เวลคัมโฮมครับคุณผู้หญิง….เวลคัมโฮม (เรื่องราวของเจค กับ ทริกเกอร์ น้องหมาจอมกวน )
http://pantip.com/topic/31176227
เมื่อคุณผู้หญิงอันเป็นที่รัก มีอันต้องเดินทางไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยชั่วคราว ปล่อยให้เจค ต้องอยู่เผชิญหน้ากับเจ้าทริกเกอร์วายร้าย เจคจึงได้ซาบซึ้งกับสัจธรรมที่ว่า การพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักเป็นทุกข์ การพบเห็นแต่สิ่งที่ไม่รัก ก็เป็นทุกข์เช่นกัน
ที่ท่าน้ำหลังบ้าน … โลเคชั่นเดิมๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะคนเขียนไปไหนไม่ค่อยได้ไกล ฉากก็เลยออกมาจำกัดจำเขี่ย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบู๊ล้างผลาญ หรือรักหวานๆ ส่วนใหญ่จะไปจบลงที่ท่าน้ำนี่แหละเจ้าค่ะน้องพี่
เรื่องนี้ก็เช่นกัน เหตุการณ์อุบัติขึ้นที่ท่าน้ำ พระเอกของเรื่อง จะใครซะอีกล่ะคะท่าน หากไม่ใช่เจค เจ้าตัวกำลังนั่งเหม่อมองดูสายน้ำ พลันเสียงเพลงซาบซึ้งก็ลอยมาตามลม
เหม่อมองดูสาย น้ำวน เหม่อมองสายชล ช่างไหลริน
เหม่อมองดูนกผกผินบินลับไป ยามเหงา เราถอนใจ บินไป ไม่กลับมา
ทำไมเจค จึงนึกถึงบทเพลงที่ว่า แทนจะเป็นเพลงอื่น ง่ายนิดเดียว ก็เพราะเพลงนี้ เป็นเพลงที่คุณผู้หญิงชื่นชม และทุกครั้งยามที่นั่งด้วยกัน มักจะชี้ชวนให้เจค ดูสายชล ที่ท่าน้ำ พร้อมกับร้องเพลงนี้เสมอ
ปกติบทเพลงที่ว่า ก็เศร้าซึ้งอยู่แล้ว แต่ความซึ้งความเศร้ายิ่งทับทวี ก็อีตอนนี้ที่คุณผู้หญิงของเจคมาจากไป สุดจะกลั้น อีกต่อไปไหว น้ำตาของลูกผู้ชายก็ พรั่งพรู ออกมาราวกับน้ำตกสาลิกายามที่น้ำหลาก
เจค ลูกผู้ชายมีใครเขาร้องไห้บ้างละ เจคปรามตัวเองด้วยเสียงอันสั่นสะท้าน จัดแจงยกเท้าหน้าขึ้นซับน้ำตาเร็วๆ ถ้าบอกว่าใช้มือซับ ก็จะกลายเป็นคน ไม่ใช่น้องหมา ( เหอๆๆๆ)
ดวงตาอันพร่ามัวของเจค จับจ้องอยู่ที่ผืนน้ำ ภาพในอดีตก็ลอยขึ้นมาตรงหน้า ยามนั้น ที่ตัวเองนั่งคู่กับคุณผู้หญิงที่ใจดีของเจค คุณผู้หญิงมักจะดึงเจคเข้าไปกอดแรงๆ พร้อมกับกระซิบข้างหู
“เจค ถ้าฉันพูด แล้วอย่าหาว่าฉันพูดซ้ำซาก น่าเบื่อละ แต่ฉันพูดจริงๆนะ ฉันรักเจคที่สุดในโลก และจะรักอย่างนี้ตลอดไป”
“ผมก็รักคุณผู้หญิงครับ ไม่ใช่แค่ที่สุดในโลก แต่รักที่สุดไม่ว่าโลกนี้ หรือโลกไหนๆ” เจคพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะยืดยาวความในใจออกมา
“ คุณผู้หญิงรู้ไหมครับ แค่คุณผู้หญิงไม่อยู่ ผมก็ทุกข์ใจหนักพอแล้ว แต่ความทุกข์ของผมยิ่งหนักหนาขึ้นไปอีกก็ เพราะไอ้ทริกเกอร์ มันคอยมาก่อกวนอยู่ใกล้ๆ ผมทนไม่ไหวขึ้นมาจะเตะ มันก็ลอยหน้าลอยตาล้อเลียน และเพราะมันนี่แหละ ทำให้โรคไมเกรนของผมกำเริบเสิบสาน
เฮ้อ เจคถอนใจดังๆ คิดขึ้นมาแล้วให้สะท้อนใจ ไม่มีคุณผู้หญิงซะคน ตารางชีวิตของเจคก็เปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ตอนคุณผู้หญิงยังไม่ไปเมืองไทย เช้าตื่นลืมตา คุณผู้หญิงจะไปเปิดประตูห้องนอนให้เจค ( ห้องใต้ดิน) ออกมา เสร็จแล้วก็ให้อาหารเช้า กับ น้ำดื่ม จากนั้นคุณผู้หญิงก็พาเดินเล่น รับอรุณรุ่ง
