[CR] ไปสิงคโปร์ซื้ออะไรดี เที่ยวส่งท้ายปี 2557

สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอนำเสนอเรื่องราวเห่อ ในการไปช็อปปิ้งที่สิงคโปร์ ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ไปมาแค่ 3 วันนะคะ ของที่ช็อปไม่เยอะนัก
อากาศอยู่ที่ 28-33 องศา สบายๆ ค่ะ
เริ่มจากก่อนไป เราไปเดินดิวตี้ฟรี รางน้ำ ได้อันนี้มาจ้า ราคาลดแล้ว 3300 แถมน้ำมันกลิ่นตะไคร้ 1 ขวด ปิดตัวเองอัตโนมัตเมื่อน้ำด้านในหมดค่ะ เคยใช้แบบจุดเทียนไขเองแล้ว ปรากฎว่าบ้านเกือบไฟไหม้ เพราะมันเผาไหม้นานเกินไป(ทำงานบ้านลืมดับ) พอนำน้ำมาราด มันเป็นเพลิงไฟพุ่งสูงขึ้น ยิ่งเติมเชื้อไฟ มันก็ลุกลามคะ ดีที่ตอนนั้นมีสติเอาผ้าห่มราดน้ำตบไฟจนดับ เราเข็ดเลยคะ เลยยอมลงทุนกับมัน เค้ามีสามสีนะคะ ดำ ขาว และทองแดง ก็เลือกกันได้ตามตีมของบ้านเลยคะ

มาถึงแล้วก็เจอห้างนี้อยู่ย่านออชาร์ดค่ะ ซึ่งใกล้ที่พักของเรา อยู่(รอยัล พลาซ่า ออนสก็อต) ห้างนี้คล้ายๆ พาราก้อนค่ะ ก็มีของแบรนด์เนมต่างๆ ราคาก็รวมภาษีค่ะ ที่นี่ต้องซื้อ 3000 บาทไทย แลกภาษีคืนได้ 80 บาท

อยากได้จัง...รีบเดินหนีดีกว่า 5555

วันต่อมาไปยูนิเวอร์แซลค่ะหนังสือเล่มนี้พาไปทุกที่เลย เสียอย่างเดียวอดดูขบวนพาเรด เพราะในหนังสือเขียนว่าพาเรดมีตอน 17.00 น. เราเลยเข้าไปดูการแสดงในส่วนอื่น พอมารอดูขบวน พนักงานบอกขบวนมีไปแล้วตอนบ่ายสามโมง แป๊วว แต่ช่างมันค่ะ ระวังแค่จุดนั้นจุดเดียวเลย นอกนั้นยอดเยี่ยมค่ะ เพราะเคยไปฮ่องกงมีเล่มนึงชื่อ เขาว่ากันว่าร้านนี้อร่อยที่ฮ่องกง เราไปฮ่องกงรอบ 2 (รอบแรกมี) รอบ2 นี่ร้านปิดไป 2 ร้านเราเลยเดินเมื่อยเก้อเลยคะ


ตอนซื้อก็ซื้อไม่มากค่ะ มาดูกันว่า เราซื้อไรบ้าง
เดินเข้าไปไม่ทันไร เจอร้านน้ำโค้ก ก็มีขวดโค้กทรงกีต้าร์อยู่ เลยซื้อมาเป็นพร้อพถ่ายรูปด้วย กินด้วย แต่แพงมากค่ะ 250 บาทแหนะ

เจอแว่นตาน่ารักๆ ก็อดซื้อมาสะสมไม่ได้ 555 แว่นตานี่ประมาณ 380 บาท


หลังจากถ่ายรูปกันเหนื่อยมากแล้ว ก็เจอร้านขนมภายในนั้น 2 ร้านค่ะ ชื่อ Hershey และ Candylicious แต่ร้านHershey เราไม่ได้เข้าค่ะ

ภายในร้าน Candylicious ค่ะ ถ่ายตัวเด็ดๆ ที่เราว่ามันแปลก และน่ากินมาให้ดูกัน
กล่องนี้อร่อยมากเลยนะคะ คือการเอาโอลิโอ้มาบด(แต่มันไม่ใช่โอลิโอ้นะ) แล้วก็เคลือบด้วยช็อกกาแล็ตนม รสชาติดี มว๊าาาากกกกก คะ


