ซาลามอาเลกุม
สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาแวะชมทริปอียิปต์ของเรา ตอนแรกเราคิดว่าจะเขียนใส่ Diary ส่วนตัว แต่ว่ามีหลายๆคนสนใจอยากไปเที่ยวอียิปต์ และเราก็สนับสนุนค่ะะไม่ใช่ว่ามันเท่ห์หรือไฮโซนะคะ แต่เพราะหลังจากที่ได้ไปมาแล้วรู้สึกสงสารคนประเทศเค้ามากเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เค้ามีสงครามกลางเมืองเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวคนไหนกล้าไปเที่ยวประเทศเค้าอีกเลยค่ะ ทำให้คนในประเทศเค้าค่อนข้างจะลำบากมาก แต่จริงแล้วประเทศเค้าค่อนข้างจะปลอดภัยนะคะ เลยอยากเชิญชวนให้ทุกคนถ้ากำลังคิดว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ ลองเปลี่ยนจากไปเกาหลี ญี่ปุ่น เป็นประเทศแถบแอฟริกาดูค่ะ
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเราไปเที่ยวกับทัวร์นะคะ ไม่ได้ไปเอง สาเหตุที่ไปกับทัวร์เพราะว่า
1. การคมนาคมของที่อียิปต์ยังไม่สะดวกค่ะ ซึ่งจากที่ไปเห็นมาแล้วรู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้วค่ะที่ไปกับทัวร์ 5555 เพราะการเดินทางที่นั่นคือรถเมล์ รถตู้ และแท็กซี่ รถเมล์และรถตู้เค้าจะไม่ได้มีเป็นป้ายแบบบ้านเรานะ เค้าจะยืนโบกกันข้างถนนเลย ส่วนคนให้บริการนั้นบางคนพูดภาษาอังกฤษได้และบางคนพูดไม่ได้ แต่ถ้าใครต้องการจะเดินทางไปเองจริงๆ ที่โรงแรมเค้าก็จะมีรถบริการให้นะคะเหมาเป็นวัน วันนึงไม่เกินกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป ราคาตกวันละประมาณ 1,000 - 3,000 กว่าบาทค่ะ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอียิปต์นั้นจำเป็นต้องมีรถมากๆ
2. เราไปกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งสุขภาพท่านไม่ค่อยดี ถ้าไปเองเกรงว่าท่านจะลำบาก และถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะไม่มีใครช่วยค่ะ
3. ค่าทัวร์ที่ไปไม่ได้แพงมาก ถูกว่าไปญี่ปุ่นอีก (อาจเป็นเพราะว่าเราไปช่วงปีใหม่มั้ง)
4. เราไม่มีเวลาวางแผนการเที่ยวด้วยค่ะ เลยไปกับทัวร์เลยทีเดียว
ประเทศอียิปต์อยู่ทวีปแอฟริกาตอนบน (คือตอนแรกเราคิดว่าอยู่ตะวันออกกลางไม่ก็เอเชีย -.-! โชว์โง่เลย 555) เมืองหลวงของเค้าก็คือเมืองไคโรนั่นเอง คนอียิปต์เค้าพูดภาษาอารบิก แต่ภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศสก็ฟังรู้เรื่องค่ะ ใครจะไปเที่ยวอียิปต์เราแนะนำให้ดูหนังไปเยอะๆนะ พวก Mummy อะไรแบบนี้ แล้วจะสนุกมากเลยค่ะ (เราไม่เคยดู the Mummy สิ่งที่เกี่ยวกับอียิปต์ที่เราเคยดูมีอยู่เรื่องเดียว Yu-Gi-Oh ค่ะ) แต่ที่อียิปต์เค้าไม่ให้ฉายมัมมี่นะเพราะเค้าถือว่านำสิ่งที่เค้านับถือไปสร้างภาพที่น่ากลัวค่ะ แล้วใครมีความรู้เรื่องยิว มุสลิม ก็จะดีมาก ซึ่งอันนี้ก่อนไปเราก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกตามตรงว่าเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆค่ะ (ก่อนไปไม่มีเวลาจริงๆ)
การเตรียมตัวไปอียิปต์
1.เสื้อผ้า
