สะพายเป้ ตะลอนกรุงโซลแบบไม่ง้อทัวร์ สไตล์ 2 สาว

สวัสดีค่ะทุกๆคน

เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เรากับเพื่อนมีโอกาสพากันสะพายเป้หนีไป Countdown ณ กรุงโซล เลยจะมาขอแชร์ประสบการณ์
และ สถานที่น่าเที่ยวต่างๆ แบบคร่าวๆ โดยรูปที่ถ่ายมาจะมีผสมกันทั้ง DSLR และกล้องมือถือนะคะ
แต่เราเป็นมือใหม่หัดถ่ายค่ะ ภาพจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อมยิ้ม07
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราถ้าผิดพลาด หรือซ้ำยังไง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ค่ะ!!


ต้องขอบอกก่อนว่าตอนแรกจะไม่ได้มากันแล้วจริงๆ
เนื่องจากติดปัญหาทางบ้านกันทั้งเราและเพื่อนเลย แต่สุดท้ายก็สามารถเคลียได้ทันช่วงนาทีสุดท้ายยยยยมากๆ
เมื่อสามารถเคลียปัญหาได้แล้ว เราก็ตัดสินใจจองโรงแรมทันที โดยที่เราใช้บริการผ่านเว็บ Expedia
เราเลือกจองโรงแรมพร้อมตั๋วเครื่องบิน แต่ด้วยความที่เราจองกันค่อนข้างช้า จึงทำให้มีตัวเลือกไม่มากเท่าไหร่
สั้นๆ คือเหลือแต่ที่ราคาไม่ค่อยถูกแล้วนั่นแหละค่ะ ร้องไห้


ตอนกดจองก็กล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่เคยจองเองมาก่อนเลย
ยิ่งพอไปหาอ่านรีวิวเจอว่าเคยมีคนจองผ่าน Expedia แล้วมีปัญหากับโรงแรม check-in ไม่ได้เพราะไม่มีห้องด้วยแล้ว
บอกตรงๆว่าตอนนั้นมือเมอนี่เย็นเลยค่ะ 555 แต่ก็ทำหน้ายิ้มใจดีสู้เสือต่อไป
โดยทริปนี้เราเลือกที่พักเป็นที่ 24 เกสท์เฮาส์ จองโน ทาวเวอร์ พร้อมกับสายการบิน แมคคาเดเมีย Air ค่ะ
อุ่ย ล้อเล่น! Korean Air ค่ะ (แต่ต้องขอชมเลยว่า คุณภาพดี สมราคา แอร์สวยๆน่ารัก สจ๊วตหล๊อหล่อ บริการดีมากๆค่ะ)
ถ้าใครไม่เคยจองแล้วสงสัยว่าต้องทำยังไงต่อ ยืนยันอะไรยังไงส่งข้อความมาถามหลังไมค์ได้นะคะ


หลังจากพล่ามมายืดยาวพอเป็นพิธี (เค้าจะหลับกันหมดแล้ว!!) เราก็มาเริ่มเข้าเรื่องกันดีกว่า แหะๆ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรากับเพื่อนไม่มีใครรู้ภาษาเกาหลีเลยยย! เพลงก็รู้จักแต่ที่ดังๆจริงๆ ซีรีย์ก็ดูน้อยเรื่องมากๆ
ตั้งใจเอาภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ พร้อมกับหน้าเหวอๆ เข้าสู้ค่ะ 55555* เพราะว่าคนที่นั่นก็พอพูดภาษาอังกฤษได้พอๆกับบ้านเรา
เพราะฉะนั้นสถานที่หรือคำศัพท์เฉพาะหลายๆคำ เราจะขอใช้เป็นภาษาอังกฤษทับศัพท์นะคะ เกาหัวอ่านผิดๆกับเพื่อนมาเยอะค่ะ 555


อุปกรณ์เสริมในทริปนี้ก็จะมีกล้องเรากับเพื่อนคนละตัว พร้อมสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่งก็คือ...

