[SR] รีวิว Microsoft Lumia 535 โดยทีมงาน AppDisqus ดี แต่เคยดีกว่านี้

ที่มา: AppDisqus



เปิดตัวและวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมือถือตระกูล Lumia ตัวแรกที่วางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Microsoft อย่าง Microsoft Lumia 535 ที่มาพร้อมคอนเซปท์ 555 หน้าจอ 5 นิ้ว กล้องหน้า 5MP และกล้องหลัง 5MP นั่นเอง

เจ้ามือถือตัวนี้ได้รับความสนใจในบ้านเราพอสมควร เนื่องจากคอนเซปท์ 555 ของมันที่มาในราคาเบาๆเพียง 4,490 บาท ซึ่งเราจะมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว เจ้า Lumia 535 นี้จะดี คุ้มกับราคาแบบที่หลายๆคนคาดหวังหรือไม่


** สำหรับผู้ที่ชอบดูวิดีโอมากกว่า คุณนพเคยทำวิดีโอรีวิวสำหรับรุ่นนี้เอาไว้แล้วที่นี่ครับ

** ส่วนข้อด้อยของระบบ Windows phone เรื่องแอพน้อยผมขอละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ (ว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีแอพเท่ากับระบบอื่นๆ ถึงจะเริ่มมีแอพดังๆเข้ามามากขึ้นก็ตาม

รีวิวนี้จะประกอบไปด้วยหัวข้อต่างๆตามดังนี้

แกะกล่อง
แรกสัมผัสและการออกแบบ
สเปคและผลการทดสอบ
หน้าจอ
เฟิร์มแวร์ล่าสุดกับ Lumia Denim และระบบปฏิบัติการ Windows phone 8.1 update
กล้องและผลการถ่ายภาพ
ความบันเทิง การเล่นเกมส์และดูหนังฟังเพลงและการใช้งานเป็นโทรศัพท์
แบตเตอร์รี่
สรุปผล



แกะกล่อง

เช่นเคยครับ ที่คุณนพเองก็ทำวิดีโอแกะกล่องของมือถือรุ่นนี้เอาไว้แล้ว เพื่อไม่ให้รีวิวนี้ยาวเกินไป ผมขอบยกส่วนแกะกล่องมาไว้ที่นี่นะครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แต่จะขอกล่าวถึงข้อมูลเล็กๆน้อยๆของรุ่นนี้ก่อนเข้าสู่ส่วนรีวิวคือ เจ้า Microsoft Lumia 535 นี้เป็นมือถือ Lumia รุ่นแรกที่มาพร้อมกับแบรนด์ Microsoft ซึ่งนั่นทำให้ทั้งตัวเครื่อง กล่อง สายชาร์จ หูฟัง รวมถึงแม้แต่แบตเตอร์รี่เองก็มีโลโก้ Microsoft ติดให้เห็นครับ เรียกว่าทิ้งแบรนด์ Nokia มาเป็น Microsoft แบบเต็มที่เลยทีเดียว


ในชุดจัดจำหน่ายประกอบไปด้วยตัวเครื่อง สายชาร์จ Microsoft AC-18U ที่เป็นแค่สายชาร์จ ไม่สามารถถอดออกมาเป็นสาย USB ได้ (เพราะฉะนั้นหากจะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ต้องหาสาย USB มาเองนะครับ) และชุดหูฟัง WH-108 ตัวเดิมของ Nokia ที่ทำมาสำหรับมือถือรุ่นกลางถึงล่าง ซึ่งมีคุณภาพเสียงแบบธรรมดาๆ พอฟังได้เท่านั้น

ส่วนตัวก็อยากให้ Microsoft ปรับปรุงหูฟังให้มีคุณภาพที่สูงกว่านี้อีกหน่อย แต่ด้วยราคาที่วางจำหน่าย ชุดหูฟังที่ได้มานี้ก็อาจจะเหมาะสมแล้วก็ได้ครับ




