[CR] บันทึกประสบการ์ทัวร์ไหว้พระที่พม่า

ยิ้มดอกไม้สวัสดีค่ะ วันนี้เราขออนุญาตเพื่อนๆมาเล่าประสบการณ์เที่ยวพม่าครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม2557 ที่ผ่านมานะคะ ก่อนอื่นเลยเราเพิ่งจะเคยเข้ามาแชร์ประสบการณ์เป็นครั้งแรก ถ้าผิดพลาดประการใด เราต้องอภัยมา ณโอกาสนี้ด้วยนะคะพลุโอ่ง

  อมยิ้ม16เริ่มจากเราหาข้อมูลในการไปเที่ยวพม่าก่อนเลย ได้ยินมาว่าพม่าเป็นเมืองพุทธ และมีวัดและเจดีย์ใหญ่ๆเยอะแยะมากมาย เราจึงอยากไปไหว้พระรับพรปีใหม่ทีกำลังจะมาถึง

เราก็บังเอิญไปเจอทัวร์อยู่ที่นึง เค้ารับจำนวนไม่เยอะ แบบ small group จำนวนไม่เกิน10 คน  เราก็คิดว่าเราไปแบบกรุปเล็กดีกว่าจะได้เที่ยวสนุกมากกว่า และลองดูโปรแกรมเทียบๆกับที่อื่นๆดูแล้ว ที่นี่เค้าพาไปเยอะกว่าที่อื่น ซึ่งราคาก็ถือว่าไม่ได้แตกต่างจากที่อื่นมากนัก จริงๆเราค่อนข้างจะเป็นคนเยอะนิดนึงเรื่องความคุ้ม 555 เราคิดว่าไปครั้งนึงขอแบบจัดเต็มดีกว่า  และเค้าก็ดูแลเราทั่วถึงด้วยค่ะ และทุกคนที่ไปก็น่ารักมาก กลับมาเราก็รู้จักกันหมดสาวแว่นหนุ่มแว่น

พอดีว่าตอนนั้นคิดว่าอยากให้คนที่ไปทัวร์เป็นคนวัยพอพอกัน เราเลยหาข้อมูลจากในwebsite เพราะคิดว่าtarget เดียวกัน คงมาหาเหมือนกัน เราก็จัดการหาใน sanook google kodsana kaidee kapook ก็จนมาเจอที่ kapook market เราก็เลยโทรไปขอโปรแกรมทัวร์ อ่านไปอ่านมา จนตัดสินใจได้ว่าที่นี่แหละ^^

หัวหน้าทัวร์ของเรา เค้าก็น่ารักมาก^^ ก่อนวันเดินทางเค้าก็Email มาหาเราก่อนว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง และก็ให้ข้อมูลเราเรื่องอาหารและสภาพอากาศก่อนเล็กน้อย พาพันอยากรู้

อมยิ้ม25อ้อ!! ลืมมเรื่องวีซ่าไปเลย ไปพม่าต้องใช้วีซ่าจ้า แต่เราให้ทางบริษัททัวร์เค้าทำให้ ถามถามเค้ามา เค้าบอกว่าต้องใช้เวลาในการขอวีซ่า 3 วันจ้า ใครที่อยากจะไปเที่ยวก็รีบๆไปทำกันด้วยจ้า มีอายุ3 เดือนอมยิ้ม02

ลืมบอกเพื่อนๆไปเลยว่าเราไป4วัน 4คืน จ้า.....


เพี้ยนลุยวันออกเดินทาง วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม
เรามาขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง บิน Air Asia จ้า เรามาถึงก่อนเวลาประมาณ 18.00 น  เครื่องเราออกตอน 20.25 น ถึงย่างกุ้ง ก็เวลาประมาณ 21.40 น ตอนแรกเรานึกว่าจะไกลกว่านี้ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆเอง  กรุปของเรามีไกด์มารับ ไกด์เราพูดไทยได้ด้วยนะ ชื่อว่า พี่ชาย เม่าออกรถ
พอมาถึงพี่ชายก็ไม่รอช้า พาเราไปส่งที่โรงแรมซึ่งเราก็ตื่นเต้นกับถนนที่นี่มากเลย เพราะว่าที่นี่เค้าเป็นถนนแบบยุโรป แต่ว่ารถที่ขับเป็นรถเอเชีย พูดง่ายๆว่า ที่นี่เค้าขับรถแบบพวงมาลัยขวา-ชิดขวา ต่างจากที่บ้านเราเลยที่ขับชิดซ้าย พวกเราก็ตื่นเต้นกันมาก
และตอนแรกเราไม่คิดว่าเมืองจะโตมากขนาดนี้ แต่มาถึงแล้วผิดคาดไปเลยจ้า ไกด์บอกว่าที่ย่างกุ้งวันธรรมดารถติดมากซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ น้องๆกรุงเทพเลยนะเนี่ยยยยย……

อ้อ วันนี้เรามาถึงดึกก็นอนพักก่อนเลย พรุ่งนี้เราจะได้มีแรงลุยพม่าอย่างเต็มที่เพี้ยนฝันดี
ซึ่งเราก็โอเคนะไม่ต้องตื่นเช้ามากมาสนามบิน เหมือนทัวร์อื่น เรากลัวว่าจะเพลียด้วย

