อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีสาระซักเท่าไหร่ ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อโดยตรง
แต่เราแค่ต้องการระบายความทุกข์ใจของเราที่หาทางออกไม่เจอจริงๆ
เรื่องของเรามันเริ่มจากการสองปีที่แล้วเราปลื้มเพื่อนคนหนึ่ง ในตอนนั้นเราเรียนอยู่ปีสามมหาลัยภาคเหนือนี่แหละ
เธอเป็นคนสวย ผมยาว ยิ้มเก่ง ขี้เล่น เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงในอุดมคติของเราทุกอย่าง แต่เราไม่กล้าจีบเธอ
เพราะเธอตางจากเราเกินไปอีกอย่างเธอก็เคยคบแต่ผู้ชาย ส่วนเราเป็นทอม แถมไม่รวยอีกต่างหาก
เลยได้แต่อยู่ห่างๆเธอ อ้อ เราเรียนสาขาเดียวกันกับเธอนั่นแหละ เธอก็ชอบมาแกล้งเรายุเหมือนกัน
แต่โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลก ตอนเราขึ้นปีสี่ช่วงนั้นเราอกหักจากแทยอนเกิร์ลเจน มันเหมือนอกหักจริงๆนะ
พอศิลปินในดวงใจมีแฟนมันเลยรู้สึกเหงาๆ เพราะเราโสดมาปีกว่าแล้ว ในตอนนั้นเราก็พึ่งรู้จากปากเธอว่าเธอไม่มีแฟน
เพราะเพิ่งเลิกกันไป เราเลยตัดสินใจทักไลน์เธอ สุดท้ายเราก็คุยกันและสนิทกันโดยง่าย คุยกันแทบ 24 ชั่วโมง
แม้ในตอนเรียนห้องเดียวกันก็ตาม พอคุยกันได้อาทิตย์กว่าเราก็ตัดสินใจสารภาพทุกอย่างออกไป
ตอนแรกเธอเหมือนกลัวอะไรหลายๆอย่าง
แต่สุดท้ายเราก็ดันดื่มเหล้ากันแล้วเธอก็ยอมสารภาพว่ารักเราเหมือนกันจนคืนนั้นทุกอย่างมันเลยเถิด หลังจากวันนั้นมา
เราก็คบกันอย่างลับๆไม่ให้เพื่อนรู้ เรามีความสุขมากในรอบหลายปีคงไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าได้คบกับคนที่เราฝันเอาไว้ตลอด
แล้วโชคชะตาก็มาแกล้งเราอีกครั้ง เมื่อคบกันได้สองเดือนกว่า เราก็ต้องแยกย้ายไปฝึกงานเพราะเลือกสถานที่ไว้ตอนปีที่แล้ว
เราและเธอเลยไม่ได้ไปที่เดียวกัน เธอไปพิษณูโลก ส่วนเราไปเชียงใหม่ ในช่วงเดือนแรกๆของการฝึกงานทุกอย่างก็โอเค
เราคิดถึงกันมาก คุยกันตลอด วีดีโอคอลหากันทุกคืน อาจจะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความห่าง แต่พอเข้ากลางเดือนที่สอง
เธอก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเงียบมากขึ้น ไม่ยอมวีดีโอคอลเลย ถามอะไรไปก็หงุดหงิด เราคิดว่าเธอคงเบื่อที่เราเป็นคนงี่เง่า ขี้หึง
แต่พอถามไปถามมาเธอบอกว่ามีคนมาขอหมั้นเธอแล้วพ่อแม่เธอก็ตกลงกันไปแล้ว ในตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนชาไปทั้งร่าง
ความรู้สึกก็ไม่รู้จะบรรยายยังไง คุณก็ลองคิดว่าถ้าหากคนที่คุณรักมากกำลังจะไปเป็นของคนอื่นอย่างที่คุณไม่สามารถ
คัดค้านจะเป็นยังไง ตอนแรกเราก็ไม่เท่าไหร่เราะคิดว่าอย่างน้อยแค่เธอยังรักเรามันก็ยังโอเค แต่ก็ไม่ใช่เลยเธอสับสน
เธอลังเล จนวันที่เธอมาหาเราที่เชียงใหม่
เราเค้นถามเธอว่าคนๆนั้นเป็นใคร จนเธอยอมบอกว่าเป้นแฟนเก่าของเธอ ซึ่งเราก็เคยรู้มาว่าเธอรักผู้ชายคนนี้มากและยังลืมไม่ได้
แต่เราก็ยังถามเธอนะว่าแล้วคิดยังไงกับเขา เธอตอบเราว่า ตอนแรกที่อยู่กับเราเธอืมเขาไปแล้วแต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้เธอ
