สวัสดีค่ะ มีเรื่องปัญหาหนี้สินรุมเร้า ตอนนี้หาทางออกไม่ได้ ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
เริ่มเลยนะคะ ครอบครัวของเรา แม่เป็นข้าราชการ (เงินเดือนโดนหักจนหมด ทั้งสหกรณ์และธนาคาร) พ่อเพิ่งเสียไป
สามีเป็นลูกจ้างชั่วคราวของรัฐ เงินเดือน 8000 (ค่าแรงคิดเป็นรายวัน วันละ 377) โดนหักหนี้เดือนละ 4000
เรามีลูก 2 คน ลูกติดสามีอีก 1 เท่ากับมีเด็กที่บ้าน 3 คน ดิฉันมีวุฒิการศึกษา ม.ปลาย กศน. ไม่มีงานทำ กู้เงินมาก็เปิดร้านขายของชำที่บ้าน ขายได้บ้างไม่ได้บ้างทุกเดือนต้องกู้เงินร้อยละ 10 บางเจ้าร้อยละ 20 เพื่อหมุนเงินค่าไฟ ค่าตู้แช่ ค่าอาหาร ค่าเทอมลูก
รายจ่ายมีค่ารถยนต์ 2800/ด
ผ่อนทอง 2700/ด (เอาทองมาก็เอาไปขายแลกเงินสด)
ค่าตู้แช่ 2700/ด
ค่าไฟ 3300/ด
กองทุนหมุ่บ้าน 5000/ด
แต่เดือนนี้หนักหน้ามากขึ้น ค่าไฟค้าง 2เดือน ค่ารถมากกว่า 4 เดือน ค่าเทอมลูกก็ยังไม่ได้จ่าย พรุ่งนี้ลูกจะสอบแล้ว ครูส่งใบแจ้งมาว่าไม่จ่ายเงินลูกจะไม่มีสิทธิ์สอบ (ค่าเทอมลูกเทอมละ 1500) ค่าผ่อนทอง กองทุนค้างมา 2 เดือน
ทีแรกคิดหาทางออกไว้ 1. บ้านเราทำเลไม่ดีนัก เราจะไปเช่าบ้านในตลาดและขายของ แต่ปัยหาก็คือต้องใช้เงินลงทุนอีกเยอะเพราะต้องจ่ายค่าเช่า+ค่าประกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีกว่าตรงนี้รึเปล่า อีกอย่าง แม่คงรู้สึกไม่ดีที่เราแยกบ้านออกไป
2. ถ้าเราได้งานทำ มันจะตัดค่าตู้แช่ออกไปเดือนละ 2700 แต่ก็จะต้องออกมอเตอร์ไซค์มาแทนอยู่ดี แต่ค่าไฟก็จะประหยัดลงไปอีกไม่ต่ำกว่า 1500 ปัญหาในข้อนี้คือ เราหางานทำไม่ได้
3. ขายของต่อไป เพิ่มของอย่างอื่นขายเช่นกาแฟเย็น หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านให้ได้เยอะๆ ปัญหาคือ ทุกวันนี้ทุนที่จะซื้อเหล้าเบียร์ (รายได้หลักของร้านเลยหล่ะ) ยังไม่ค่อยจะมี ใครหาเงินเสริมได้ทีก็เอามาลงซื้อของ แต่ก็หมดไปกับการดึงออกมาจ่ายหนี้อื่นๆ
เอาจริงๆ เราอ่ะอยากจะขายของอยู่ที่บ้านนี้ต่อไป เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดลูก และอย่างน้อย ก็ยังมีของในร้านไว้กิน ไว้ใช้ ก่อนหน้าจะเปิดร้าน (ช่วงนั้นแม่อยู่ต่างจังหวัด ต่างคนต่างหาเลี้ยงตัวเอง) บ้านเราถึงขนาดไม่มีข้าวหุง ไม่มีตังเปลี่ยนแก๊ส ไม่มีตังจะซื้อมาม่ากิน เพราะต้องกันเอาไว้เติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ให้สามีไปรับ-ส่งลูกเรียนแล้วก็ไปทำงาน
ตอนนี้ไม่รู้จะปรึกษาใครดี เครียดๆกันไปหมด เลยขอความเห็นหรือแนวทางจากทุกคนที่ผ่านมาอ่านด้วยนะคะ