เนื่องจากเราไปช่วงปีใหม่อากาศก็จะค่อนข้างเย็น ประมาณ 16-22 องศาตอนกลางวันแต่แดดแรงมาก ส่วนตอนกลางคืนก็ประมาณ 10-15 องศา ก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปใครที่เป็นคนกลัวหนาวก็เอาไปหนาหน่อยค่ะแต่ไม่ต้องใส่ถุงมือก็ได้ แบบกันฝุ่นได้ยิ่งดีเนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศแห่งทะเลทราย ลมพัดทีนึงนี่คือฝุ่นเกาะตั้งแต่หัวจรดเท้า ใครที่แพ้ฝุ่นก็ควรนำผ้าปิดปากไปด้วยค่ะ แต่แม่เราเป็นภูมิแพ้แต่ไปอียิปต์ก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่าลืมหมวกและแว่นกันแดดนะคะ จะได้เที่ยวแบบสนุกๆ (เราเป็นคนตาเล็กเวลาแดดจ้านี่คือเราไม่เห็นอะไรเลย แว่นกันแดดเลยจำเป็นมากกกกกก)
2.อาหาร
อาหารที่อียิปต์ก็จะเน้นพวกเครื่องเทศที่ค่อนข้างจืด กลิ่นแรง และเนื่องจากเป็นประเทศมุสลิมฉะนั้นคนประเทศเค้าไม่กินหมูค่ะ อาหารหลักๆก็จะเป็นเนื้อวัว, เนื้อแพะ, เนื้อไก่ เรากินไก่ย่างเยอะมากจนจะเป็นเก๊าอยู่ละ (เก๊าอ้วน) บางคนทานอาหารพื้นเมืองเค้าไม่ได้ก็พยายามพกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปนะ แต่เราชอบทานอาหารบ้านเค้าหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างซึ่งหนังไก่กรอบมากเลยค่ะและมีเกลือเค็มๆนิดหน่อยอร่อยสุดๆ เค้าให้เรามาครึ่งตัวเรากินเกลี้ยงเลย อาหารอีกอย่างที่เราชอบมากคือโรตี ตอนร้อนๆนี่มันนุ่มอร่อยมากเลย แล้วบนผิวขนมปังก็มีผงๆอะไรด้วยก็ไม่ทราบ เรากินเยอะมากจนคุณพ่อทักว่าเจริญอาหารไปมั้ย 55555 โรตีที่นี่เค้าก็จะทานกับเครื่องเคียงเค้าในรูปข้างล่างค่ะ
3. ปัจจัยสำคัญ "เงิน"
ที่อียิปต์ใช้เงิน Egyptian Pound ค่ะ ซึ่งประเทศไทยไม่มีให้แลก ดังนั้นเราจึงต้องแลกเงิน USD จากไทยไปก่อนแล้วค่อยไปแลกเป็นเงินอียิปต์ที่สนามบิน ตอนเราไป 4 วัน 3 คืนเราแลกเงินไปประมาณ 3,000 USD ค่ะซึ่งเหลือเฟือมาก พยายามแลกเป็นแบงค์ย่อยซัก 100 USD ค่ะเผื่อไว้ซื้อของหรือทิปคนที่นู่น เพราะที่นู่นเวลาเราซื้อของถ้าเราจ่ายแบงค์ใหญ่ไปแล้วเค้าไม่ทอน บอกว่าไม่มีเงินทอน แล้วก็เอาเงินไปเลย ฉะนั้นแลกเป็นแบงค์ย่อยดีกว่าค่ะ
พอไปถึงสนามบินให้แลกเป็นเงินอียิปต์ประมาณ 100 USD เผื่อช้อปปิ้งด้วย อย่าลืมขอแบงค์ย่อยมานะคะ เพราะการเข้าห้องน้ำที่นั่นต้องเสียเงินทุกที่ถึงแม้ห้องน้ำจะสกปรกแค่ไหนก็ตามก็จะมีคนเก็บเงินในห้องน้ำค่ะ ครั้งละ 1 L.E. ถ้าเกิดไม่ให้เค้าก็จะกลั่นแกล้งเราตอนเข้าห้องน้ำค่ะ ก็ให้ๆเค้าไปถือว่าทำบุญ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย 5555 ตอนเราไป 1 USD = 7.15 L.E. ฉะนั้น 1 L.E. ประมาณ 5 บาทค่ะ
ขอเล่าประสบการณ์นิดนึง คือตอนเราไปเราจะไปขอแลกเงินที่ Bank of Caire ที่สนามบิน ปรากฏมันปิดเคาท์เตอร์ไม่ให้แลก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คือคนประเทศเค้าไปแลกเค้าให้แลกนะคะ แต่พอเราไปแลกมันไม่รับค่ะบอกระบบล่ม ไอเราก็งงมันจะล่มได้ไง ยังให้คนอื่นแลกอยู่เลย สุดท้ายก็เลยต้องไปแลกที่โรงแรมค่ะโรงแรมมีให้แลก
เวลาแลกคืนกลับมาเป็นเงิน USD หรือเงินสกุลอื่นแลกได้ที่สนามบิน เงินอียิปต์ต้องใช้ให้หมดนะคะ มิฉะนั้นเราจะต้องบินกลับไปใช้ที่อียิปต์เพราะประเทศเราไม่มีให้แลกคืนค่ะ ออกนอกประเทศปุ๊บไร้ค่าทันที
4. Internet
