถึงวินาทีสุดท้าย ถ้าพระเอกไม่พูดตัดบทขึ้นมาว่า "หนูลี รู้จักกับตาบุญช่วยเพราะ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับหลานชายถึงตาบุญช่วย"...ทันใดนั้น หนูลี ก็ตอบคำถามแม่ต่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและสามารถจบการสนทนาให้จบลงว่า "นั่นคือคำตอบที่คุณหญิงต้องการ"
ฉากนี้นางพญาสิงห์อย่างคุณแม่ต่าย จึงไม่สามารถตะคุรบเหยื่อตัวน้อยอย่างหนูลีไปได้ และคงลดข้อกังขาในตัวหนูลีไปได้ระดับหนึ่ง...งานนี้คงต้องชื่นชมการแสดงของนักแสดงยอดฝีมืออย่างคุณนุสบา vs ทับทิม ที่เอาฉากประลองจิตวิทยาและคารมกันได้อบบอยู่หมัด และต้องขอบคุณผู้กำกับที่ตีโจทย์และกำกับฉากนี้ออกมาให้ดูน้อย และเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหาฉากแบบนี้ได้ไม่บ่อยนักในละคร/หนังไทย แต่เราจะเจอทักษะการแสดงแบบนี้ได้บ่อยๆในหนัง/ซีรีย์ เกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันตก เป็นต้น
วิจารณ์ช๊อตต่อช๊อต...ลีลาวดีเพลิง ฉากเชือดเฉือนคารมและจิตวิทยาระหว่าง ทับทิม vs นุสบา
ฉากเมื่อคืนนี้ถือว่าเป็นฉากที่ทำให้ จขกท.ถึงกับอึ้งและตะลึงกับฝีมือและการแสดงของนักแสดงทั้งสองคน นุสบา vs ทับทิม...ที่ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ้าวิเคราะห์ถึงเนื้อในและแก่นแท้ของการแสดงฉากนี้แล้ว นับว่าไม่ธรรมดา
เมื่อแม่ต่าย พยายามจะบัฟและตะล่อมเตรียมตะครุบเหยื่ออย่างหนูลี ให้อยู่หมัดเพื่อคาดคั้นเอาข้อมูลบางอย่างจากหนูหลี...การสนทนาในฉากนี้ ทั้ง 2 คนใช้จิตวิทยาสู้และเชือดเฉือนกัน โดยฝ่ายรุกฆาต อย่างแม่ต่ายแสดงออกปานนางพญาสิงห์ ถึงความหนักแน่น น่าเกรงขาม ทรงพลัง ในขยะที่เหยื่อตัวน้อยอย่างหนูลี ก็อาศัยความนิ่ง ความสงบ เก็ยซ่อนอารมณ์ภายใน ไม่ให้ฝ่ายรุกฆาตจับผิดเธอได้
แม่ต่าย ยิงคำถามเด็ดๆสั้นๆที่หนูลี ไม่อาจจะเลี่ยงการตอบได้ ด้วยคำถามที่ว่า..."หนูลิลิน รู้จักตาบุญช่วย(เหยื่อที่โดนฆาตกรรม)ได้อย่างไร"
ซึ่งอารมณ์ของหนูลี ในขณะนั้นคงถึงกับอึ้งและงง ว่าคุณแม่ต่ายรู้ได้อย่างไรว่า ตนกับตาบุญช่วยรู้จักกันมาก่อน...ไม่มั่นใจว่าถ้านักแสดงคนอื่นๆ หรือผู้กำกับคนอื่นๆ คงตีโจทย์ให้ฉากนี้ นักแสดงต้องแสดงสีหน้า แววตา และอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความฉงนสนเท่ใจ แต่สำหรับทับทิม เธอเก็บสีหน้า แววตา และอารมณ์ได้นิ่งมาก แววตาเธอไม่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนก ไม่เบิกโพง ไม่ประหม่า ไม่มีการสูดลมหายใจลึก เพื่อบ่งบอกถึงความเพรี่ยงพร้ำ เธอนิ่งสงบ ในขณะที่ในใจเธอกำลังกระอักกระอ่วนลังเลใจที่จะตอบคำถามอย่างไรดี จนทำให้คุณแม่ต่ายไม่สามารถจับผิดระแคะระคายในตัวเธอได้เลย เธอสงบจนถึงวินาทีสุดท้าย ถ้าพระเอกไม่พูดตัดบทขึ้นมาว่า "หนูลี รู้จักกับตาบุญช่วยเพราะ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับหลานชายถึงตาบุญช่วย"...ทันใดนั้น หนูลี ก็ตอบคำถามแม่ต่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและสามารถจบการสนทนาให้จบลงว่า "นั่นคือคำตอบที่คุณหญิงต้องการ"
ฉากนี้นางพญาสิงห์อย่างคุณแม่ต่าย จึงไม่สามารถตะคุรบเหยื่อตัวน้อยอย่างหนูลีไปได้ และคงลดข้อกังขาในตัวหนูลีไปได้ระดับหนึ่ง...งานนี้คงต้องชื่นชมการแสดงของนักแสดงยอดฝีมืออย่างคุณนุสบา vs ทับทิม ที่เอาฉากประลองจิตวิทยาและคารมกันได้อบบอยู่หมัด และต้องขอบคุณผู้กำกับที่ตีโจทย์และกำกับฉากนี้ออกมาให้ดูน้อย และเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหาฉากแบบนี้ได้ไม่บ่อยนักในละคร/หนังไทย แต่เราจะเจอทักษะการแสดงแบบนี้ได้บ่อยๆในหนัง/ซีรีย์ เกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันตก เป็นต้น