ก็เริ่มกลับไปนึกถึงเขาอีก เราโดนฆ่าตายครั้งที่สอง แต่ยังไม่จบหรอกตอนอยู่ด้วยกันเธอก็ทำเหมือนยังรักเราเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง
แต่พอเธอกลับไป เธอมีแต่ความเย็นชา ช่วงนั้นเราทรมานมากเหมือนคนตายทั้งเป็น บางวันก็ทุรนทุรายจิกทึ้งหัวตัวเองเหมือนคนบ้า
แต่เราก็ไม่โทษเธอนะ เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงซะเรื่องของเรากับเธอก็เป็นไปไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะทำเพื่อหวังแค่ซักครั้ง
ได้อยู่เคียงข้างเธอ เราเลยยยอมทรมาน เราถามเธอเป็นพันๆครั้งว่ายังรักเราอยู่รึเปล่าแต่คำตอบที่ได้ทุกครั้งคือ ไม่รู้ จนหลังๆมา
เราเริ่มปลง แล้วรับความจริงและคิดว่าฝึกงานเสร็จเมื่อกลับไปอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งเดือนสุดท้าย เราจะทำเพื่อเธอทุกอย่าง
เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะหายไปจากชีวิตเธอ แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นอีก พอกลับมาอยู่ด้วยกันแรกๆเธอดีบ้าง เย็นชาบ้าง
แล้วก็คุยโทรศัพท์กับเขา เราก็เจ็บนะ
ที่ต้องมาทนรับรู้แต่มันเป็นข้อตกลงที่เราต้องทำใจรับมันให้ได้หากกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่สิบวันสุดท้ายเรากลับมาทำความเข้าใจกัน
เธอบอกว่าที่เธอต้องยอมใจร้ายกับเราเพราะอยากให้เราไปจากเธอ จะได้ไม่ต้องมาเจ็บเพราะเธออีก ทั้งที่เธอก็ยังรักเรา
แต่เราก็ไม่เคยไปไหนเราสองคนเลยกลับมารักกันเหมือนตอนเริ่มคบกันอีกครั้ง แล้วเราก็กลับมามีความสุขมากๆอีก
เพราะเธอดีทุกอย่าง ช่างอ้อน ขยัน เธอยอมคุยกับผู้ชายคนนั้นน้อยลง แต่มันก็เศร้าตรงที่อีกไม่กี่วันก็จะแยกย้าย
กันไปตามทางของตัวเองแล้ว เราเลยใช้เวลาด้วยกันอย่างคุ้มค่าที่สุด ทำอาหารกินกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำเซอไพรซ์ให้
จนวันสุดท้ายเรากอดกันแน่นแล้วร้องไห้ ทุกครั้งที่เรามองหน้าเธอก็อดที่จะน้ำตาซึมไม่ได้เมื่อคิดว่าต่อจากนี้จะไม่ได้มี
ผู้หญิงคนนี้ในอ้อมกอดอีกแล้ว รู้เลยว่าเวลามันมีค่ามากแค่ไหนแต่เราก็หยุดเวลาลงไม่ได้ สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะตัดใจแล้วหายจากเธอไปเลยเหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ตามเคยที่เราห้ามใจตัวเองไม่ได้
เรายังคุยกัน เธอบอกคิดถึง เธอบอกว่ารักเรามากแม้กระทั่งตอนที่อยู่กับผู้ชายคนนั้นที่บ้านของเขา
ในตอนแรกเราไม่ไว้ใจเธอ เรากลัวว่าเธอจะกลับไปเป็นเหมือนตอนฝึกงานอีก แต่เธอก็พูดก็สัญญาจนเราเชื่อหมดใจว่า
เธอรักเราจริงๆ เราเลยไปไหนไม่ได้อีก แต่ตอนนี้ในวันนี้เธอเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง อาจเป็นเพราะเราเอาแต่กลัวและระแวง
หรือเพราะอย่างอื่นเราก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เราคิดคือเราควรจะทำยังไงกับรักที่ไม่มีหนทางครั้งนี้
เราบอกให้เธอมาทำงานจังหวัดเเดียวกับเรา
