ชมซากุระญี่ปุ่น ดุ่ยๆ 3 เมือง 7 วัน 6 คืน (ฉบับรีวิวย้อนหลังเกือบปี)

สวัสดีเพื่อนๆพันทิปครับ

วันนี้ผมจะมารีวิวทริปญี่ปุ่นช่วงซากุระบานที่ได้เดินทางไปเมื่อ เมษายน 2557 ซึ่งภาพทั้งหมดในกระทู้นี้ถ่ายไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มเตรียมการกะว่ากลับจากญี่ปุ่นแล้วจะรีวิวในพันทิปแต่ก็ล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ เพราะเพิ่งว่างจากการงานและภารกิจอันรัดตัวหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังจะหาข้อมูลเพื่อเดินทางไปญึ่ปุ่นช่วงเมษายนปีนี้


สำหรับท่านที่จะจัดทริปเที่ยวเองต้องกำหนดก่อนครับว่าจะเดินทางไปช่วงไหน อย่างผมวันเดินทางคือ 31 มีนาคม - 7 เมษายน ทั้งหมด 8 วัน (เมื่อตัดวันเดินทางอันรุ่มร่ามออกเหลือประมาณ 7 วัน 6 คืน )
ตอนนั้น ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ยังไม่เปิดบริการ ผมจองตั๋วช่วงมกราคม(ช่วงเดียวกับที่ตั้งกระทู้นี้เลยครับ) ตอนนั้นใครจะเดินทางด้วยวิธีนี้ต้องถึกพอควรครับ เพราะต้องต่อเครื่องที่มาเลเซียแต่ตอนนี้สบายแล้วเพราะไทยแอร์เอเชียร์เอกซ์เปิดบริการในประเทศไทยแล้ว บินตรงดอนเมือง-โตเกียว ง่ายขึ้นเยอะ

เมื่อเราทราบจำนวนวันที่จะไปแล้วก็มาวางแผนว่าอยากจะไปเมืองไหน ที่ไหนบ้าง สำหรับเวลาที่ผมมีเก็บโตเกียวให้ครบคงพอแล้ว แต่ไม่ครับ ผมโลภ ผมอยากไป 3 เมืองต่อไปนี้ คือ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า เลยลองดูสักตั้ง

ภาคหาข้อมูลและเตรียมการ

ทริปนี้ผมหาข้อมูล ทำโปรแกรมเองทั้งหมด โดยได้ข้อมูลจากหลายส่วนครับ

1. หาข้อมูลรีวิวจากเวปพันทิป (จากหลายกระทู้มาก จำได้ไม่หมดครับเพราะนานมากแล้ว)

2. ซื้อหนังสือมาอ่านอย่างละเอียด 2 เล่ม  (ค่อนข้างมีประโยชน์มากนะครับ เพราะข้อมุลในหนังสือกับการรีวิวจะไม่เหมือนกัน พอนำมาประกอบกันจะครบถ้วนสมบูรณ์พอดี )



3. สอบถามจากรุ่นน้องและเพื่อนคนไทยที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น

จนได้ข้อมูลคร่าวๆ ก็นำมาประมวลหาที่ๆอยากจะไปและทำโปรแกรม โดยผมมีข้อกำหนดของการเดินทางไปดังนี้

- ต้องได้เดินทางข้ามเมืองด้วยชินคังเซน
-ต้องได้พักโรงแรมแคปซูล โรงแรมทั่วไป และเรียวกัง (นานๆมาทีพักให้ครบ 555)
-ไม่ว่ายังไงต้องไปพิพิธภัณฑ์ราเมนให้ได้ เพราะชอบราเมนเป็นการส่วนตัวอยากไปดูประวัติ ขั้นตอน รวมถึงไปชิมราเมนที่นี่ เพราะทริปนี้ไม่ใช่ทริปที่เน้นของกิน จึงขอที่นี่ไว้ 1 โปรแกรมที่ต้องไปให้ได้

เมื่อทำออกมาแล้วโปรแกรมโหดมากครับ (แต่ก็ยึดตามนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า หากไปเที่ยวที่ใดแล้วใช้เวลามากกว่าที่กำหนดในโปรแกรมก็ยาวไปแล้วตัดโปรแกรมทิ้งตามความเหมาะสม ---ซึ่งหากต้องตัด จะตัดที่ไหนออกบ้างผมมีในหัวแล้วครับว่าโปรแกรมไหนจะตัดออก แล้วก็ได้ตัดออกจริงๆ 555 )

โดยโปรแกรมนี้ผมตั้งสถานที่เที่ยวมาก่อนตามการหาข้อมุลจากรีวิวและแผนการเดินทางจาก 3 ส่วนด้านบน จากนั้นใช้จึงวางว่าในโปรแกรมควรพักโรงแรมไหน (โดยมากหาข้อมุลที่พักจาก Agoda ซึ่งจะมีระบุแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงในข้อมุลโรงแรมอยุ่แล้ว หากตรงกับที่ที่เราจะไปในโปรแกรมและราคาเหมาะสมตามงบประมาณที่ตั้งไว้ก็ใช้ได้)

โปรแกรมก็ออกมาหน้าตาแบบนี้







และอย่างที่บอกไปในตอนต้นแล้วว่าโปรแกรมนี้อึดและถึกมาก แต่ก็ยังดีที่ที่พักเราไม่ไกลจากที่เที่ยวที่แรกในวันรุ่งขึ้น รวมถึงไปกันแค่ชายหนุ่ม 2 คน ก็ลองดูสักตั้ง
(แต่ต้องมีแผน B เสมอ คือ ถ้าเวลาไม่ทันต้องตัดที่ที่เราสนใจน้อยกว่าออกไป)