เราว่าราคาสินค้าค่อนข้างแพงเกินไป เราจะเลือกซื้อเฉพาะเราอยากกินจริงๆ มันแปลก ไทยหายากไรอย่างนี้นะคะ
อย่างช็อกกาแล็ตใส่กล่อง ก็ 500 บาทไทย


มีตุ๊กตาหน้าตาประหลาดมากมายคะ เช่น ตุ๊กตาช้าง ตุ๊กตาเมอไลอ้อน หมีสีแปลกๆ ดีไซน์แปลก



เราซื้อมาแค่นี้เองค่ะ นูเทลล่าแบบมีขนมปังกรอบจุ่มด้วย อร่อยจัง

อันนี้เราชอบจังเลยค่ะ กระเป๋าผ้านิ่มเหมือนตุ๊กตา แบบประติด ดีไซน์สวย น่ารัก โดนใจ แต่ราคาไม่โดนเลย ราคาประมาณ 1200 บาทค่ะ


อันนี้มีขายตรงร้านขายของที่ระลึก ตอนไปดู Wing of time ค่ะ เป็นขวดน้ำเก๋ๆ เหมาะกับคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย หรือนักปั่นจักรยาน พอน้ำหมดก็ม้วนพับเก็บได้

เบรกเรื่องกินกันหน่อยคะ สิงคโปร์ของกินเค้าเด่นเรื่องข้าวมันไก่ และพวกอาหารจีนติ่มซำ ถ้าไปย่านอินเดีย อันนี้เห็นเพื่อนเล่าว่าอร่อยเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปค่ะ เพราะมีเวลาแค่ 3 วัน

ร้านนี้ชื่อ East Ocean Teochew Restaurant รอคิว 15 นาที รสชาติ โอ๊ยยยย สุดยอดมากค่ะ ย่านออชาร์ด ใกล้ที่พัก
ในร้านไฟสีเหลืองค่ะ นี่คือรายการที่สั่ง สั่งตามเราได้เลยนะคะ อร่อยมากๆค่ะ



ต่อมาก็ไปย่านมุสตาฟาค่ะ ย่านคนอินเดีย  สิ่งที่เราไปซื้อพวกยา เครื่องสำอาง ราคาแถบนี้เพื่อนที่เคยอยู่บอกว่า มันถูกค่ะ
สิงที่พบมาอีกอย่างคือ สวรรค์ของเสื้อผ้าเด็กเลยคะ เยอะมากๆ สุดๆ ไปเลย คล้ายประตูน้ำ สำเพ็ง เพาหุรัดบ้านเราค่ะ


กระเป๋าใบนี้ราคาประมาณ 180 บาทไทยค่ะ ดีไซน์คล้ายนารายา แต่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเค้าดีค่ะ ผ้าบาหลี คือหัตถกรรมสิงคโปร์ สวยน่าใช้มากค่ะ


ภาพหมู่ของกินที่ได้มาค่ะ

ขนมกรอบๆที่นี่ รสชาติจืดนะคะ ไม่จัดจ้านเหมือนเลย์บ้านเรา คุณต้องกินต่อไปเรื่อยๆ จนคำที่ 5 น่านแหละจะหยุดไม่อยู่และ มันค่อยๆ มีรสชาติกลมกล่อมขึ้นเรื่อยๆ คำต่อไป คุณจะมีความหวังว่า มันจะอร่อยขึ้นอีกมั๊ยๆ ? จนรู้สึกตัวอีกที คำถามนั้นยังอยู่ มันก็หมดถุงไปแล้ว

สำหรับคอชานะคะ ชาเหล่านี้หอมมากค่ะ ซื้อย่านมุสตาฟา

โอวัลตินแบบป้ายขนมปัง ครั้นชี่ กรอบๆ


แม่เหล็กติดตู้เย็นเก๋ๆ ตอนไปพิพิธภัณฑ์สิงคโปร์  ราคาไม่ถูกเลยนะคะ เน้นไอเดีย 3 ชิ้นนี้ 400 บาทค่ะ ติดแล้ว แมช กับป้ายฮ่องกงที่มีอยู่ที่บ้านพอดี


