อย่าคิดผิดมาซื้อคอนโดนี้เด็ดขาด!!!

เราเพิ่งซื้อคอนโดได้ไม่นานค่ะ ย้ายเข้าอยู่เมื่อปลายเดือนกันยาของปีที่แล้ว เหตุผลที่ซื้อที่นี่เลยคือ ทำเลค่ะ ตามมาด้วยแบบห้อง และราคา คอนโดนี้อยู่ในซอยเดียวกับสินสาธรทาวเวอร์ ติดป้ายขายอยู่ตอนนี้ว่าเริ่มต้นที่ 2.69 ล้าน อยากรู้ว่าที่ไหน หลังไมค์มาได้เลยค่ะ
    เซลล์บอกว่าห้องยังเหลืออีกประมาณ 40 ห้อง จากทั้งหมด 171 ห้องค่ะ นี่ขนาดเหลืออยู่ตั้ง 40  ห้อง สำนักงานขายก็อยู่ตรงข้ามโครงการแค่นี้ ยังติดต่อซ่อมนู่นนี่ ยากเลยค่ะ ละถ้าคนที่ซื้อตอนที่เค้าขายใกล้หมด หรือหมดแล้ว ละห้องมีปัญหาทั้งๆ ที่ยังอยู่ในประกัน จะตามให้โครงการมาซ่อมงานได้เหรอคะ

    ด้านล่างคือรูปห้องเรา ก่อนและหลัง แต่งค่ะ รวมถึงรูปห้องปัจจุบัน ตามลำดับค่ะ
รูปก่อนแต่ง


รูปหลังแต่ง


รูปมุมที่มีปัญหาปัจจุบัน


    ขออธิบายเพิ่มเติมจากภาพนะคะ อันนี้เป็น 1 ในปัญหาที่เราเจอค่ะ เริ่มจากแอร์ที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีกลิ่นเหม็นค่ะ แจ้งทางโครงการไป เค้าก็นัดช่างแอร์มาดูให้ค่ะ ช่างแอร์ของที่นี่คือ กลุ่มที่นัดง่ายสุดละค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะนัดได้แค่วันธรรมดา ซึ่งเราต้องลางานมาดูช่าง ในห้องนอน ช่างมาจัดการให้ 3 ครั้งละ ยังไม่หายเหม็น แต่ห้องนั่งเล่นนี่ มาครั้งแรกงานงอกเลยค่ะ คือหลังจากช่างมาล้างแอร์แล้วกลับไป เริ่มมีน้ำหยดค่ะ หยดจนนองพื้น แจ้งเซลล์ไป (ที่แจ้งเซลล์เพราะเค้าต้องดูและเราค่ะ ที่นี่โครงการเค้าเล็กๆ ณ ตอนนั้น โฟร์แมนก็ลาออก ทั้งโครงการมี โฟร์แมนคนเดียวค่ะ) เซลลบอกว่าช่างแอร์รถเสีย ไม่สามารถกลับมาดูให้ตอนนี้
    กว่าช่างแอร์จะมาได้อีกที ก็วันรุ่งขึ้น เราวานให้แฟนน้องชายมาช่วยอยู่ดูให้ค่ะ เพราะเราลางานติดๆ กันหลายวันไม่ได้ค่ะ แต่มีแว้บกลับมาดูตอนเที่ยง ภาพที่เห็นคือ Wallpaper เราเริ่มบวมเต่ง เพระาน้ำมันขังอยู่ข้างในค่ะ เราเลยเดินลงไปที่สำนักงานขายเพื่อให้เซลล์ขึ้นมาถ่ายรูป พร้อมดูความเสียหาย เพราะเรามองว่า นอกจากเค้าต้องจัดการเรื่องแอร์เค้าต้องซ่อม Wallpaper ให้เราด้วยค่ะ เพราะมันเสียหาย
    เซลล์บอว่าส่วนนี้ช่างแอร์ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช้โครงการ แต่เรามองว่าปัญหามันน่าจะมาจากในท่อของโครงการมากกว่าช่องแอร์ค่ะ ละในที่สุดก็ต้องสกัดผนังค่ะ ระหว่างที่ช่างกำลังอัดน้ำเข้าไป ก็เจอเศษปูนหลุดออกมาค่ะ ก้อนประมาณนิ้วโป้งเลย แต่เราไม่ทันถ่ายรูป เซลล์หยิบไปซะก่อนบอกว่าต้องเอาไปให้ผู้ใหญ่ดู ระหว่างนั้นช็อคด้วยค่ะ ห้องเพิ่งอยู่ เราก็เลยพูดกับเซลล์ว่าจากที่เห็นน่าจะเป็นโครงการละค่ะที่รับผิดชอบค่าใช้จ่าย เพราะว่าปัญหามันเป็นพราะมีเศษปูนไปค้างในท่อ ซึ่งมันเป็นงานระบบ ช่างแอร์เค้ามาทีหลัง (แอบสงสารช่างแอร์ เกือบโดนไป)

