สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน สืบเนื่องจากความอินดี้ที่อยากไปเที่ยวแบคแพคคนเดียวก็ซุ่มหาข้อมูลอยู่นานในที่สุดก็ได้เดินทางซักที
บอกไว้ก่อนทริปนี้น่าจะเรียกว่า หนีเที่ยว บอกแต่เพื่อนไม่ได้บอกพ่อแม่ (เด็กๆไม่ควรเอาเป็ยเยี่ยงอย่างนะแจ๊ะ ยิ่งเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว)

ทริปเราวันที่ 5-7 มค. 58 3 วัน 2 คืน

เริ่มจาก booking ตั๋วเครื่องสมัยก่อนปีใหม่ ใช่แล้วแอร์เอเชียที่เป็นข่าว ถามว่าไหม?

. กลัวสิคะพี่น้อง!
ลุ้นระทึกตั้งแต่เครื่องยังไม่ออก เนื่องจากเราาสาย วิ่งสุดชีวิตไปประตูเกตสุดท้ายของสนามบินดอนเมือง อีก 2 นาที เกตปิด! (เด็กๆไม่ควรเอาเป็นเยื่ยงอย่างนะคะเกือบตกไฟต์)

ได้ค่าเครื่องถูก 600 กว่าบาท ไปกลับรวมเป็น 1,535 บาท

บินๆไปกระบี่ เมฆหนาหน่อยวันนี้

ลงมาจากทางออกผู้โดยสารจะมีรถต่อไปอ่าวนางเป็น shuttle bus. 150 ไปอ่าวนาง 90 ไปตัวเมืองกระบี่

นี่คือหน้าตาตั๋วค่ะ มีเบอร์โทรติดต่อไว้โทรถามได้ว่ารถกลับสนามบินเมื่อไหร่ แต่จากที่เราไปเดินสำรวจมาที่อ่าวนางมีบริษัททัวร์ขายตั๋ว shuttle bus. มากมาย van ก็มี 150 เหมือนกันถึงเร็วกว่า รถพวกนี้รอบสุดท้ายคือ 18.00 น. แต่ต้องซื้อตั๋วก่อนนะโบกไม่ได้เด้อ~

รถก็จะพาเราวิ่งมาเรื่อยๆ ผ่านเขาสวยๆขวัญใจบรรดานักปีนเขาทั้งหลาย
เกิดแอคซิเด็นขึ้นระหว่างทาง คือคนขับรถจำที่พักเราผิดปล่อยเราลงก่อนถึงที่พักจริงตั้งไกล (ปล่อยลง MDF ซึ่งที่พักเราคือเยลโล่ ซันแบคแพคเกอร์ อยู่ใกล้ๆหาดอ่าวนาง) ยืนงงๆก่งก๊งเป็นเด็กหลงทางสิคะงานนี้ เพิ่งเคยมาต่างถิ่นแถมมาคนเดียวอีก แต่โชคดีมากค่ะที่เจอคุณน้าใจดีถามว่าจะไปไหนเลยพามาส่งถึงที่ ช่วยเราหาที่พัก ต้องขอบคุณมากๆเลย (คนกระบี่ใจดีมากค่ะ ^^)

นี่คือสถานที่ซุกหัวนอนค่ะ เป็นโฮสเทลรวมชายหญิง แน่นอนไม่มีคนไทยค่ะที่มาพักงวดนี้ (555 อินดี้อีกแล้ว ภาษาอังกฤษยังพูดไม่ได้เลยแท้ๆ) แต่เพราะราคาที่จองจาก agoda มัน 200 กว่าบาทซึ่งก็ถูกแล้วสำหรับมาคนเดียวแถมใกล้หาดก็เลยจองที่นี่ (ไม่รู้ด้วยนะว่าต้องเจอสภาพนี้)
รีบเก็บของทำตัวให้เบาแล้วเผ่นออกมา เดินมาอีกหน่อยถึงหาดอ่าวนาง

วันนี้ฟ้าไม่ค่อยเปิดแต่คลื่นสงบ ทะเลเรียบ

เดินมาสุดหาดมีอีกทางให้ไป อะไรก็ไม่รู้ไปดูหน่อย ปีนเขาข้ามไปอีกฝั่งเหนื่อยมากแต่พอเจอแบบนี้....

อยากจะทิ้งตัวลงทะเล

รู้สึกอยากจูงมือใครซักคนไปเดินด้วยจัง (เจอใครใครก็ทักมาคนเดียวไม่เหงาหรอ เอ่อ...หนูพยายามไม่เหงานะคะ)
เราข้ามกลับมาอีกฝั่งแล้วเริ่มออกเดินหาทริปเที่ยวถูกๆมีทั้งของสหกรณ์เรือ หรือบริษัททัวร์. แต่มาคนเดียวของสหกรณ์ให้เหมาเลยไปไม่ได้