แท่แด๊มมมม~~ !!
บัตร T-Money ค่ะ ถ้าเป็นบัตรธรรมดาแบบด้านบนก็จะราคา 2500 วอน
แต่ถ้าเป็นแบบพวงกุญแจแบบน่ารักกุ๊งกิ๊งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4000 วอนค่ะ
แบบบัตรสามารถซื้อได้ที่ร้าน CU สาขาสนามบินอินชอนเลยค่ะ จะอยู่ใกล้ๆทางเข้า Subway
(คิดราคาแบบคร่าวๆ ง่ายๆ ก็ตีไปเลย เลขกลมๆ 1000 วอน = 30 บาท)
บัตรนี้สารพัดประโยชน์มากกกค่ะตั้งแต่จ่ายค่ารถเมล์ รถไฟฟ้า ซื้อของร้านสะดวกซื้อต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งร้าน Fast Food ค่ะ
นี่เค้าทำมาเป็นบัตรสะดวกจ่ายจริงๆนะคะ เวลาจะใช้ก็แค่เติมเงินเข้าไปหลังจากซื้อมาเวลาจะใช้ก็แค่แตะค่ะ
ถ้าใครนึกไม่ออกให้นึกถึงเวลาใช้งานรถ MRT ค่ะ คล้ายๆกัน หยิบเดินไปแตะสวยๆเลยค่ะ 55555* ทางเข้าก็จะประมาณนี้



หลังจากที่ซื้อบัตร T-Money มาเรียบร้อยแล้วความสนุกต่อมากก็คือการนั่งรถไฟใต้ดิน
ขอบอกว่ามันมีหลายสายมากๆๆๆๆๆ ถ้าถามว่าขนาดไหนก็....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การจะเข้าเมืองนั้นจะต้องนั่งสาย Airport มาลงที่ Seoul Station ซะก่อนระหว่างทางก็เกาะกระจกชมพระอาทิตย์ขึ้นเบาๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แค่นั่งรถไฟสาย Airport ก็กินเวลาไปประมาณ 1 ชม.แล้วกว่าจะเข้าตัวเมือง แต่ถ้าหักลบวิวสวยๆที่ได้เห็นระหว่างทาง
กับหน้าตาหนุ่มๆสาวๆ ในขบวนก็โอเคค่ะ  อมยิ้ม22


และแล้วก็ถึง Seoul Station แล้วววว ถ้าจะให้เปรียบเทียบนะเราว่านึกถึงหัวลำโพงเวอชั่นแบบโมเดิร์นๆ หน่อย
แว่บแรกที่ขึ้นมาเห็นคือมันใช่จริงๆอ่ะ 5555555* โล่งๆ ร้านค้า ทางออก เต็มไปหมด คนเดินกันให้เต็มเลยจ้า

หลังจากที่ยืนเหวออยู่กับเพื่อนซักพักก่อนจะหาทางออกที่ถูกก็อีกซํกพักแหละค่ะ 5555*



Seoul Station จะมีห้าง Lotte Mart เล็กๆอยู่ด้านข้างค่ะ รูปนี้เราถ่ายจากทางเดินเชื่อมตึกของ Lotte Mart
ที่เห็นในรูปหลังคาใสๆ ตรงด้านล่างขวาก็คือทางลงไปสถานี

ส่วนอันนี้จะเป็นตัวสถานีเก่าของเค้าค่ะ รูปนี้คือเหตุผลที่ทำให้เราเชิดใส่อากาศหนาวเดินออกจากสถานีมาค่ะ

เซอไพรซ์~~~~!! มันปิดค่ะ!!! อยากจะกรี๊ดร้องเป็นทำนองเพลงคืนความสุข
วันที่ไป เค้าห้ามเข้าค่ะ T T ตรงลานด้านหน้าเค้ากำลังจะเตรียมจัดงานอะไรซักอย่างซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้
ก็เลยได้แต่ยืนถ่ายรูปพอเป็นพิธี (เกือบชั่วโมง) อยู่ด้านหน้า เสร็จแล้วด้วยความหิวก็เลยกลับมาหาอะไรทานใน Seoul Station


หลังจากเดินหาร้านอยู่ซักพัก เข้าไปส่อง Food Court ก็แล้ว เห็นราคาแล้วก็เลยวกกลับมานี่เลยค่ะ KFC
"ห๊ะ!! ไปตั้งไกลไปกิน KFC เนี่ยนะะะ?" ใช่แล้วค่ะเพราะเราไปเจอเมนูนี้~~~~~!! วะฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Zingger Double Down Max!!! ค่ะ เป็นเบอเกอร์ของที่นี่ ใช่ค่ะ!! เบอเกอร์ ณ จุดจุดนี้เห็นอะไรแปลกๆสั่งแหลกค่ะ 55555*


