พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจะมีประโยชน์ต่อชีวิตของเราเมื่อน้อมนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน..

กระทู้สนทนา
ผมไม่มีเจตนาจะมาบอกสอนใคร เพียงอยากจะบอกว่า
ทุกวันนี้ ผมทำตนให้เชื่อหรือศรัทธาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าก่อนเป็นอันดับแรก
ทำตนให้มีศีล 5 ธรรม 5 พร้อมกันไป
ประพฤติตนเองให้มี ปัญญา ศีล  สมาธิ ตามหลักอริยมรรคมี องค์ 8
รักษากาย วาจา ใจ ของตนเองให้อยู่ในกรอบของศีลและธรรม

ผมศึกษาพระพุทธเจ้า..ในฐานะแบบอย่างของบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วยคุณงามความดีที่เราควรประพฤติปฏิบัติตาม..
พระองค์ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศึกษาพระธรรมว่า.. พระองค์ได้สอนเรื่องอริยสัจจ์ 4  คือ เรื่องทุกข์ไว้อย่างไร..เมื่อทุกข์เกิดแล้วจะดับทุกข์อย่างไร?
มีวิธีการปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ได้อย่างไร..?
ส่วนพระสงฆ์สาวกผู้ประพฤติดีปฎิบัติชอบ.. ผมเคารพนับถือท่านในฐานะท่านเป็นพระอริยบุคคลสามารถประพฤติปฏิบัติตามพระองค์ได้..

ผมไม่สนใจศึกษาเรื่องพระเครื่อง เครื่องราง เรื่องราวความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์  อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ  มากมาย
ที่มีปะปนอยู่ในพระพุทธศาสนา  เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเปลือกกระพี้หุ้มห่อพระศาสนาไว้เท่านั้น..
ไม่ใช่หลักหรือแก่นแท้.. เพราะไม่ทำให้ดับทุกข์ได้จริง.. เรื่องบนบานศาลกล่าว  เจ้าพ่อเจ้าแม่..ภาณยักษ์ภาณเทพ ไม่สนใจ..
ผมมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก.. ไม่มีที่พึ่งอื่น..

บทสวดมนต์ประจำตัว ประจำใจผม  ผมสวดทุกวัน เพื่อน้อมจิตน้อมใจระลึกถึงพระพุทธองค์ เพื่อความทราบซึ้งใจ
ผมจะศึกษาคำแปลพระบาลี บทสวดเหล่านี้ไปด้วย.. เริ่มต้นด้วย
อะระหัง สัมมาฯ นะโมฯ อิติปิโสฯ, พาหุงฯ, มหากาฯ ภะวะตุ สัพฯ นัตถิ เม ฯ แผ่เมตตา ฯ จบ

ผมศึกษาพระธรรมของพระองค์ที่ตรัสไว้ดีแล้ว เรื่องอริยสัจจ์ 4 อริยมรรคมีองค์ 8 ปฏิจจสมุปบาท
หรือหลักธรรมคำสอนอื่นๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกี่ยวกับการทำงาน เช่น อิทธิบาท 4
สังคหวัตถุ 4 ช่วยให้เราทำงานด้วยความสนุก  ไม่เบื่อหน่าย ด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่..
เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี.. ทำหน้าที่ของเราที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด  ไม่ให้เกิดความผิดพลาดเสียหาย
มองให้เห็นว่าหน้าที่คือธรรมะ  ธรรมะคือหน้าที่  เฝ้าสังเกตความเป็นไปในจิตใจตนเองว่า ขณะนี้จิตเราเป็นอย่างไร
มีโลภ มีโกรธ มีหลง หรือคิดเรื่องราวใดเป็นกุศลหรืออกุศล..

เมื่อผมมีเวลาก็จะกำหนดสติให้อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก  
มันช่วยผ่อนคลายและนำความสงบเยือกเย็นมาให้กับชีวิตได้..
อีกทั้งมีสติปัญญา มองเห็นตามความเป็นจริงด้วย ว่า
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาอย่างไร?

