การชาร์จแบตที่ถูกต้อง อยากให้ทุกท่านได้อ่าน (+ คำถามชวนสงสัย ?)

ช่วงนี้มี FW Line มาหาบ่อยมากๆ กลับกัน FW mail เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเลย

ล่าสุดมี FW Line เรื่อง การชาร์จแบตที่ถูกต้อง พออ่านๆ ดูก็เกิดข้อสงสัย แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ หากเงียบไว้ก็คงจะเป็นคนโง่ต่อไป เลยต้องเดือดร้อนชาวพันทิป ให้ช่วยกรุณาหาคำตอบให้ทีเถิด ข้องใจมาก นานาขอบคุณ

การชาร์จแบตที่ถูกต้อง

แบตเตอรี่ชนิด Li-ion และ Li-Polymer เป็นแบตที่ใช้กันอยู่ในมือถือและแท็บเลทในปัจจุบัน มีข้อแนะนำการชาร์จมือถือจากผู้เชียวชาญในต่างประเทศ ดังนี้
* คำถาม ใครคือ "ผู้เชียวชาญในต่างประเทศ" เขา(หรืออาจจะเป็นเธอ)คนนั้น ชื่อเสียงเรียงนามอะไร? เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไหน? ดีกรีอะไร?     

      1. หลีกเลี่ยงการชาร์จไป และโทรไป เพราะแบตเตอรี่ต้องทำงานมากกว่าปกติถึง 40 เท่าในขณะชาร์จ เมื่อเทียบกับตอนไม่ได้ชาร์จ เนื่องจากขณะใช้มือถือหรือแท็บแล็ตพกพานั้น ใช้แรงดันไฟเพียง 5 และ 10 โวลย์ตามลำดับ แต่เมื่อเสียบสายชาร์จแล้ว หม้อแปลงเล็กในตัวชาร์จ จะรับแรงดันไฟถึง 220 โวลย์จากเต้าเสียบ เพื่อแปลงลงเหลือ 5 โวลย์ให้กับมือถือ ทำให้อุณภูมิขณะชาร์จสูงกว่าเดิม ในระดับ 40-50 องศา และเมื่อใช้มือถือโทรศัพย์ จะเพิ่มการใช้ไฟและความร้อนให้กับมือถือโดยอัตโนมัติ หากแบตใกล้จะหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้ทนต่อแรงดันไฟและความร้อนไม่ได้เหมือนเดิม ก่อให้เกิดการระเบิดตามเป็นที่เป็นข่าว
* คำถาม ขณะ charge ไฟเข้ามือถือ อุณหภูมิสูงถึง 40-50 C เลยหรือ?     
** คำถาม "หม้อแปลงเล็กในตัวชาร์จ จะรับแรงดันไฟถึง 220 โวลย์จากเต้าเสียบ เพื่อแปลงลงเหลือ 5 โวลย์" ปัจจุบันเป็น switching powersupply ใช่ไหม? ไม่น่าเป็น rectifier หรือเราเข้าใจผิด?     
*** คำถาม กรณี Battery ระเบิด ตามที่เราเข้าใจคือ เกิดจากการลัดวงจรภายใน Battery เอง ทำให้เกิดการ over current และร้อนจัดจนระเบิด หรือใช้เครื่อง charger ผิดประเภท, ด้อยคุณภาพ, จ่าไฟได้สูงเกินกว่า spec.ที่เหมาะสมกับ Battery แต่เพิ่งจะเคยได้ยินว่า Bat.เสื่อมสภาพ ทำให้ทนแรงดันไฟและความร้อนได้ไม่เหมือนเดิม ไม่ทราบว่าในทางวิศวกรรม เป็นไปได้หรือไม่?


      2. ควรใช้ปลั๊กสามตาแบบสายยาวต่อเป็นเต้าเสียบให้มือถือ จะมีความปลอดภัยสูงกว่าการเสียบมือถือเข้าเต้าเสียบโดยตรง เพราะเต้าเสียบหลายตาแบบสายยาว จะมีฟิวส์และตัวตัดไฟป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือการใช้ไฟมากกว่าปกติอยู่แล้ว
* คำถาม ใช้ปลั๊กสามตาแบบสายยาวต่อเป็นเต้าเสียบ มันปลอดภัยกว่าจริงหรือ? เพราะตามที่เราเข้าใจจุดต่อยิ่งน้อยยิ่งดีไม่ใช่เหรอ แถมปลั๊กสามตาบางครั้งปลั๊กไม่แน่น เกิดการ spark ตรงหน้าสัมผัสจนก่อให้เกิดความร้อนและอาจเกิดไฟลุกไหม้ได้ ส่วนประเด็นเรื่อง Fuse ตัดวงจร ปรกติที่เต้ารับภายในบ้านหรืออาคาร มักจะต่อมาจากตู้ Main ซึ่งมีระบบ Fuse หรือสะพานไฟอยู่แล้วนี่นา


      3.ไม่ควรชาร์จในขณะที่แบตต่ำกว่า 30% เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว จากผลการทดสอบจากต่างประเทศได้ระบุว่า หากชาร์จแบตเตอรี่ที่ระดับ ระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 65-70% จะดีที่สุด แต่การใช้ชาร์จจริงที่ระดับ 35-60% ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้
* คำถาม "ผลการทดสอบจากต่างประเทศ" นี่คือที่ไหน? ใครหรือหน่วยงานไหนเป็นคนทำ? อยากอ่านเต็มๆ หรือแค่บทคัดย่อก็ยังดี


