นี่อาจเป็นคดีความที่จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ให้วงการสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และนานาอุปกรณ์ไอทีพกพา เพราะล่าสุดชาวอเมริกัน 2 รายยื่นเรื่องฟ้องศาลแคลิฟอร์เนียให้คุ้มครองกรณีซื้อไอโฟนและไอแพดที่บริษัทแอปเปิลระบุว่ามาพร้อมหน่วยความจำ 16GB แต่เมื่อใช้งานจริงกลับมีพื้นที่เหลือเพียง 12.2GB เท่านั้น ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะพื้นที่เก็บข้อมูลหายไปจากที่โฆษณาไว้ถึง 18%
สื่ออเมริกันรายงานว่า คำฟ้องแอปเปิลที่ศาลแคลิฟอร์เนียนั้นลงวันที่ 30 ธันวาคม 2014 ที่ผ่านมา ยื่นโดยพอล ออร์ชาน (Paul Orshan) และคริสโตเฟอร์ เอ็นดารา (Christopher Endara) ชาวเมืองไมอามี คำฟ้องระบุว่าทั้งไอโฟนและไอแพดรุ่น 16GB ที่ซื้อมานั้นมีพื้นที่เก็บข้อมูลใช้งานจริงน้อยกว่าคำโฆษณาที่แอปเปิลให้คำมั่นหรือประกาศไว้ แถมเมื่ออัปเกรดระบบปฏิบัติการจาก iOS 7 เป็น iOS 8 ก็ยิ่งทำให้พื้นที่น้อยลงไปอีก
ในฟ้องมีการเปรียบเทียบให้เห็นว่า พื้นที่หน่วยความจำที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานในไอโฟนและไอแพดนั้นคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของคำโฆษณา ตัวอย่างเช่น iPhone 5s รุ่น 16GB จะมีพื้นที่ซึ่งผู้ใช้สามารถเก็บข้อมูลได้เพียง 12.2GB เท่านั้น ทำให้พื้นที่ราว 18.1% ไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่ไอแพดที่ถูกโฆษณาว่ามีหน่วยความจำ 16GB นั้นสามารถใช้งานจริงได้ 11.7GB เท่ากับพื้นที่ 21.3% ผู้ใช้ไม่สามารถจัดการใดๆ
คำฟ้องระบุว่าแอปเปิลไม่ยอมเปิดเผยข้อจำกัดเรื่องขนาดของระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด iOS 8 ในสื่อการตลาด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับทราบข้อมูลรอบด้าน ขณะเดียวกัน แอปเปิลยังพยายามผลักดันให้ผู้ใช้หันไปเก็บไฟล์ภาพหรือเอกสารบนบริการฝากไฟล์ออนไลน์ iCloud ซึ่งมีรูปแบบเสียค่าบริการหากต้องการพื้นที่เพิ่มเติม
ฟ้อง Apple โฆษณา iPhone 5s 16GB แต่ใช้จริงได้แค่ 12.2GB
ตารางปรียบเทียบพื้นที่เก็บข้อมูลที่หายไปในไอโฟนและไอแพดแต่ละรุ่น
ในเอกสารยังระบุด้วยว่า แอปเปิลทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์เนื่องจากไม่ยอมประสานงานกับผู้ผลิตสตอเรจและผู้ให้บริการเครื่องมือโอนย้ายข้อมูลรายอื่นหรือ third-party ทำให้ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกอื่นหากต้องการถ่ายโอนไฟล์
คำฟ้องของชาวอเมริกันทั้งคู่พยายามทำให้ศาลเห็นว่า พื้นที่ 1 ใน 5 ของคำโฆษณาที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานได้นี้เป็นพื้นที่ไม่น้อย โดยแต่ละกิกะไบต์ที่หายไปนั้นสามารถเก็บไฟล์ภาพความละเอียดสูงได้มากกว่า 400-500 ภาพ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์ชัดเจน
ล่าสุดแอปเปิลยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆต่อคำฟ้องที่เกิดขึ้น แต่มีโอกาสสูงที่แอปเปิลจะชี้แจงว่า ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งระบบปฏิบัติการลงในเครื่องหรือไม่ก็ได้ จุดนี้ต้องขึ้นอยู่กับศาลอเมริกันว่าจะตัดสินคดีนี้อย่างไรในอนาคต ซึ่งไม่แน่ ผลของคดีนี้อาจทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์พกพารายอื่นหันมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงคำโฆษณาพื้นที่เก็บข้อมูลในสินค้าของตัวเองเช่นกัน