เมื่อได้โปรแกรม ผมก็ทำการจองโรงแรม (ตอนนั้นจองผ่าน Agoda จ่ายเงินผ่านบัตรเดบิตกสิกรไทย จ่ายเงินเลยทันทีที่จอง)
----ยกเว้น First Cabin Haneda airport (โรงแรมแคปซูลที่สนามบิน) ที่จองผ่านเวบโรงแรมโดยตรงและจ่ายจริงในวันที่เข้าพัก)------

หลักจากนั้นก็ซื้อ JR Pass เพราะต้องเดินทางข้ามโซนจากโตเกียวไปเกียวโต โอซาก้า ซื้อไปยังไงก็คุ้ม
จะได้ JR Pass หน้าตาแบบรูปด้านล่างนี้ (เป็นแบบ Nation wide ordinary) นี่เป็นแค่คูปองที่มีอายุนับจากซื้อ 3 เดือน เมื่อเดินทางไปถึงญึ่ปุ่นต้องไปแลกเป็นตั๋วอีกที ซึ่งจะมีอายุการใช้งานของตั๋วตามระยะตั๋วที่เราซื้อไป ของผมซื้อแบบ 7 วัน)



และเนื่องจากทริปนี้เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรก และเราไม่ต้องการเสียเวลาในการหาแต่ละสถานที่มากนัก หากต้องเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ตัวช่วยที่ผมใช้คือ google map นั่นเอง ซึ่งแน่นอนเราต้องมี pocket wifi ด้วย ผมขี้เกียจยุ่งยากไปรับเครื่องทำอะไรที่ญี่ปุ่นก็เลยเลือกที่จะเช่าเครื่องรับเครื่องคืนเครื่องที่ไทย โดยใช้บริการจากเจ้านี้  http://iwifi.jp/howto_return.php ก็สะดวกดีครับ

หน้าตา pocket wifi เป็นแบบนี้ครับ (อันนี้เช่าก่อนไปเลยครับ เพราะถ้าเช่าล่วงหน้านานๆค่าใช้จ่ายคิดรายวัน จะเปลือง แต่สามารถจองและจ่ายเงินก่อนได้ ถ้าเช่าใกล้ๆวันเดินทางรับรองไม่มีเครื่องแน่นอน ผมจองล่วงหน้าเป็นเดือน)




และปัญหาสำคัญสำหรับมือใหม่เช่นผมคือเรื่องการเดินทาง เพราะรถไฟในญี่ปุ่นนี้มีทั้งบนดินใต้ดิน หลายสายมาก
ซึ่งผมหาข้อมุลมาจากเวบไฮเปอร์เดียที่หลายท่านในพันทิปรีวิวไว้ครับ  http://www.hyperdia.com/en/

หาข้อมุลและนำมาลงเป็นเอกสารเอาไว้จนครบทั้งโปรแกรมเลยครับ เป็นเรื่องการเดินทางขึ้นรถฟสายไหนขบวนไหนลงไหนต่อไหน
รวมแล้วก็ 40 กว่าหน้าได้ (ท่านใดสนใจก็ขอมาทางหลังไมค์ได้นะครับ เส้นทางจะอิงตามโปรแกรมของผมตลอดทั้งทริปครับ)



ผมแปลงอันนี้เป้น pdf โหลดใส่ ipad ไว้ รวมถึงสแกนข้อมุลที่เที่ยวตามโปรแกรมใส่ ipad ไว้เช่นกันครับ จะได้ไม่ต้องแบกหนังสือไปให้หนักเอา ipad ไปอย่างเดียวจบ


ส่วนสำคัญที่ผมเห็นว่าหลายคนมองข้ามแต่ผมว่าสำคัญคือ ผมถ่ายสำเนาพาสปอร์ตใส่แฟ้มติดไปด้วย เพราะหากทำพาสปอร์ตหายเรายังมีสำเนาอยู่ให้อุ่นใจ และprint เอกสารต่างๆที่สำคัญไว้ด้วยเช่นใบจองโรงแรม รายละเอียดการจองเครื่อง ใบโปรแกรม(อันนี้ผมทำเผื่อไว้กรณี ตม. ที่นั่นขอดู ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงผ่านง่ายมากไม่ทันได้ควักออกมาโชว์เลย ช่วงนั้นกังวลครับเพราะเป็นช่วงแรกๆที่ยกเลิกการขอวีซ่ากลัวไม่ผ่าน ตม.)

อีกทริคพิเศษที่รุ่นน้องที่อยุ่ที่ญี่ปุ่นแนะนำผมมาคือ โตเกียวดิสนี่ย์แลนด์คนจะเยอะมากต้องบริหารเวลาดีๆ ถ้าจะไปต่อคิวซื้อตั๋วที่โน่นจะเสียเวลาพอสมควร ดังนั้นควรซื้อไปก่อน เมื่อไปถึงที่โน่นเราจะได้เดินตัวปลิวเข้าไปต่อคิวเครื่องเล่นได้ก่อนคนอื่น ซึ่งต้องชอบพระคุณรุ่นน้องคนนั้นที่จัดการซื้อตั๋วมาให้(พอดีน้องกลับไทยก่อนที่ผมจะเดินทางไปญี่ปุ่นเลยรับตั๋วก่อนเดินทางที่ไทย)

เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็แลกเงินเยน เงินริงกิงกิตนิดหน่อยเอาไปใช้ระหว่างรอต่อเครื่อง (ซึ่งปัจจุบันบินตรงแล้วเงินริงกิตก็ไม่ต้องแลกแล้วนะครับ อันนี้รีวิวโบราณไปช้ากว่าปุจจุบันไปนิดนึง)

ตอนนี้เราก็พร้อมที่จะลุย Japan กันแล้ว




(โปรดติดตามตอนต่อไป)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่