สงสารเพนนี ใครรู้สึกเหมือนเราบ้าง

ในบางสถานการณ์ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก
พูดอะไรไม่ได้ พูดอวย ชื่นชม ก็มองว่า เฟค ซึ่งนิสัยก็คงไม่ใช่คนแบบนั้น
พูดตรง ก็กลายเป็นว่า  อิจฉาบ้างละ แขวะบ้างละ ไม่เห็นบุญคุณบ้างละ

เพนนี เป็นคนรักความเป็นธรรม  และเห็นใจคนอื่น
เพนนีไม่ได้ใช้อารมณ์เข้าข้างใคร มองตามความเป็นจริง และก็เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น
เช่น ตอนคาริสา เพนนีก็ไม่อยากให้พลอยไปพูดซ้ำเติมอีก เพราะเจ็บปวดมามากแล้ว
หรือตอนพลอยร้องไห้ เพนนีก็ยืนอยู่ข้างๆ แต่ไม่ได้ปลอบอะไร ยืนให้กำลังใจ และก็เข้าใจลูกเกดที่ต้องการจะเคลียร์รออยู่หน้าห้อง

ตอนที่เพื่อนๆ คุยกันถึงแคมเปญที่สอง เพนนีปกป้องพลอยเสียงหลงเลยว่า พี่พลอยไม่รู้ ...

เพนนีไม่ใช่คนพูดประจบหรือหวังให้ใครให้กำลังใจอะไร เป็นคนที่แบบพลอยเคยบอกว่า "เพนนีค่อนข้างหัวแข็ง แต่เขาก็เปิดใจยอมรับอะไรบ้างแล้ว" เพราะเธอมีวิจารณญาณของตัวเอง  อะไรใช่ ก็คือ ใช่ ไม่ใช่ ใจเธอก็จะค้านว่า ไม่ใช่ อย่างตอนที่เธอเตือนคาริสา แล้วพลอยบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่อะไรของเพนนีที่จะมาว่าคาริสา พลอยบอกว่า พลอยไม่ได้เข้าข้างคาริสา แต่ความรู้สึกของเพนนี รู้สึกว่า มันไม่ใช่ ... และเธอก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้แขวะ หรือ จิกอะไร เธอพยายามพูดออกมาด้วยหลักการและเหตุผล แต่ก็ ................................

บางที ทัศนคติ  อุปนิสัย ของเพนนี กับ เมนเทอร์ ก็อาจจะมองอะไรไม่เหมือนกัน เลยทำให้เพนนีเลือกจะไม่พูดถึงพลอยในแง่ของแนวความคิด แต่พูดแบบรวมๆ ว่า เมนเทอร์ทุกคน (รวมทั้งพลอย) ก็เหมือนแม่ที่ดูแลลูก แม่ที่ดูแลลูก ก็ดูแลกันคนละแบบ แม่แต่ละคนก็เลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน แบบเพนนี เธอคงเจอแม่แบบมีเหตุผล พูดอะไรชัดเจน (อันนี้เราไม่รู้จักเพนนีเป็นส่วนตัวนะ แต่เดาเอา) แต่พลอยเป็นแม่แบบปกป้องดูแลลูก  พูดกับลูกดีๆ ให้ลูกสบายใจ มีความสุข (สังเกตจากการที่ส่งใครเข้าห้องดำ พลอยจะพูดให้กำลังใจเสมอ จนแอนน้อยใจ  พี่พลอยบอกว่า หนูสวย  แล้วทำไมพี่พลอยส่งหนูเข้ามาในห้องนี้ แอนจะจากไปแบบมีอะไรติดค้างในใจว่า ทำไมเธอทำได้ดีแล้วเธอต้องออก เพราะถ้าพลอยชี้จุดอ่อนให้ฟังชัดเจนแทนการให้กำลังใจ เด็กจะไม่จากไปแบบค้างคาใจเลย) ความชัดเจนของพลอยไม่ค่อยมี  เพราะเธอมีความเป็นศิลปิน ไม่มีบทสรุปอะไร ไม่มีคำตอบอะไร เปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ ซึ่งลักษณะบุคลิกแบบนี้ไม่ใช่แบบเพนนี  เพนนีมีลักษณะของคนที่มีความชัดเจน แจ่มชัด แม้แต่กับความรู้สึกของตัวเอง

เพนนี น่าสงสารมาก เธอได้รับโอกาสจากพลอยก็จริง เพราะพลอยเห็นแววอะไรบางอย่างในตัวเพนนี ที่คนอื่นไม่สนใจ เพราะพลอยมีเซ้นส์ในการมองคนแตกต่างจากคนอื่น แต่ระยะเวลาเพียง ๓ เดือน เพนนี กับ พลอย จูนคลื่นความคิดเข้าหากันไม่ได้สักที  คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักสองคนนี้จะเข้าใจกันและกัน และเชื่อว่า พลอย กับ เพนนี จะมีความผูกพันกันลึกซึ้งกว่าใครๆ เพราะผ่านอะไรมาด้วยกัน

ในวีคสุดท้ายก่อนจะคัดผู้เข้าแข่งขันให้เหลือ ๔ คน เราจำได้ว่า ทีมพลอยจะให้เข้ามาคุยกับพลอยทีละคน เพราะเธอบอกว่า เราไม่ค่อยได้คุยกันมากสักเท่าไหร่เลยนะ ... และการคุยกันระหว่างพลอยกับเพนนี ก็คุยกันแบบเรียกว่า ยังไม่เปิดใจกันสักเท่าไหร่ก็ว่าได้  เรารู้สึกอย่างนั้น แต่ลักษณะการคุยกันของทั้งสอง ดูเหมือนกับว่า พลอยมีคำตอบแล้วว่า จะเลือกเพนนีเข้าไฟนอล ในประโยคสุดท้ายที่ถามว่า "คิดว่า เดอะเฟซไทยแลนด์ เป็นไง เหมาะไหม" แล้วเขาก็หัวเราะกัน แต่กับคาริสา กลายเป็นว่า คาริสามาระบายความรู้สึก แล้วก็ร้องไห้ มีแต่ความเครียด ความกังวล และพลอยก็รู้สึกเสียใจ จะร้องไห้ คนละอารมณ์กับที่คุยกับเพนนี

รายละเอียดของรายการนี้ มีอะไรอีกมากมายที่ต้องมาวิเคราะห์ศึกษา ไม่ใช่เพียงผิวเผินแค่คำพูด คำให้สัมภาษณ์ หรือแค่พฤติการณ์บางอย่าง ... และกระแสก็ไปโหมกระหน่ำ ตัดสิน สรุปออกมาว่า คนโน้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้  ถ้าเชื่อมโยงและลองดูกันอย่างถี่ถ้วน จะมีความเป็นเหตุเป็นผลของมันเปิดเผยออกมา มีความงดงามที่ร้อยเรียงอยู่ในรายการนี้หลายอย่างเลยทีเดียว แต่ตอนนี้เราสงสารเพนนีมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไร ผิดตลอด เพราะใครๆ ก็เฝ้าจับตามอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่