วอลล์ เปเปอร์ CEO

กระทู้ข่าว
ในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะเป็นช่วงที่ประชาชนคนไทยเรามีแต่ความสุขได้รับแต่ข่าวดีถ้วนหน้า เป็นต้นว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภานิติบัญญัติแหงชาติ (สนช.) ได้ “โมเดลปฏิรูปประเทศ” แล้ว ได้ร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายเพรียกหากันแล้ว เตรียมยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนกันแล้วนะ...

ที่ไหนได้ ผ่านมากว่า 8 เดือนแล้ว นับแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจการปกครองประเทศ หยุดเส้นทางการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยจนป่านนี้ก็ยังมืดแปดด้าน ทั้ง 2 สภายังหาโมเดลปฏิรูปประเทศยังไม่เจอ ไอ้ที่ว่าเราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ทำท่าจะลากยาวไปกลางปีหรือปลายปี 2559 ไปโน้น...

กับเรื่องที่จั่วหัวไว้เรื่องของ “ซีอีโอ” ของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจห้างร้านทั้งหลายแหล่ที่ถือเป็นกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งซีอีโอที่โลกโซเชียลแชร์กันสนั่นเมืองในช่วงปีใหม่ เห็นจะไม่มีใครน่าอิจฉาเกิน “เจ้าสัววิชัย-คิงเพาเวอร์” ที่เพิ่งอวดโฉมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรู “กัลฟ์สตรีม 550” ราคากว่าลำละ 2,000 ล้านบาท ที่ทำเอาคนในโลกโซเชียลอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน

จนถึงกับมีการตั้งข้อกังขาทำธุรกิจอะไรหนาถึงได้ร่ำรวยมหาศาลขนาดนี้ได้ จะว่ากำไรจากสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่น่าจะใช่เพราะ “จิ้งจอกสยาม” ที่แม้จะตีตั๋วขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014/2015 ได้ แต่ผลงานยังสุดบู่จนรั้งท้ายตารางร่ำๆ จะตกชั้นอยู่รอมร่อ

จะไม่รวยอู้ฟู้ได้อย่างไร เพราะสัมปทานร้านปลอดภาษี “ดิวตี้ฟรี” ที่ผูกขาดตัดตอนอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอื่นๆ ของ ทอท.หรือบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นั้น แทบจะได้มาแบบเปล่าปรี้ ไม่ต้องลงทุนลงแรงเป็นพันล้าน หมื่นล้านล้านก็ได้ที่ค้าขายแบบผูกขาดชนิดไม่ต้องแบ่งใคร

ค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายแก่รัฐคือ ทอท.นั้น ก็สุดแสนพิสดารจ่ายเฉพาะสินค้าที่ซื้อขายในสนามบินเท่านั้น ส่วนดาวน์ทาวน์ดิวตี้ฟรีที่ไปผุดอยู่นอกสนามบิน “สุดบิ๊กบึ้ม” และเปิดขายแบบออนไลน์ไปแล้วเวลานี้ไม่ต้องจ่ายค่าต๋งให้รัฐสักแดง จนสามารถสูบเอากำรี้กำไรไปซื้อสโมสรฟุตบอล ซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรูได้

ขณะที่ ทอท.เจ้าของพื้นที่ที่ต้องใช้เม็ดเงินภาษีประชาชนไปลงทุนเป็นแสนๆ ล้าน ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้บริหาร ทอท.คิดอ่านกันอย่างไร เป็นถึงบริษัทมหาชนแต่กลับยอมให้มีการผูกขาดตัดตอนผ่องถ่ายผลประโยชน์ที่องค์กรควรจะได้รับไปเข้าพกเข้าห่อบริษัทเอกชนเอาได้

แถมเจ้าของสัมปทานใต้ชายคาแท้ๆ กลับรวยอู้ฟู่กว่าเจ้าของพื้นที่เสียอีก!