เป็นปัจจัยอีกปัจจัยที่เราพลาดกับการไปเที่ยวครั้งนี้ค่ะ เพราะที่ Egypt internet ช้ามากและไอที่มันบอกว่ามี Free Wifi เนี่ย มีจริงค่ะ แต่เค้าไม่บอก Password อ้างว่าระบบล่มบ้างอะไรบ้าง ฉะนั้นถ้าใครติด internet เราขอแนะนำให้เปิด Roaming จากในไทยไปเลยค่ะ ไปซื้อ Wifi ที่นู่นของโรงแรมครึ่งชั่วโมงสองร้อยกว่าบาท
5. การเตรียมตัวอื่นๆ
พวกยา หรือเครื่องอำนวยความสะดวกก็เอาไปให้พร้อมนะคะ น้ำในโรงแรมเสียเงินหมดฉะนั้นเวลาไปทานอาหารหรือผ่าน Supermarket ก็ควรจะซื้อน้ำตุนไว้ค่ะ ของเราทัวร์เค้ามีแจกน้ำให้เยอะมาก จนจะเป็นอูฐละ 555 เราโชคดีมากค่ะ คือได้ไกด์ที่ดีมาก เค้าช่วยเหลือเราทุกอย่าง ถ้าหากท่านไปอียิปต์ก็ขอให้เจอไกด์แบบที่เราเจอนะคะ
ของฝากจากอียิปต์ ของที่อียิปต์ขึ้นชื่อมีดังนี้ค่ะ
1. กระดาษ Papyrus เป็นกระดาษเริ่มแรกของโลกค่ะ
2. อินทผาลัม (ไม่แน่ใจว่าเขียนอย่างงี้รึเปล่า) เป็นผลไม้ประเทศที่มีทะเลทรายค่ะ วิตามินสูงมาก และถูกมาด้วยในอียิปต์
3. สตรอเบอร์รี่ อันนี้คิดเอง เพราะมันถูกมาก เราซื้อในห้าง โลละ 60 โอ้แม่เจ้า ไม่เหมาไม่ได้แล้ว (สุดท้ายกินไม่ทัน ขึ้นราค่ะ -.-! เซ็งเลย)
4. อูฐ แน่นอนค่ะทะเลทรายย่อมมีอูฐขึ้นชื่อแน่นอน แต่ไม่แนะนำให้ซื้อตัวเป็นๆนะคะ ควรซื้อเป็นพวกกุญแจ แม็กเน็ตอะไรก็ว่าไป
5. ผ้าไนล่อน แต่เราไม่อยากได้เสื้อผ้า เราเลยข้ามๆไป
6. น้ำหอมค่ะ ถ้าซื้อที่ร้านที่ทัวร์พาไปก็จะเป็นหัวน้ำหอมแท้แต่ถ้าไปซื้อในตลาดก็เสี่ยงๆเอาค่ะ
ตอนนี้เรานึกออกแค่นี้อ่ะ เอาไว้ถ้าเรานึกออกอีกจะมาใส่เพิ่มให้ละกัน
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็ไปตะลุยอียิปต์กัน
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราก็พุ่งตรงไป Giza Pyramid เลยค่ะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยค่ะ มันอลังการงานสร้างมากค่ะ จริงๆปิรามิดนี้ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของอียิปต์ก็มองเห็นค่ะ มันใหญ่มากกกก
(ฝีมือการถ่ายรูปของเราค่อนข้างห่วยต้องขออภัยด้วยนะคะ)
ปิรามิดนี้เค้าจะมีให้เข้าไปดูข้างในด้วย ข้างในเป็นอะไรนั้นเราขอไม่สปอยนะ ต้องเข้าไปดูเอง แล้วจะอึ้งเหมือนเรา ทางข้างในมันจะเป็นทางลาดขึ้นไป แรกๆอาจจะแคบๆหน่อยแต่พอเดินไปซักพักทางก็จะโล่ง ไหนๆไปถึงอียิปต์แล้วเราก็แนะนำให้เข้าไปดูค่ะ
รอบๆปิรามิดจะมีคนอียิปต์เร่ขายของ ชิ้นละ 1 ดอลลาร์ เค้าจะบอกว่าทุกชิ้น 1 ดอลลาร์แต่พอเราสนใจแค่นั้นแหละ ราคาเพิ่มเป็น 10 ดอลลาร์ทันที ต้องระวังให้ดีนะคะ บางทีโดนโกงบ้างอะไรบ้าง แต่เราคิดว่าที่เค้าต้องทำแบบนี้เพราะเค้าไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย เลยไม่มีรายได้ค่ะ แล้วมีอีกประเภทนึงคือใส่ชุดแบบคนอียิปต์ค่ะเดินไปเดินมา พอเราจะถ่ายรูป ชอบเดินเข้ามาในกล้องเราถ่ายด้วยพอเราถ่ายเท่านั้นล่ะ เก็บตังค์ทันที (คือตูก็ไม่ได้อยากถ่ายด้วยอะนะ แต่เมริงเข้ามาทุกรูปเลย) เรานี่วิ่งหนีตลอดคือไม่ได้อยากถ่ายด้วยอะ และมีอีกประเภทนึงคือเข้ามาช่วยถ่ายรูปให้ อันนี้หนักกว่าอีก คือเดินเข้ามาบอกเราจะถ่ายรูปให้ ไอเราก็นึกว่ามีน้ำใจ พอถ่ายเสร็จปุ๊บ ขอเงินทันที -.-! แต่เราคิดว่าก็ยังดีกว่านั่งขอเฉยๆไม่ทำมาหากินอะไรเลยนะ (คิดบวกไว้)