แรกสัมผัสและการออกแบบ

Microsoft Lumia 535 ยังคงคอนเซปท์การออกแบบตามแนวทางมือถือ Lumia ในปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลง แนวทางการออกแบบเป็นแบบ Bucket คล้ายๆกับ Lumia 530 และ Lumia 630 ที่วางจำหน่ายในปีนี้ ตัวเครื่องมีขนาด 140.2 x 72.4 x 8.8 มม. ซึ่งมีขนาดเท่าๆกับ Lumia 930 และ 830 ที่มีขนาดหน้าจอเท่าๆกัน


เทียบกับ Lumia 930 (ขวา) ที่มีหน้าจอขนาดเท่ากัน จะเห็นได้ว่า Lumia 535 (ซ้าย) มีขนาดเครื่องที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย

และด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ทำให้เจ้ามือถือรุ่นนี้เป็นมือถือราคาประหยัดที่มาพร้อมกับขนาดเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร แต่สิ่งที่ทำออกมาได้ดีคือน้ำหนักที่ต้องบอกว่ากำลังดีคือ 146 กรัม (เบากว่า Lumia 830 เล็กน้อย) และด้วยความหนาที่ไม่หนาเกินไป (บางกว่า Lumia 830 ด้วย) จึงทำให้ขนาดเครื่องของเจ้า Lumia 535 นั้นเหมาะมือมากๆครับ

แต่สิ่งที่ต้องติจุดแรกของมือถือรุ่นนี้คือเรื่องของงานประกอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยต้องพูดถึงเลยสำหรับการรีวิวมือถือจาก Nokia แต่สำหรับ Lumia 535 ไม่เป็นอย่างนั้นครับ

ด้วยความที่ฝาหลังของ Lumia 535 นั้นสามารถถอดได้เพราะฉะนั้นหากฝาหลังและตัวเครื่องจะไม่เรียบสนิทแบบเป็นเนื้อเดียวกันนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ว่าสำหรับ Lumia 535 ไม่อยู่ในระดับที่ปกติ เพราะเมื่อเราบีบฝาหลังในบริเวณต่างๆ หรือลองจับตัวเครื่องเขย่าดู จะพบว่าจะรู้สึกได้ถึงการที่ฝาหลังไม่แนบสนิทกับตัวเครื่อง และรู้สึกได้ถึงช่องว่างระหว่างตัวเครื่องกับฝาหลังที่ค่อนข้างชัดเจน


กรอบเครื่องและหน้าจอไม่เรียบสนิท ไม่ถึงกับเอาอะไรสอดเข้าไปได้แต่ว่าเมื่อกดดูจะรู้สึกได้


อีกประเด็นหนึ่งของฝาหลังคือ คุณภาพของพลาสติกที่ใช้เป็นฝาหลังที่บางลงกว่ารุ่นก่อนหน้า และดูจะมีคุณภาพที่ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจุดนี้ขึ้นกับการยอมรับได้ของแต่ละคนแล้วครับว่า ความบางของฝาหลังนั้นจะหมายถึงคุณภาพแย่หรือไม่ (ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าไม่ แต่ประเด็นแรกจะสำคัญกว่า)


ฝาหลังบางลงเยอะ และคุณภาพดูจะด้อยกว่ารุ่นก่อนๆ


ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะไมได้ส่งผลต่อการใช้งาน แต่ว่ามันน่าจะส่งผลต่อความรู้สึกในการใช้งานของแฟนๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นมือถือรุ่นที่เปลี่ยนฝาหลังได้ของ Nokia อย่าง Lumia 530, 630, 730 นั้น เราไม่เคยเจอปัญหานี้มาก่อน เพิ่งมีเจ้า Lumia 535 ที่เป็นแบบนี้

เพราะฉะนั้นนี่เป็นการบ้านที่ Microsoft ต้องกลับไปปรับปรุงสำหรับมือถือรุ่นต่อไปของตัวเอง และเป็นการบ้านใหญ่ที่ต้องทำให้แฟนๆรู้สึกว่า คุณภาพงานประกอบของมือถือ Lumia ไม่ได้ด้อยลงหลังการเปลี่ยนผ่านมาสู่มือของ Microsoft

แต่ข้อดีในแง่ของการออกแบบของเจ้า Lumia 535 คือการกลับมาของฝาหลังสีฟ้าหรือ Cyan ที่หายไปนาน ซึ่งส่วนตัวผมชอบสีนี้มากๆ ยิ้ม


มุมมองด้านต่างๆของตัวเครื่องมีดังนี้

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มหรือพอร์ตการเชื่อมต่อใดๆ



ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.