แต่เธอก็เลือกทำอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นมันเลยไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะเจอกันที่จะอยู่ด้วยกัน แล้วที่เราบอกว่ารักกัน
ทุกวันเพื่อรอเธอแต่งงาน รอความเจ็บอย่างนั้นเหรอ เราแพ้ผู้ชายคนนั้นทุกอย่างแม้กระทั่งไม่ได้อยู่ใกล้
แต่อีกใจก็ตัดใจทำใจเดินออกมาไม่ได้ เราสัญญากับเธอไว้ว่าซักวันเราจะพาเธอหนีไปเที่ยวทะเลด้วยกัน
เรายังแอบมีหวังว่าซักวันเราจะได้อยู่ด้วยหรือเจอกันบ้าง แต่นานวันความหวังมันก็ลดลง เรายังตัดใจจากเธอไม่ได้
แค่คิดว่าจะไม่ได้คุยกันเราก็ทรมานแล้ว ตอนนี้เราเลยไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะเดินไปทางไหน จะตัดใจเดินออกมา
เราจะทำมันไหวมั้ย มันเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวเรามาตลอดหลายวัน
เราน้อยใจมากเลยว่าเพศที่สามอย่างเรามันรักมันจริงจังกับใครไม่ได้เหรอ ทำไมถึงต้องโดนแบบนี้
เพราะต่อให้ไม่มีผู้ชายคนนั้นครอบครัวเธอก็รับไม่ได้อยู่ดี เธอบอกว่าที่ทำเพราะอยากให้พ่อแม่หายห่วงว่า
เธอมีคนที่พร้อมดูแลเธอแล้ว ทั้งๆที่เราก็รักเธอไม่แพ้ใคร
ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าแค่รักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆและยิ่งไม่พอถ้าหากอีกคนไม่พร้อมสู้ไปด้วยกัน
เราเชื่อว่าคงมีหลายคนที่เจอเรื่องแบบนี้ และเราก็อยากรู้ว่าจะต้องทำยังไง เพราะเราไม่เคยเจอความรักที่หนักหนาเท่าครั้งนี้มาก่อน
ขอบคุณนะคะสำหรับคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ
เมื่อต้องพบกับคนที่ใช่แต่เป็นไปไม่ได้ เราควรจะอยู่หรือควรจะไป
แต่เราแค่ต้องการระบายความทุกข์ใจของเราที่หาทางออกไม่เจอจริงๆ
เรื่องของเรามันเริ่มจากการสองปีที่แล้วเราปลื้มเพื่อนคนหนึ่ง ในตอนนั้นเราเรียนอยู่ปีสามมหาลัยภาคเหนือนี่แหละ
เธอเป็นคนสวย ผมยาว ยิ้มเก่ง ขี้เล่น เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงในอุดมคติของเราทุกอย่าง แต่เราไม่กล้าจีบเธอ
เพราะเธอตางจากเราเกินไปอีกอย่างเธอก็เคยคบแต่ผู้ชาย ส่วนเราเป็นทอม แถมไม่รวยอีกต่างหาก
เลยได้แต่อยู่ห่างๆเธอ อ้อ เราเรียนสาขาเดียวกันกับเธอนั่นแหละ เธอก็ชอบมาแกล้งเรายุเหมือนกัน
แต่โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลก ตอนเราขึ้นปีสี่ช่วงนั้นเราอกหักจากแทยอนเกิร์ลเจน มันเหมือนอกหักจริงๆนะ
พอศิลปินในดวงใจมีแฟนมันเลยรู้สึกเหงาๆ เพราะเราโสดมาปีกว่าแล้ว ในตอนนั้นเราก็พึ่งรู้จากปากเธอว่าเธอไม่มีแฟน
เพราะเพิ่งเลิกกันไป เราเลยตัดสินใจทักไลน์เธอ สุดท้ายเราก็คุยกันและสนิทกันโดยง่าย คุยกันแทบ 24 ชั่วโมง
แม้ในตอนเรียนห้องเดียวกันก็ตาม พอคุยกันได้อาทิตย์กว่าเราก็ตัดสินใจสารภาพทุกอย่างออกไป
ตอนแรกเธอเหมือนกลัวอะไรหลายๆอย่าง
แต่สุดท้ายเราก็ดันดื่มเหล้ากันแล้วเธอก็ยอมสารภาพว่ารักเราเหมือนกันจนคืนนั้นทุกอย่างมันเลยเถิด หลังจากวันนั้นมา
เราก็คบกันอย่างลับๆไม่ให้เพื่อนรู้ เรามีความสุขมากในรอบหลายปีคงไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าได้คบกับคนที่เราฝันเอาไว้ตลอด
