เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ยังไงก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ โดยส่วนตัวถึงเราจะเจออะไรแปลกๆแบบนี้เราก็ไม่ได้เชื่อ 100% แต่เราก็ไม่ลบหลู่นะ
เรื่องมีอยู่ว่าปกติเราเป็นคนมีสัมผัสที่ 6 และบ่อยครั้งที่ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆ เรื่องแรกที่จะเล่าให้ฟังคือ ตอนเราไปทำบุญสวดพานยักษ์กับครอบครัวและก็เพื่อนอีกหนึ่งคน ตอนนั้นเราขอกุญแจรถจากพ่อเพื่อเอาน้ำที่อยู่ในรถมาล้างเสื้อที่เลอะไอศครีม แล้วจู่ๆก็มีพระธุดงค์รูปนึงซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน คือก่อนหน้านั้นแปปนึงที่เราหันหลังไปหยิบขวดน้ำเราไม่เห็นพระรูปนี้อยู่แถวๆนั้นเลย เพราะรถเราก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถข้างๆกำแพงวัด ถ้ามีคนเดินมา เราก็ต้องเห็นอยู่แล้ว พระรูปนั้นก็เดินมาถามเราว่ามาคนกัน2คนหลอ ขับรถระวังด้วยนะ แล้วก็อะไรอีกเราก็จำไม่ได้ แต่ช่วงเวลาแค่แปปเดียวที่เราหันหลังเอาขวดน้ำวางในรถ พระรูปนั้นก็หายไปไหนก็ไม่รู้ เราถามเพื่อนที่ยืนอยู่กับเราว่า
"เอ้าแล้วพระรูปนั้นไปไหนแล้วหล่ะ?" เพื่อนเราก็ไม่รู้ค่ะ เรา2คนเลยวิ่งไปดูหน้าวัด และบริเวณรอบๆก็ไม่เจอพระธุดงค์รูปนั้นเลย พอเราไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร คงเพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดามั้งค่ะที่เราเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ
อีกเรื่องนึงก็คือ ตอนที่ปู่เราอยู่ รพ. เราที่อยู่บ้านกับพ่อแม่กำลังเตรียมตัวไปเยี่ยมปู่ เราอาบน้ำเสร็จก็เดินไปมองหน้าบ้านว่าพ่อแม่เราเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว ในศาลาหน้าบ้านเรา เราเห็นผู้ชายแก่ๆ ใส่ผ้าขาวม้าสีฟ้าขาวนอนหันหลัง เราก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะตอนนั้นคิดว่าปู่เราคงออกจาก รพ. แล้ว เราเลยขึ้นไปแต่งตัวบนห้อง จากนั้นพ่อเราก็ตะโกนถามว่าแต่งตัวเสร็จรึยัง ไปกันได้แล้ว
เรา :
ไปไหน ก็ปู่กลับมาที่บ้านแล้วไม่ใช่หลอ
พ่อ :
เห็นที่ไหน
เรา :
ก็เห็นนอนอยู่ที่ศาลาเมื่อกี้
พ่อ:
ไม่ใช่แล้ว นั่นพ่อเอง
แล้วโทรศัพท์สายหนึ่งจากญาติเราที่เฝ้าปู่อยู่ที่ รพ. ก็ดังขึ้น เขาบอกพวกเราว่าให้รีบไปดูอาการปู่ ปู่แย่แล้ว เรากับพ่อแม่ก็เลยรีบไป ภาพที่เห็นคือปู่ยังนอนอยู่ รพ. ในสภาพที่... ไม่ไหวแล้ว สายออกซิเจน สายน้ำเกลือ บลาๆ ระโยงระยางเต็มไปหมด แล้วประมานไม่ถึง1ชั่วโมง เตี่ยก็เสียค่ะ รถ รพ.นำศพกลับไปที่บ้าน แม่กับป้าเราอยู่กับรถ รพ. เราก็กลับกับพ่อ2คน ระหว่างทางพ่อถามเราว่าที่เราเห็นพ่อนอนอยู่ที่ศาลาหน้าบ้านมันเป็นยังไง
เรา :
หนูไม่ได้เห็นพ่อ หนูเห็นปู่ หนูจำปู่ได้ หนูอยู่กับปู่ตั้งแต่เด็กๆ แล้วผ้าขาวม้าก็สีฟ้าขาวแบบที่ปู่ชอบใส่
พ่อ :
แต่ผ้าขาวม้าที่พ่อเราใส่ตอนนั้นมันคือสีแดงดำ.. (ซึ่งความเป็นจริงคงไม่มีใครจะตาฝาดขนาดนั้นหรอกค่ะจริงมั้ย?)