พอตกบ่าย ก็จะเป็นอาหารว่าง ซึ่งถ้าไม่ใช่ฮอทดอก ก็เศษเนื้อต้ม กินอิ่มหมีพีมันดี ก็จะมานอนผึ่งพุง เย็นย่ำตื่นขึ้นมา คุณผู้หญิงเสิร์ฟอาหารเย็น พอทุ่มกว่าๆ ตบท้ายด้วยของว่างอีกครั้ง สี่ทุ่มจึงจะเข้านอน
แต่พอไม่มีคุณผู้หญิงเสียคน แล้วคุณผู้ชายก็วันๆเอาแต่ทำงาน บางวันกว่าคุณผู้ชายจะไปแซะเจคกับเจ้าทริกออกมาจากห้องได้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง อาหารเช้าก็เลยกลายเป็นอาหารเที่ยง อาหารเที่ยง ดีเลย์ ออกไป อะไรไม่สำคัญเท่ากับ ฮอทดอก ของว่างที่เจคโปรดปราน ที่ได้รับอยู่เนืองๆ ทุกเช้า สาย บ่าย ค่ำ ก็ได้บ้างไม่ได้บ้างมิหนำซ้ำกว่าจะได้สักที ดันเกิดผิดพลาดทางเทคนิคเข้าเสียอีกอย่างวันก่อน
คุณผู้ชายที่หมกมุ่นแต่เรื่องงาน เดินผ่านห้องครัว แล้วหันไปเห็นเจคกับทริกที่นั่งจ๋องอยู่หน้าประตูห้องครัวด้านนอก รอส่วนบุญ แล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่า
ว่าพักนี้ห่างเหิน ของว่างไม่มี ของฝากไม่ให้ ไม่ได้การ ต้องให้ฮอทดอก หมาน้อยซะหน่อย เพราะคุณผู้หญิงของบ้าน สั่งไว้ก่อนจะไปเมืองไทย
“อย่าปล่อยปละเลยลูกชายฉันนะ ใส่ใจเขาหน่อย เพราะเขาบอกไม่ได้ว่าหิว พูดไม่ได้ว่าป่วย ดูแลเขาแทนฉันด้วยนะ สงสารเขา”
“เจค, ทริก มาเอาฮอทดอก” คุณผู้ชายร้องเรียกดังๆ
เจค , ทริกเกอร์ ที่ความหวังหรี่ริบ และเกือบจะถอดใจอยู่รอมร่อ ได้ยินคุณผู้ชายบอกจะให้ฮอทดอก ก็หูผึ่ง ตาโตเท่าไข่ ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งแข่งกันมา ระหว่างทาง ก็ร้องแรก แหกปากดังๆ แต่ว่า
“ ฮอทดอกๆๆ”
“ขอโทษนะ เจค กับ ทริก ฉันมัวแต่ยุ่งๆ เลยลืมให้ฮอทดอกเราไป” คุณผู้ชายร้องบอกเจค กับ ทริกเกอร์ ทั้งคู่ที่น้ำลายกำลังสอ แข่งกันบอกคุณผู้ชาย
“พวกเราไม่ถือโทษ โกรธคุณผู้ชายหรอกครับ ว่าแต่คุณผู้ชายพูดจบแล้วหรือยัง ถ้าพูดจบ ก็ส่งฮอทดอกมาเร็วๆ ซิครับ
ได้โปรด
please ,
ซิล วู เปล s'il vous plait ( หมาบ้านนี้อัจฉริยะ พอกับเจ้าของบ้าน แบบว่าภาษาละคำ คำละประเทศ )
“ช้าก่อน” คุณผู้ชายร้องดังๆ
“อะไรอีกล่ะครับ เจคกับ ทริกร้องถามราวกับนัดกัน ก่อนจะพร้อมใจมองหน้าคุณผู้ชายอย่างหงุดหงิด งุ่นง่าน
“ก่อนจะกินฮออทดอก เราต้องปฏิบัติภารกิจ ประจำ “ คุณผู้ชายพูดยิ้มๆ
“จนได้ซิน่า! “ เจคกับ ทริกเกอร์ ร้องออกมาพร้อมๆกัน กรอกตาขึ้นฟ้า ถอนใจแรงๆ คิดตรงกัน เกิดมาเป็นหมา มันแย่ตรงนี้ กว่าจะได้กินแต่ละที ต้องทำโน่นทำนี่ ตามที่เจ้านายสั่ง
“พร้อมหรือยัง” คุณผู้ชายถามดังๆ
“พร้อมครับ” ทั้งคู่ร้องแข่งกัน สลัดความคิดที่ล่องลอยกลับมา นั่งตัวตรง เงี่ยหูฟังคำสั่ง จากคุณผู้ชาย
นั่ง
ขอมือ ( ความจริง คุณผู้ชายเขาพูดอย่างนี้ค่ะ sit down , Give Me Your Paw )
ฮอทดอก จะตกถึงท้องหมาน้อยได้ก็ต่อเมื่อทำตามคำสั่งอย่างถูกต้องเท่านั้น ( คอยดูนะ ถ้าวันหนึ่งหมากลายเป็นคนขึ้นมาละก้อ หมาจะเอาคืนให้เข็ดเชียว ฮึ่มๆ)
