ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ อ่านข่าวนี้แล้วเศร้าปนตกใจ เพราะ เพื่อนเราก็เพิ่งไปเที่ยวที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อนบอกว่าน่ากลัวมาก หน้าผาทั้งนั้นเลยและทางเดินแคบ เพื่อนถ่ายภาพมาให้ดูด้วยเหมือนที่เห็นในข่าวเลย ต่อไปนี้คิดว่าเขาคงเพิ่มความปลอดภัยแล้วแหละ

เนื้อข่าว
ลูกสาวและญาติของหญิงไทย ที่พลัดตกจากหน้าผาที่วัดชื่อดังในภูฏาน ระบุ ผู้ตายไม่ได้ถ่ายเซลฟี่อย่างที่เป็นข่าว
จากเหตุการณ์ นางนวรัตน์ บวรจิรภัทร์ อายุ 54 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทย ประสบอุบัติเหตุพลัดตกหน้าผาที่บริเวณวัดทักซัง ประเทศภูฏาน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงต่างประเทศ ประสานนำศพนางนวรัตน์ บินกลับเมืองไทยตั้งแต่ช่วงเย็น วันที่ 3 ม.ค.ที่ญาติได้ตั้งศพสวดพระอภิธรรม ที่วัดไพชยนต์พลเสพ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
โดยบรรยากาศบริเวณศาลาที่ตั้งศพ นางนวรัตน์ มีการประดับด้วยดอกไม้สีขาว โดยรูปหน้าศพเป็นภาพถ่ายนางนวรัตน์ เมื่อครั้งเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้บนโลงศพไม้ มีธงชาติภูฏานที่ใช้คลุมโลงด้วย
นายวุฒิ บวรจิรภัทร์ สามีของผู้เสียชีวิต บอกว่า ภรรยาเดินทางไปทำบุญกับกลุ่มเพื่อนที่ประเทศภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ยังได้โทรศัพท์พูดคุยกันอยู่ ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดข่าวร้ายขึ้น กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ภรรยาตกเขา ตนได้เกิดเกิดสำลัก แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนกลุ่มเพื่อนภรรยาได้โทรศัพท์มาบอกว่า ภรรยาพลัดตกภูเขาเสียชีวิต หลังขึ้นไปนมัสการพระที่ วัดทักซัง ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง แต่ระหว่างจะไปรับประทานอาหาร ก็เกิดพลัดตกลงมาเสียชีวิต เพราะทางเดินที่ลงมามีความกว้างเพียง 40-50 เซนติเมตรเท่านั้น จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป
ขณะที่ พระเครน บุตรชาย บอกว่า มารดาเดินทางไปทำบุญกับเพื่อนๆ โดยไปกับบริษัททัวร์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่อยากจัดงานอย่างเงียบๆ
ด้านน้องสาวผู้ตาย ไม่เชื่อว่าที่พี่สาวพลัดตกเขาสาเหตุมาจากการถ่ายรูปเซลฟี่ เพราะพี่สาวเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป แต่ชอบเดินทางไปทำบุญ บางครั้งเวลาไปทำบุญหรือนั่งสมาธิ ยังไม่พกโทรศัพท์ไปด้วยเลย ส่วนการเล่นเฟซบุ๊ก พี่สาวใช้ไม่เป็น แต่หลังจากมีการนำเสนอข่าว มีผู้โพสต์ทางออนไลน์ในแง่ลบกับผู้ตายที่รุนแรง ไม่เหมาะสม จนครอบครัวรับไม่ได้ ทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ยิ่งมาเจอพาดหัวข่าวพร้อมคำวิจารณ์ในโซเชียลอีก ยิ่งน้อยใจ แต่พยายามคิดในแง่ดีว่า พี่สาวได้เสียชีวิตในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว
