คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
Be Realistic.
คำถาม พอมีความเป็นไปได้ไหมคะ ?
ถ้าได้ ต้องเริ่มต้นจากจุดไหนคะ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
และควรจะเป็นประเทศ/รัฐไหนที่น่าอยู่คะ ชอบแบบในเมือง แต่สงบๆ ธรรมชาตินิดๆ เหมือนเชียงใหม่อ่ะค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
คำตอบ เป็นไปได้ บ้านในฝัน หลังเดี่ยวตั้งอยู่กลางขุนเขาเขียวขจี ไม่ไกลจากตัวเมืองใหญ่ ท้องที่เจริญ
ใครๆก็ฝันได้ ในที่นี้จะให้ข้อมูลว่า จุดเริ่มต้น คือ การศึกษาต่อสหรัฐฯ เพิ่มพูนทักษะภาษาสากล
เข้าไปอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้ใบเขียวในการทำงาน และเสียภาษีต่อเนื่องอย่างน้อย ๕ ปี
เพิ่มยอดเครดิตในการทำงาน เข้าสู่ระบบหาบ้านพักอาศัย ค่ากู้ยืมธนาคาร ทำสัญญาซื้อบ้านกำหนดปี ฯ
การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังในต่างประเทศ หมายถึง การวางอนาคตการทำงานอย่างยั่งยืนในประเทศนั้น
ผู้มีบ้านพักอาศัย คือมีงานทำเป็นหลักแหล่งอยู่ก่อน มีเครดิตบัญชี และมีอนาคตที่มั่นคงพอเลี้ยงตัวรอดได้
ยื่นหลักฐานเอกสารและยืนยันตัวตนว่า สามารถจะผ่อนค่าบ้านไปได้จนครบ รวมทั้งการดูแลรักษาจ่ายภาษีด้วย
บ้านในเมืองนอก ประเทศพัฒนาแล้ว ไม่มีรั้ว เห็นได้เป็นปกติ มีระบบเพื่อนบ้านเฝ้าระวัง ทุกถนนในย่านเมือง
หมายความว่า ไม่ใช่แค่เลือกลักษณะบ้านหรือทำเล แต่สังคมจะเลือกผู้เข้าไปอาศัยในละแวกให้มีคุณสมบัติ
เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้น ไม่ใช่แค่เพียงมีเงินก้อนไปซื้อ (ซึ่งอาจมีนักลงทุนหรือผู้มีฐานะทำได้) แต่ต้องดูแลได้
เมื่ออยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต แปลว่า ได้ทำงานจ่ายภาษีให้กับรัฐมาพอที่จะได้รับสวัสดิการตามฐานรายได้
ถ้าคุณจะทำให้ฝันเป็นจริง คือเตรียมอพยพไปตั้งรากฐาน เริ่มชีวิตใหม่ทั้งหมด รวมทั้งปรับตัวกับวัฒนธรรมด้วย
เรื่องสำคัญคือค่าครองชีพของเมือง ค่าภาษีต่างๆที่สูงมากน้อยต่างกันไป บ้านเดี่ยวของชนชั้นกลางหาไม่ยาก
สามารถเลือกได้ ถ้ามีสถานภาพทางสังคมและการเงินหมุนเวียนที่อยู่ในระบบพลเมืองหรือผู้อยู่อาศัยถาวรแล้ว
กว่าคุณจะไปถึงตรงนั้น ต้องใช้เวลาไม่ต่ำว่า ๕ ถึง ๑๐ ปีขึ้นไป หรือมากกว่านั้น อาจนานกว่า ๑๕ หรือ ๒๕ ปี..
(จากพื้นฐานเดิมที่ยังลำบากอยู่ในเมืองไทย) แต่ ถ้าวันใดฝันเป็นจริง ก็จะมีพื้นที่ปลูกดอกไม้ ฟังนกร้องเพลง..
ต่างประเทศมีฤดูกาลที่แตกต่างด้วย อย่างเช่นช่วงนี้หนาวจัด อุณหภูมิอยู่ประมาณ ศูนย์ ถึง ๕ องศาเซลเซียส
อย่าลืมว่า คุณมีบ้านแล้วก็จะต้องแข็งแรง เข้มแข็ง ออกไปทำงานหาเงินได้ ไม่ว่าจะหนาวเหน็บสักเพียงใด..
ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากจะทำฝันให้เป็นจริง คงต้องเริ่มที่ความมักน้อย สมถะ อดทน หนักเอาเบาสู้ พร้อมจะปรับตัว
ทำงานอะไรจะมีรายได้สะสม และมีเครดิตดีขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นกับพื้นฐานการศึกษาและความสามารถของแต่ละคน
หลายๆคนก็สมหวัง แต่บางคนก็ไม่... เพราะเส้นทางนี้ขรุขระไม่ราบรื่น อุปสรรคมาทุกรูปแบบ เจอมนุษย์ทุกชนิด
สำหรับคนรายได้ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือคนทุพพลภาพ อาจมีโปรแกรมที่พักอาศัยแบบโครงการนานาชาติในพื้นที่
ทั้งสอนภาษา วิชาชีพ อาชีพเสริม แต่บรรยากาศรอบล้อมคือคนพื้นเมืองจากประเทศที่สองหรือสาม ไม่ใช่ฝรั่งนะ
ส่วนคนที่สู้สุดๆ ทำงานสุจริตจนประสบความสำเร็จ ก็จะได้บ้านอบอุ่นไว้ฉลองปีใหม่กับครอบครัวอย่างมีความสุข
ตรงนี้ก็ขอมาร์คไว้ว่า สำหรับพลเมืองในอเมริกา โอบาม่าแคร์สำคัญมาก ต้องมีประกันสุขภาพและประกันชีวิตไว้
ไม่มีใครฝันแล้วได้มาง่ายๆ ต้องออกไปตรงนั้น หายใจเข้าออกเป็นกลิ่นอายของวัฒนธรรมต่างประเทศเพื่อต่อสู้
วันไหนยืนได้มั่นคงแล้ว ก็จะสมหวัง มีห้องนั่งเล่นอุ่นๆ มีเตาอบสำหรับทำขนมเค้ก และสวนปลูกกุหลาบสีสวยๆ
ถามว่า ผ่านอะไรมาบ้าง ผ่านการดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด กว่าจะมาเดินเล่นอยู่ท่ามกลางเนินเขาเขียวขจีนี้ได้
edit: Thanks for voting this comment.
Be Realistic.
คำถาม พอมีความเป็นไปได้ไหมคะ ?
ถ้าได้ ต้องเริ่มต้นจากจุดไหนคะ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
และควรจะเป็นประเทศ/รัฐไหนที่น่าอยู่คะ ชอบแบบในเมือง แต่สงบๆ ธรรมชาตินิดๆ เหมือนเชียงใหม่อ่ะค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
คำตอบ เป็นไปได้ บ้านในฝัน หลังเดี่ยวตั้งอยู่กลางขุนเขาเขียวขจี ไม่ไกลจากตัวเมืองใหญ่ ท้องที่เจริญ
ใครๆก็ฝันได้ ในที่นี้จะให้ข้อมูลว่า จุดเริ่มต้น คือ การศึกษาต่อสหรัฐฯ เพิ่มพูนทักษะภาษาสากล
เข้าไปอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้ใบเขียวในการทำงาน และเสียภาษีต่อเนื่องอย่างน้อย ๕ ปี
เพิ่มยอดเครดิตในการทำงาน เข้าสู่ระบบหาบ้านพักอาศัย ค่ากู้ยืมธนาคาร ทำสัญญาซื้อบ้านกำหนดปี ฯ
การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังในต่างประเทศ หมายถึง การวางอนาคตการทำงานอย่างยั่งยืนในประเทศนั้น
ผู้มีบ้านพักอาศัย คือมีงานทำเป็นหลักแหล่งอยู่ก่อน มีเครดิตบัญชี และมีอนาคตที่มั่นคงพอเลี้ยงตัวรอดได้
ยื่นหลักฐานเอกสารและยืนยันตัวตนว่า สามารถจะผ่อนค่าบ้านไปได้จนครบ รวมทั้งการดูแลรักษาจ่ายภาษีด้วย
บ้านในเมืองนอก ประเทศพัฒนาแล้ว ไม่มีรั้ว เห็นได้เป็นปกติ มีระบบเพื่อนบ้านเฝ้าระวัง ทุกถนนในย่านเมือง
หมายความว่า ไม่ใช่แค่เลือกลักษณะบ้านหรือทำเล แต่สังคมจะเลือกผู้เข้าไปอาศัยในละแวกให้มีคุณสมบัติ
เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้น ไม่ใช่แค่เพียงมีเงินก้อนไปซื้อ (ซึ่งอาจมีนักลงทุนหรือผู้มีฐานะทำได้) แต่ต้องดูแลได้
เมื่ออยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต แปลว่า ได้ทำงานจ่ายภาษีให้กับรัฐมาพอที่จะได้รับสวัสดิการตามฐานรายได้
ถ้าคุณจะทำให้ฝันเป็นจริง คือเตรียมอพยพไปตั้งรากฐาน เริ่มชีวิตใหม่ทั้งหมด รวมทั้งปรับตัวกับวัฒนธรรมด้วย
เรื่องสำคัญคือค่าครองชีพของเมือง ค่าภาษีต่างๆที่สูงมากน้อยต่างกันไป บ้านเดี่ยวของชนชั้นกลางหาไม่ยาก
สามารถเลือกได้ ถ้ามีสถานภาพทางสังคมและการเงินหมุนเวียนที่อยู่ในระบบพลเมืองหรือผู้อยู่อาศัยถาวรแล้ว
กว่าคุณจะไปถึงตรงนั้น ต้องใช้เวลาไม่ต่ำว่า ๕ ถึง ๑๐ ปีขึ้นไป หรือมากกว่านั้น อาจนานกว่า ๑๕ หรือ ๒๕ ปี..