“เจคเริ่มก่อน “ คุณผู้ชายร้องบอกดังๆ เจคหูผึ่ง ขยับตัวเตรียมพร้อม พอคุณผู้ชายบอกว่าขอมือ เจคก็ทำตามที่คุณชายสั่ง แต่จะเป็นด้วยบุญมีแต่กรรมมาบัง หรือจะเป็นเพราะคุณผู้ชายหักโหมงานมากไปจนสมองซ้าย ที่เป็นด้านของตรรกะ เหตุผล ความถูกต้อง การคำนวนเกิดชำรุด ก็สุดจะเดา ดังนั้น พอเจคยื่นขาไปให้ แทนที่คุณผู้ชายจะโยนฮอทดอกให้เจค คุณผู้ชายกลับโยนให้เจ้าทริก
ฝ่ายเจ้าทริก ที่รู้อยู่เต็มอก คุณผู้ชายไม่ได้เรียกตัวเองซะหน่อย แต่พอเห็นฮอทดอก ลอยผ่านอากาศมาทางตน ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง กระโดดงับ ก่อนจะเคี้ยว อย่างตะปุมตะปาม โดยมี เจคมองดูอย่างงงๆ แต่พอหายงง เจคก็ตัดพ้อคุณผู้ชายทันที
“คุณผู้ชายครับ ผมชื่อเจค ส่วนนั่น ไอ้ทริกเกอร์ “
“โทษเจค โทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปนิด เอาใหม่นะ ” คุณผู้ชายร้องบอก ท่าทางขึงขัง
นั่งเจค
ขอมือ
เจคไม่รอช้า คุณผู้ชายบอกให้ทำอะไร ก็ทำตาม คุณผู้ชายยิ้มอย่างพอใจที่เจคทำตามที่สั่ง แต่พอคุณผู้ชายเงื้อมือ ทำท่าจะโยนฮอทดอกให้ โทรศัพท์เจ้ากรรม ดันแผดเสียงสนั่น
เจคจะทำอะไรได้ นอกจากจะอ้าปากค้าง ร้องเพลงรอ ตาก็จับจ้องที่ฮอทดอกในมือคุณผู้ชายที่แขว่งมาแขว่งไป แต่ไม่ให้สักที เอาแต่พูดๆๆๆ พูดโทรศัพท์
ถ้าทำได้ เจคอยากจะกระโดดงับฮอทดอก จากมือคุณผู้ชายให้รู้แล้วรู้รอด หากเจคก็ได้แต่คิดเท่านั้นแหละ เพราะทำอย่างนั้น มันไม่สุภาพ เจค เป็นหมาสุภาพ ก็เลยได้แต่มองฮอทดอกในมือคุณผู้ชายด้วยใจระทึก มองไป น้ำลายจะหยดมิหยดแหล่
“เหอ” เจคร้องออกมาอย่างตระหนก เพราะทันทีที่คุณผู้ชายพูดโทรศัพท์เสร็จ ก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ไม่พูดไม่จา เหวี่ยงฮอทดอกให้ทริกเกอร์ทันที แค่นั้นไม่พอ ยังก้มลงลูบหัวเจ้าทริก ที่เคี้ยวฮอทดอก อย่างมุมมาม
“โทษนะทริก ที่ให้รอ พอดีบริษัทเขาโทรมาเรื่องงานสำคัญ“
“ไม่เป็นไรครับ คุณผู้ชาย นานเท่าไหร่ ผมก็รอได้” เจ้าทริกพูดทั้งที่ฮอทดอกเต็มปาก ( เสียมารยาท สุดๆ คุณผู้หญิงสอนแล้ว ไม่ให้พูดเวลาอาหารเต็มปาก)
เมื่ออยู่กันตามลำพัง เจค ที่ไม่อาจเก็บกักความคั่งแค้นที่มีต่อเจ้าทริกเกอร์ ไว้ในใจได้ต่อไปได้อีก จัดแจงต่อว่าต่อขานทริกเกอร์ทันที
“ไอ้ทริก”
“มีอะไร ครับพี่เจค”
“ยังจะมีหน้ามาถามว่ามีอะไร แกกินฮอทดอกของฉัน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ว่าคุณผู้ชายจะให้ฉัน “
“ถ้าเป็นของพี่เจค คุณผู้ชายก็ต้องให้พี่เจคซิ มาให้ผมทำไม “ ( ดูไอ้ทริกซิ แอ๊บแบ๊ว ยกให้ )
“อย่ามาทำไขสือ ไอ้เวร คุณผู้ชายเขาลืม แกก็น่าจะค้านคุณชาย ว่านั่นของพี่เจค ไม่ใช่ของผม ”
“อ้อยเข้าปากช้าง เอ้ย ฮอทดอกเข้าปากหมา ค้านก็โง่ซิครับ “
“ไอ้เวร อย่าอยู่เลย ฉันจะฆ่าแกให้ตายคามือ แกจะได้ไปเกิดเป็นช้างจริงๆ แล้วไปอยู่สุรินท์ซะเลย ”
เจคขู่ฟ่อๆ แล้วก็วิ่งห่อ ไล่กวดเจ้าทริกไปรอบๆบ้าน
เจคคิดมาถึงตอนนี้ ตาทั้งสองก็วาวโรจน์ ใจกระตุกถี่ๆเป็นจังหวะล่อวัวกระทิง ปาโซโดเบล แหงนหน้าขึ้นฟ้าดินตัดพ้ออย่างขมขื่น