พูดถึงทะเลทรายก็ต้องนึกถึงอูฐ ที่นี่เค้ามีอูฐให้ขี่ค่ะ
แต่การจะขี่อูฐนี่ต้องระวังนะคะ ระวังตอนขึ้นตกลงราคาเป็นราคานึง ตอนลงเป็นอีกราคานึง บางท่านที่ไม่ยอมจ่ายในราคาที่เค้าบอกตอนขาลงนี่มีโดนแกล้ง บางคนเค้าแกล้งให้อูฐวิ่งค่ะ เราจะได้กลัวและยอมจ่ายเงินในที่สุด ซึ่งการขี่อูฐนั้นก็คือเราขึ้นไปขี่และมีไม้ที่จับข้างหน้า ไม่มีเข็มขัดนิรภัยใดๆทั้งสิ้น ทรงตัวล้วนๆ แต่ของเราคือเค้าพาไปขี่อูฐที่รัฐบาลจัดไว้ให้ คนพวกนี้เค้าจะคิดราคาตายตัวค่ะ และต้องดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีค่ะเพราะเค้ามีรัฐบาลคุมอยู่ (อันนี้ไกด์บอกมา จริงมั้ยเราก็ไม่รู้เอาเป็นว่าเชื่อละกัน) ซึ่งตอนเราขี่เค้าถ่ายรูปให้และไม่เก็บเงินด้วย ดีใจสุดๆตอนแรกนึกว่าจะโดนเก็บเพิ่มละ คนที่จูงอูฐเราเป็นเด็กประมาณ 7-10 ขวบเอง เก่งมาก ดูแลอูฐสองตัวเลยทีเดียว พอเราลงจากอูฐเราก็ให้ทิปน้องเค้าไปค่ะ สงสาร
แล้วก็แวะอีกจุดนึงเพื่อชม Sphynx ค่ะ สวยมากจริงๆ
จุดนี้ตอนกลางคืนมีการแสดงแสงสีนิดหน่อยด้วยค่ะ แต่ไม่อลังการเท่าไหร่เพราะด้วยทรัพยากรที่ไม่เพียงพอของเค้าค่ะ
อยากจะโม้นิดนึงอะ คือตอนไปดูสฟิงส์ มีคนขายของคนนึงหล่อมากกกก เดินมาขายของให้เรา 5 USD เรานี่แบบอ๊ากกกก หล่ออ่ะ แต่แบบตูงกอ่ะ ก็เลยเดินๆหนีๆ สักพักเค้าเดินตามมาแล้วก็พูดว่า Give me 5 USD or just give me a kiss. เรานี่แบบ.......ชั่งใจ 3 วิ 5555 แล้วก็บอกมันไปว่า I don't want all of these so I give you nothing, okay? มันก็หัวเราะละบอกว่ามันล้อเล่น.....แหม่....
เสร็จจากชมสฟิ้งซ์ชิ้งชิ้งก็ไปทานข้าวแล้วไปต่อที่โรงงานน้ำหอม ซึ่งเราบอกตามตรงว่าเราไม่อิน เพราะว่าเราไม่อยากซื้อน้ำหอมอยู่แล้ว แต่เค้าก็ต้องแวะตามธรรมเนียมอะค่ะ สุดท้ายก็เลยได้น้ำหอมมา 2 ขวด 5555 ที่อียิปต์เค้าเป็นคนส่งหัวน้ำหอมไปยุโรป เป็นหัวน้ำหอม 100% พอยุโรปเอาไปก็ไปผสมแอลกอฮอล์ 80% น้ำหอมที่นี่มีประมาณ 47 กลิ่นได้ค่ะ บางกลิ่นก็เหมือน Dior, Chanel เลย ตอนกลับออกมาหน้าร้านเราเจอตำรวจถือปืนอันใหญ่ยืนอยู่หน้าร้าน เราตกใจมากนึกว่ามีปฏิวัติอีก แต่จริงๆไม่มีอะไร มันเป็นเครื่องแบบบ้านเค้านั่นเอง
เสร็จจากร้านน้ำหอมก็ไปร่องเรือในแม่น้ำไนล์กัน บอกตามตรง อาหารบนเรือเรากินไม่ได้เลย 5555 อาจจะรสชาติไม่ถูกปาก บนเรือก็จะมีการแสดงท้องถิ่นค่ะไม่ว่าจะเป็น Belly Dance และอื่นๆอีกมากมาย วิวแม่น้ำสวยดีค่ะ เต็มไปด้วยโรงแรมใหม่ๆมากมายค่ะ
จบจากล่องเรือเราก็กลับโรงแรมหลับเลย ไม่ได้ Happy New Year กับเค้าเลย หลับเป็นตาย
จบแล้วค่าสำหรับวันที่ 1 เดี๋ยววันที่ 2-4 จะตามมานะคะ
Link
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 2 -
http://pantip.com/topic/33074692
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 3 -
http://pantip.com/topic/33076633
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 4 (ตอนสุดท้าย) -
http://pantip.com/topic/33082314
Link: www.biejourney.blogspot
