เรื่องเล่าจากจิต

กระทู้สนทนา
วันนี้ฝนตกพรำ ๆ มาแต่เช้า  โยมสุดใจเอาข้าวปลาอาหารมาทำบุญที่วัด   เพราะรู้ว่าหลวงพ่อไม่ได้ออกบิณฑบาตในวันพระ ถ้าไม่มีญาติโยมเอา

อาหารมาทำบุญที่วัด  หลวงพ่อก็จะอดอาหารในวันนั้น  มาถึงก็รายงานหลวงพ่อว่า
  
       วันนี้ฝนตกแต่เช้า รถติดยาวเยียดเลยครับหลวงพ่อ  กว่าจะหลุดจากในเมืองมาได้  เสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง

        หลวงพ่อตอบว่า  ที่วัดฝนก็ตกมาแต่เช้าเหมือนกัน โยม   แต่หลวงพ่อไม่เห็นรถมันติดเลยโยม

        โยมสุดใจตอบว่า  ก็วัดหลวงพ่ออยู่ในป่า  นาน ๆ ถึงมีรถผ่านมาสักคัน  รถจะติดได้ยังไง ?   ไม่เหมือนในเมือง  รถเยอะแยะไปหมด  

        อ้าว ! โยม   ตกลงที่รถมันติดนี่  เป็นเพราะฝนตก  หรือเพราะรถบนถนนมันเยอะแยะกันแน่ ?

        โยมสุดใจฉุกคิดนิดหนึ่งแล้วตอบว่า  ถ้าว่ากันตามเหตุผล  รถมันติดก็เพราะรถมันเยอะ ครับหลวงพ่อ

        หลวงพ่อชี้ไปที่ถนนหน้าวัด  โยมเห็นถนนนั่นไหม ตอนถนนที่สร้างเสร็จใหม่ ๆ  ยังไม่มีรถวิ่งไปมา  ถนนมันก็ว่างของมันเป็นปกติ  พอมี

รถวิ่งขวักไข่วไปมามากขึ้น ๆ รถมันก็เลยติด  รถมันจะติดหรือไม่ติดมันขึ้นอยู่ที่จำนวนรถ  ไม่เกี่ยวกับ ฝนจะตกหรือไม่ตกเลย โยม    จริงๆ แล้ว

ถึงรถจะมากมายแค่ไหน ?  ความว่างของถนนก็ไม่ได้เพิ่มขั้นหรือลดลงเลย  มันก็ว่างอยู่อย่างเก่าเท่ากับตอนที่สร้างใหม่ ๆ นั่นแหละ โยม  

เพราะโยมมัวแต่สนใจรถที่วิ่งไปมา  มันเลยมาขวาง ทำให้ โยมไม่เห็นความว่างของถนน โยมว่าจริงไหม ?

         ครับ  มันก็จริงอย่างหลวงพ่อว่ามาแหละครับ
  
         หลวงพ่อบอกว่า  ธรรมชาติของจิต มันก็เหมือนกับถนนที่ยังไม่มีรถวิ่งนั่นแหละ  พอมีความคิดขวักไขว่ไปมา  มันมัวแต่ไปยึดติดอยู่กับ

ความคิดที่ไม่มีตัวมีตน เกิด ๆ ดับ ๆ เลยถูกหลอกให้สุข ให้ทุกข์ อยู่กับเรื่องราวของความคิดซึ่งเป็นเพียงสมมุติของโลก  ซึ่งไม่ใช่ความจริง  

มันเลยทำให้ไม่ให้เห็นธรรมชาติของจิต  โยมว่าจริงไหม ?  ลองพิจารณาดูดีดีซิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่