มันทำได้จริงหรือครับ

มีเพจในเฟสหนึ่งลงว่า

"....โปรดดูอีกครั้งหนึ่ง ประกาศจากคณะปฏิรูปพลังงานเพื่อประชาชน
ชาวนาพม่าขุดน้ำมันดิบเอง ด้วยเครื่องยน์ยันม่า กับกว้านมือหมุน
กระทรวงไทยบอกต้นทุนสูง ขุดเจาะยาก ต้องฝรั่งเท่านั้นที่ทำได้
ตกลงพม่าทำคลิปมาหลอกเรา หรือคนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเอง
ตามข่าวนี้บอกว่า ชาวนาพม่าขายน้ำมันดิบ บาร์เรลละ 10 เหรียญ หรือ ลิตรละ 2 บาทครับ
"independent drillers are pumping up up to 300 barrels of crude oil a day, worth $3,000"
ช่วยแชร์ให้ถึงท่านายกฯให้ได้ครับ
ปล.ขณะที่พม่ากำลังตื่นตัวว่ามีน้ำมัน และทำอย่างจึงจะไม่เกิดการคอรัปชั่น แต่ของไทยกลับปฏิเสธเรื่องการมีพลังงาน พอจับได้ก็บอกมีน้อย (แต่ไม่บอกว่า ผู้ที่ใช้ทั้งก๊าซและน้ำมันเบาไปเยอะมากคือปิโตรเคมี)
และยังมีความเชื่อมั่นว่า การจัดการพลังงานของชาติสะอาดบริสุทธิ์เป็นผ้าขาว ถึงจะเชื่ออย่างไรก็คงต้องตรวจสอบครับ เพราะทรัพยากรเป็นของคนทั้งชาติ และมูลค่าพลังงานที่ประเทศต้องจ่ายสูงถึง 5 ล้านล้านบาท(มากกว่างบประมาณแผ่นดิน 2 เท่า) ครับ
ชมคลิปเลยครับ ชัดเจน
http://www.youtube.com/watch?v=_XukuuxMgt0
อ่านข่าว
http://www.theguardian.com/world/2013/mar/05/burma-oil-rush
http://news.nationalgeographic.com/…/131127-manual-oil-dr…/…
http://www.asiauncovered.net/…/myanmars-manual-oil-drills.h…
http://www.irrawaddy.org/…/magazine-fe…/black-gold-rush.html
http://www.dailykos.com/…/-Burma-Myanmar-This-is-What-Unreg…#
http://www.hellenicshippingnews.com/who-will-benefit-from-…/

หมายเหตุ ที่ผมโพสต์นี้ มิได้ให้เอาเป็นแบบอย่างนะครับ เพราะมันอันตราย เพียงแต่ให้ดูว่าการขุดน้ำมัน มันไม่ได้อยากเย็นเข็ญใจ หรือ ต้นทุนสูงลิบโลก จนคนไทยบริษัทไทยๆทำกันไม่ได้เลย อย่างรัฐว่าไว้ว่าต้องพึ่งฝรั่งอย่างเดียว ความจริงการขุดน้ำมันมีมาเป็นร้อยปีแล้วครับ เครื่องมือก็แบบนี้แหละครับ


มันจริงหรือครับ ถ้าทำได้จริง วิศวกรบ้านเราจะเดินชนกันตาย ทำไมไม่ทำละครับ
ขออภัย ต้องแท็กการเมืองด้วย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
เอาง่ายๆนะครั้บว่าทำไมค่าใช้จ่ายมันถึงต่างกัน

1. ความยากง่ายของแหล่งต่างกัน: ถ้าโชคดีเจอแหล่งตื้นๆก็ขุดกันง่ายๆ ถ้าโชคร้ายก็เจอแหล่งลึก 3-5 km บางทีก็อยู่กลางทะเลลึก
ความยากง่ายแต่ละแหล่งไม่เหมือนกัน ชั้นหิน ลักษณะแหล่ง ความดัน สัดส่วนแก๊ส/น้ำมัน มีผลกับการขุดเจาะสำรวจทั้งสิ้น
แหล่งยากขุดยาก ก็ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาหาวิธีขุดมันขึ้นมา ตั้งแต่ให้นักวิเคราะห์แหล่งว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ถ้าจะขุดต้องเจอกับชั้นธรณีที่มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นวิศวกรปิโตรเลียมวางแผนการขุดเจาะ
ถ้าจะเจาะผ่านชั้นหินแต่ละชั้นต้องใช้หัวสว่านประเภทไหนบ้าง ต้องเจาะเลี่ยงชั้นหินแข็งหรือชั้นดินอ่อนตรงไหนบ้าง
เอียงซ้ายขวายังไงเพื่อไปให้ถึงแหล่ง ถึงแหล่งแล้วจะระเบิดท่อให้น้ำมันหรือแก๊สเข้ามายังไง
นี่ยังไม่นับวิศวกรและช่างเทคนิคที่ต้องใช้ในการดำเนินการขุดเจาะอีกหลายสาขาวิชาชีพมากมาย
ทั้งวิศวกรเครื่องกล เคมี สิ่งแวดล้อม โยธา ไฟฟ้า ช่างเทคนิคฝ่าย ควบคุม ฝ่ายขุดเจาะ ฯลฯ