Amazing Egypt : ตะลุยอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาแวะชมทริปอียิปต์ของเรา ตอนแรกเราคิดว่าจะเขียนใส่ Diary ส่วนตัว แต่ว่ามีหลายๆคนสนใจอยากไปเที่ยวอียิปต์ และเราก็สนับสนุนค่ะะไม่ใช่ว่ามันเท่ห์หรือไฮโซนะคะ แต่เพราะหลังจากที่ได้ไปมาแล้วรู้สึกสงสารคนประเทศเค้ามากเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เค้ามีสงครามกลางเมืองเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวคนไหนกล้าไปเที่ยวประเทศเค้าอีกเลยค่ะ ทำให้คนในประเทศเค้าค่อนข้างจะลำบากมาก แต่จริงแล้วประเทศเค้าค่อนข้างจะปลอดภัยนะคะ เลยอยากเชิญชวนให้ทุกคนถ้ากำลังคิดว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ ลองเปลี่ยนจากไปเกาหลี ญี่ปุ่น เป็นประเทศแถบแอฟริกาดูค่ะ
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเราไปเที่ยวกับทัวร์นะคะ ไม่ได้ไปเอง สาเหตุที่ไปกับทัวร์เพราะว่า
1. การคมนาคมของที่อียิปต์ยังไม่สะดวกค่ะ ซึ่งจากที่ไปเห็นมาแล้วรู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้วค่ะที่ไปกับทัวร์ 5555 เพราะการเดินทางที่นั่นคือรถเมล์ รถตู้ และแท็กซี่ รถเมล์และรถตู้เค้าจะไม่ได้มีเป็นป้ายแบบบ้านเรานะ เค้าจะยืนโบกกันข้างถนนเลย ส่วนคนให้บริการนั้นบางคนพูดภาษาอังกฤษได้และบางคนพูดไม่ได้ แต่ถ้าใครต้องการจะเดินทางไปเองจริงๆ ที่โรงแรมเค้าก็จะมีรถบริการให้นะคะเหมาเป็นวัน วันนึงไม่เกินกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป ราคาตกวันละประมาณ 1,000 - 3,000 กว่าบาทค่ะ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอียิปต์นั้นจำเป็นต้องมีรถมากๆ
2. เราไปกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งสุขภาพท่านไม่ค่อยดี ถ้าไปเองเกรงว่าท่านจะลำบาก และถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะไม่มีใครช่วยค่ะ
3. ค่าทัวร์ที่ไปไม่ได้แพงมาก ถูกว่าไปญี่ปุ่นอีก (อาจเป็นเพราะว่าเราไปช่วงปีใหม่มั้ง)
4. เราไม่มีเวลาวางแผนการเที่ยวด้วยค่ะ เลยไปกับทัวร์เลยทีเดียว
ประเทศอียิปต์อยู่ทวีปแอฟริกาตอนบน (คือตอนแรกเราคิดว่าอยู่ตะวันออกกลางไม่ก็เอเชีย -.-! โชว์โง่เลย 555) เมืองหลวงของเค้าก็คือเมืองไคโรนั่นเอง คนอียิปต์เค้าพูดภาษาอารบิก แต่ภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศสก็ฟังรู้เรื่องค่ะ ใครจะไปเที่ยวอียิปต์เราแนะนำให้ดูหนังไปเยอะๆนะ พวก Mummy อะไรแบบนี้ แล้วจะสนุกมากเลยค่ะ (เราไม่เคยดู the Mummy สิ่งที่เกี่ยวกับอียิปต์ที่เราเคยดูมีอยู่เรื่องเดียว Yu-Gi-Oh ค่ะ) แต่ที่อียิปต์เค้าไม่ให้ฉายมัมมี่นะเพราะเค้าถือว่านำสิ่งที่เค้านับถือไปสร้างภาพที่น่ากลัวค่ะ แล้วใครมีความรู้เรื่องยิว มุสลิม ก็จะดีมาก ซึ่งอันนี้ก่อนไปเราก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกตามตรงว่าเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆค่ะ (ก่อนไปไม่มีเวลาจริงๆ)
การเตรียมตัวไปอียิปต์
1.เสื้อผ้า