ส่วนสาเหตุจะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ คงต้องรอผู้ที่เดินทางร่วมไปด้วยให้ข้อมูลที่แท้จริง ขณะที่ลูกสาวของนางนวรัตน์ก็ยืนยันว่า แม่ไม่ได้เซลฟี่ สำหรับศพนางนวรัตน์ จะตั้งบำเพ็ญกุศลไปจนถึง วันที่ 9 มกราคมนี้
หญิงไทยตกเขาภูฏาน ลูกสาวระบุแม่ไม่ได้ถ่ายเซลฟี่อย่างที่เป็นข่าว
ลูกสาวและญาติของหญิงไทย ที่พลัดตกจากหน้าผาที่วัดชื่อดังในภูฏาน ระบุ ผู้ตายไม่ได้ถ่ายเซลฟี่อย่างที่เป็นข่าว
จากเหตุการณ์ นางนวรัตน์ บวรจิรภัทร์ อายุ 54 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทย ประสบอุบัติเหตุพลัดตกหน้าผาที่บริเวณวัดทักซัง ประเทศภูฏาน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงต่างประเทศ ประสานนำศพนางนวรัตน์ บินกลับเมืองไทยตั้งแต่ช่วงเย็น วันที่ 3 ม.ค.ที่ญาติได้ตั้งศพสวดพระอภิธรรม ที่วัดไพชยนต์พลเสพ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
โดยบรรยากาศบริเวณศาลาที่ตั้งศพ นางนวรัตน์ มีการประดับด้วยดอกไม้สีขาว โดยรูปหน้าศพเป็นภาพถ่ายนางนวรัตน์ เมื่อครั้งเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้บนโลงศพไม้ มีธงชาติภูฏานที่ใช้คลุมโลงด้วย
นายวุฒิ บวรจิรภัทร์ สามีของผู้เสียชีวิต บอกว่า ภรรยาเดินทางไปทำบุญกับกลุ่มเพื่อนที่ประเทศภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ยังได้โทรศัพท์พูดคุยกันอยู่ ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดข่าวร้ายขึ้น กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ภรรยาตกเขา ตนได้เกิดเกิดสำลัก แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนกลุ่มเพื่อนภรรยาได้โทรศัพท์มาบอกว่า ภรรยาพลัดตกภูเขาเสียชีวิต หลังขึ้นไปนมัสการพระที่ วัดทักซัง ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง แต่ระหว่างจะไปรับประทานอาหาร ก็เกิดพลัดตกลงมาเสียชีวิต เพราะทางเดินที่ลงมามีความกว้างเพียง 40-50 เซนติเมตรเท่านั้น จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป
ขณะที่ พระเครน บุตรชาย บอกว่า มารดาเดินทางไปทำบุญกับเพื่อนๆ โดยไปกับบริษัททัวร์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่อยากจัดงานอย่างเงียบๆ
ด้านน้องสาวผู้ตาย ไม่เชื่อว่าที่พี่สาวพลัดตกเขาสาเหตุมาจากการถ่ายรูปเซลฟี่ เพราะพี่สาวเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป แต่ชอบเดินทางไปทำบุญ บางครั้งเวลาไปทำบุญหรือนั่งสมาธิ ยังไม่พกโทรศัพท์ไปด้วยเลย ส่วนการเล่นเฟซบุ๊ก พี่สาวใช้ไม่เป็น แต่หลังจากมีการนำเสนอข่าว มีผู้โพสต์ทางออนไลน์ในแง่ลบกับผู้ตายที่รุนแรง ไม่เหมาะสม จนครอบครัวรับไม่ได้ ทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ยิ่งมาเจอพาดหัวข่าวพร้อมคำวิจารณ์ในโซเชียลอีก ยิ่งน้อยใจ แต่พยายามคิดในแง่ดีว่า พี่สาวได้เสียชีวิตในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว
ส่วนสาเหตุจะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ คงต้องรอผู้ที่เดินทางร่วมไปด้วยให้ข้อมูลที่แท้จริง ขณะที่ลูกสาวของนางนวรัตน์ก็ยืนยันว่า แม่ไม่ได้เซลฟี่ สำหรับศพนางนวรัตน์ จะตั้งบำเพ็ญกุศลไปจนถึง วันที่ 9 มกราคมนี้