2. กำลังการผลิตต่างกัน:  น้ำมันดิบจะขุดมา 5 ลิตร 10 ลิตรมันก็ไม่พอกับความต้องการ
ก็ต้องขุดทีเป็นวันละหลายพันหลายหมื่นลิตรถึงจะพอกับความต้องการของประเทศ
ประเทศไทยซดน้ำมันดิบ คร่าวๆ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือตกประมาณ 150 ล้าน ลิตร/วัน
พอได้น้ำมันดิบหรือแก๊สธรรมชาติมาแล้วจะทำอย่างไรให้เอาไปใช้ได้
จะตั้งโรงกลั่นบ้านๆทำเอง ได้วันละ 5 ลิตร 10 ลิตร ก็คงไม่ทันกิน
ต้องใช้วิศวกรมาขยายกำลังการผลิต ต้องกลั่นอย่างไรให้ได้ปริมารมากๆในต้นทุนที่ถูกๆเพราะคงไม่มีใครอยากใช้ของแพง
ก็ต้องสร้างโรงกลั่นแยกขนาดใหญ่ กำลังการกลั่นเป็นหลักหลายสิบล้านลิตร/วัน
ต้องใช้วิศวกรเคมีควบคุมการผลิต รวมถึงช่างเทคนิคเชี่ยวชาญหน้างานมาคอยควบคุมดูแลอุปกรณ์ต่างๆ

3. คุณภาพและมาตรฐานต่างกัน: มีใครอยากใช้น้ำมันแบบในรูปเติมรถตัวเองมั้ยครับ?
น้ำมันดิบมันยังไม่สามารถเอาไปใช้งานได้โดยตรงได้ หรือต่อให้กลั่นแล้วก็ยังใช้ไม่ได้
คงไม่มีใครอยากเอาน้ำมันดิบที่มีสารพิษ หรือเอาแก๊สธรรมชาติไปเผาโดยตรงโดยมีไอกรดอยู่เพียบ
มลพิษมากมาย แค่นี้คนก็บ่นกันจะแย่เรื่องมลพิษไอเสียรถยนต์
ก็ต้องมาปรับปรุงคุณภาพน้ำมันให้ผ่านมาตรฐานข้อบังคับสิ่งแวดล้อมของกระทรวง
กำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษ ซัลเฟอร์และคาร์บอนที่เป็นกรด ออกซิเจนที่ลดประสิทธิภาพเชื้อเพลิง
สารปนเปื้อนอื่นๆที่ส่งผลต่อการเผาไหม้ ฯลฯ แค่นี้ก็งานช้างแล้วครับ

4. สิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย: คงไม่มีใครอยากไปทำงานบนแท่นขุดหรือโรงกลั่นลักษณะนั้นกระมัง
ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ดูโลกใบนี้นานๆ เพราะสารพิษในน้ำมันเยอะมาก
การสัมผัสน้ำมันโดยตรงทั้งทางการสูดดม แตะต้อง กลืนกิน เป็นอันตรายทั้งสิ้น
ก็ต้องมีอุปกรณ์หรือก็ต้องออกแบบระบบให้มีความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน
ให้เค้ามีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี ไม่ใช่ทำงานได้สามปีป่วยเป็นมะเร็งตาย
แล้วเรื่องการกำจัดของเสียจากน้ำมันดิบอีกก็เช่นกัน คงไม่ปล่อยทิ้งทะเลหรือแหล่งน้ำธรรมชาติง่ายๆหรอก
ก็ต้องมีระบบบำบัดหรือกำจัดอย่างถูกวิธี ตรงนี้ก็ต้องมีวิศวกรสิ่งแวดล้อม นักวิทยาสาตร์จุลชีพและผู้เชี่ยวชาญอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีก

นี่เอาแค่คร่าวๆนะครับ เห็นถึงเงินที่ต้องลงทุนตั้งระบบสร้างโรงงาน
กับ เงินโสหุ้ยที่ต้องจ่ายให้คนปฏิบัติงานและการดำเนินงานรึยังครับ
ถ้าอยากได้ของถูกก็ได้ครับ อันดับแรกก็ตัดประเด็นคุณภาพไปก่อน
น้ำมันออกมาก็คุณภาพต่ำลงมลพิษสูงขึ้น ถ้ายังถูกไม่พอก็ตัดสิ่งแวดล้อมตามไป
กากน้ำมัน กากโลหะหนัก ไอกรด อะไรก็ช่างมัน เขียนว่าเป็น waste แล้วโยนทิ้งน้ำปล่อยทิ้งอากาศก็ได้ครับ
จากนั้นก็ตัดประเด็นเรื่องความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
ไม่ต้องมีอุปกรณ์ personal protection equipment (PPE) จะตายสามปีห้าปีก็ต้องยอมรับสภาพ

ที่ค่าใช้จ่ายมันสูงก็เพราะมันมีต้นทุนอื่นๆที่คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้กันครับ แล้วชอบเอามาเป็นประเด็นโจมตีแบบหาสาระไม่ได้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ประเทศไทยมีพลังงานที่พอกับความต้องการของคนทั้งประเทศ
โดยเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม คนที่ปฏิบัติงาน รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยทั้งนั้น
ขอบคุณที่สละเวลาอ่าน
อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่