    เรื่องก็เหมือนจะจบลงด้วยดีค่ะ เรายอมให้เค้าต่อท่อลอยออกไปที่ระเบียง เพื่อที่ถ้ามีปัญหาอีก จะได้ไม่ต้องมานั่งสกัดผนังกัน แต่ต้องเก็บท่อให้เราดีๆ และหุ้มไปท่อดำๆ ถามรุ่นพี่ที่เป็นวิศวกร เค้าบอกว่ามันเรียกว่า "Insulation" รวมถึงทาสีผนังให้เราด้วย คุยกันจนเซลล์บอกว่าได้ค่ะ
เราก็กลับมาทำงานค่ะ แต่ออกมาได้ไม่ถึง 20 นาทีน้องแฟนบอก ช่างทำเสร็จละนะคะ แต่ไม่เห็นเค้าหุ้มอะไรเลย เป็นแค่ท้อฟ้าลอยๆ   (ตามภาพ)
    เรารีบโทรกลับไปถามเซลล์ค่ะ ว่าทำไมทำอย่างนั้น ได้คำตอบมาว่าถ้าเราจะหุ้ม Insulation เราต้องจ่ายเงินเอง 400 บาท เราเลยเถียงไปว่ามันไม่ใช่ส่วนที่เราควรจะจ่าย เพราะตอนเราซื้อห้อง ท่ออยู่ในผนังสวยงามแบบใช้การได้ นี่เรายอมให้เดินลอยเพื่อทีโครงการจะได้ไม่ต้องสกัดผนังเดินท่อใหม่ ซึ่งถ้าสกัดผนังขนาดนั้น ค่าใช้จ่ายโครงการจะมากกว่าแค่ 400 นะคะ เค้าก็ไม่ฟังค่ะ เค้าอ้างว่า ตึกด้านหน้าอีก 1 โครงการของเค้าก็ทำงี้ เราก็เถียงเค้าค่ะว่า ราคาห้องมันต่างกันเกือบ 2 เท่านะคะ เราก็ยังไม่ยอมค่ะ ทิ้งระยะแล้วโทรไปคุยใหม่ ใช้เวลาคุยอยู่ 3 รอบ เราเลยตัดสินใจว่า ขอเบอร์คนที่มีอำนาจตัดสินใจมา เราขอคุยเองโดยตรง เรื่องจบค่ะ เพราะเราอธิบายไปว่า ทำไมถึงต้องมีตัว Insulation หุ้ม มันไม่ใช่เรื่องของความสวยงาม แต่มันเป็นเรื่องของการใช้งาน อันนี้ต้องขอบคุณรุ่นพี่ที่เป็นวิศวกรค่ะ คำอธิบายเค้าชัด เคลียร์มากค่ะ
  
