เราได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นเวลา 1 ปี และได้มีความสัมพันธ์พี่ลึกซึ้งกันจนเกินเลยคำว่าเพื่อนร่วมงาน
ตอนแรก เขาบอกเราว่าเคยแต่งงานมาแล้วแต่แยกทางกันแล้ว เราเข้าใจและเราก็รับได้ ไม่ได้รังเกลียด
พอเมื่อ เดือน ธ.ค. ที่แล้วเราได้ไปหาเขา เป็นครั้งแรกที่ไปหา ที่ได้อยู่ด้วยกัน
เขาก็พาเราไปทานข้าว เทคแคร์ทุกๆอย่างจนเราเหมือนคนสำคัญของเขาคนหนึ่ง และคืนนั้นเราก็มีอะไรกัน
ประมานตีหนึ่ง เขาขอกลับบ้านบอกว่าพ่อโทรมาตาม ตอนเช้าต้องใส่บาตร เราก็ไม่ได้คิดมาก แต่ก็ตะงิดใจอยู่นิดๆ
พอเช้ามาเขาก็มารับเราไปส่งขึ้นรถที่ บขส ระหว่างทางไม่มีแม้แต่โทร เฟส ไลน์ หรือข้อความว่าเราจะถึงบ้านรึยัง
พอเราถึงบ้าน ค่ำๆเราเลยโทรไปบอกเขาว่า เราถึงบ้าน คำตอบที่ได้รับคือ อืม อืม และก็ อืม
จนเราต้องวางสาย พอสิ้นปีไม่มีแม้แต่ข้อความ หรือออะไรที่ให้ความส่งมาเลย
เราเลยตัดสินใจถามเขาไปว่า เขาคิดยังงัยตอนนี้ เราสับสนไปหมดแล้ว
คำตอบที่เราได้มาคือ
"พี่มีลูกมีเมียแล้ว"
ถ้าวันไหนว่างก็มาเที่ยวขอนแก่นนะ
ความรู้สึกตอนนั้นมือสั่นตัวชา เราควรพอหรือทำอย่างไรต่อไปดี สับสนเหลือเกิน
ควรพอหรือต่อไปดี
ตอนแรก เขาบอกเราว่าเคยแต่งงานมาแล้วแต่แยกทางกันแล้ว เราเข้าใจและเราก็รับได้ ไม่ได้รังเกลียด
พอเมื่อ เดือน ธ.ค. ที่แล้วเราได้ไปหาเขา เป็นครั้งแรกที่ไปหา ที่ได้อยู่ด้วยกัน
เขาก็พาเราไปทานข้าว เทคแคร์ทุกๆอย่างจนเราเหมือนคนสำคัญของเขาคนหนึ่ง และคืนนั้นเราก็มีอะไรกัน
ประมานตีหนึ่ง เขาขอกลับบ้านบอกว่าพ่อโทรมาตาม ตอนเช้าต้องใส่บาตร เราก็ไม่ได้คิดมาก แต่ก็ตะงิดใจอยู่นิดๆ
พอเช้ามาเขาก็มารับเราไปส่งขึ้นรถที่ บขส ระหว่างทางไม่มีแม้แต่โทร เฟส ไลน์ หรือข้อความว่าเราจะถึงบ้านรึยัง
พอเราถึงบ้าน ค่ำๆเราเลยโทรไปบอกเขาว่า เราถึงบ้าน คำตอบที่ได้รับคือ อืม อืม และก็ อืม
จนเราต้องวางสาย พอสิ้นปีไม่มีแม้แต่ข้อความ หรือออะไรที่ให้ความส่งมาเลย
เราเลยตัดสินใจถามเขาไปว่า เขาคิดยังงัยตอนนี้ เราสับสนไปหมดแล้ว
คำตอบที่เราได้มาคือ
"พี่มีลูกมีเมียแล้ว"
ถ้าวันไหนว่างก็มาเที่ยวขอนแก่นนะ
ความรู้สึกตอนนั้นมือสั่นตัวชา เราควรพอหรือทำอย่างไรต่อไปดี สับสนเหลือเกิน