แล้วโชคชะตาก็มาแกล้งเราอีกครั้ง เมื่อคบกันได้สองเดือนกว่า เราก็ต้องแยกย้ายไปฝึกงานเพราะเลือกสถานที่ไว้ตอนปีที่แล้ว
เราและเธอเลยไม่ได้ไปที่เดียวกัน เธอไปพิษณูโลก ส่วนเราไปเชียงใหม่ ในช่วงเดือนแรกๆของการฝึกงานทุกอย่างก็โอเค
เราคิดถึงกันมาก คุยกันตลอด วีดีโอคอลหากันทุกคืน อาจจะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความห่าง แต่พอเข้ากลางเดือนที่สอง
เธอก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเงียบมากขึ้น ไม่ยอมวีดีโอคอลเลย ถามอะไรไปก็หงุดหงิด เราคิดว่าเธอคงเบื่อที่เราเป็นคนงี่เง่า ขี้หึง
แต่พอถามไปถามมาเธอบอกว่ามีคนมาขอหมั้นเธอแล้วพ่อแม่เธอก็ตกลงกันไปแล้ว ในตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนชาไปทั้งร่าง
ความรู้สึกก็ไม่รู้จะบรรยายยังไง คุณก็ลองคิดว่าถ้าหากคนที่คุณรักมากกำลังจะไปเป็นของคนอื่นอย่างที่คุณไม่สามารถ
คัดค้านจะเป็นยังไง ตอนแรกเราก็ไม่เท่าไหร่เราะคิดว่าอย่างน้อยแค่เธอยังรักเรามันก็ยังโอเค แต่ก็ไม่ใช่เลยเธอสับสน
เธอลังเล จนวันที่เธอมาหาเราที่เชียงใหม่
เราเค้นถามเธอว่าคนๆนั้นเป็นใคร จนเธอยอมบอกว่าเป้นแฟนเก่าของเธอ ซึ่งเราก็เคยรู้มาว่าเธอรักผู้ชายคนนี้มากและยังลืมไม่ได้
แต่เราก็ยังถามเธอนะว่าแล้วคิดยังไงกับเขา เธอตอบเราว่า ตอนแรกที่อยู่กับเราเธอืมเขาไปแล้วแต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้เธอ
ก็เริ่มกลับไปนึกถึงเขาอีก เราโดนฆ่าตายครั้งที่สอง แต่ยังไม่จบหรอกตอนอยู่ด้วยกันเธอก็ทำเหมือนยังรักเราเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง
แต่พอเธอกลับไป เธอมีแต่ความเย็นชา ช่วงนั้นเราทรมานมากเหมือนคนตายทั้งเป็น บางวันก็ทุรนทุรายจิกทึ้งหัวตัวเองเหมือนคนบ้า
แต่เราก็ไม่โทษเธอนะ เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงซะเรื่องของเรากับเธอก็เป็นไปไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะทำเพื่อหวังแค่ซักครั้ง
ได้อยู่เคียงข้างเธอ เราเลยยยอมทรมาน เราถามเธอเป็นพันๆครั้งว่ายังรักเราอยู่รึเปล่าแต่คำตอบที่ได้ทุกครั้งคือ ไม่รู้ จนหลังๆมา
เราเริ่มปลง แล้วรับความจริงและคิดว่าฝึกงานเสร็จเมื่อกลับไปอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งเดือนสุดท้าย เราจะทำเพื่อเธอทุกอย่าง
เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะหายไปจากชีวิตเธอ แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นอีก พอกลับมาอยู่ด้วยกันแรกๆเธอดีบ้าง เย็นชาบ้าง
แล้วก็คุยโทรศัพท์กับเขา เราก็เจ็บนะ
ที่ต้องมาทนรับรู้แต่มันเป็นข้อตกลงที่เราต้องทำใจรับมันให้ได้หากกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่สิบวันสุดท้ายเรากลับมาทำความเข้าใจกัน
เธอบอกว่าที่เธอต้องยอมใจร้ายกับเราเพราะอยากให้เราไปจากเธอ จะได้ไม่ต้องมาเจ็บเพราะเธออีก ทั้งที่เธอก็ยังรักเรา
