ตามติดคดีถอดถอน : เมื่อวันแถลงเปิดคดีถอดถอน ยิ่งลักษณ์ สมศักดิ์ นิคม กำลังจะมาถึง

กระทู้โพล
6 ม.ค. 58  ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในวันนี้มีการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีวาระสำคัญ คือ การหารือเพื่อเตรียมตัวไปแถลงเปิดคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. โดยมิชอบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสำคัญ จึงต้องพูดคุยให้ชัดเจนทั้งในประเด็นข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานต่างๆ

                             รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้สำนักงาน ป.ป.ช. เตรียมออกแถลงการณ์ตอบโต้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ที่ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. 3 คน คือ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง นายณรงค์ รัฐอมฤต และนายปรีชา เลิศกมลมาศ ขาดคุณสมบัติ รวมไปถึงออกแถลงการณ์ตอบโต้นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่เตรียมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ให้สอบข้อไม่สมบูรณ์เพิ่มในสำนวนจนครบถ้วนอีกด้วย

                             โดยในวันที่ 8 มกราคม 2557 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำหนดแถลงเปิดคดีถอดถอนนายสมศักดิ์ และนายนิคม ส่วนในวันที่ 9 มกราคม กำหนดแถลงเปิดคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำโดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ส่วนฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางมาแถลงค้านการเปิดคดีด้วยตัวเอง




'ปู'แจ้งสนช.แจงปมถอดถอนเอง


                             นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้าชี้แจงข้อกล่าวหากรณีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวต่อที่ประชุม สนช. ด้วยตนเองในวันที่ 9 มกราคมนี้ โดยทาง สนช.จะเปิดโอกาสให้คู่ความทั้งสองฝ่ายได้แถลงเปิดคดีโดยไม่กำหนดเวลา และเปิดโอกาสให้ตอบข้อซักถามได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นเรื่องดี ที่จะได้ตอบข้อซักถามได้ทันทีที่สมาชิกมีข้อสงสัย ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการซักถามผู้ที่ถูกถอดถอน คาดว่าจะตั้งขึ้นมาทั้งหมด 2 ชุด โดยชุดแรกทำหน้าที่ซักถามคดีของนายนิคม และนายสมศักดิ์ ส่วนอีกชุดทำหน้าที่ซักถามคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งแต่ละชุดมีคณะกรรมาธิการไม่เกิน 21 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากกรรมาธิการสามัญแต่ละคณะ จากวิป สนช. และตัวแทนจากที่ประชุมใหญ่ โดยกรรมาธิการจะต้องทำหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุม โดยนำคำถามจากสมาชิกมารวบรวมจัดลำดับ และซักถามคู่ความทั้งสองฝ่าย โดยไม่สามารถตั้งคำถามใหม่ขึ้นเองได้ จึงเป็นการยืนยันได้ว่าการทำหน้าที่ของกรรมาธิการจะเป็นกลาง และไม่มีอคติ

                             นายสุรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้กรอบเวลาดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งจะใช้เวลาทั้งสิ้น 23 วัน จึงคาดว่าจะรู้ผลว่าจะถอดถอนหรือไม่ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ยกเว้นคู่กรณีจะขอเลื่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้ไม่มีเหตุความจำเป็นใดที่จะต้องขอเลื่อนการพิจารณาออกไป


'ประยุทธ์'ลั่นไม่ให้มีประท้วงปมถอดถอน


                            พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 1/2558 ถึงกรณีในวันที่ 8 มกราคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมสนช. ครั้งที่ 1/2558 ที่มีวาระสำคัญเปิดให้ชี้แจงกรณีถอดถอนพิจารณาวาระการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ และในวันที่ 9 มกราคม จะมีการประชุมสนช. ครั้ง 2/2558 ที่มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาเพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ว่า "เรื่องนี้ไม่กระทบความมั่นคง เพราะต้องถามก่อนว่าคดีดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ ทุกอย่างหากผิดกฎหมายคือผิด ตรวจสอบแล้วไม่ผิดกฎหมายก็คือจบ เพราะมีคนเสนอให้ตรวจสอบเพราะเป็นหน้าที่ ถามว่าไม่ตรวจได้หรือไม่ก็ไม่ได้ พอสนช.ไม่รับก็เป็นประเด็น แต่พอรับมาก็มีกระแสอีกว่ารับมาทำไมเพราะประเทศอยู่ในขั้นปรองดองสุดท้ายต้องดูว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่

                           ส่วนการที่รัฐธรรมนูญ 2550 ถูกยกเลิกไปแล้วนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่รู้ มันเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่รับผิดชอบไปว่ากันในสนช. ส่วนเรื่องความมั่นคงที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ผมขอยืนยันว่าต้องไม่มีการประท้วง พวกคุณจะประท้วงไม่ได้จะมาตัดสินแทนว่าผิดว่าถูกไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่คนที่จะบอกว่าใครผิดใครถูกมันเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ถ้าตัดสินแล้ว ไม่ยอมรับความผิดมาประท้วง ผมเอาเรื่องก็แค่นั้นเอง"