ผมไม่จน จนต้องรบกวนผู้อื่น  แต่ก็ไม่รวยจนล้นเหลือ
เป็นมนุษย์เงินเดือนหมื่นกว่าๆ เกือบสองหมื่น

ผมมีความสุขพื้นฐานในชีวิตง่ายๆ
..สุขจากการมีเงินพอเลี้ยงตัวได้ไม่ฝืดเคือง
..สุขเกิดจากการใช้จ่ายเงินซื้อหาสิ่งจำเป็นในการครองชีพ
..สุขจากการไม่เป็นหนี้หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว
..สุขจากการมีสัมมาอาชีพ มีงานสุจริตทำ

และสุขจากการมีคู่ชีวิตที่มีความรักความเข้าใจ
ผมอยู่กันมา 6 ปียังไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน..
มีอะไรเราจะพูดจากันด้วยเหตุผล..

ผมไม่มีรถเก๋งรถยนต์ขับ ผมใช้มอเตอร์ไซค์โซนิครุ่นแรกมากระทั่งวันนี้
เป็นพาหนะไปทำงาน..  ยังผ่อนบ้านฯ อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ..
มีความสุขตามประสา..ผมมีเวลาให้กับการทำงาน 12 ชั่วโมง..
อีก 12 ชั่วโมง คือชีวิตที่ผมมีความสุขอยู่กับบ้าน ศึกษาพระธรรม..  ฝึกฝนตนเองไป
ออกกำลังกายด้วยการวิ่งบ้าง.. ปั่นจักรยานบ้าง.. อยู่กับคนที่ผมรัก..ผมไม่มีห่วงกังวลอะไร..

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้  ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาบอกว่าตัวเองดีแล้ว..
เพียงแต่จะบอกว่า ..
การนับถือศาสนาที่ถูกต้องเรา ควรน้อมนำธรรมะมาปฏิบัติให้ได้
ตามสมควรแก่ฐานะของเรา จะพึงกระทำได้  แม้จะเป็นเพียงโลกียธรรม..
ก็ทำให้เราพบกับความสุข สงบ และเกิดสติปัญญา.. ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข
แม้จะเป็นเพียงฆราวาสครองเรือนอยู่ ก็รู้ธรรม ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรมได้
ถึงจะมีทุกข์บ้าง ก็มีทางออกทางแก้  และจะทุกข์น้อยที่สุดครับ..
เพราะมีพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก  ที่อาศัย..
ไม่ต้องกล่าวถึงโลกุตตรธรรม ซึ่งจะทำให้เราถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้..

ขอเพียงเราค่อยศึกษาฝึกปฏิบัติขัดเกลาไป.. ค่อย ๆ พัฒนาจิตใจของเราให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง  ไม่มีอย่างอื่นเป็นที่พึ่ง เราก็จะพบความสงบสุขอย่างแท้จริง..

ใช่ว่าพระองค์สอนแต่เรื่องทุกข์กับความดับทุกข์เท่านั้น  
แม้เรื่องสุขก็ทรงสอน  แต่ให้เราศึกษาให้เข้าใจ..ว่าทรงสอนไว้อย่างไร?
อย่าไปสนใจเรื่องโน้นเรื่องนี้..แล้วมันดับทุกข์ไม่ได้  มันจะเสียเวลาเปล่า..
บางเรื่องรู้ไปมันช่วยดับทุกข์ไม่ได้.. มีแต่จะฟุ้งซ่าน  ถกเถียง หรือหาเหตุผล จริงไม่จริง  
แท้ไม่แท้กันไปเรื่อยไม่มีที่สิ้นสุด.. หนักเข้าก็ทะเลาะกันเอง.. เลยไม่ได้ประโยชน์จากพระธรรมคำสอน

เอาที่มันตรงแล้วดับทุกข์ได้ก็พอ.. แล้วเราจะได้รับประโยชน์จากการนับถือศาสนา
เพียงแค่เราไม่ทุกข์ก็สุขแล้วครับ.. ส่วนจะเป็นขั้นไหนนั้นก็เป็นเรื่องความละอียดของจิตใจ
เรื่องของคุณธรรมที่เราเข้าถึง..  จริงๆ เรื่องพูดมันเยอะ แต่ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนครับ
ขอให้ชีวิตทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้.. จงได้พบกับพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
ที่จะนำพาให้ชีวิตพ้นจากทุกข์ประสบสุขโดยทั่วกัน.. ฯ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่