คุณทราบหรือไม่ว่า ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 12, 14 -15 คือช่วงเวลาที่ทีมชาติไทยเอาชนะได้ทั้งเกาหลีใต้ชุดใหญ่และเกาหลีเหนือชุดใหญ่
แต่ match ที่ผมดูแล้วรู้สึกประทับใจที่สุดก็คือ match ชิงชนะเลิศในฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 14 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้าทีมชาติไทยไม่เคยเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือได้เลย
รอบชิงชนะเลิศแฟนบอลแห่กันเข้าสนามเกินความจุของสนาม โดยสนามศุภจุได้ประมาณ 4 หมื่นคนแต่นัดนี้มีแฟนบอลประมาณ 6 หมื่นคนจนล้นลงไปบนลู่วิ่ง
เริ่มการแข่งขันทีมชาติเกาหลีเหนือซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของสนามศุภก็เปิดฉากบุกทีมชาติไทยอย่างหนักจนต้องถอยมาตั้งรับกันทั้งทีม ในนาทีที่ 5 เกาหลีเหนือได้ลูกเตะมุมทางมุมธงด้านอัฒจรรย์มีหลังคา นักเตะเกาหลีเหนือโยนบอลโด่งไปที่เสาแรกให้เพื่อนร่วมทีมโหม่งเสยผ่านมือสมปอง นันทประภาศิลป์ผู้รักษาประตูสำรองของไทยเข้าไป หลังจากนั้นเกาหลีเหนือก็ยังคงบุกหนัก จนทำให้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟไทยยุคนั้นคืออำนาจ เฉลิมชวลิต และ ประพันธ์ เปรมศรี ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ไทยก็ยังยันสกอร์ไว้ที่ 1-0 จนหมดครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังอาจารย์ประวิทย์ ไชยสามโค้ชทีมชาติไทยพยายามแก้เกม ทำให้ไทยสามารถทำเกมรุกได้ดียิ่งขึ้น และสามารถยิงประตูตีเสมอได้ประมาณนาทีที่ 60 กว่า โดยปิยะพงษ์ได้บอลในกรอบเขตโทษหันหลังพิงกองหลังเกาหลีเหนือและพลิกตัวยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้ตีเสมอได้สำเร็จท่ามกลางเสียงโห่ร้องของแฟนบอลเกินความจุของสนาม
เกมทำท่าจะเสมอกัน แต่ขณะที่กองกลางไทยโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟซึ่งเป็นกัปตันทีมเกาหลีเหนือพลาดที่เอามือไปโดนบอลในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าให้ไทยได้จุดโทษทันทีในช่วงก่อนหมดเวลา ปิยะพงษ์รับหน้าที่ยิงจุดโทษท่ามกลางแฟนบอลที่อยู่บนลู่วิงแห่กันมาลุ้นหลังประตูด้านทิศเหนือของสนาม ปรากฎว่าปิยะพงษ์ ไม่ทำให้แฟนบอล 6 หมื่นกว่าคนผิดหวัง ยิงจุดโทษเข้าไปทำให้ไทยชนะเกาหลีเหนือไป 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพส์ไปครองได้ ชัยชนะต่อทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ในปี 2524 นับเป็นชัยชนะครั้งแรกตั้งแต่เจอกันมา พร้อมทั้งเป็นการแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในทีมชาติชุดใหญ่ของปิยะพงษ์ ผิวอ่อนกับตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลคิงส์คัพส์ครั้งนี้ด้วย สกอร์ 7 ประตู
ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงคัพส์ติดต่อกันตั้งแต่ครั้งที่ 12-15 (ครั้งที่ 13 ครองแชมป์ร่วมกับเกาหลีใต้ชุดใหญ่) ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 12, 14 -15 คือช่วงเวลาเอาชนะได้ทั้งเกาหลีใต้ชุดใหญ่และเกาหลีเหนือชุดใหญ่ โดยครั้งที่ 12 เอาชนะเกาหลีใต้ชุดใหญ่ ได้ 1-0 จากการยิงของดาวยศ ดารา
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 14 เกาหลีเหนือส่งชุดใหญ่มาแต่เกาหลีใต้ส่งชุดเล็กมาเลยพลาดท่าตกรอบแรก
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 15 เกาหลีใต้ส่งชุดใหญ่มาล้างแค้น แต่เกาหลีเหนืองดส่งทีมร่วมแข่ง ทำให้ทีมชาติไทยเข้าชิงกับทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ซึ่งนำทัพมาโดยชอย ซุน โฮ อดีตศูนย์หน้าทัมชาติเกาหลีใต้ชุดฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโกได้อีกครั้ง
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 15 ในปี 2525 ทีมชาติไทยก็สามารถเอาชนะทีมชาติชุดใหญ่ของเกาหลีใต้ในการยิงจุดโทษในรอบฃิงชนะเลิศได้อีกครั้ง (ชอย ซุน โฮ ยิงจุดโทษข้ามคาน) แต่หลังจากปี 2525 เกาหลีใต้ ไม่เคยส่งทีมชาติชุดใหญ่มาแข่งฟุตบอลคิงคัพส์อีกเลย