“ ฟ้าส่งให้ลูกมาเกิด ทำไมจึงส่งไอ้ทริกมาด้วย ไอ้เวรขนมถ้วยตะไล เอ๊ย ไอ้เวรตะไล ( เอาแล้วไง คนเขียน เขียนไป ฝันถึงขนมไป) ทำไมมันจะต้องเกิดมาในโลกนี้ร่วมกับลูกด้วย ฟ้าดินช่วยบอกลูกที
“คุณผู้หญิง มาแล้วๆๆ” เสียงคุ้นๆที่ร้องเอะอะ ดังจากเบื้องหลังดึงความคิดของเจคกลับคืนมาอีกครั้ง คุณผู้หญิง คำๆนี้ มีอิทธิพลต่อจิตใจของเจคยิ่ง โดยเฉพาะในยามนี้ ที่เจครู้ สึกโดดเดี่ยว ราวกับอยู่เดียวดายบนโลกเพียงลำพัง
คุณผู้หญิงมาจริงๆหรือนี่ คิดแค่นั้นก็หมุนตัวกลับมาเร็วๆ หัวใจที่ปิติ ห่อฟุบ เมื่อหันมาแล้วไม่พบคุณผู้หญิง เห็นแต่เจ้าทริกนั่งยิ้มเผล่ และรอยยิ้มของมัน บอกให้รู้
เจคถูกหลอกอีกแล้ว
“ไอ้ทริก แกหลอกฉันอีกแล้วเหรอ”
“แฮ่ๆ ใช่พี่เจค แล้วไม่ว่าผมจะหลอกกี่ครั้ง พี่เจคก็เชื่อทุกที อิๆๆๆๆ”
“ไอ้ทริก”
“จ๋า จ้ะ “
“ไอ้ทริก แกตายแน่” เจคร้องออกมาแค่นั้น ก็วิ่งไล่กวดเจ้าทริก ที่ยิงฟัน ทำหน้าลิงหลอก ก่อนจะวิ่งนำ พักนี้พี่เจคเอาแต่เศร้าสร้อย เรื่องคุณผู้หญิงไม่อยู่ ไม่เล่นกับทริกเกอร์ ทริกเกอร์ก็เลยต้องหลอกล่อด้วยวิธีนี้ ซึ่งก็เวิร์คได้เวิร์คดี
โอ้ย ทริกเกอร์แฮปปี้อย่าบอกใครเชียว
ตะวันคล้อยไปนานเนิ่น ความมืดเข้ามาครอบคลุมที่รั้วด้านนอกของสระน้ำ เจคกับทริกเกอร์นั่งอยู่ข้างกัน เจคมองผืนน้ำตรงหน้า
ความคิดล่องลอยไปไกล
เจค คิดถึงคุณผู้หญิง อยากรู้ ว่าคุณผู้หญิงกำลังทำอะไร อยากรู้ ว่าคุณผู้หญิง จะคิดถึงเจค เหมือนอย่างที่เจค กำลังคิดถึงคุณผู้หญิงหรือเปล่า
“พี่เจค เมื่อไหร่คุณผู้หญิงจะกลับมาซะทีล่ะ” คำถามของทริกเกอร์ ดึงความคิดของเจคกลับมา เจคหันหน้าจากผืนน้ำมาบอกอย่างรำคาญๆ
“บอกว่าคุณผู้หญิงไปเดือนหนึ่ง ยังจะถามอยู่นั่น ”
“แต่เดือนหนึ่ง ทำไมมันนานนักละพี่เจค”
“ฉันจะไปรู้ แล้วถ้าจะกรุณาละก้อ เลิกพูด เลิกถาม ขอเวลาฉันคิดอะไรๆ อย่างสงบจะได้ไหม”
“ผมไม่ถามก็ได้ เชอะ”
สองวินาทีต่อมา…..
“พี่เจค ทำไม หมาอย่างเรา จึงไม่มีบ้านหลายๆหลังเหมือนกับคนบ้างล่ะ ”
“ไหนบอกว่า จะไม่พูด ไม่ถาม”
“ก็ผมสงสัย “ หยุดถอนใจแรงๆ ก่อนจะพูดต่อไป “ คุณผู้ชายบอกว่า คุณผู้หญิงไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย ไปหาแม่ หาน้อง หาญาติ ก็แล้วทำไม คุณผู้หญิงไม่ให้ แม่ ให้น้อง และญาติๆ ของคุณผู้หญิงมาอยู่ที่นี่ จะได้ไม่ต้องเทียวไปเที่ยวมา ล่ะพี่เจค “
“แกเอาคำถามนี้ ไปถามคุณผู้หญิง ตอนคุณผู้หญิงกลับมาจะดีกว่านะฉันว่า”
“พี่เจค”
“อะไร”
“อีกกี่วัน คุณผู้หญิงถึงจะกลับมาล่ะ”
“เจ็ดวัน สองชั่วโมง ห้าวินาที”
“เหอ”
“จะไปไหนก็ไปซะไป๊ ฉันอยากจะนั่งคิดอะไรคนเดียว” เจคพูดเท่านั้นก็สะบัดหน้าไปมองผืนน้ำ เพื่อซ่อนน้ำตา”
บ่ายแก่ๆของวันนั้น…
“คุณผู้ชายครับ คุณผู้หญิงจะกลับวันนี้ใช่เปล่าครับ” เจคมาดักหน้าดักหลัง ถามคุณผู้ชายที่แต่งตัวเรี่ยมเร้ ดูดี ที่กำลัง ก้าวฉับๆจะไปขึ้นรถ
“ใครบอกเราล่ะ “ คุณผู้ชายถามเสียงเข้ม ตีหน้าขรึม ก้าวสวบๆไปที่รถ ความจริงจะไปรับคุณผู้หญิงนั่นแหละ แต่โกหกเจคเล่นๆไปอย่างนั้น