หลังจากแป๊กที่แรกไปแล้วก็เกิดอาการลังเลเล็กน้อยว่าจะไปไหนต่อดีเพื่อรอเวลา Check-in เข้าโรงแรมค่ะ ซึ่งต้องรอบ่าย 2
ตอนนั้นพึ่งเที่ยง ก็เลยตกลงกับเพื่อนว่าจะไปเดินเล่นที่คลองชองเกชอนแถวโรงแรมค่ะ (Cheonggyecheon Stream)
ก็ต้องนั่งรถไฟ Line 1 ไปค่ะ ซึ่งสายนี้เค้าบอกว่าเก่าแก่ที่สุด ได้ยินคำล่ำลือมาว่าป้าๆ ที่อยู่สายนี้โหดมากกกกกกก
ให้ระวังไว้ถ้าป้าๆ จะเดินอย่าขวางเขา ถ้าเค้าเห็นเราเดินช้าแกจะผลักๆ แทรกๆทันที อย่าหวังว่าเค้าจะหันมาขอโทษนะคะ
ป้าๆ จะเดินจากไปแบบสวยๆ ค่ะ ปล่อยเรายืนเหวอๆ มีครั้งนึงเรายืนอยู่ที่เมียงดง กำลังคุยกับเพื่อนโดนป้าคนนึงชนกระเด็นไป 3 เมตร
(เวอร์ไปละอีนี่!!) อ่ะๆ คือจริงๆแล้วกระเด็นหน้าเกือบทิ่มปลิวไป 1 เมตร ทั้งๆที่เราก็ไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบางอะไรนะคะ เราค่อนข้างมั่นใจในรากฐาน(ขา)อันมั่นคงของเรา อมยิ้ม35 เราก็อึ้งเลยค่ะหันไปมองป้า ป้าก็หันมาขอโทษด้วยรอบยิ้มพิมพ์ใจเบาๆพร้อมกับเดินจากไป
ทิ้งเรายืนมองตาปริบๆ งงต่อไป ออกทะเลไปไกลละกลับมาเข้าเรื่องดีกว่า ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นทั้งมวล
เราจึงหลีกเลี้ยงที่จะขึ้นรถไฟช่วง Peak Time ค่ะ อันนี้เป็นบรรยากาศในรถไฟสาย 1 ชิวๆ คิคิ



นั่งรถไฟใต้ดินต่อไปอีกประมาณ 4-5 สถานี แล้วเดินออกจากสถานีมานิดเดียวก็ถึงที่หมายค่ะ

คลอง ชองเกชอน อดีตคลองน้ำเน่า ที่ปัจจุบันน้ำใส ไหลเย็น ชื่นฉ่ำ (Cheonggyecheon Stream)


ในรูปนี่เพื่อนเราเองค่ะ นางกำลังตั้งกล้องพยายามถ่ายเป็ด 4-5 ตัวที่ว่ายไปว่ายมา 555555*
ส่วนระยะเลนส์เราไม่ได้ค่ะ ยอมแพ้ที่จะถ่ายเป็ดกลางคลองมาถ่ายคลองดีกว่า



เดินเล่นซักพักจนถึงเวลา Check-in ก็เลยเข้าโรงแรมจะไปจะได้เก็บกระเป๋า ก็ไม่วายเจอเซอไพรซ์อีกค่ะ!!!! อะไรหน่ะเหรอคะ!!
พนักงานไม่อยู่ค่ะ...... ร้องไห้

นั่งรออยู่ซักพักจนมีแขกที่พักอยู่แล้วออกมาช่วยค่ะ เป็นคนญี่ปุ่นใจดีมากๆ พอดีเพื่อนเราพูดญี่ปุ่นได้ก็เลยคุยๆกับเค้า
เค้าก็เลยช่วยโทรตามทุกเบอร์เลยค่ะที่โรงแรมมีแปะไว้ สรุปกว่าจะได้ Check-in จริงๆก็ร่วมบ่าย 3 เลย
จริงๆเรากับเพื่อนตั้งใจจะซื้อขนมไปขอบคุณเค้า แต่เหมือนเค้าจะ Check Out ออกไปก่อน เพราะหลังจากนั้นก็ไม่เจออีกเลย....


ขอพักไว้ที่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อค่ะ  

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่