(ยืมรูปจากอากู๋มา) เห็นราคาถูกๆพวกนี้คือ ต่อคนต่อเที่ยวนะคะ ไปกลับสมมุติไร่เลย์ 200 แล้วไปได้แค่ที่เดียวเน้อ
เดินมาเรื่อยๆเมื่อยก็ไม่หยุด ฟังเพลงเกี่ยวกับทะเลชิวๆมาตลอดทาง จนถึงหาดนพรัตน์ธารา

เป็นหาดยาวขนาดใหญ่. ช่วงที่เราไปคือประมาณ 12.00 น้ำกำลังเริ่มลง (เราก็งงเหมือนกันปกติน้ำน่าจะขึ้นช่วงเที่ยง) ก็เดินรอมทะเลชิวๆคนเดียว

ดูปูดูเปลือกหอยที่เกยบนหาด เยอะมาก

ตอนบ่ายฟ้าเริ่มสวยแล้ว เดินเรื่อยเปื่อยมาไกลจนถึงท่าเรือนพรัตน์ธารา

ตรงนี้จะเป็นคล้ายเกาะอยู่กลางทะเลพอน้ำลดคนจะนิยมพากันไปเดินที่เกาะนี้ ก็จะๆได้เห็นความสวยงามของทะเลและเกาะสวยๆอีกมุมหนึ่ง
หลังจากนั้นเราก็ปวดขามาเดินมาเกือบ 20 กิโล แต่ไม่มีรถกลับจากหาดนพรัตน์ (เราไม่ได้เช่ารถขับ รถสองแถวจะให้เหมาอย่างเดียวเลย. อ่ะเดินค่ะเดิน)
แวะเบี้ยใบ้รายทางหาทริปสำหรับวันพรุ่งนี้ให้ได้ แวะไปสะดุดตากะร้านอาหารริมทางตอนขากลับ

ร้านโรตี มิ๊ลละ ที่เลื่องชื่อจาก wongnai นั่นเอง

เมนูเยอะแยะ เราสั่งกล้วยชอกโกแลตกะน้ำขวดนึง

คุณป้าใจดีค่ะ โรตี 35 น้ำ 10 ป้าบอกลดให้ 5 บาท เหลือ 40 บาท อิอิ หรอยๆ

ตบท้ายด้วยนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวนาง ชิวๆ (แต่จริงๆละปวดขามากเลย 555)
สุดท้ายของวันเราได้ทริปวันต่อไปคือ 4 เกาะ เรือหางยาว 450 บาท
ไม่ได้แพลนอะไรมากจัดทริปวันต่อวัน หาข้อมูลแล้วเที่ยว พรุ่งนี้มารีวิว 4 เกาะต่อนะคะ
โปรดติดตามชมตอนต่อไป