      4.ไม่ควรชาร์จไฟในขณะที่แบตหมดเกลี้ยง ในระดับเปิดเครื่องเปิดไม่ติด (แบตเหลือ 0%) โดยเด็ดขาด เพราะทำให้แบตพังไวมาก เนื่องจากแบตจะต้องรับภาระการการเรียกคืนประจุหรือรอบการชาร์จ มากกว่าการชาร์จขณะแบ็ตยังไม่หมด ซึ่งนอกจากจะใช้ไฟชาร์จมากกว่าเดิมถึง3เท่า ยังทำให้แบตร้อนกว่าเดิมถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับการชาร์จในตอนที่แบตไม่หมด
* คำถาม "ไม่ควรชาร์จไฟในขณะที่แบตหมดเกลี้ยง เพราะทำให้แบตพังไวมาก" เราเข้าใจว่าจะทำให้เครื่องพังมากกว่า สงสัยจะเข้าใจผิดมาตลอด !?  
** คำถาม "เนื่องจากแบตจะต้องรับภาระการการเรียกคืนประจุหรือรอบการชาร์จ มากกว่าการชาร์จขณะแบ็ตยังไม่หมด" ข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างไร ท่านใดพอจะทราบหรืออธิบายได้บ้าง


      5.ไม่ต้องกังวลว่าการชาร์จมือถือทิ้งไว้ ในขณะที่แบตเต็ม จะมีปัญหากับแบตหรือไม่ เพราะมือถือและแท็บเลทในปัจจุบันนั้น มีระบบตัดไฟ เมื่อชาร์จแบตจนเต็ม 100%


      6. หลีกเลี่ยงการทำมือถือตกพื้น เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย อาจจะทำให้สารเคมีในแบตรั่วไหล หรือขั้วแบตอาจจะหลุดออกมาก็เป็นได้ ซึ่งจะส่งผลให้จ่ายไฟไม่นิ่ง และการใช้งานกับตัวเครื่องมือถือหรือแท็บเลทมีปัญหาได้
* คำถาม "อาจจะทำให้สารเคมีในแบตรั่วไหล" มันรั่วไหลได้ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ? จริงๆ น่าเป็นห่วงว่าเครื่องจะพังมากกว่านะ


      7. เวลาชาร์จควรเสียบที่ชาร์จกับปลั๊กไฟก่อน แล้วค่อยเอาหัวชาร์จมาเสียบกับมือถือ-แท๊บเลทอีกที เพื่อป้องกันไฟกระชาก

      8. สังเกตุเครื่องหมายรับรองคุณภาพ CE บนแบตแท้ว่ามีหรือไม่ ซึ่ง CE หมายถึง Conformite European เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป การมีเครื่องหมาย CE กำกับบนสินค้าจะทำให้สินค้านั้นสามารถวางจำหน่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป


ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านกระทู้นี้ และกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยกรุณาตอบคำถามไร้สาระของเรา

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ผมไม่เคยเชื่อและอ่าน FW Mail เลยครับ ขอเรียนดังนี้

ข้อ 1. การเสียบชาร์ทแบตและใช้งานด้วยนั้นไม่มีปัญหาใดๆครับ อุปกรณ์ Smart Phone Tablet ตอนเสียบชาร์ทมันก็ใช้งานเสมอนโทรออกอยูแล้วครับและระบบยังออกแบบให้บางเวลาต้องเสียบชาร์ทพร้อมกับใช้งานด้วย เช่นตอนอัปเดท iOS ระบบแนะนำให้เสียบชาร์ทด้วยครับ นั่นหมายถึงเสียบไปใช้ไปครับไม่มีปัญหาใดๆ

ข้อ 2. ไม่จำเป็นครับ เพราะในตัวชาร์ทมีระบบฟิวส์อยู่แล้วครับ

ข้อ 3. แบตลิเทียมมีข้อห้ามอย่างเดียวคือ ห้ามแบตเหลือไฟต่ำกว่า 3V. ต่อเซล ซึ่งระบบโทรศัพท์จะตัดไฟก่อนที่แบตจะลดลงเหลือ 3 โวลท์ครับ แล้วถ้าแบตเหลือน้อยกว่า 3 โวลท์ ระบบจะไม่ทำการชาร์ทไฟให้ครับ ฉนั้น ที่ 30% จึงไม่มีผลเสียใดๆกับแบตฯครับระบบอื่นก็เป็นแบบนี้ครับ เช่นในรถ Hybridge ก็อนุญาตให้ใช้แบตได้จนเกือบหมดครับ

ข้อ 4. ชาร์ทได้ไม่มีปัญหาครับ เพราะระบบยังอนุญาตให้ชาร์ทอยู่ แต่ถ้าคุณไม่ชาร์ทจะมีปัญหามากกว่าเพราะแบตจะลดลงเรื่อยๆ จนต่ำกว่า 3 โวลท์ ระบบก็จะไม่ให้ชาร์ทสงผลให้แบตบวมและพังในที่สุดครับ

ข้อ 5. ข้อนี้ถูกต้องครับ

ข้อ 6. ถ้าวัสดุห้อหุ้มแบตไม่ฉีกขาดไม่มีปัญหาใดๆครับ ผมเจอบ่อยในเครื่องบินบังคับตอนเครื่องตก แบตกระแทกพื้นหากไม่ฉีกขาดยังคงใช้งานได้ดังเดิมครับ

ข้อ 7. ถูกต้องครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่