เวลคัมโฮมครับคุณผู้หญิง….เวลคัมโฮม (เรื่องราวของเจค กับ ทริกเกอร์ น้องหมาจอมกวน )
http://pantip.com/topic/31176227
เมื่อคุณผู้หญิงอันเป็นที่รัก มีอันต้องเดินทางไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยชั่วคราว ปล่อยให้เจค ต้องอยู่เผชิญหน้ากับเจ้าทริกเกอร์วายร้าย เจคจึงได้ซาบซึ้งกับสัจธรรมที่ว่า การพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักเป็นทุกข์ การพบเห็นแต่สิ่งที่ไม่รัก ก็เป็นทุกข์เช่นกัน
ที่ท่าน้ำหลังบ้าน … โลเคชั่นเดิมๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะคนเขียนไปไหนไม่ค่อยได้ไกล ฉากก็เลยออกมาจำกัดจำเขี่ย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบู๊ล้างผลาญ หรือรักหวานๆ ส่วนใหญ่จะไปจบลงที่ท่าน้ำนี่แหละเจ้าค่ะน้องพี่
เรื่องนี้ก็เช่นกัน เหตุการณ์อุบัติขึ้นที่ท่าน้ำ พระเอกของเรื่อง จะใครซะอีกล่ะคะท่าน หากไม่ใช่เจค เจ้าตัวกำลังนั่งเหม่อมองดูสายน้ำ พลันเสียงเพลงซาบซึ้งก็ลอยมาตามลม
เหม่อมองดูสาย น้ำวน เหม่อมองสายชล ช่างไหลริน
เหม่อมองดูนกผกผินบินลับไป ยามเหงา เราถอนใจ บินไป ไม่กลับมา
ทำไมเจค จึงนึกถึงบทเพลงที่ว่า แทนจะเป็นเพลงอื่น ง่ายนิดเดียว ก็เพราะเพลงนี้ เป็นเพลงที่คุณผู้หญิงชื่นชม และทุกครั้งยามที่นั่งด้วยกัน มักจะชี้ชวนให้เจค ดูสายชล ที่ท่าน้ำ พร้อมกับร้องเพลงนี้เสมอ
ปกติบทเพลงที่ว่า ก็เศร้าซึ้งอยู่แล้ว แต่ความซึ้งความเศร้ายิ่งทับทวี ก็อีตอนนี้ที่คุณผู้หญิงของเจคมาจากไป สุดจะกลั้น อีกต่อไปไหว น้ำตาของลูกผู้ชายก็ พรั่งพรู ออกมาราวกับน้ำตกสาลิกายามที่น้ำหลาก
เจค ลูกผู้ชายมีใครเขาร้องไห้บ้างละ เจคปรามตัวเองด้วยเสียงอันสั่นสะท้าน จัดแจงยกเท้าหน้าขึ้นซับน้ำตาเร็วๆ ถ้าบอกว่าใช้มือซับ ก็จะกลายเป็นคน ไม่ใช่น้องหมา ( เหอๆๆๆ)
ดวงตาอันพร่ามัวของเจค จับจ้องอยู่ที่ผืนน้ำ ภาพในอดีตก็ลอยขึ้นมาตรงหน้า ยามนั้น ที่ตัวเองนั่งคู่กับคุณผู้หญิงที่ใจดีของเจค คุณผู้หญิงมักจะดึงเจคเข้าไปกอดแรงๆ พร้อมกับกระซิบข้างหู
“เจค ถ้าฉันพูด แล้วอย่าหาว่าฉันพูดซ้ำซาก น่าเบื่อละ แต่ฉันพูดจริงๆนะ ฉันรักเจคที่สุดในโลก และจะรักอย่างนี้ตลอดไป”
“ผมก็รักคุณผู้หญิงครับ ไม่ใช่แค่ที่สุดในโลก แต่รักที่สุดไม่ว่าโลกนี้ หรือโลกไหนๆ” เจคพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะยืดยาวความในใจออกมา
“ คุณผู้หญิงรู้ไหมครับ แค่คุณผู้หญิงไม่อยู่ ผมก็ทุกข์ใจหนักพอแล้ว แต่ความทุกข์ของผมยิ่งหนักหนาขึ้นไปอีกก็ เพราะไอ้ทริกเกอร์ มันคอยมาก่อกวนอยู่ใกล้ๆ ผมทนไม่ไหวขึ้นมาจะเตะ มันก็ลอยหน้าลอยตาล้อเลียน และเพราะมันนี่แหละ ทำให้โรคไมเกรนของผมกำเริบเสิบสาน
เฮ้อ เจคถอนใจดังๆ คิดขึ้นมาแล้วให้สะท้อนใจ ไม่มีคุณผู้หญิงซะคน ตารางชีวิตของเจคก็เปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ตอนคุณผู้หญิงยังไม่ไปเมืองไทย เช้าตื่นลืมตา คุณผู้หญิงจะไปเปิดประตูห้องนอนให้เจค ( ห้องใต้ดิน) ออกมา เสร็จแล้วก็ให้อาหารเช้า กับ น้ำดื่ม จากนั้นคุณผู้หญิงก็พาเดินเล่น รับอรุณรุ่ง