มาๆใครมาเที่ยวกระบี่ ไปด้วยกันนะ อิอิ
[CR] ทริปแบคแพค แบกเป้ 1 ใบกับสตรีนางเดียวหนีเที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน
บอกไว้ก่อนทริปนี้น่าจะเรียกว่า หนีเที่ยว บอกแต่เพื่อนไม่ได้บอกพ่อแม่ (เด็กๆไม่ควรเอาเป็ยเยี่ยงอย่างนะแจ๊ะ ยิ่งเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว)
ทริปเราวันที่ 5-7 มค. 58 3 วัน 2 คืน
เริ่มจาก booking ตั๋วเครื่องสมัยก่อนปีใหม่ ใช่แล้วแอร์เอเชียที่เป็นข่าว ถามว่าไหม?
ลุ้นระทึกตั้งแต่เครื่องยังไม่ออก เนื่องจากเราาสาย วิ่งสุดชีวิตไปประตูเกตสุดท้ายของสนามบินดอนเมือง อีก 2 นาที เกตปิด! (เด็กๆไม่ควรเอาเป็นเยื่ยงอย่างนะคะเกือบตกไฟต์)
ได้ค่าเครื่องถูก 600 กว่าบาท ไปกลับรวมเป็น 1,535 บาท
บินๆไปกระบี่ เมฆหนาหน่อยวันนี้
ลงมาจากทางออกผู้โดยสารจะมีรถต่อไปอ่าวนางเป็น shuttle bus. 150 ไปอ่าวนาง 90 ไปตัวเมืองกระบี่
นี่คือหน้าตาตั๋วค่ะ มีเบอร์โทรติดต่อไว้โทรถามได้ว่ารถกลับสนามบินเมื่อไหร่ แต่จากที่เราไปเดินสำรวจมาที่อ่าวนางมีบริษัททัวร์ขายตั๋ว shuttle bus. มากมาย van ก็มี 150 เหมือนกันถึงเร็วกว่า รถพวกนี้รอบสุดท้ายคือ 18.00 น. แต่ต้องซื้อตั๋วก่อนนะโบกไม่ได้เด้อ~
รถก็จะพาเราวิ่งมาเรื่อยๆ ผ่านเขาสวยๆขวัญใจบรรดานักปีนเขาทั้งหลาย
เกิดแอคซิเด็นขึ้นระหว่างทาง คือคนขับรถจำที่พักเราผิดปล่อยเราลงก่อนถึงที่พักจริงตั้งไกล (ปล่อยลง MDF ซึ่งที่พักเราคือเยลโล่ ซันแบคแพคเกอร์ อยู่ใกล้ๆหาดอ่าวนาง) ยืนงงๆก่งก๊งเป็นเด็กหลงทางสิคะงานนี้ เพิ่งเคยมาต่างถิ่นแถมมาคนเดียวอีก แต่โชคดีมากค่ะที่เจอคุณน้าใจดีถามว่าจะไปไหนเลยพามาส่งถึงที่ ช่วยเราหาที่พัก ต้องขอบคุณมากๆเลย (คนกระบี่ใจดีมากค่ะ ^^)
นี่คือสถานที่ซุกหัวนอนค่ะ เป็นโฮสเทลรวมชายหญิง แน่นอนไม่มีคนไทยค่ะที่มาพักงวดนี้ (555 อินดี้อีกแล้ว ภาษาอังกฤษยังพูดไม่ได้เลยแท้ๆ) แต่เพราะราคาที่จองจาก agoda มัน 200 กว่าบาทซึ่งก็ถูกแล้วสำหรับมาคนเดียวแถมใกล้หาดก็เลยจองที่นี่ (ไม่รู้ด้วยนะว่าต้องเจอสภาพนี้)
รีบเก็บของทำตัวให้เบาแล้วเผ่นออกมา เดินมาอีกหน่อยถึงหาดอ่าวนาง
วันนี้ฟ้าไม่ค่อยเปิดแต่คลื่นสงบ ทะเลเรียบ
เดินมาสุดหาดมีอีกทางให้ไป อะไรก็ไม่รู้ไปดูหน่อย ปีนเขาข้ามไปอีกฝั่งเหนื่อยมากแต่พอเจอแบบนี้....
อยากจะทิ้งตัวลงทะเล
รู้สึกอยากจูงมือใครซักคนไปเดินด้วยจัง (เจอใครใครก็ทักมาคนเดียวไม่เหงาหรอ เอ่อ...หนูพยายามไม่เหงานะคะ)
เราข้ามกลับมาอีกฝั่งแล้วเริ่มออกเดินหาทริปเที่ยวถูกๆมีทั้งของสหกรณ์เรือ หรือบริษัททัวร์. แต่มาคนเดียวของสหกรณ์ให้เหมาเลยไปไม่ได้
(ยืมรูปจากอากู๋มา) เห็นราคาถูกๆพวกนี้คือ ต่อคนต่อเที่ยวนะคะ ไปกลับสมมุติไร่เลย์ 200 แล้วไปได้แค่ที่เดียวเน้อ
เดินมาเรื่อยๆเมื่อยก็ไม่หยุด ฟังเพลงเกี่ยวกับทะเลชิวๆมาตลอดทาง จนถึงหาดนพรัตน์ธารา
เป็นหาดยาวขนาดใหญ่. ช่วงที่เราไปคือประมาณ 12.00 น้ำกำลังเริ่มลง (เราก็งงเหมือนกันปกติน้ำน่าจะขึ้นช่วงเที่ยง) ก็เดินรอมทะเลชิวๆคนเดียว
ดูปูดูเปลือกหอยที่เกยบนหาด เยอะมาก
ตอนบ่ายฟ้าเริ่มสวยแล้ว เดินเรื่อยเปื่อยมาไกลจนถึงท่าเรือนพรัตน์ธารา
ตรงนี้จะเป็นคล้ายเกาะอยู่กลางทะเลพอน้ำลดคนจะนิยมพากันไปเดินที่เกาะนี้ ก็จะๆได้เห็นความสวยงามของทะเลและเกาะสวยๆอีกมุมหนึ่ง
หลังจากนั้นเราก็ปวดขามาเดินมาเกือบ 20 กิโล แต่ไม่มีรถกลับจากหาดนพรัตน์ (เราไม่ได้เช่ารถขับ รถสองแถวจะให้เหมาอย่างเดียวเลย. อ่ะเดินค่ะเดิน)
แวะเบี้ยใบ้รายทางหาทริปสำหรับวันพรุ่งนี้ให้ได้ แวะไปสะดุดตากะร้านอาหารริมทางตอนขากลับ
ร้านโรตี มิ๊ลละ ที่เลื่องชื่อจาก wongnai นั่นเอง
เมนูเยอะแยะ เราสั่งกล้วยชอกโกแลตกะน้ำขวดนึง
คุณป้าใจดีค่ะ โรตี 35 น้ำ 10 ป้าบอกลดให้ 5 บาท เหลือ 40 บาท อิอิ หรอยๆ
ตบท้ายด้วยนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวนาง ชิวๆ (แต่จริงๆละปวดขามากเลย 555)
สุดท้ายของวันเราได้ทริปวันต่อไปคือ 4 เกาะ เรือหางยาว 450 บาท
ไม่ได้แพลนอะไรมากจัดทริปวันต่อวัน หาข้อมูลแล้วเที่ยว พรุ่งนี้มารีวิว 4 เกาะต่อนะคะ
โปรดติดตามชมตอนต่อไป
มาๆใครมาเที่ยวกระบี่ ไปด้วยกันนะ อิอิ