    มาต่อที่ Wallpaper เค้าจะขอเปลี่ยนแค่ที่มันพองออกมา เราก็บอกเค้าว่า ผนังมันชื้นนะคะ ถ้าไม่เปลี่ยนทั้งฝั่ง รามันจะขึ้นเอา เค้าเลยลองลอกเพิ่ม เห็นเลยค่ะมันไม่ใช่แค่ใต้แอร์ค่ะ มันทั้งผนังเลย แถมสีที่ทาไว้มีร่อนด้วยนะคะจากที่มันชื้น เราต้องเปลืองน้ำลายพอสมควรในการเจรจา กว่าจะจบเรื่อง Wallpaper ต้องมาลุ้นค่ะว่าจบจริงมั้ย ในวันที่ช่างมาติดค่ะ แต่แนวโน้มน่าจะดี โฟร์แมนที่มาใหม่ดูไฟแรงค่ะ และแก้งานให้เราได้หลายงานละ เช่น
-    ยกชักโครกเปลี่ยนให้ใหม่ แก้ปัญหาส้วมกดไม่ลง ซึ่งเราทนปัญหานี้มาเกือบ 3 เดือน
-    มีคราบน้ำหยดที่ฝ้าในห้องน้ำ แม้จะยังหาไม่ได้ว่าน้ำหยดจากไหน แต่ก็มาจัดการเปลี่ยนฝ้าให้ใหม่แล้ว อันนี้ต้องคอยสังเกตการณ์ค่ะ
-    แอร์ห้องนั่งเล่นหายเหม็น แต่ห้องนอนยังคงเหม็นอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาก่อนหน้านี้
-    กระเบื้องยาแนวร่อนและไม่แน่น ช่างลงปูนเพิ่มให้แล้ว ตอนแจ้งเซลล์ เซลล์บอกจะตามช่างเฟอร์มาทำ จริงๆ แล้วมันเป็นส่วนงานของช่างกระเบื้อง พอดีเราเจอช่างเลยถามช่าง ช่างบอกมีปูนอยู่พอดี เราเลยพุ่งตัวหาโฟร์แมนให้เค้าสั่งช่าง เลยได้ทำเลยค่ะ
-    เตาเราทำกับข้าวเกือบไฟไหม้ เพราะดันเอาสายไฟไปแนบใต้เตา ซึ่งเราบอกตั้งแต่ตรวจห้องละ ว่าให้เจาะรูที่ใต้เตาละทิ้งสายไฟลงมาดีกว่า แต่เค้ายืนยันว่าปลอดภัย พอตอนควันขึ้นเราตามเจ้าของที่รับเหมางานส่วนนี้มาดูพร้อมกันเลยได้แก้ไขค่ะ และเค้าบอกว่าจะไปแก้ไขสำหรับห้องที่รอขายด้วย

    รวมๆ แล้วปัญหามีตามมา 6 – 7 อย่าง ซึ่งปัญหาพวกนี้เป็นปัญหาที่ต้องอยู่แล้วถึงจะเจอ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตดีค่ะ เราเชื่อว่าทุกๆ โครงการต้องมีปัญหาแหละ แค่มากหรือน้อย แต่สิ่งที่เจ้าของโครงการควรทำคือ รีบแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ขายแล้วก็ไม่มาสนใจกัน
    ไปออกกำลังกายที่ Fitness ส่วนกลาง มีพี่ที่อยู่ชั้นอื่นย้ายมาพร้อมๆ เรา บ่นให้ฟังว่านัดโครงการยาก นัดละชอบเลื่อน ถือว่าของเราโชคดีค่ะคือ เค้าไม่กล้าเลื่อน อาจเพราะก่อนนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าต้องระมัดระวังเรื่องห้องเราค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ หายอึดอัดไปเยอะเลย 555

มาเพิ่มเติมเรื่องเตาค่ะ หลังจากที่แก้เรื่องสายไฟของเตาได้ไม่นาน เตาเราก็เสียค่ะ คือไม่ได้เปิด แต่ไฟพร้อมใช้งานขึ้นค่ะ ส่งไปซ่อมกลับมาก็ยังเหมือนเดิม เหนื่อย เลยเลิกตามละค่ะ ใช้วิธีถ้าทำอาหารเสร็จก็สับเบรกเกอร์เอา ส่วนเตาของห้องน้องสาวเรานี่หนักกว่าจนป่านนี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแม้แต่ครั้งเดียว ถามโฟร์แมนได้ความว่า ไม่มีเบอร์ติดต่อเตาแบรนด์ที่โครงการใช้ เงิบสิคะเรา
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่