พอตกบ่าย ก็จะเป็นอาหารว่าง ซึ่งถ้าไม่ใช่ฮอทดอก ก็เศษเนื้อต้ม กินอิ่มหมีพีมันดี ก็จะมานอนผึ่งพุง เย็นย่ำตื่นขึ้นมา คุณผู้หญิงเสิร์ฟอาหารเย็น พอทุ่มกว่าๆ ตบท้ายด้วยของว่างอีกครั้ง สี่ทุ่มจึงจะเข้านอน
แต่พอไม่มีคุณผู้หญิงเสียคน แล้วคุณผู้ชายก็วันๆเอาแต่ทำงาน บางวันกว่าคุณผู้ชายจะไปแซะเจคกับเจ้าทริกออกมาจากห้องได้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง อาหารเช้าก็เลยกลายเป็นอาหารเที่ยง อาหารเที่ยง ดีเลย์ ออกไป อะไรไม่สำคัญเท่ากับ ฮอทดอก ของว่างที่เจคโปรดปราน ที่ได้รับอยู่เนืองๆ ทุกเช้า สาย บ่าย ค่ำ ก็ได้บ้างไม่ได้บ้างมิหนำซ้ำกว่าจะได้สักที ดันเกิดผิดพลาดทางเทคนิคเข้าเสียอีกอย่างวันก่อน
คุณผู้ชายที่หมกมุ่นแต่เรื่องงาน เดินผ่านห้องครัว แล้วหันไปเห็นเจคกับทริกที่นั่งจ๋องอยู่หน้าประตูห้องครัวด้านนอก รอส่วนบุญ แล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่า
ว่าพักนี้ห่างเหิน ของว่างไม่มี ของฝากไม่ให้ ไม่ได้การ ต้องให้ฮอทดอก หมาน้อยซะหน่อย เพราะคุณผู้หญิงของบ้าน สั่งไว้ก่อนจะไปเมืองไทย
“อย่าปล่อยปละเลยลูกชายฉันนะ ใส่ใจเขาหน่อย เพราะเขาบอกไม่ได้ว่าหิว พูดไม่ได้ว่าป่วย ดูแลเขาแทนฉันด้วยนะ สงสารเขา”
“เจค, ทริก มาเอาฮอทดอก” คุณผู้ชายร้องเรียกดังๆ
เจค , ทริกเกอร์ ที่ความหวังหรี่ริบ และเกือบจะถอดใจอยู่รอมร่อ ได้ยินคุณผู้ชายบอกจะให้ฮอทดอก ก็หูผึ่ง ตาโตเท่าไข่ ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งแข่งกันมา ระหว่างทาง ก็ร้องแรก แหกปากดังๆ แต่ว่า
“ ฮอทดอกๆๆ”
“ขอโทษนะ เจค กับ ทริก ฉันมัวแต่ยุ่งๆ เลยลืมให้ฮอทดอกเราไป” คุณผู้ชายร้องบอกเจค กับ ทริกเกอร์ ทั้งคู่ที่น้ำลายกำลังสอ แข่งกันบอกคุณผู้ชาย
“พวกเราไม่ถือโทษ โกรธคุณผู้ชายหรอกครับ ว่าแต่คุณผู้ชายพูดจบแล้วหรือยัง ถ้าพูดจบ ก็ส่งฮอทดอกมาเร็วๆ ซิครับ
ได้โปรด
please ,
ซิล วู เปล s'il vous plait ( หมาบ้านนี้อัจฉริยะ พอกับเจ้าของบ้าน แบบว่าภาษาละคำ คำละประเทศ )
“ช้าก่อน” คุณผู้ชายร้องดังๆ
“อะไรอีกล่ะครับ เจคกับ ทริกร้องถามราวกับนัดกัน ก่อนจะพร้อมใจมองหน้าคุณผู้ชายอย่างหงุดหงิด งุ่นง่าน
“ก่อนจะกินฮออทดอก เราต้องปฏิบัติภารกิจ ประจำ “ คุณผู้ชายพูดยิ้มๆ
“จนได้ซิน่า! “ เจคกับ ทริกเกอร์ ร้องออกมาพร้อมๆกัน กรอกตาขึ้นฟ้า ถอนใจแรงๆ คิดตรงกัน เกิดมาเป็นหมา มันแย่ตรงนี้ กว่าจะได้กินแต่ละที ต้องทำโน่นทำนี่ ตามที่เจ้านายสั่ง
“พร้อมหรือยัง” คุณผู้ชายถามดังๆ
“พร้อมครับ” ทั้งคู่ร้องแข่งกัน สลัดความคิดที่ล่องลอยกลับมา นั่งตัวตรง เงี่ยหูฟังคำสั่ง จากคุณผู้ชาย
นั่ง
ขอมือ ( ความจริง คุณผู้ชายเขาพูดอย่างนี้ค่ะ sit down , Give Me Your Paw )
ฮอทดอก จะตกถึงท้องหมาน้อยได้ก็ต่อเมื่อทำตามคำสั่งอย่างถูกต้องเท่านั้น ( คอยดูนะ ถ้าวันหนึ่งหมากลายเป็นคนขึ้นมาละก้อ หมาจะเอาคืนให้เข็ดเชียว ฮึ่มๆ)