(จากพื้นฐานเดิมที่ยังลำบากอยู่ในเมืองไทย) แต่ ถ้าวันใดฝันเป็นจริง ก็จะมีพื้นที่ปลูกดอกไม้ ฟังนกร้องเพลง..
ต่างประเทศมีฤดูกาลที่แตกต่างด้วย อย่างเช่นช่วงนี้หนาวจัด อุณหภูมิอยู่ประมาณ ศูนย์ ถึง ๕ องศาเซลเซียส
อย่าลืมว่า คุณมีบ้านแล้วก็จะต้องแข็งแรง เข้มแข็ง ออกไปทำงานหาเงินได้ ไม่ว่าจะหนาวเหน็บสักเพียงใด..
ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากจะทำฝันให้เป็นจริง คงต้องเริ่มที่ความมักน้อย สมถะ อดทน หนักเอาเบาสู้ พร้อมจะปรับตัว
ทำงานอะไรจะมีรายได้สะสม และมีเครดิตดีขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นกับพื้นฐานการศึกษาและความสามารถของแต่ละคน
หลายๆคนก็สมหวัง แต่บางคนก็ไม่... เพราะเส้นทางนี้ขรุขระไม่ราบรื่น อุปสรรคมาทุกรูปแบบ เจอมนุษย์ทุกชนิด
สำหรับคนรายได้ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือคนทุพพลภาพ อาจมีโปรแกรมที่พักอาศัยแบบโครงการนานาชาติในพื้นที่
ทั้งสอนภาษา วิชาชีพ อาชีพเสริม แต่บรรยากาศรอบล้อมคือคนพื้นเมืองจากประเทศที่สองหรือสาม ไม่ใช่ฝรั่งนะ
ส่วนคนที่สู้สุดๆ ทำงานสุจริตจนประสบความสำเร็จ ก็จะได้บ้านอบอุ่นไว้ฉลองปีใหม่กับครอบครัวอย่างมีความสุข
ตรงนี้ก็ขอมาร์คไว้ว่า สำหรับพลเมืองในอเมริกา โอบาม่าแคร์สำคัญมาก ต้องมีประกันสุขภาพและประกันชีวิตไว้
ไม่มีใครฝันแล้วได้มาง่ายๆ ต้องออกไปตรงนั้น หายใจเข้าออกเป็นกลิ่นอายของวัฒนธรรมต่างประเทศเพื่อต่อสู้
วันไหนยืนได้มั่นคงแล้ว ก็จะสมหวัง มีห้องนั่งเล่นอุ่นๆ มีเตาอบสำหรับทำขนมเค้ก และสวนปลูกกุหลาบสีสวยๆ
ถามว่า ผ่านอะไรมาบ้าง ผ่านการดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด กว่าจะมาเดินเล่นอยู่ท่ามกลางเนินเขาเขียวขจีนี้ได้
edit: Thanks for voting this comment.
แสดงความคิดเห็น
พอจะเป็นไปได้ไหมคะ กับความฝันที่ว่า "อยากมีบ้านที่เมืองนอกซักหนึ่งหลัง"
คือเรามีความฝันไว้ว่า อยากจะมีบ้านที่เมืองนอกซักหลังนึงค่ะ อยากไปใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนอก
บ้านขนาดกลางๆ นะคะ 2-3 ห้องนอน ไม่ใหญ่ สำหรับ 1 ครอบครัว ประมาณนี้ค่ะ
แต่ไม่รู้ว่าจะควรเป็นประเทศไหนดี อยากได้แบบฝรั่งอ่ะค่ะ (เบื่อเอเชียแล้ว)
พอมีความเป็นไปได้ไหมคะ ?
ถ้าได้ ต้องเริ่มต้นจากจุดไหนคะ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
และควรจะเป็นประเทศ/รัฐไหนที่น่าอยู่คะ ชอบแบบในเมือง แต่สงบๆ ธรรมชาตินิดๆ เหมือนเชียงใหม่อ่ะค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ป.ล แท็กผิดขอโทษด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไข .. .
ไม่ต้องเป็นบ้านก็ได้ค่ะ คอนโดก็ได้ ซัก 2 ห้องนอน ประมาณนี้ค่ะ