ปัญหาหนี้สินรุมเร้า จะทำอย่างไรดีคะ
เริ่มเลยนะคะ ครอบครัวของเรา แม่เป็นข้าราชการ (เงินเดือนโดนหักจนหมด ทั้งสหกรณ์และธนาคาร) พ่อเพิ่งเสียไป
สามีเป็นลูกจ้างชั่วคราวของรัฐ เงินเดือน 8000 (ค่าแรงคิดเป็นรายวัน วันละ 377) โดนหักหนี้เดือนละ 4000
เรามีลูก 2 คน ลูกติดสามีอีก 1 เท่ากับมีเด็กที่บ้าน 3 คน ดิฉันมีวุฒิการศึกษา ม.ปลาย กศน. ไม่มีงานทำ กู้เงินมาก็เปิดร้านขายของชำที่บ้าน ขายได้บ้างไม่ได้บ้างทุกเดือนต้องกู้เงินร้อยละ 10 บางเจ้าร้อยละ 20 เพื่อหมุนเงินค่าไฟ ค่าตู้แช่ ค่าอาหาร ค่าเทอมลูก
รายจ่ายมีค่ารถยนต์ 2800/ด
ผ่อนทอง 2700/ด (เอาทองมาก็เอาไปขายแลกเงินสด)
ค่าตู้แช่ 2700/ด
ค่าไฟ 3300/ด
กองทุนหมุ่บ้าน 5000/ด
แต่เดือนนี้หนักหน้ามากขึ้น ค่าไฟค้าง 2เดือน ค่ารถมากกว่า 4 เดือน ค่าเทอมลูกก็ยังไม่ได้จ่าย พรุ่งนี้ลูกจะสอบแล้ว ครูส่งใบแจ้งมาว่าไม่จ่ายเงินลูกจะไม่มีสิทธิ์สอบ (ค่าเทอมลูกเทอมละ 1500) ค่าผ่อนทอง กองทุนค้างมา 2 เดือน
ทีแรกคิดหาทางออกไว้ 1. บ้านเราทำเลไม่ดีนัก เราจะไปเช่าบ้านในตลาดและขายของ แต่ปัยหาก็คือต้องใช้เงินลงทุนอีกเยอะเพราะต้องจ่ายค่าเช่า+ค่าประกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีกว่าตรงนี้รึเปล่า อีกอย่าง แม่คงรู้สึกไม่ดีที่เราแยกบ้านออกไป
2. ถ้าเราได้งานทำ มันจะตัดค่าตู้แช่ออกไปเดือนละ 2700 แต่ก็จะต้องออกมอเตอร์ไซค์มาแทนอยู่ดี แต่ค่าไฟก็จะประหยัดลงไปอีกไม่ต่ำกว่า 1500 ปัญหาในข้อนี้คือ เราหางานทำไม่ได้
3. ขายของต่อไป เพิ่มของอย่างอื่นขายเช่นกาแฟเย็น หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านให้ได้เยอะๆ ปัญหาคือ ทุกวันนี้ทุนที่จะซื้อเหล้าเบียร์ (รายได้หลักของร้านเลยหล่ะ) ยังไม่ค่อยจะมี ใครหาเงินเสริมได้ทีก็เอามาลงซื้อของ แต่ก็หมดไปกับการดึงออกมาจ่ายหนี้อื่นๆ
เอาจริงๆ เราอ่ะอยากจะขายของอยู่ที่บ้านนี้ต่อไป เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดลูก และอย่างน้อย ก็ยังมีของในร้านไว้กิน ไว้ใช้ ก่อนหน้าจะเปิดร้าน (ช่วงนั้นแม่อยู่ต่างจังหวัด ต่างคนต่างหาเลี้ยงตัวเอง) บ้านเราถึงขนาดไม่มีข้าวหุง ไม่มีตังเปลี่ยนแก๊ส ไม่มีตังจะซื้อมาม่ากิน เพราะต้องกันเอาไว้เติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ให้สามีไปรับ-ส่งลูกเรียนแล้วก็ไปทำงาน
ตอนนี้ไม่รู้จะปรึกษาใครดี เครียดๆกันไปหมด เลยขอความเห็นหรือแนวทางจากทุกคนที่ผ่านมาอ่านด้วยนะคะ