เนื่องจากเราไปช่วงปีใหม่อากาศก็จะค่อนข้างเย็น ประมาณ 16-22 องศาตอนกลางวันแต่แดดแรงมาก ส่วนตอนกลางคืนก็ประมาณ 10-15 องศา ก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปใครที่เป็นคนกลัวหนาวก็เอาไปหนาหน่อยค่ะแต่ไม่ต้องใส่ถุงมือก็ได้ แบบกันฝุ่นได้ยิ่งดีเนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศแห่งทะเลทราย ลมพัดทีนึงนี่คือฝุ่นเกาะตั้งแต่หัวจรดเท้า ใครที่แพ้ฝุ่นก็ควรนำผ้าปิดปากไปด้วยค่ะ แต่แม่เราเป็นภูมิแพ้แต่ไปอียิปต์ก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่าลืมหมวกและแว่นกันแดดนะคะ จะได้เที่ยวแบบสนุกๆ (เราเป็นคนตาเล็กเวลาแดดจ้านี่คือเราไม่เห็นอะไรเลย แว่นกันแดดเลยจำเป็นมากกกกกก)
2.อาหาร
อาหารที่อียิปต์ก็จะเน้นพวกเครื่องเทศที่ค่อนข้างจืด กลิ่นแรง และเนื่องจากเป็นประเทศมุสลิมฉะนั้นคนประเทศเค้าไม่กินหมูค่ะ อาหารหลักๆก็จะเป็นเนื้อวัว, เนื้อแพะ, เนื้อไก่ เรากินไก่ย่างเยอะมากจนจะเป็นเก๊าอยู่ละ (เก๊าอ้วน) บางคนทานอาหารพื้นเมืองเค้าไม่ได้ก็พยายามพกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปนะ แต่เราชอบทานอาหารบ้านเค้าหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างซึ่งหนังไก่กรอบมากเลยค่ะและมีเกลือเค็มๆนิดหน่อยอร่อยสุดๆ เค้าให้เรามาครึ่งตัวเรากินเกลี้ยงเลย อาหารอีกอย่างที่เราชอบมากคือโรตี ตอนร้อนๆนี่มันนุ่มอร่อยมากเลย แล้วบนผิวขนมปังก็มีผงๆอะไรด้วยก็ไม่ทราบ เรากินเยอะมากจนคุณพ่อทักว่าเจริญอาหารไปมั้ย 55555 โรตีที่นี่เค้าก็จะทานกับเครื่องเคียงเค้าในรูปข้างล่างค่ะ
3. ปัจจัยสำคัญ "เงิน"
ที่อียิปต์ใช้เงิน Egyptian Pound ค่ะ ซึ่งประเทศไทยไม่มีให้แลก ดังนั้นเราจึงต้องแลกเงิน USD จากไทยไปก่อนแล้วค่อยไปแลกเป็นเงินอียิปต์ที่สนามบิน ตอนเราไป 4 วัน 3 คืนเราแลกเงินไปประมาณ 3,000 USD ค่ะซึ่งเหลือเฟือมาก พยายามแลกเป็นแบงค์ย่อยซัก 100 USD ค่ะเผื่อไว้ซื้อของหรือทิปคนที่นู่น เพราะที่นู่นเวลาเราซื้อของถ้าเราจ่ายแบงค์ใหญ่ไปแล้วเค้าไม่ทอน บอกว่าไม่มีเงินทอน แล้วก็เอาเงินไปเลย ฉะนั้นแลกเป็นแบงค์ย่อยดีกว่าค่ะ
พอไปถึงสนามบินให้แลกเป็นเงินอียิปต์ประมาณ 100 USD เผื่อช้อปปิ้งด้วย อย่าลืมขอแบงค์ย่อยมานะคะ เพราะการเข้าห้องน้ำที่นั่นต้องเสียเงินทุกที่ถึงแม้ห้องน้ำจะสกปรกแค่ไหนก็ตามก็จะมีคนเก็บเงินในห้องน้ำค่ะ ครั้งละ 1 L.E. ถ้าเกิดไม่ให้เค้าก็จะกลั่นแกล้งเราตอนเข้าห้องน้ำค่ะ ก็ให้ๆเค้าไปถือว่าทำบุญ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย 5555 ตอนเราไป 1 USD = 7.15 L.E. ฉะนั้น 1 L.E. ประมาณ 5 บาทค่ะ
ขอเล่าประสบการณ์นิดนึง คือตอนเราไปเราจะไปขอแลกเงินที่ Bank of Caire ที่สนามบิน ปรากฏมันปิดเคาท์เตอร์ไม่ให้แลก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คือคนประเทศเค้าไปแลกเค้าให้แลกนะคะ แต่พอเราไปแลกมันไม่รับค่ะบอกระบบล่ม ไอเราก็งงมันจะล่มได้ไง ยังให้คนอื่นแลกอยู่เลย สุดท้ายก็เลยต้องไปแลกที่โรงแรมค่ะโรงแรมมีให้แลก
เวลาแลกคืนกลับมาเป็นเงิน USD หรือเงินสกุลอื่นแลกได้ที่สนามบิน เงินอียิปต์ต้องใช้ให้หมดนะคะ มิฉะนั้นเราจะต้องบินกลับไปใช้ที่อียิปต์เพราะประเทศเราไม่มีให้แลกคืนค่ะ ออกนอกประเทศปุ๊บไร้ค่าทันที