พูดถึง ทอท.ยามนี้ที่แม้จะไม่ถูก “ซุปเปอร์บอร์ด” ซ่อมสร้างให้ต้องส่งแผนฟื้นฟูกิจการ แต่ก็ถูกสับเละเป็นโจ๊กจากซุปเปอร์บอร์ดถึงการผูกขาดกิจการสนามบินที่คอยจ้องแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อเอากับผู้ใช้บริการ โขกสับเอากับค่าธรรมเนียม ทั้งที่ตัวสนามบินเองก็ใช้เม็ดเงินภาษีประชาชนไปก่อสร้าง

จนถึงกับที่ซุปเปอร์บอร์ดต้องกำหนดหลักเกณฑ์การปรับค่าธรรมเนียมสนามบินและอะไรต่อมิอะไรตามมา ขณะที่ฝ่ายบริหาร ทอท.ยามนี้ที่ทั้งฝ่ายบริหาร และพนักงานผู้ปฏิบัติงานยามนี้กล่าวได้ว่า กำลังเคว้งอยู่กลางทะเล ไม่รู้อนาคตองค์กรจะเดินไปทางไหน ไม่ต่างไปจาก “หมาหลงบนทางด่วน” ยังไงยังงั้น

จะหวังพึ่งรักษาการซีอีโอที่ชื่อ “นิรันดร์” รึ นัยว่าก็แค่ “วอลล์ เปเปอร์ซีอีโอ” ไปแล้ว ขนาดองค์กร ทอท.ที่มีกำรี้กำไรมหาศาล แต่ถูก “ซุปเปอร์บอร์ด” สับเละเป็นโจ๊กก็ยังไม่มีปัญญาจะแอ่นอกปกป้องภาพพจน์ ชื่อเสียงองค์กรได้

นัยว่าวันๆ ก็เอาแต่ควงคู่จิ้น “บิ๊กโต้ง” หอบแฟ้มไปให้ “Invisible Hand - มือที่มองไม่เห็น” ที่ซอยรางน้ำจิ้มก้อนโครงการต่างๆ ก่อน จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ลั่นทุ่งดอนเมือง ผู้รับเหมาไหนจะเข้ามารับงานใน ทอท.วันนี้ ยังไงก็ต้องไปเคลียร์หน้าไพ่เรื่อง “คุณสมบัติ” ก่อนรับเหมาโปรเจ็กต์กันที่ซอยรางน้ำสถานเดียว!

แม้แต่โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่นายกฯหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็น “โครงการนำร่อง” ที่จะใช้ระบบตรวจสอบความโปร่งใส Construction Sector Transparency Initiative หรือ Cost ในการดำเนินโครงการรัฐอื่น ๆ แต่ข้อเท็จจริงวันนี้ผู้รับเหมาน้อยใหญ่กลับถูก “บิ๊กโต้ง” เรียกไปเคลียร์หน้าเสื่อเป็นรายวัน

แม้แต่พนักงานและฝ่ายบริหาร ทอท.เอง ก็ยังไม่พ้นถูกเขย่าเก้าอี้เป็นรายวัน หากไม่เคลียร์หน้าเสื่อและไม่สนองนโยบายตามใบสั่งแล้ว เป็นต้องถูกเขย่าพ้นเก้าอี้ นัยว่าล่าสุดนี้ก็เพิ่งจะโยกย้ายนอกฤดูที่ทำเอาคนใน ทอท.ระส่ำ เพราะหวั่นอนาคตองค์กร ทอท.จะเจริญรอยตามการบินไทยเอาอีก หากยังปล่อยให้ “มือที่มองไม่เห็น” ชักใยอยู่เช่นนี้

ก็ไหนว่ายุครัฐบาล คสช.นั้น “ไร้ใต้โต๊ะ” แล้ว แต่เหตุไฉนโครงการรับเหมาในสนามบินภายใต้การกำกับของ ทอท.ยังคงคละคลุ้งไปด้วยใบสั่งและคอมมิชชั่นกันอยู่อีก!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่