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 12, 14 -15 คือช่วงเวลาที่ทีมชาติไทยเอาชนะได้ทั้งเกาหลีใต้ชุดใหญ่และเกาหลีเหนือชุดใหญ่
แต่ match ที่ผมดูแล้วรู้สึกประทับใจที่สุดก็คือ match ชิงชนะเลิศในฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 14 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้าทีมชาติไทยไม่เคยเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือได้เลย
รอบชิงชนะเลิศแฟนบอลแห่กันเข้าสนามเกินความจุของสนาม โดยสนามศุภจุได้ประมาณ 4 หมื่นคนแต่นัดนี้มีแฟนบอลประมาณ 6 หมื่นคนจนล้นลงไปบนลู่วิ่ง
เริ่มการแข่งขันทีมชาติเกาหลีเหนือซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของสนามศุภก็เปิดฉากบุกทีมชาติไทยอย่างหนักจนต้องถอยมาตั้งรับกันทั้งทีม ในนาทีที่ 5 เกาหลีเหนือได้ลูกเตะมุมทางมุมธงด้านอัฒจรรย์มีหลังคา นักเตะเกาหลีเหนือโยนบอลโด่งไปที่เสาแรกให้เพื่อนร่วมทีมโหม่งเสยผ่านมือสมปอง นันทประภาศิลป์ผู้รักษาประตูสำรองของไทยเข้าไป หลังจากนั้นเกาหลีเหนือก็ยังคงบุกหนัก จนทำให้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟไทยยุคนั้นคืออำนาจ เฉลิมชวลิต และ ประพันธ์ เปรมศรี ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ไทยก็ยังยันสกอร์ไว้ที่ 1-0 จนหมดครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังอาจารย์ประวิทย์ ไชยสามโค้ชทีมชาติไทยพยายามแก้เกม ทำให้ไทยสามารถทำเกมรุกได้ดียิ่งขึ้น และสามารถยิงประตูตีเสมอได้ประมาณนาทีที่ 60 กว่า โดยปิยะพงษ์ได้บอลในกรอบเขตโทษหันหลังพิงกองหลังเกาหลีเหนือและพลิกตัวยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้ตีเสมอได้สำเร็จท่ามกลางเสียงโห่ร้องของแฟนบอลเกินความจุของสนาม
เกมทำท่าจะเสมอกัน แต่ขณะที่กองกลางไทยโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟซึ่งเป็นกัปตันทีมเกาหลีเหนือพลาดที่เอามือไปโดนบอลในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าให้ไทยได้จุดโทษทันทีในช่วงก่อนหมดเวลา ปิยะพงษ์รับหน้าที่ยิงจุดโทษท่ามกลางแฟนบอลที่อยู่บนลู่วิงแห่กันมาลุ้นหลังประตูด้านทิศเหนือของสนาม ปรากฎว่าปิยะพงษ์ ไม่ทำให้แฟนบอล 6 หมื่นกว่าคนผิดหวัง ยิงจุดโทษเข้าไปทำให้ไทยชนะเกาหลีเหนือไป 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพส์ไปครองได้ ชัยชนะต่อทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ในปี 2524 นับเป็นชัยชนะครั้งแรกตั้งแต่เจอกันมา พร้อมทั้งเป็นการแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในทีมชาติชุดใหญ่ของปิยะพงษ์ ผิวอ่อนกับตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลคิงส์คัพส์ครั้งนี้ด้วย สกอร์ 7 ประตู
ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงคัพส์ติดต่อกันตั้งแต่ครั้งที่ 12-15 (ครั้งที่ 13 ครองแชมป์ร่วมกับเกาหลีใต้ชุดใหญ่) ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 12, 14 -15 คือช่วงเวลาเอาชนะได้ทั้งเกาหลีใต้ชุดใหญ่และเกาหลีเหนือชุดใหญ่ โดยครั้งที่ 12 เอาชนะเกาหลีใต้ชุดใหญ่ ได้ 1-0 จากการยิงของดาวยศ ดารา
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 14 เกาหลีเหนือส่งชุดใหญ่มาแต่เกาหลีใต้ส่งชุดเล็กมาเลยพลาดท่าตกรอบแรก
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 15 เกาหลีใต้ส่งชุดใหญ่มาล้างแค้น แต่เกาหลีเหนืองดส่งทีมร่วมแข่ง ทำให้ทีมชาติไทยเข้าชิงกับทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ซึ่งนำทัพมาโดยชอย ซุน โฮ อดีตศูนย์หน้าทัมชาติเกาหลีใต้ชุดฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโกได้อีกครั้ง
ฟุตบอลคิงคัพส์ครั้งที่ 15 ในปี 2525 ทีมชาติไทยก็สามารถเอาชนะทีมชาติชุดใหญ่ของเกาหลีใต้ในการยิงจุดโทษในรอบฃิงชนะเลิศได้อีกครั้ง (ชอย ซุน โฮ ยิงจุดโทษข้ามคาน) แต่หลังจากปี 2525 เกาหลีใต้ ไม่เคยส่งทีมชาติชุดใหญ่มาแข่งฟุตบอลคิงคัพส์อีกเลย