4. Internet
เป็นปัจจัยอีกปัจจัยที่เราพลาดกับการไปเที่ยวครั้งนี้ค่ะ เพราะที่ Egypt internet ช้ามากและไอที่มันบอกว่ามี Free Wifi เนี่ย มีจริงค่ะ แต่เค้าไม่บอก Password อ้างว่าระบบล่มบ้างอะไรบ้าง ฉะนั้นถ้าใครติด internet เราขอแนะนำให้เปิด Roaming จากในไทยไปเลยค่ะ ไปซื้อ Wifi ที่นู่นของโรงแรมครึ่งชั่วโมงสองร้อยกว่าบาท
5. การเตรียมตัวอื่นๆ
พวกยา หรือเครื่องอำนวยความสะดวกก็เอาไปให้พร้อมนะคะ น้ำในโรงแรมเสียเงินหมดฉะนั้นเวลาไปทานอาหารหรือผ่าน Supermarket ก็ควรจะซื้อน้ำตุนไว้ค่ะ ของเราทัวร์เค้ามีแจกน้ำให้เยอะมาก จนจะเป็นอูฐละ 555 เราโชคดีมากค่ะ คือได้ไกด์ที่ดีมาก เค้าช่วยเหลือเราทุกอย่าง ถ้าหากท่านไปอียิปต์ก็ขอให้เจอไกด์แบบที่เราเจอนะคะ
ของฝากจากอียิปต์ ของที่อียิปต์ขึ้นชื่อมีดังนี้ค่ะ
1. กระดาษ Papyrus เป็นกระดาษเริ่มแรกของโลกค่ะ
2. อินทผาลัม (ไม่แน่ใจว่าเขียนอย่างงี้รึเปล่า) เป็นผลไม้ประเทศที่มีทะเลทรายค่ะ วิตามินสูงมาก และถูกมาด้วยในอียิปต์
3. สตรอเบอร์รี่ อันนี้คิดเอง เพราะมันถูกมาก เราซื้อในห้าง โลละ 60 โอ้แม่เจ้า ไม่เหมาไม่ได้แล้ว (สุดท้ายกินไม่ทัน ขึ้นราค่ะ -.-! เซ็งเลย)
4. อูฐ แน่นอนค่ะทะเลทรายย่อมมีอูฐขึ้นชื่อแน่นอน แต่ไม่แนะนำให้ซื้อตัวเป็นๆนะคะ ควรซื้อเป็นพวกกุญแจ แม็กเน็ตอะไรก็ว่าไป
5. ผ้าไนล่อน แต่เราไม่อยากได้เสื้อผ้า เราเลยข้ามๆไป
6. น้ำหอมค่ะ ถ้าซื้อที่ร้านที่ทัวร์พาไปก็จะเป็นหัวน้ำหอมแท้แต่ถ้าไปซื้อในตลาดก็เสี่ยงๆเอาค่ะ
ตอนนี้เรานึกออกแค่นี้อ่ะ เอาไว้ถ้าเรานึกออกอีกจะมาใส่เพิ่มให้ละกัน
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็ไปตะลุยอียิปต์กัน
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราก็พุ่งตรงไป Giza Pyramid เลยค่ะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยค่ะ มันอลังการงานสร้างมากค่ะ จริงๆปิรามิดนี้ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของอียิปต์ก็มองเห็นค่ะ มันใหญ่มากกกก
(ฝีมือการถ่ายรูปของเราค่อนข้างห่วยต้องขออภัยด้วยนะคะ)
ปิรามิดนี้เค้าจะมีให้เข้าไปดูข้างในด้วย ข้างในเป็นอะไรนั้นเราขอไม่สปอยนะ ต้องเข้าไปดูเอง แล้วจะอึ้งเหมือนเรา ทางข้างในมันจะเป็นทางลาดขึ้นไป แรกๆอาจจะแคบๆหน่อยแต่พอเดินไปซักพักทางก็จะโล่ง ไหนๆไปถึงอียิปต์แล้วเราก็แนะนำให้เข้าไปดูค่ะ
รอบๆปิรามิดจะมีคนอียิปต์เร่ขายของ ชิ้นละ 1 ดอลลาร์ เค้าจะบอกว่าทุกชิ้น 1 ดอลลาร์แต่พอเราสนใจแค่นั้นแหละ ราคาเพิ่มเป็น 10 ดอลลาร์ทันที ต้องระวังให้ดีนะคะ บางทีโดนโกงบ้างอะไรบ้าง แต่เราคิดว่าที่เค้าต้องทำแบบนี้เพราะเค้าไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย เลยไม่มีรายได้ค่ะ แล้วมีอีกประเภทนึงคือใส่ชุดแบบคนอียิปต์ค่ะเดินไปเดินมา พอเราจะถ่ายรูป ชอบเดินเข้ามาในกล้องเราถ่ายด้วยพอเราถ่ายเท่านั้นล่ะ เก็บตังค์ทันที (คือตูก็ไม่ได้อยากถ่ายด้วยอะนะ แต่เมริงเข้ามาทุกรูปเลย) เรานี่วิ่งหนีตลอดคือไม่ได้อยากถ่ายด้วยอะ และมีอีกประเภทนึงคือเข้ามาช่วยถ่ายรูปให้ อันนี้หนักกว่าอีก คือเดินเข้ามาบอกเราจะถ่ายรูปให้ ไอเราก็นึกว่ามีน้ำใจ พอถ่ายเสร็จปุ๊บ ขอเงินทันที -.-! แต่เราคิดว่าก็ยังดีกว่านั่งขอเฉยๆไม่ทำมาหากินอะไรเลยนะ (คิดบวกไว้)