                           เมื่อถามว่าแต่ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงการปรองดอง นายกฯ กล่าวว่า "ถ้าเราจะปรองดอง เราต้องยกโทษ ยกความผิดให้ทุกคนก่อนหรือไงมันไม่ใช่ เราต้องแยกแยะให้ชัดเจน ผมขอย้ำว่าใครทำผิดต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าทำผิดถูกลงโทษแล้วไปขอพระราชทานอภัยโทษมาเรื่องอื่นไม่ต้องมาคุยกับผมโดยเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรม อยากจะพูดก็พูดไปผมไม่รับรู้รับทราบอะไรทั้งสิ้น"

                           ส่วนการเชื่อมโยงคดีดังกล่าวให้กลายเป็นเรื่องการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน คนเหล่านี้เป็นคนที่มีส่วนบริหารราชการแผ่นดิน คำถามคือเขาทำผิดกติกาหรือไม่ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ถ้ามาอ้างว่ารัฐธรรมนูญ 2550 ยกเลิกไปแล้วนั้น ไม่ถูกต้องเพราะยังมีกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ ดังนั้นก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งตนไม่ได้ยกเลิกกฎหมายป.ป.ช. ตนเพียงยกเลิกรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนกฎหมายลูกยังคงไว้อยู่ทุกข้อ ดังนั้นอย่าเอามาเหมารวมเพราะมันเป็นคนละเรื่องกัน เนื่องจากตนยกเลิกรัฐธรรมนูญเพราะตนต้องนำอำนาจมาใช้ 3 อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ดังนั้นกฎหมายใดๆ ที่นอกเหนือจาก 309 มาตราไม่มีการยกเลิกใดๆ ทั้งสิ้น ท้ายที่สุดต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้ามาตัดสินกันเองสุดท้ายพอผลออกมาว่าไม่ผิดก็มาบอกตนเข้าข้าง ถ้าตัดสินว่าผิดก็บอกว่าถูกรังแกการเมือง หากเป็นแบบนั้นเราจะเอาอะไรไปเป็นบรรทัดฐานตัดสิน

                           เมื่อถามว่าการพิจารณาถอดถอนครั้งนี้จะเป็นเหมือนระเบิดระยะเวลาความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไรเพราะมีหลายคดี ผมเป็นนายกฯ ชี้แนะอะไรไม่ได้หรอกว่ามันผิดหรือไม่ เพราะถ้ามาถามว่าผิดหรือถูกกับผมทั้งหมดแล้วจะให้ผมตอบก็ไม่ต้องตั้งสนช.ก็ให้มีแค่คสช.อย่างเดียวพอ แล้วหากเป็นอย่างนั้นผมตอบได้ทุกคำถามแน่นอน ดังนั้นวันนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

                           เมื่อถามว่ารัฐบาลสามารถทนแรงกระเพื่อมทางสังคมได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรามีกฎหมายอัยการศึกควบคุมไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ ส่วนข้อกังวัลคลื่นใต้น้ำที่จะออกมาเคลื่อนไหวนั้นเราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ทุกคนมีอิสระทางความคิดแต่ต้องรู้ว่าควรแสดงออกตอนใดเวลาใด และสิ่งสำคัญเราต้องให้เวลาคนทำงานบ้างถ้าไม่อยากกลับไปสู่วังวนเดิม

                           เมื่อถามว่าลำบากใจหรือไม่เนื่องจากเคยทำงานร่วมกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยกันมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ลำบากใจเพราะตนทำงานด้วยกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ได้ไปไล่ล่าฆ่าฟันใครทั้งนั้น ซึ่งขณะนี้เราปล่อยให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเอง เพราะถ้าตนใช้อำนาจเต็มๆ หลายคนคงอยู่ไม่ได้เหมือนกันแต่ตนไม่ได้ใช้อำนาจอะไรทั้งสิ้น และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นทุกฝ่ายก็ต้องเข้ากระบวนการเช่นเดียวกันใครผิดก็ว่าไปตามผิดแล้วต้องรับโทษตามกฎหมาย
    
                           "ถ้าท่านคิดว่าท่านถูกก็ต่องสู้ตามกระบวนการ ท่านผิดท่านก็ต้องรับโทษก็แค่นั้นไม่ยาก แล้วถ้ามันไม่มีความผิดเขาจะฟ้องทำไมเพราะถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่มีคนมาหาเรื่อง ใครจะมาหาเรื่องท่าน" นายกฯ กล่าว

ข่าวจาก คมชัดลึกออนไลน์

เมื่อซักครู่ดูรายการ"ทุบโต๊ะข่าว" นายนรวิทย์  หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัวของคุณยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าต้องการให้การประชุมแถลงเปิดคดีของ สนช. มีการถ่ายทอดสดทางช่อง NBT วันนี้มาถามความเห็นกันหน่อยว่า

#ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
*** ปิดโหวต วันที่ 07 มกราคม พ.ศ.2558 เวลา 21:35:50 น.
1. คิดว่า การประชุม สนช. แถลงเปิดคดีถอดถอน ยิ่งลักษณ์ สมศักดิ์ นิคม ในวันที่ 8 และ 9 มกราคม 2558 ควรมีการถ่ายถอดสดหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กฎหมายการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่