แต่เราก็ไม่เคยไปไหนเราสองคนเลยกลับมารักกันเหมือนตอนเริ่มคบกันอีกครั้ง แล้วเราก็กลับมามีความสุขมากๆอีก
เพราะเธอดีทุกอย่าง ช่างอ้อน ขยัน เธอยอมคุยกับผู้ชายคนนั้นน้อยลง แต่มันก็เศร้าตรงที่อีกไม่กี่วันก็จะแยกย้าย
กันไปตามทางของตัวเองแล้ว เราเลยใช้เวลาด้วยกันอย่างคุ้มค่าที่สุด ทำอาหารกินกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำเซอไพรซ์ให้
จนวันสุดท้ายเรากอดกันแน่นแล้วร้องไห้ ทุกครั้งที่เรามองหน้าเธอก็อดที่จะน้ำตาซึมไม่ได้เมื่อคิดว่าต่อจากนี้จะไม่ได้มี
ผู้หญิงคนนี้ในอ้อมกอดอีกแล้ว รู้เลยว่าเวลามันมีค่ามากแค่ไหนแต่เราก็หยุดเวลาลงไม่ได้ สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะตัดใจแล้วหายจากเธอไปเลยเหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ตามเคยที่เราห้ามใจตัวเองไม่ได้
เรายังคุยกัน เธอบอกคิดถึง เธอบอกว่ารักเรามากแม้กระทั่งตอนที่อยู่กับผู้ชายคนนั้นที่บ้านของเขา
ในตอนแรกเราไม่ไว้ใจเธอ เรากลัวว่าเธอจะกลับไปเป็นเหมือนตอนฝึกงานอีก แต่เธอก็พูดก็สัญญาจนเราเชื่อหมดใจว่า
เธอรักเราจริงๆ เราเลยไปไหนไม่ได้อีก แต่ตอนนี้ในวันนี้เธอเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง อาจเป็นเพราะเราเอาแต่กลัวและระแวง
หรือเพราะอย่างอื่นเราก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เราคิดคือเราควรจะทำยังไงกับรักที่ไม่มีหนทางครั้งนี้
เราบอกให้เธอมาทำงานจังหวัดเเดียวกับเรา
แต่เธอก็เลือกทำอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นมันเลยไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะเจอกันที่จะอยู่ด้วยกัน แล้วที่เราบอกว่ารักกัน
ทุกวันเพื่อรอเธอแต่งงาน รอความเจ็บอย่างนั้นเหรอ เราแพ้ผู้ชายคนนั้นทุกอย่างแม้กระทั่งไม่ได้อยู่ใกล้
แต่อีกใจก็ตัดใจทำใจเดินออกมาไม่ได้ เราสัญญากับเธอไว้ว่าซักวันเราจะพาเธอหนีไปเที่ยวทะเลด้วยกัน
เรายังแอบมีหวังว่าซักวันเราจะได้อยู่ด้วยหรือเจอกันบ้าง แต่นานวันความหวังมันก็ลดลง เรายังตัดใจจากเธอไม่ได้
แค่คิดว่าจะไม่ได้คุยกันเราก็ทรมานแล้ว ตอนนี้เราเลยไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะเดินไปทางไหน จะตัดใจเดินออกมา
เราจะทำมันไหวมั้ย มันเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวเรามาตลอดหลายวัน
เราน้อยใจมากเลยว่าเพศที่สามอย่างเรามันรักมันจริงจังกับใครไม่ได้เหรอ ทำไมถึงต้องโดนแบบนี้
เพราะต่อให้ไม่มีผู้ชายคนนั้นครอบครัวเธอก็รับไม่ได้อยู่ดี เธอบอกว่าที่ทำเพราะอยากให้พ่อแม่หายห่วงว่า
เธอมีคนที่พร้อมดูแลเธอแล้ว ทั้งๆที่เราก็รักเธอไม่แพ้ใคร
ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าแค่รักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆและยิ่งไม่พอถ้าหากอีกคนไม่พร้อมสู้ไปด้วยกัน
เราเชื่อว่าคงมีหลายคนที่เจอเรื่องแบบนี้ และเราก็อยากรู้ว่าจะต้องทำยังไง เพราะเราไม่เคยเจอความรักที่หนักหนาเท่าครั้งนี้มาก่อน
ขอบคุณนะคะสำหรับคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