“เจคเริ่มก่อน “ คุณผู้ชายร้องบอกดังๆ เจคหูผึ่ง ขยับตัวเตรียมพร้อม พอคุณผู้ชายบอกว่าขอมือ เจคก็ทำตามที่คุณชายสั่ง แต่จะเป็นด้วยบุญมีแต่กรรมมาบัง หรือจะเป็นเพราะคุณผู้ชายหักโหมงานมากไปจนสมองซ้าย ที่เป็นด้านของตรรกะ เหตุผล ความถูกต้อง การคำนวนเกิดชำรุด ก็สุดจะเดา ดังนั้น พอเจคยื่นขาไปให้ แทนที่คุณผู้ชายจะโยนฮอทดอกให้เจค คุณผู้ชายกลับโยนให้เจ้าทริก
ฝ่ายเจ้าทริก ที่รู้อยู่เต็มอก คุณผู้ชายไม่ได้เรียกตัวเองซะหน่อย แต่พอเห็นฮอทดอก ลอยผ่านอากาศมาทางตน ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง กระโดดงับ ก่อนจะเคี้ยว อย่างตะปุมตะปาม โดยมี เจคมองดูอย่างงงๆ แต่พอหายงง เจคก็ตัดพ้อคุณผู้ชายทันที
“คุณผู้ชายครับ ผมชื่อเจค ส่วนนั่น ไอ้ทริกเกอร์ “
“โทษเจค โทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปนิด เอาใหม่นะ ” คุณผู้ชายร้องบอก ท่าทางขึงขัง
นั่งเจค
ขอมือ
เจคไม่รอช้า คุณผู้ชายบอกให้ทำอะไร ก็ทำตาม คุณผู้ชายยิ้มอย่างพอใจที่เจคทำตามที่สั่ง แต่พอคุณผู้ชายเงื้อมือ ทำท่าจะโยนฮอทดอกให้ โทรศัพท์เจ้ากรรม ดันแผดเสียงสนั่น
เจคจะทำอะไรได้ นอกจากจะอ้าปากค้าง ร้องเพลงรอ ตาก็จับจ้องที่ฮอทดอกในมือคุณผู้ชายที่แขว่งมาแขว่งไป แต่ไม่ให้สักที เอาแต่พูดๆๆๆ พูดโทรศัพท์
ถ้าทำได้ เจคอยากจะกระโดดงับฮอทดอก จากมือคุณผู้ชายให้รู้แล้วรู้รอด หากเจคก็ได้แต่คิดเท่านั้นแหละ เพราะทำอย่างนั้น มันไม่สุภาพ เจค เป็นหมาสุภาพ ก็เลยได้แต่มองฮอทดอกในมือคุณผู้ชายด้วยใจระทึก มองไป น้ำลายจะหยดมิหยดแหล่
“เหอ” เจคร้องออกมาอย่างตระหนก เพราะทันทีที่คุณผู้ชายพูดโทรศัพท์เสร็จ ก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ไม่พูดไม่จา เหวี่ยงฮอทดอกให้ทริกเกอร์ทันที แค่นั้นไม่พอ ยังก้มลงลูบหัวเจ้าทริก ที่เคี้ยวฮอทดอก อย่างมุมมาม
“โทษนะทริก ที่ให้รอ พอดีบริษัทเขาโทรมาเรื่องงานสำคัญ“
“ไม่เป็นไรครับ คุณผู้ชาย นานเท่าไหร่ ผมก็รอได้” เจ้าทริกพูดทั้งที่ฮอทดอกเต็มปาก ( เสียมารยาท สุดๆ คุณผู้หญิงสอนแล้ว ไม่ให้พูดเวลาอาหารเต็มปาก)
เมื่ออยู่กันตามลำพัง เจค ที่ไม่อาจเก็บกักความคั่งแค้นที่มีต่อเจ้าทริกเกอร์ ไว้ในใจได้ต่อไปได้อีก จัดแจงต่อว่าต่อขานทริกเกอร์ทันที
“ไอ้ทริก”
“มีอะไร ครับพี่เจค”
“ยังจะมีหน้ามาถามว่ามีอะไร แกกินฮอทดอกของฉัน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ว่าคุณผู้ชายจะให้ฉัน “
“ถ้าเป็นของพี่เจค คุณผู้ชายก็ต้องให้พี่เจคซิ มาให้ผมทำไม “ ( ดูไอ้ทริกซิ แอ๊บแบ๊ว ยกให้ )
“อย่ามาทำไขสือ ไอ้เวร คุณผู้ชายเขาลืม แกก็น่าจะค้านคุณชาย ว่านั่นของพี่เจค ไม่ใช่ของผม ”
“อ้อยเข้าปากช้าง เอ้ย ฮอทดอกเข้าปากหมา ค้านก็โง่ซิครับ “
“ไอ้เวร อย่าอยู่เลย ฉันจะฆ่าแกให้ตายคามือ แกจะได้ไปเกิดเป็นช้างจริงๆ แล้วไปอยู่สุรินท์ซะเลย ”
เจคขู่ฟ่อๆ แล้วก็วิ่งห่อ ไล่กวดเจ้าทริกไปรอบๆบ้าน
เจคคิดมาถึงตอนนี้ ตาทั้งสองก็วาวโรจน์ ใจกระตุกถี่ๆเป็นจังหวะล่อวัวกระทิง ปาโซโดเบล แหงนหน้าขึ้นฟ้าดินตัดพ้ออย่างขมขื่น