พลุทัวร์พม่าวันที่1  วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม
วันนี้ เราทัวร์ไหว้พระกันที่ย่างกุ้งโดยเฉพาะเลย เราลองๆนับดูแล้วก็ 9 ที่เลยแหละ

เดาะบอลเริ่มจากวัดพระพุทธรูปหยกขาว  ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน แล้วต่อด้วยไปดูช้างเผือกคู่บ้านคู่เมืองพม่าจ้า


ถัดมาก็ไปวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เราก็ได้ทำบุญแผ่นทองจ้า แล้วก็นำแผ่นทองมาวางบนนอกการเวกแล้วช่วยกันชักรอกขึ้นไปสู่ยอดเจดีย์


อมยิ้ม36แล้วเราก็ไปต่ออีกนิด กันที่อุโมงค์หินซึ่งเคยใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์จ้า ข้างในใหญ่มากด้วย ใกล้กันก็จะมีเจดีย์กาบาเอซึ่งตรงนี้เองที่ทำเราขนลุก และประทับใจกับทัวร์นี้มากๆเลยคือว่า พอเราเข้าไปไหว้พระที่เจดีย์กาบาเอ เราอยากเห็นบารมีพระธาตุใกล้ ๆ เราเลยรอกรุ๊ปทัวร์เกาหลีก่อนหน้าเราซึ่งเค้าใช้เวลานานมาก แต่ในที่สุดด้วยความพยายามและแรงศรัทธา เราเลยได้เข้าไปสักการะพระธาตุใกล้ๆ และได้ลงหัวเป็นสิริมงคลอีกต่างหาก  

แต่ระหว่างรอเราเห็น Group คนไทย Group ใหญ่ ประมาณ 20-30 คน มาต่อแถวจากเรารอชมบารมีพระธาตุเหมือนกัน แต่ด้วยเหตุที่ทัวร์เขาจัดคนเยอะ ทำให้เขาไม่สามารถรออยู่จนคณะเกาหลี กลับได้ เขาเลยได้แต่ไหว้ข้างหน้า และจากไป ส่วนคณะเรา พระธาตุลงหัวแบบ one by one สบาย ๆ อิอิ



ถัดมาเราก็ไปต่อ แต่เราจำชื่อวัดไม่ได้จ้า แต่เราได้มีโอกาสเห็นเกศาธาตุที่ยังมีชีวิตอยู่ คือดิ้นได้อ้ะ เราขนลุกเลยหล่ะ แต่วัดนี้ทัวร์ไม่ค่อยมาลงห็นไกด์บอกนะ พอเรากำลังจะกลับ ก็จะมีคนยกน้ำชา กล้วย และถั่วมาให้ทานก่อนกลับด้วย วัดนี้ใจดีจังงงง วู้วววว  หลังจากนั้นเราก็ได้ไปแวะหน้าบ้านอองซานซูจีแปบนึง แต่เค้าไม่ได้เปิดให้เข้าไปนะ แหะๆๆๆ ร้องไห้



ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ ยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่หนิ คึกคักๆๆนวม เราไปสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือพระตาหวาน เราก็เดินดูรอบๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆจ้า พอทุกคนดื่มด่ำกันแล้วเราก็ได้ไปต่อ วัดงาทัตจี ซึ่งมีพระพุทธทรงเครื่ององค์ใหญ่ที่สุดในโลกจ้า




อมยิ้ม36อมยิ้ม36และก็มาจบแบบฟินๆที่เจดีย์ชเวดากอง ไกด์เราเค้าพาทัวร์ซอกเล็กซอกน้อยของชเวดากองด้วยน้า โดยเฉพาะ  7 จุดมหัศจรรย์ของมหาเจดีย์นี้ หัวใจเรางี้พองโตเลยหล่ะ เพราะมันฟินนนมากกกก


เม่าอ่านหนังสือพิมพ์การไหว้พระที่นี่ส่วนใหญ่เค้าไม่ใส่รองเท้าเข้าไปเพราะว่าเค้าถือเอามากๆเลย เราก็ถอดเราเท้าไว้ในรถตู้ โดยที่แต่ละวัดแต่จะเจดีย์ก็มีประวัติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย อ๋อๆๆ แล้วก็ตามข้างล่างเนี่ย เค้าเคร่งมากนะ

ห้ามนุ่งสั้น ห้ามใส่รองเท้า และถุงเท้า นะแจ๊ะ......