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000000500 
ความชัดเจนเรื่องความจุอุปกรณ์ มีคนฟ้องซะที
สื่ออเมริกันรายงานว่า คำฟ้องแอปเปิลที่ศาลแคลิฟอร์เนียนั้นลงวันที่ 30 ธันวาคม 2014 ที่ผ่านมา ยื่นโดยพอล ออร์ชาน (Paul Orshan) และคริสโตเฟอร์ เอ็นดารา (Christopher Endara) ชาวเมืองไมอามี คำฟ้องระบุว่าทั้งไอโฟนและไอแพดรุ่น 16GB ที่ซื้อมานั้นมีพื้นที่เก็บข้อมูลใช้งานจริงน้อยกว่าคำโฆษณาที่แอปเปิลให้คำมั่นหรือประกาศไว้ แถมเมื่ออัปเกรดระบบปฏิบัติการจาก iOS 7 เป็น iOS 8 ก็ยิ่งทำให้พื้นที่น้อยลงไปอีก
ในฟ้องมีการเปรียบเทียบให้เห็นว่า พื้นที่หน่วยความจำที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานในไอโฟนและไอแพดนั้นคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของคำโฆษณา ตัวอย่างเช่น iPhone 5s รุ่น 16GB จะมีพื้นที่ซึ่งผู้ใช้สามารถเก็บข้อมูลได้เพียง 12.2GB เท่านั้น ทำให้พื้นที่ราว 18.1% ไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่ไอแพดที่ถูกโฆษณาว่ามีหน่วยความจำ 16GB นั้นสามารถใช้งานจริงได้ 11.7GB เท่ากับพื้นที่ 21.3% ผู้ใช้ไม่สามารถจัดการใดๆ
คำฟ้องระบุว่าแอปเปิลไม่ยอมเปิดเผยข้อจำกัดเรื่องขนาดของระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด iOS 8 ในสื่อการตลาด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับทราบข้อมูลรอบด้าน ขณะเดียวกัน แอปเปิลยังพยายามผลักดันให้ผู้ใช้หันไปเก็บไฟล์ภาพหรือเอกสารบนบริการฝากไฟล์ออนไลน์ iCloud ซึ่งมีรูปแบบเสียค่าบริการหากต้องการพื้นที่เพิ่มเติม
ฟ้อง Apple โฆษณา iPhone 5s 16GB แต่ใช้จริงได้แค่ 12.2GB
ตารางปรียบเทียบพื้นที่เก็บข้อมูลที่หายไปในไอโฟนและไอแพดแต่ละรุ่น
ในเอกสารยังระบุด้วยว่า แอปเปิลทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์เนื่องจากไม่ยอมประสานงานกับผู้ผลิตสตอเรจและผู้ให้บริการเครื่องมือโอนย้ายข้อมูลรายอื่นหรือ third-party ทำให้ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกอื่นหากต้องการถ่ายโอนไฟล์
คำฟ้องของชาวอเมริกันทั้งคู่พยายามทำให้ศาลเห็นว่า พื้นที่ 1 ใน 5 ของคำโฆษณาที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานได้นี้เป็นพื้นที่ไม่น้อย โดยแต่ละกิกะไบต์ที่หายไปนั้นสามารถเก็บไฟล์ภาพความละเอียดสูงได้มากกว่า 400-500 ภาพ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์ชัดเจน
ล่าสุดแอปเปิลยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆต่อคำฟ้องที่เกิดขึ้น แต่มีโอกาสสูงที่แอปเปิลจะชี้แจงว่า ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งระบบปฏิบัติการลงในเครื่องหรือไม่ก็ได้ จุดนี้ต้องขึ้นอยู่กับศาลอเมริกันว่าจะตัดสินคดีนี้อย่างไรในอนาคต ซึ่งไม่แน่ ผลของคดีนี้อาจทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์พกพารายอื่นหันมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงคำโฆษณาพื้นที่เก็บข้อมูลในสินค้าของตัวเองเช่นกัน
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้