ด้านซ้ายมีปุ่ม เพิ่มเสียง ลดเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่องตามมาตรฐานของมือถือ Lumia รุ่นกลางถึงล่าง (ไม่มีปุ่มชัตเตอร์) ข้อดีของปุ่มทั้ง 3 ของ Lumia 535 คือยังผลิตด้วยวัสดุที่เรียกว่าเซอร์โคเนียมเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่ให้ความรู้สึกดีตอนสัมผัสเช่นเคย



ปุ่มกดที่ยังคงสัมผัสที่ดีเหมือนรุ่นก่อนๆ


ด้านล่างมีพอร์ต Micro USB สำหรับการชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์



บริเวณด้านบนของตัวเครื่องมีโลโก้ Microsoft ชัดเจน เป็นครั้งแรกของมือถือ Lumia และถัดมาในรูปจะเห็นเซ็นเซอร์ต่างๆได้แก่เซ็นเซอร์วัดระยะ (Proximity sensor) และเซ็นเซอร์วัดแสง (Ambient light sensor) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มือถือราคาประหยัดระดับนี้จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่จัดเต็มแบบนี้ และทำให้เจ้า Lumia 535 สามารถใช้งานคุณสมบัติ Gesture ต่างๆที่ Microsoft พัฒนาเพิ่มเติมสำหรับมือถือ Lumia ได้ครบทุกฟังก์ชั่น (อ่านรายละเอียดได้จากที่นี่) และด้านขวาสุดจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5MP ที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นหลักของมือถือรุ่นนี้



ด้านหลังเป็นที่อยู่ของโมดูลกล้องความละเอียด 5 MP ซึ่งคุณภาพเรียกว่าใช้งานได้ และยังมาพร้อมกับไฟแฟลช ที่ไม่เคยมีอยู่ในมือถือรุ่นราคาประหยัดในตระกูล Lumia มาก่อนเช่นกัน ถึงแม้คุณภาพของ LED แฟลชเดี่ยว ดวงเล็กๆนี้จะไม่ได้มีคุณภาพสูงมาก แต่ก็ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ

และที่ขาดไม่ได้ โลโก้ Microsoft ที่ฝาหลังเป็นครั้งแรกเช่นกัน



บริเวณด้านล่างของฝาหลังเป็นที่อยู่ของลำโพง ซึ่งส่วนตัวผมเอง จากที่ลองใช้งานทั้งการดูหนังและฟังเพลง ต้องบอกว่าคุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ให้มิติที่อยู่ในระดับกลางๆ อาจจะดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Lumia 730 ซะด้วยซ้ำ (แต่ถ้าเร่งเสียงมากๆ ก็มีเสียงแตกของลำโพงให้เราได้ยินเล็กน้อย)

แต่ข้อด้อยของมันคือด้วยความที่ตัวลำโพงถูกวางเอาไว้ในตำแหน่งระนาบเดียวกับฝาหลัง ทำให้เมื่อเราวางตัวเครื่องแบบหงายหน้าไว้จะทำให้เสียงลำโพงหายไปพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก



ตัวเครื่อง Lumia 535 สามารถถอดฝาหลังได้ และการถอดฝาหลังก็ทำได้ง่ายๆ แค่เพียงงัดตัวเครื่องออกจากฝาหลังเบาๆเท่านั้นก็สามารถถอดได้แล้วครับ



เมื่อถอดฝาหลังออกมาแล้ว จะเจอกับแบตเตอร์รี่ความจุ 1905 mAh ที่พะยี่ห้อ Microsoft มาด้วยเช่นกัน



และที่ตัวเครื่องจะเจอช่องเสียบซิมแบบไมโครซิมจำนวน 2 ช่อง (Dual-sim) ซึ่งเจ้า Lumia 535 รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่ายในบ้านเราทั้งหมด โดยการเชื่อมต่อนั้นจะสามารถเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วสูงสุดคือ 3G และช่องเสียบ Micro SD Card ที่รองรับความจุสูงสุด 128 GB
ชื่อสินค้า:   Microsoft Lumia 535, Lumia 535
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่