ชวน เชื่อคนไทยยังไม่เข้าใจระบอบ ปชต.ดีพอ แม้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว 82 ปี



“ชวน หลีกภัย” ชี้ผู้ใช้รัฐธรรมนูญทำให้เกิดปัญหา ไม่ใช่เนื้อหาในรัฐธรรมนูญ  วิจารณ์
การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเกิดขึ้นมา 82 ปีแล้ว แต่คนไทยยังไม่มีความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ดีพอ
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ “สำนักข่าวไทย” ถึงแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีก ว่า ต้องดูกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามาจากรัฐธรรมนูญหรือไม่  แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใช้กฎหมาย เป็นนักการเมืองที่เคยอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เห็นว่าปัญหาที่ผ่านมาอยู่ที่ตัวผู้ใช้รัฐธรรมนูญ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา และมีการละเมิดกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้น ไม่ใช่เกิดจากตัวเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ อยากให้ผู้ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยให้ถ่องแท้ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ร่างกฎหมายที่ทีความเข้มแข็ง ทั้งในเรื่องของโครงสร้างระบบต่าง ๆ  รวมถึงการตรวจสอบ
 
 
เมื่อถามว่าการเพิ่มบทลงโทษผู้ที่กระทำผิดในการเลือกตั้ง ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา จะทำให้การทำผิดกฎหมายน้อยลงหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า การเพิ่มบทลงโทษเป็นส่วนหนึ่งในการปราบปราม แต่ต้องทำควบคู่กับการป้องกัน  สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้ความรู้ ให้การศึกษา ซึ่งได้บอกกับนายศุภชัย สมเจริญ   ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในระหว่างพบกัน ว่า อยากให้กกต.ให้ความรู้กับนักศึกษาและเยาวชน เพราะการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเกิดขึ้นมา 82 ปีแล้ว แต่คนไทยยังไม่มีความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ดีพอ เห็นได้จากการแสดงออกของประชาชนในหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อมีการหยั่งเสียงถามเรื่องที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย
 
 
 
อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงมุมมองทางการเมืองในปี 2558 ว่า คงต้องรอผลการร่างรัฐธรรมนูญ ว่าหน้าตาจะออกมาอย่างไร ซึ่งตนกำลังติดตามอยู่  แต่เท่าที่ฟังเสียงสะท้อนจากหลายฝ่าย คิดว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญน่าจะต้องทบทวนให้รอบคอบ มองให้หลายด้าน  ดั่งเช่นพรปีใหม่2558 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรให้แก่พสกนิกรชาวไทย  “บางสิ่งที่คนไทยไม่เคยชินอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา ขอให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง โครงสร้างการปกครองที่อื่นอาจไม่เหมาะกับคนไทย ดังนั้น ขอฝากให้ท่านทั้งหลายได้ทบทวน ” นายชวน กล่าว
 
 
 
นายชวน ยังกล่าวถึงข้อเสนอของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เปิดช่องให้นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ ว่า ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์จะไม่เขียนกฎหมายที่เป็นการบังคับมากนัก แต่ในส่วนของประเทศที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ ก็มีความจำเป็นในการเขียนกฎหมายที่ต้องระบุให้มีความชัดเจน  ซึ่งในอดีตรัฐธรรมนูญเคยกำหนดให้ ส.ส. ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง แต่ต่อมาก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อมี ส.ส. บางกลุ่ม ฉวยโอกาสกระทำในสิ่งต่าง ๆ โดยไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้ต้องบัญญัติให้สังกัดพรรคการเมือง
 
 
 
“เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ก็ไม่ต้องเขียนอะไรที่บังคับกันมาก แต่สิ่งหนึ่งที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็คือการขยายเวลาให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ได้นานขึ้น ซึ่งจากการไปสังเกตการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น พบว่ารัฐบาลให้โอกาสประชาชนมาใช้สิทธิ์ลงคะแนน ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ในขณะที่ประเทศไทย มีเวลาจำกัดแค่เพียง 08.00-15.00 น. เท่านั้น ทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งของอาชีพที่ไม่มีวันหยุด เช่น อาชีพเกษตรกร ” นายชวน กล่าว
 
 
 
เมื่อถามถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ว่า หากรัฐบาลชุดปัจจุบันแก้ไขไม่ได้จะกระทบต่อแรงสนับสนุนหรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่วิจารณ์ยาก เพราะรัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ตนเห็นว่ารัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจโลก ความผันผวนทางตลาด ไม่อาจแก้ไข เช่น สั่งให้สินค้าลดราคา หรือ สั่งให้เพิ่มราคาผลผลิตทางการเกษตร ได้ทันที  ซึ่งตนก็เอาใจช่วยและเห็นใจรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าข้าราชการประจำหลายคนกลัวการถูกโยกย้ายจากนักการเมือง ทำให้ไม่กล้าแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงของรัฐบาลในขณะนั้น .

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1420203921
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่