พ่อ :
มันเป็นลางบอกเหตุ ปู่คงมาลา ดีนะ ปู่ได้กลับบ้านแล้ว
ข้ามไปถึงวันที่ทำศพประมานวันที่3 เราแต่งตัวอยู่บนห้อง เราได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นกันอยู่ข้างนอกบ้านเสียงดังมากกกก เราเลยออกไปดู ไม่มีใครค่ะ... เราก็ไม่คิดอะไร แล้วเข้าไปแต่งตัวต่อ มาเลยค่ะ กลิ่นน้ำอบ ธูป เสียงนกกะปูดร้องตอบกัน คืออยู่ๆก็ได้กลิ่น แล้วอยู่ๆก็หายไป ตอนนั้นเราเริ่มใจไม่ดีแล้ว แต่ยังไม่จบเท่านั้นนะ ตอนที่เรากำลังยืนงงกับที่มาของกลิ่น
" ลงไปได้แล้ว!!! " เสียงผู้ชายแก่ๆคนนึงซึ่งเราไม่เคยได้ยินมาก่อน เสียงดุมาก และดังมาก ตะโกนขึ้นมา มันก้องอยู่ในหู เราก็ตะโกนเรียกพ่อเลยค่ะ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย แล้วมันก็เป็นไปได้ยากที่เสียงดังขนาดนั้นจะตะโกนมาจากนอกบ้าน เสียงมันใกล้มากๆ พ่อแม่เราก็รีบวิ่งมาแล้วเราก็ถามว่าเมื่อกี้พ่อเรียกหนูหลอ พ่อกับแม่ก็กระซิบกันเบาๆแบบงงๆ แล้วพ่อก็บอกว่าปล่าวนี่ เมื่อกี้พ่ออยู่ในงาน เพิ่งวิ่งมาเนี่ยแหละ เราได้ยินแบบนั้นก็ใส่เกียร์แมววิ่งไปบ้านอาที่อยู่ข้างๆเลยค่ะ แล้วเราก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงชุด นศษ. ในห้องน้ำที่เห็นผ่านกระจกพกของเราแต่พอหันไปมันกลับไม่มีใคร เงาครชุดโบราณในห้องน้ำที่หอพักนับ10 บลาๆ เรายังโชคดีที่ย่ากับพ่อทำของไว้ให้ป้องกันไม่ให้เห็นอะไรแบบนี้ แต่นี่ขนาดมีของคุ้มครองแล้วยังเจอขนาดนี้เลย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าปล่อยไปเฉยๆจะเจออะไรบ้าง มีใครเคยเป็นแบบเราบ้างมั้ย? เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ แล้วเราจะมาต่ออีกเรื่องนึงของเรากับเพื่อนที่มีสังผัสที่6เหมือนกันแต่แรงกว่าเรานะค่ะ
สัมผัสที่ 6
เรื่องมีอยู่ว่าปกติเราเป็นคนมีสัมผัสที่ 6 และบ่อยครั้งที่ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆ เรื่องแรกที่จะเล่าให้ฟังคือ ตอนเราไปทำบุญสวดพานยักษ์กับครอบครัวและก็เพื่อนอีกหนึ่งคน ตอนนั้นเราขอกุญแจรถจากพ่อเพื่อเอาน้ำที่อยู่ในรถมาล้างเสื้อที่เลอะไอศครีม แล้วจู่ๆก็มีพระธุดงค์รูปนึงซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน คือก่อนหน้านั้นแปปนึงที่เราหันหลังไปหยิบขวดน้ำเราไม่เห็นพระรูปนี้อยู่แถวๆนั้นเลย เพราะรถเราก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถข้างๆกำแพงวัด ถ้ามีคนเดินมา เราก็ต้องเห็นอยู่แล้ว พระรูปนั้นก็เดินมาถามเราว่ามาคนกัน2คนหลอ ขับรถระวังด้วยนะ แล้วก็อะไรอีกเราก็จำไม่ได้ แต่ช่วงเวลาแค่แปปเดียวที่เราหันหลังเอาขวดน้ำวางในรถ พระรูปนั้นก็หายไปไหนก็ไม่รู้ เราถามเพื่อนที่ยืนอยู่กับเราว่า "เอ้าแล้วพระรูปนั้นไปไหนแล้วหล่ะ?" เพื่อนเราก็ไม่รู้ค่ะ เรา2คนเลยวิ่งไปดูหน้าวัด และบริเวณรอบๆก็ไม่เจอพระธุดงค์รูปนั้นเลย พอเราไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร คงเพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดามั้งค่ะที่เราเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ
อีกเรื่องนึงก็คือ ตอนที่ปู่เราอยู่ รพ. เราที่อยู่บ้านกับพ่อแม่กำลังเตรียมตัวไปเยี่ยมปู่ เราอาบน้ำเสร็จก็เดินไปมองหน้าบ้านว่าพ่อแม่เราเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว ในศาลาหน้าบ้านเรา เราเห็นผู้ชายแก่ๆ ใส่ผ้าขาวม้าสีฟ้าขาวนอนหันหลัง เราก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะตอนนั้นคิดว่าปู่เราคงออกจาก รพ. แล้ว เราเลยขึ้นไปแต่งตัวบนห้อง จากนั้นพ่อเราก็ตะโกนถามว่าแต่งตัวเสร็จรึยัง ไปกันได้แล้ว
เรา : ไปไหน ก็ปู่กลับมาที่บ้านแล้วไม่ใช่หลอ
พ่อ : เห็นที่ไหน
เรา : ก็เห็นนอนอยู่ที่ศาลาเมื่อกี้
พ่อ: ไม่ใช่แล้ว นั่นพ่อเอง
แล้วโทรศัพท์สายหนึ่งจากญาติเราที่เฝ้าปู่อยู่ที่ รพ. ก็ดังขึ้น เขาบอกพวกเราว่าให้รีบไปดูอาการปู่ ปู่แย่แล้ว เรากับพ่อแม่ก็เลยรีบไป ภาพที่เห็นคือปู่ยังนอนอยู่ รพ. ในสภาพที่... ไม่ไหวแล้ว สายออกซิเจน สายน้ำเกลือ บลาๆ ระโยงระยางเต็มไปหมด แล้วประมานไม่ถึง1ชั่วโมง เตี่ยก็เสียค่ะ รถ รพ.นำศพกลับไปที่บ้าน แม่กับป้าเราอยู่กับรถ รพ. เราก็กลับกับพ่อ2คน ระหว่างทางพ่อถามเราว่าที่เราเห็นพ่อนอนอยู่ที่ศาลาหน้าบ้านมันเป็นยังไง
เรา : หนูไม่ได้เห็นพ่อ หนูเห็นปู่ หนูจำปู่ได้ หนูอยู่กับปู่ตั้งแต่เด็กๆ แล้วผ้าขาวม้าก็สีฟ้าขาวแบบที่ปู่ชอบใส่
พ่อ : แต่ผ้าขาวม้าที่พ่อเราใส่ตอนนั้นมันคือสีแดงดำ.. (ซึ่งความเป็นจริงคงไม่มีใครจะตาฝาดขนาดนั้นหรอกค่ะจริงมั้ย?)
พ่อ : มันเป็นลางบอกเหตุ ปู่คงมาลา ดีนะ ปู่ได้กลับบ้านแล้ว
ข้ามไปถึงวันที่ทำศพประมานวันที่3 เราแต่งตัวอยู่บนห้อง เราได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นกันอยู่ข้างนอกบ้านเสียงดังมากกกก เราเลยออกไปดู ไม่มีใครค่ะ... เราก็ไม่คิดอะไร แล้วเข้าไปแต่งตัวต่อ มาเลยค่ะ กลิ่นน้ำอบ ธูป เสียงนกกะปูดร้องตอบกัน คืออยู่ๆก็ได้กลิ่น แล้วอยู่ๆก็หายไป ตอนนั้นเราเริ่มใจไม่ดีแล้ว แต่ยังไม่จบเท่านั้นนะ ตอนที่เรากำลังยืนงงกับที่มาของกลิ่น " ลงไปได้แล้ว!!! " เสียงผู้ชายแก่ๆคนนึงซึ่งเราไม่เคยได้ยินมาก่อน เสียงดุมาก และดังมาก ตะโกนขึ้นมา มันก้องอยู่ในหู เราก็ตะโกนเรียกพ่อเลยค่ะ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย แล้วมันก็เป็นไปได้ยากที่เสียงดังขนาดนั้นจะตะโกนมาจากนอกบ้าน เสียงมันใกล้มากๆ พ่อแม่เราก็รีบวิ่งมาแล้วเราก็ถามว่าเมื่อกี้พ่อเรียกหนูหลอ พ่อกับแม่ก็กระซิบกันเบาๆแบบงงๆ แล้วพ่อก็บอกว่าปล่าวนี่ เมื่อกี้พ่ออยู่ในงาน เพิ่งวิ่งมาเนี่ยแหละ เราได้ยินแบบนั้นก็ใส่เกียร์แมววิ่งไปบ้านอาที่อยู่ข้างๆเลยค่ะ แล้วเราก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงชุด นศษ. ในห้องน้ำที่เห็นผ่านกระจกพกของเราแต่พอหันไปมันกลับไม่มีใคร เงาครชุดโบราณในห้องน้ำที่หอพักนับ10 บลาๆ เรายังโชคดีที่ย่ากับพ่อทำของไว้ให้ป้องกันไม่ให้เห็นอะไรแบบนี้ แต่นี่ขนาดมีของคุ้มครองแล้วยังเจอขนาดนี้เลย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าปล่อยไปเฉยๆจะเจออะไรบ้าง มีใครเคยเป็นแบบเราบ้างมั้ย? เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ แล้วเราจะมาต่ออีกเรื่องนึงของเรากับเพื่อนที่มีสังผัสที่6เหมือนกันแต่แรงกว่าเรานะค่ะ