จากมติชนออนไลน์
ตร.เตรียมวางกรอบชัดเจนเวลาเล่นโคมลอยในทุกพื้นที่ที่มีสนามบิน หลังเกิดเหตุระทึกพัดเข้าเครื่องยนต์บางกอกแอร์เวย์สที่สนามบินท่าอากาศยานเชียงใหม่

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระทึกกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แบบแอร์บัส เอ 320 เที่ยวบินที่ พีจี 906 เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อเวลา 20.40 น. ของวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ขณะกำลังแท็กซี่เพื่อนำเครื่องไปจอด ณ หลุมจอดอากาศยาน ได้มีโคมลอยลอยมาตกในบริเวณแท็กซี่เวย์ และพัดเข้าเครื่องยนต์หมายเลข 2 จนทางสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน พีจี 220 ที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกันการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ให้ส่งผลอันตรายต่อเขตการบินนั้น
เมื่อวันที่ 3 มกราคม ทางท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่แจ้งว่า ตลอดทั้งวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมายังคงมีซากโคมลอยตกในเขตสนามบินอีกจำนวน 116 ลูก จากที่เมื่อวันที่ 1 มกราคม พบซากโคมลอยตกในเขตสนามบิน 206 ลูก แต่จนถึงช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ยังไม่พบซากโคมลอยแต่อย่างใด และว่า ในเบื้องต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่มีมาตรการในการดูแลความปลอดภัย โดยทางหอบังคับการบินจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บซากโคมลอยทันทีที่มีการตรวจพบ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับการสัญจรทางอากาศ
นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เร่งทำความเข้าใจกับบริษัททัวร์ ร้านอาหาร โรงแรม ให้งดปล่อยโคมลอย พร้อมทั้งชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบินของเครื่องบิน และเตรียมจัดประชุมทำความเข้าใจกับท้องถิ่นเรื่องการปล่อยโคมลอย เพื่อให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ จ.เชียงใหม่ ส่วนกรณีการขายโคมลอยบนทางเท้า ริมถนนทางหลวง ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยเฉพาะเส้นทางหลวงเชียงใหม่-ลำพูน มีการวางจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก จึงให้เร่งทำความเข้าใจกับท้องถิ่น รวมทั้งจัดชุดออกตรวจรอบตัวเมือง วัด ร้านค้า ถนนหลวง ให้หยุดจำหน่ายและปล่อยโคมลอย โดยล่าสุดทางส่วนกลางได้ประสานมาให้ใช้มาตรการช่วงเทศกาลลอยกระทงมาปรับใช้กับเทศกาลปีใหม่ไปก่อน จากนั้นจะหามาตรการออกมารองรับปัญหาที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
นายสนั่น ธรรมธิ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า โคมลอยอยู่คู่กับประเพณียี่เป็งเชียงใหม่หรือลอยกระทงมาช้านาน เพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชาพระเกศแก้วจุฬามณี รวมทั้งลอยเคราะห์โศกโรคภัย แต่ระยะหลังได้มีการนำมาลอยขึ้นฟ้ากันแบบเลอะเทอะ โฆษณาชวนเชื่อกันไปหลากหลาย ไม่มีการควบคุมจนก่อให้เกิดความสูญเสียตามมามากมาย สำนักสงฆ์บางแห่งในจังหวัดเชียงใหม่จัดให้มีการปล่อยโคมลอยพร้อมกันนับ 100,000 ลูก แบบไม่มีการดูแล เป็นอันตรายอย่างมาก เพราะลอยไปตกใส่บ้านเรือนประชาชนไหม้มาแล้วหลายหลัง แต่ก็ยังไม่มีใครตระหนักกัน
"ทุกวันนี้ยังปล่อยให้ลอยกันเรื่อยเปื่อย พูดเตือนมาตลอดจนไม่รู้จะพูดยังไง ก็ยังไม่เห็นมีใครสนใจ หรือต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ๆ ก่อน จึงจะล้อมคอกกัน ขอวิงวอนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้หยุดปล่อยโคมลอย อย่าเห็นแค่ความสวยงาม หรือหวังแค่ปล่อยทุกข์โศกของตัวเองแต่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น" นายสนั่นกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการเกี่ยวกับการเล่นโคมลอย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ว่า ที่ผ่านมามีมาตรการกำหนดเวลาให้เล่นได้หลังเวลา 21.00 น.
เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินขึ้นลงในพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะปีใหม่ ประชาชนจะนิยมเล่นโคมลอยกันมากในช่วงหัวค่ำ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการกำหนดขอบเขตและเวลาการเล่นโคมลอยให้ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่มีสนามบิน และให้ทุกกองบัญชาการเข้มงวดในการห้ามประชาชนเล่นโคมลอยก่อนเวลา 21.00 น. เพื่อความปลอดภัยทางการบิน ทั้งนี้ แม้ว่าการเล่นโคมลอยจะยังไม่มีความผิดตามกฎหมายโดยตรง แต่สามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายบรรเทาสาธารณภัยและกฎหมายความปลอดภัยทางการบิน ที่สามารถเอาผิดได้หากทำการกระทบต่ออากาศยาน และก่อให้เกิดอันตราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงต้องขอความร่วมมือประชาชนไม่ควรเล่นในช่วงที่เครื่องบินขึ้นลง เพราะอาจเกิดอันตรายได้
วันเดียวกันนี้ นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า จากวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ต่อเนื่องวันที่ 1 มกราคม ช่วงฉลองเคานต์ดาวน์บนอุทยานฯมีผู้ยิงปืน 1 ราย และจุดโคมลอย 2 ราย รวม 3 ราย ทางอุทยานฯได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 16 ที่ห้ามกระทำการ อาทิ ยิงปืน จุดพลุ ดอกไม้ไฟ ปล่อยโคมลอยบนอุทยานฯ เปรียบเทียบปรับ 500 บาทต่อคน
จี้"ทัวร์-โรงแรม"งดปล่อยโคม วางขายข้างถนนเจอจับ!?
ตร.เตรียมวางกรอบชัดเจนเวลาเล่นโคมลอยในทุกพื้นที่ที่มีสนามบิน หลังเกิดเหตุระทึกพัดเข้าเครื่องยนต์บางกอกแอร์เวย์สที่สนามบินท่าอากาศยานเชียงใหม่
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระทึกกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แบบแอร์บัส เอ 320 เที่ยวบินที่ พีจี 906 เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อเวลา 20.40 น. ของวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ขณะกำลังแท็กซี่เพื่อนำเครื่องไปจอด ณ หลุมจอดอากาศยาน ได้มีโคมลอยลอยมาตกในบริเวณแท็กซี่เวย์ และพัดเข้าเครื่องยนต์หมายเลข 2 จนทางสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน พีจี 220 ที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกันการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ให้ส่งผลอันตรายต่อเขตการบินนั้น
เมื่อวันที่ 3 มกราคม ทางท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่แจ้งว่า ตลอดทั้งวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมายังคงมีซากโคมลอยตกในเขตสนามบินอีกจำนวน 116 ลูก จากที่เมื่อวันที่ 1 มกราคม พบซากโคมลอยตกในเขตสนามบิน 206 ลูก แต่จนถึงช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ยังไม่พบซากโคมลอยแต่อย่างใด และว่า ในเบื้องต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่มีมาตรการในการดูแลความปลอดภัย โดยทางหอบังคับการบินจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บซากโคมลอยทันทีที่มีการตรวจพบ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับการสัญจรทางอากาศ
นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เร่งทำความเข้าใจกับบริษัททัวร์ ร้านอาหาร โรงแรม ให้งดปล่อยโคมลอย พร้อมทั้งชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบินของเครื่องบิน และเตรียมจัดประชุมทำความเข้าใจกับท้องถิ่นเรื่องการปล่อยโคมลอย เพื่อให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ จ.เชียงใหม่ ส่วนกรณีการขายโคมลอยบนทางเท้า ริมถนนทางหลวง ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยเฉพาะเส้นทางหลวงเชียงใหม่-ลำพูน มีการวางจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก จึงให้เร่งทำความเข้าใจกับท้องถิ่น รวมทั้งจัดชุดออกตรวจรอบตัวเมือง วัด ร้านค้า ถนนหลวง ให้หยุดจำหน่ายและปล่อยโคมลอย โดยล่าสุดทางส่วนกลางได้ประสานมาให้ใช้มาตรการช่วงเทศกาลลอยกระทงมาปรับใช้กับเทศกาลปีใหม่ไปก่อน จากนั้นจะหามาตรการออกมารองรับปัญหาที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
นายสนั่น ธรรมธิ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า โคมลอยอยู่คู่กับประเพณียี่เป็งเชียงใหม่หรือลอยกระทงมาช้านาน เพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชาพระเกศแก้วจุฬามณี รวมทั้งลอยเคราะห์โศกโรคภัย แต่ระยะหลังได้มีการนำมาลอยขึ้นฟ้ากันแบบเลอะเทอะ โฆษณาชวนเชื่อกันไปหลากหลาย ไม่มีการควบคุมจนก่อให้เกิดความสูญเสียตามมามากมาย สำนักสงฆ์บางแห่งในจังหวัดเชียงใหม่จัดให้มีการปล่อยโคมลอยพร้อมกันนับ 100,000 ลูก แบบไม่มีการดูแล เป็นอันตรายอย่างมาก เพราะลอยไปตกใส่บ้านเรือนประชาชนไหม้มาแล้วหลายหลัง แต่ก็ยังไม่มีใครตระหนักกัน
"ทุกวันนี้ยังปล่อยให้ลอยกันเรื่อยเปื่อย พูดเตือนมาตลอดจนไม่รู้จะพูดยังไง ก็ยังไม่เห็นมีใครสนใจ หรือต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ๆ ก่อน จึงจะล้อมคอกกัน ขอวิงวอนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้หยุดปล่อยโคมลอย อย่าเห็นแค่ความสวยงาม หรือหวังแค่ปล่อยทุกข์โศกของตัวเองแต่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น" นายสนั่นกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการเกี่ยวกับการเล่นโคมลอย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ว่า ที่ผ่านมามีมาตรการกำหนดเวลาให้เล่นได้หลังเวลา 21.00 น.
เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินขึ้นลงในพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะปีใหม่ ประชาชนจะนิยมเล่นโคมลอยกันมากในช่วงหัวค่ำ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการกำหนดขอบเขตและเวลาการเล่นโคมลอยให้ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่มีสนามบิน และให้ทุกกองบัญชาการเข้มงวดในการห้ามประชาชนเล่นโคมลอยก่อนเวลา 21.00 น. เพื่อความปลอดภัยทางการบิน ทั้งนี้ แม้ว่าการเล่นโคมลอยจะยังไม่มีความผิดตามกฎหมายโดยตรง แต่สามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายบรรเทาสาธารณภัยและกฎหมายความปลอดภัยทางการบิน ที่สามารถเอาผิดได้หากทำการกระทบต่ออากาศยาน และก่อให้เกิดอันตราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงต้องขอความร่วมมือประชาชนไม่ควรเล่นในช่วงที่เครื่องบินขึ้นลง เพราะอาจเกิดอันตรายได้
วันเดียวกันนี้ นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า จากวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ต่อเนื่องวันที่ 1 มกราคม ช่วงฉลองเคานต์ดาวน์บนอุทยานฯมีผู้ยิงปืน 1 ราย และจุดโคมลอย 2 ราย รวม 3 ราย ทางอุทยานฯได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 16 ที่ห้ามกระทำการ อาทิ ยิงปืน จุดพลุ ดอกไม้ไฟ ปล่อยโคมลอยบนอุทยานฯ เปรียบเทียบปรับ 500 บาทต่อคน