พูดถึงทะเลทรายก็ต้องนึกถึงอูฐ ที่นี่เค้ามีอูฐให้ขี่ค่ะ
แต่การจะขี่อูฐนี่ต้องระวังนะคะ ระวังตอนขึ้นตกลงราคาเป็นราคานึง ตอนลงเป็นอีกราคานึง บางท่านที่ไม่ยอมจ่ายในราคาที่เค้าบอกตอนขาลงนี่มีโดนแกล้ง บางคนเค้าแกล้งให้อูฐวิ่งค่ะ เราจะได้กลัวและยอมจ่ายเงินในที่สุด ซึ่งการขี่อูฐนั้นก็คือเราขึ้นไปขี่และมีไม้ที่จับข้างหน้า ไม่มีเข็มขัดนิรภัยใดๆทั้งสิ้น ทรงตัวล้วนๆ แต่ของเราคือเค้าพาไปขี่อูฐที่รัฐบาลจัดไว้ให้ คนพวกนี้เค้าจะคิดราคาตายตัวค่ะ และต้องดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีค่ะเพราะเค้ามีรัฐบาลคุมอยู่ (อันนี้ไกด์บอกมา จริงมั้ยเราก็ไม่รู้เอาเป็นว่าเชื่อละกัน) ซึ่งตอนเราขี่เค้าถ่ายรูปให้และไม่เก็บเงินด้วย ดีใจสุดๆตอนแรกนึกว่าจะโดนเก็บเพิ่มละ คนที่จูงอูฐเราเป็นเด็กประมาณ 7-10 ขวบเอง เก่งมาก ดูแลอูฐสองตัวเลยทีเดียว พอเราลงจากอูฐเราก็ให้ทิปน้องเค้าไปค่ะ สงสาร
แล้วก็แวะอีกจุดนึงเพื่อชม Sphynx ค่ะ สวยมากจริงๆ
จุดนี้ตอนกลางคืนมีการแสดงแสงสีนิดหน่อยด้วยค่ะ แต่ไม่อลังการเท่าไหร่เพราะด้วยทรัพยากรที่ไม่เพียงพอของเค้าค่ะ
อยากจะโม้นิดนึงอะ คือตอนไปดูสฟิงส์ มีคนขายของคนนึงหล่อมากกกก เดินมาขายของให้เรา 5 USD เรานี่แบบอ๊ากกกก หล่ออ่ะ แต่แบบตูงกอ่ะ ก็เลยเดินๆหนีๆ สักพักเค้าเดินตามมาแล้วก็พูดว่า Give me 5 USD or just give me a kiss. เรานี่แบบ.......ชั่งใจ 3 วิ 5555 แล้วก็บอกมันไปว่า I don't want all of these so I give you nothing, okay? มันก็หัวเราะละบอกว่ามันล้อเล่น.....แหม่....
เสร็จจากชมสฟิ้งซ์ชิ้งชิ้งก็ไปทานข้าวแล้วไปต่อที่โรงงานน้ำหอม ซึ่งเราบอกตามตรงว่าเราไม่อิน เพราะว่าเราไม่อยากซื้อน้ำหอมอยู่แล้ว แต่เค้าก็ต้องแวะตามธรรมเนียมอะค่ะ สุดท้ายก็เลยได้น้ำหอมมา 2 ขวด 5555 ที่อียิปต์เค้าเป็นคนส่งหัวน้ำหอมไปยุโรป เป็นหัวน้ำหอม 100% พอยุโรปเอาไปก็ไปผสมแอลกอฮอล์ 80% น้ำหอมที่นี่มีประมาณ 47 กลิ่นได้ค่ะ บางกลิ่นก็เหมือน Dior, Chanel เลย ตอนกลับออกมาหน้าร้านเราเจอตำรวจถือปืนอันใหญ่ยืนอยู่หน้าร้าน เราตกใจมากนึกว่ามีปฏิวัติอีก แต่จริงๆไม่มีอะไร มันเป็นเครื่องแบบบ้านเค้านั่นเอง
เสร็จจากร้านน้ำหอมก็ไปร่องเรือในแม่น้ำไนล์กัน บอกตามตรง อาหารบนเรือเรากินไม่ได้เลย 5555 อาจจะรสชาติไม่ถูกปาก บนเรือก็จะมีการแสดงท้องถิ่นค่ะไม่ว่าจะเป็น Belly Dance และอื่นๆอีกมากมาย วิวแม่น้ำสวยดีค่ะ เต็มไปด้วยโรงแรมใหม่ๆมากมายค่ะ
จบจากล่องเรือเราก็กลับโรงแรมหลับเลย ไม่ได้ Happy New Year กับเค้าเลย หลับเป็นตาย
จบแล้วค่าสำหรับวันที่ 1 เดี๋ยววันที่ 2-4 จะตามมานะคะ
Link
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 2 - http://pantip.com/topic/33074692
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 3 - http://pantip.com/topic/33076633
Amazing Egypt : เที่ยวอียิปต์ 4 วัน 3 คืน ตอนที่ 4 (ตอนสุดท้าย) - http://pantip.com/topic/33082314
Link: www.biejourney.blogspot