หมวดเครื่องสำอางกันหน่อย ไม่เยอะๆ น้อยค่ะ ได้ตอนไป Sasa เค้าลดกระจาย เลยสอยมาค่ะ
The Balm บลัชออนอันนี้ราคา 738 บาทค่ะ ไม่รู้ว่าถูกหรือแพงกว่าไทย แต่ตอนนั้นกิเลสบังตา อยากได้มากอะคะ

มาร์กตัวนี้แพงกว่าฮ่องกง 40 บาทค่ะ ที่ฮ่องกงขายแผ่นละ 10 บาทเอง เค้าขายแยก ไม่ได้ขายเป็นกล่อง ยี่ห้อนี้ใช้ดีค่ะ ชุ่มชื้นให้ผิวหน้า


โฟมล้างหน้าตัวนี้ ใช้แล้วจะเย็นๆ ล้างหน้ามันได้ดีมากค่ะ เราซื้อให้แฟนใช้ แต่เราก็ใช้เอง ฟองไม่เยอะนะ เป็นครีมๆ นวดๆ แล้วล้าง มีฟองบ้าง ไม่ถึงขั้นสมูทอีนะคะ กลิ่นไม่แรงเท่านีเวียนะ กลิ่นอ่อนๆคะ


ภาพหมู่ค่ะ
เจ้า Oxy10 นี่เราไปซื้อมุสตาฟาเพื่อสิ่งนี้ แต่ปรากฎว่าไปถึงเหลือแค่นี้เองคะ คงเพราะมีการซื้อมาขายในไทยกันมากมาย จริงๆอยากได้สูตร Oxy cover มากกว่า ส่วนคนที่ไม่รู้จัก Oxy10 คืออะไร มันดีอย่างไร บอกคำเดียวมันดีมากลองเซิสได้เลยจ้า เล่าให้ฟังเล่นๆว่า เมื่อก่อนเพื่อนสนิทมีหนี้สินเป็นแสนเลยแล้วก็ปลดหนี้ได้เพราะ Oxy นี่แหละคะ รับมาพรีออเดอร์ในไทย เมื่อก่อนขายอยู่เจ้าเดียว ตอนนี้มีหลายเจ้าแล้ว ก็เลิกไปทำงานประจำออฟฟิศตามปรกติ ต่อมา ขวดสีฟ้า/ชมพูคือ Haruhada cleansing water ค่ะ ที่นั่นขาย 275 บาท ที่ไทยขายประมาณ 700-800 ค่ะ สรรพคุณยอดเยี่ยมมาก ในการเก็บกวาดเครื่องสำอางที่ตกค้าง หรือแม้แต่ฝุ่นละอองจากนอกบ้านค่ะ
เจ้ากล่องสีม่วงนั้นคือ Lavender เจลอาบน้ำและโลชั่นค่ะ ราคา 250 บาท

ลิปสติกจากสนามบินราคา 825 บาทไทย


สุดท้ายคือกระเป๋า charles & keith ซื้อที่สนามบินค่ะ ได้ลด 10% จากบัตรที่เพื่อนให้ยืมมา กระเป๋าสะพายหนังสีน้ำเงิน และสีเขียวมิ้นท์ ราคาตกใบละ 1100 บาท สะพายข้างเล่นๆ ไปโน่นมานี่
กระเป๋าใส่เหรียญแมวเปอร์เซีย และกิ๊บติดผม จาก ยี่ห้อ New Look


จบการช็อปปิ้งแล้วนะคะ หวังว่าจะเป็นไอเดียให้ได้บ้าง
บอกตามตรงว่าการช็อปปิ้งที่นี่ เทียบกับฮ่องกงและญี่ปุ่นแล้ว ฟินน้อยกว่ามาก เพราะค่าครองชีพแพงมาก ของแปลกๆ เก๋ๆ สู้ญี่ปุ่นไม่ได้ ความสะอาดน้อยกว่าฮ่องกงญี่ปุ่น  อาหารเน้นไปทางติ่มซำ ต้มกระดูกหมู ข้าวมันไก่ อร่อยบางร้านเท่านั้น ร้านในรีวิวในหนังสือจะอร่อยค่ะ  เสื้อผ้าแพง เครื่องสำอางถ้าเป็น Sasa ก็ใกล้เคียงฮ่องกงคะ
ชื่อสินค้า:   bobbibrown, the blam instain blush, เที่ยวสิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่