จุ๊บๆจุ๊บๆ ที่เราประทับใจคนที่นี่อย่างหนึ่งเลยก็คือชาวพม่าเค้าเข้าวัดมาดูแลทำความสะอาด พาครอบครัวมานั่งเล่น มาทำบุญ คือเค้ามากันเป็นกิจวัตรเลย มาแบบที่ไม่ต้องมีใครบอกเลยหล่ะ

และสำหรับอาหารเค้าก็จัดให้แบบฟินๆเลย กลางวันเราอยากกินก๋วยเตี๋ยวถือว่าอร่อยเลยหล่ะ ส่วนตอนเย็นก็ที่ภัตตาคารเลยจ้า มีเป็ดปักกิ่งด้วยหล่ะ^^^

สำหรับวันนี้เราถึงที่พักก็ประมาณ 4 ทุ่มจ้า จริงๆ เรายังอยากอยู่ต่อที่ชเวดากองเลย แต่ก็ม่ายยไหวละ วันนี้ แหะๆ



บายศรีทัวร์พม่าวันที่2 วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม

วันที่2 นี้ตอนเช้าตื่นมาอากาศสดใส เบิกบาน กินกาแฟ แซนวิช เตรียมลุยต่อ

ประหลาดใจเริ่มด้วย เราไปไหว้พระธาตุก่อนเลยที่โบตาทาวน์ ก็เดินเข้าไปฐานเจดีย์ไหว้พระธาตุในผอบทองคำ  ตอนอยู่ข้างใน เรางี้มีออร่าเลย เพราะเค้าตกแต่งด้วยสีทองทั้งหมดจ้า 555


ต่อด้วยสักการะเทพทันใจ เทพกระซิบ อยากจะบอกว่าคนไทยเยอะมาก555 เอาเป็นว่ามีแต่คนไทยละกัน  เราก็ได้ไหว้สักการะตามความเชื่อส่วนบุคคลนะจ้า อ๋อเราสามารถแวะซื่อผ้าถุงใส่ให้เข้ากับเมืองพม่าก็ได้น้า พอดีเราแอบเหลือบไปเห็น ผลไม้ เห็นละเปรี้ยวปาก แต่คิดไปคิดมา ม่ายเอาดีกว่า  55555....


และพอทุกคนพร้อมเราออกเดินทางต่อไปที่สิเรียม ก็นั่งรถประมาณ1 ชั่วโมง ใครอยากงีบก็งีบจ้าเวลานี้  
อมยิ้ม25เราแวะทานข้าวกลางวันเป็นร้านอาหารกึ่งไทยจีน ที่สำคัญจัดเต็มเหมือนเดิมจ้าเพราะอาหารอร่อยมากๆ ดูท่าปัดแมลวันของเด็กเสริฟจิ บริการดีเยี่ยมเบยยยย
หัวหน้าทัวร์ก็เตรียมน้ำพริกและของว่างมาให้เพิ่มอีกกก กลัวว่าเราจะไม่อิ่ม น่ารักกกที่ซู๊ดดดด……แห้ว แล้วก็แวะสักกาะระทำบุญวัดแถวนั้นอีกวัดนึงจ้า


บรรยากาศข้างทางก็เหมือนเราออกต่างจังหวัด แต่เป็นถนนเล็ก เลนส์สวน2 เลนส์จ้า .....นั่งไปพลางๆ ก็ถึงจุดหมายสักที พร้อมลุยต่อที่เจดีย์เลเยพญา หรือเจดีย์กลางน้ำ ซึ่งต้องนั่งเรือข้ามไปจ้า เราก็เอ๋ออยู่คนเดียวคนอื่นเค้าถอดเราเท้าไว้ในรถกันหมดส่วนเรากว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ไม่ทันละ ต้องถือรองเท้าเองเลยยย ร้องไห้


พลุหลังจากนั้น เราก็กลับมาที่ย่างกุ้ง พี่ชายแนะนำให้มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะ เราสังเกตว่าชาวพม่าชอบมาสวนสาธารณะ พาครอบครัว พาลูกหลาน พาแฟนมานั่งเล่นเต็มไปหมดเลยจ้า ตรงนี้ก็จะมีอนุสาวรีย์คล้ายกับรวมชาติพม่า 5 ชนเผ่า จ้า แล้วเราก็เดินกันอีกนิดจ้า ไป  เจดีย์สุเล ทรงแปดเหลี่ยม (จริงๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง คือถนนทุกสายต้องมาผ่านที่นี่ ถ้าเป็นกรุงเทพ ก็จะคล้ายกับ อนุสาวรีย์นั่นเอง)อัศวินขี่ม้าขาว


ต่อมา เราก็ไปกันแถวๆทะเลสาบกันดอจี มากินฟุตเฟต์ที่ภัตตาคารกลางน้ำเป็นรูปนกการะเวก คือว่ามันอลังการมากกกก กรี๊ดกร๊าดดกันใหญ่^^ พลุโอ่งพลุโอ่ง  ตอนเดินเข้ามาก็มีชาวพม่าแต่งตัวสวยงามมาต้อนรับ  มีซุ้มอาหารพม่าสามารถหยิบทานได้เลย  ระหว่างที่ทานข้าวก็มีการแสดงนาฏศิลป์พม่า ก็ดูน่าตื่นเต้นดี แต่มันก็จะคล้ายๆกับบ้านเราอยู่นะ


พอทานเสร็จเราก็กลับที่พักจ้า นี่ก็เกือบ4ทุ่มอยู่นะ  
นอนเอาแรงก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปต่ออีกไกลลลล^^^pompom
ชื่อสินค้า:   ทัวร์พม่าpantip
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่