“ ฟ้าส่งให้ลูกมาเกิด ทำไมจึงส่งไอ้ทริกมาด้วย ไอ้เวรขนมถ้วยตะไล เอ๊ย ไอ้เวรตะไล ( เอาแล้วไง คนเขียน เขียนไป ฝันถึงขนมไป) ทำไมมันจะต้องเกิดมาในโลกนี้ร่วมกับลูกด้วย ฟ้าดินช่วยบอกลูกที
“คุณผู้หญิง มาแล้วๆๆ” เสียงคุ้นๆที่ร้องเอะอะ ดังจากเบื้องหลังดึงความคิดของเจคกลับคืนมาอีกครั้ง คุณผู้หญิง คำๆนี้ มีอิทธิพลต่อจิตใจของเจคยิ่ง โดยเฉพาะในยามนี้ ที่เจครู้ สึกโดดเดี่ยว ราวกับอยู่เดียวดายบนโลกเพียงลำพัง
คุณผู้หญิงมาจริงๆหรือนี่ คิดแค่นั้นก็หมุนตัวกลับมาเร็วๆ หัวใจที่ปิติ ห่อฟุบ เมื่อหันมาแล้วไม่พบคุณผู้หญิง เห็นแต่เจ้าทริกนั่งยิ้มเผล่ และรอยยิ้มของมัน บอกให้รู้
เจคถูกหลอกอีกแล้ว
“ไอ้ทริก แกหลอกฉันอีกแล้วเหรอ”
“แฮ่ๆ ใช่พี่เจค แล้วไม่ว่าผมจะหลอกกี่ครั้ง พี่เจคก็เชื่อทุกที อิๆๆๆๆ”
“ไอ้ทริก”
“จ๋า จ้ะ “
“ไอ้ทริก แกตายแน่” เจคร้องออกมาแค่นั้น ก็วิ่งไล่กวดเจ้าทริก ที่ยิงฟัน ทำหน้าลิงหลอก ก่อนจะวิ่งนำ พักนี้พี่เจคเอาแต่เศร้าสร้อย เรื่องคุณผู้หญิงไม่อยู่ ไม่เล่นกับทริกเกอร์ ทริกเกอร์ก็เลยต้องหลอกล่อด้วยวิธีนี้ ซึ่งก็เวิร์คได้เวิร์คดี
โอ้ย ทริกเกอร์แฮปปี้อย่าบอกใครเชียว
ตะวันคล้อยไปนานเนิ่น ความมืดเข้ามาครอบคลุมที่รั้วด้านนอกของสระน้ำ เจคกับทริกเกอร์นั่งอยู่ข้างกัน เจคมองผืนน้ำตรงหน้า
ความคิดล่องลอยไปไกล
เจค คิดถึงคุณผู้หญิง อยากรู้ ว่าคุณผู้หญิงกำลังทำอะไร อยากรู้ ว่าคุณผู้หญิง จะคิดถึงเจค เหมือนอย่างที่เจค กำลังคิดถึงคุณผู้หญิงหรือเปล่า
“พี่เจค เมื่อไหร่คุณผู้หญิงจะกลับมาซะทีล่ะ” คำถามของทริกเกอร์ ดึงความคิดของเจคกลับมา เจคหันหน้าจากผืนน้ำมาบอกอย่างรำคาญๆ
“บอกว่าคุณผู้หญิงไปเดือนหนึ่ง ยังจะถามอยู่นั่น ”
“แต่เดือนหนึ่ง ทำไมมันนานนักละพี่เจค”
“ฉันจะไปรู้ แล้วถ้าจะกรุณาละก้อ เลิกพูด เลิกถาม ขอเวลาฉันคิดอะไรๆ อย่างสงบจะได้ไหม”
“ผมไม่ถามก็ได้ เชอะ”
สองวินาทีต่อมา…..
“พี่เจค ทำไม หมาอย่างเรา จึงไม่มีบ้านหลายๆหลังเหมือนกับคนบ้างล่ะ ”
“ไหนบอกว่า จะไม่พูด ไม่ถาม”
“ก็ผมสงสัย “ หยุดถอนใจแรงๆ ก่อนจะพูดต่อไป “ คุณผู้ชายบอกว่า คุณผู้หญิงไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย ไปหาแม่ หาน้อง หาญาติ ก็แล้วทำไม คุณผู้หญิงไม่ให้ แม่ ให้น้อง และญาติๆ ของคุณผู้หญิงมาอยู่ที่นี่ จะได้ไม่ต้องเทียวไปเที่ยวมา ล่ะพี่เจค “
“แกเอาคำถามนี้ ไปถามคุณผู้หญิง ตอนคุณผู้หญิงกลับมาจะดีกว่านะฉันว่า”
“พี่เจค”
“อะไร”
“อีกกี่วัน คุณผู้หญิงถึงจะกลับมาล่ะ”
“เจ็ดวัน สองชั่วโมง ห้าวินาที”
“เหอ”
“จะไปไหนก็ไปซะไป๊ ฉันอยากจะนั่งคิดอะไรคนเดียว” เจคพูดเท่านั้นก็สะบัดหน้าไปมองผืนน้ำ เพื่อซ่อนน้ำตา”
บ่ายแก่ๆของวันนั้น…
“คุณผู้ชายครับ คุณผู้หญิงจะกลับวันนี้ใช่เปล่าครับ” เจคมาดักหน้าดักหลัง ถามคุณผู้ชายที่แต่งตัวเรี่ยมเร้ ดูดี ที่กำลัง ก้าวฉับๆจะไปขึ้นรถ
“ใครบอกเราล่ะ “ คุณผู้ชายถามเสียงเข้ม ตีหน้าขรึม ก้าวสวบๆไปที่รถ ความจริงจะไปรับคุณผู้หญิงนั่นแหละ แต่โกหกเจคเล่นๆไปอย่างนั้น