ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนนะคะ ผู้หญิงอายุ 27 ปี ทำงานอิสระ รักการท่องเที่ยวและอยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว แรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่เด็กจนจบมหาลัยไม่เคยมีโอกา หรือเข้าค่ายที่ไปเที่ยวที่ไกลๆเนื่องด้วยพ่อแม่หวงมาก ก็เลยคิดไว้ในใจว่าถ้าเรียนจบมีงานทำจะไปท่องเที่ยวเปิดโลกกว้าง จำได้ว่า การเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกที่ไปฮ่องกง มาเก๊าไปกับเพื่อนสนิท 2 คน หลังจาหลังจากนั้นก็ไปคนเดียวบ้าง ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มบ้าง สรุปรวมฮ่องกงเป็นประเทศที่เหมาะสมที่จะไป backpack ต่างประเทศครั้งแรกความปลอดภัยดีพอสมควร คมนาคมสะดวกดี อาหารการกินก็โอเคคล้ายบ้านเราแนวโจ๊ก ข้าวมันไก่ ติ่มซำ ชานมไข่มุก
การวางแผนการเดินทาง : โดยอ่านพันทิปอย่างเดียวพิกัดเป๊ะอัพเดตสุดๆ หนังสือนำเที่ยวชิดซ้ายคิดอะไรไม่ออกอ่านพันทิป
ตั๋วเครื่องบิน : ซื้อก่อนประมาณ 3-4 เดือน เคยนั่งตั้งแต่ airasia ประมาณ 4000 บาทไปกลับ การบินไทย 6600 บาทไปกลับราคาโปร emirates 8800 บาท ไปกลับ ราคาโปร ( รึเปล่า) เดินทางประมาณ 2 รึ 3 ชั่วโมงจำไม่ได้ ตอนนี้ถ้าจะไปอีกคง airasia
ความรู้สึกที่ไปฮ่องกงครั้งแรก :เป็นประเทศที่วุ่นวายมาก คนไม่รู้จะรีบไปไหน ขยันเวอร์ ขนาดอาซิ่ม อาม่าแก่ๆยังเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านโจ๊ก คนจีนไม่รู้จะรีบไปไหน ลัดคิวตลอด ถูกเดินชนตัวปลิวได้อีก ขนาดเพื่อนเราอ้วนๆก็ปลิว เอิ่ม..มองบน แต่ถือว่าเปิดโลกกว้างเรียนรู้ว่า บ้านเมืองอื่นเค้าเป็นยังไง ไปถึงไหนแล้วคืออารมณ์ได้ไปเที่ยวอ่ะ หัวใจมันจะพองโตทุกครั้งที่จะขึ้นไปเที่ยวต่างประเทศแบบว่า กรี๊ด ตรูจะไปเที่ยวแล้ว..
ประสบการณ์ที่จำไม่ลืมในฮ่องกง
เนื่องจากฮ่องกงเป็นประเทศที่ผู้คนเร่งรีบมาก เวลาไปกินข้าวกับเพื่อนในร้านอาหาร เช่น ร้านโจ๊กชื่อดัง ถ้ากินเสร็จจะโดนไล่ที่ไปจ่ายเงิน ส่วนเพื่อนเราก็คง continue กินต่อโดยตรูรอข้างนอก และอีกครั้งคือไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มแล้วเหมือนในกลุ่มมีบางคนกินเสร เพื่อนเราที่กินไม่เสร็จก็หน้าแบบว่า เอิ่ม....ตรูต้องกินให้เสร็จใช่มั๊ย
อีกประสบการณ์หนึ่ง คือมีครั้งหนึ่งไปฮ่องกงคนเดียวไปถึงประมาณสี่ทุ่มครึ่งแล้วนั่งรถไ ป จิมซาจุ่ยเพื่อไปพักใน guesthouse ที่จองไว้แล้วพอไปถึงตึกที่เป็น guesthouse ขอเล่าก่อนว่า พวก guesthouse หรือ โรงแรมในฮ่องกงนี่ ตึกหนึ่งจะมีประมาณ แสน โรงแรมได้ (ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะก็ประมาณ 10-20 มั้ง) ตึกที่จอง guesthouse ไว้ครั้งนี้ขอเรียกว่าตึกแขกเพราะมีแขกขายของอยู่ชั้นล่างของตึกแบบ คิดในใจ ตรูมาถูกรึเปล่าวะ ทำไมแขกเยอะขนาดนี้พอไปถึง guesthouse ที่จองจำได้ว่าชั้น 15 ปรากฏว่า จองผิดวัน ซวยละตรู ผู้หญิงคนเดียว อินเตอร์ไม่มี โทรศัพท์ไม่โรมมิ่ง ก็เลยบอกอาแปะที่เฝ้าโรงแรมนั้นว่า ขอใช้อินเตอร์เน็ตหน่อย อาแป๊ะใจดีให้ password wifi แต่ว่าเน็ตเต่ามากทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้น 5 ทุ่มครึ่งแบกเป้ 1 ใบ แล้วคิดหาทางแก้ปัญหา แผนหนึ่งกลับไปนอนสนามบินค่อยเที่ยวพรุ่งนี้แต่ว่ารถไฟน่าจะหมดแล้ว ทางที่สอง walk in หาโรงแรมใหม่ ออกจากประตู guesthouse นั้นปุ๊บ เจอแขกดักหน้าประตู บอกว่า สนใจมั๊ยชั้นมีห้องให้พักแต่ค่าเช่าแพงกว่าราคาปกติ 400 บาท ต่อราคาอยู่พักหนึ่งจากแพงกว่าปกติ 800 บาท จนเหลือ 400 บาท ก็เลยเอาวะตายเป็นตายดีกว่านอนอยู่ข้างทาง ข้างล่างก็มีแขกอยู่อีกเป็นแสน มองเราซะตามัน แขกคนนั้นก็บอกว่า ห้องพักอยู่ชั้น 18 เดินไปทางบันไดหนีไฟเถอะ เราก็ว่าไปลิฟท์ได้มั๊ย มันไม่มืด ตอนนั้นคิดในใจมันจะปล้ำตรูป่ะวะ ตอนเดินขึ้นทางบันไดหนีไฟมืดมากไม่มีไฟ คิดตลอดว่าถูกข่มขืนจะเอาไรดีตี ในกระเป๋ามีอะไรบ้าง กระเป๋าเป้ 9 โล ตีมันจะสลบป่ะ รึทำให้ตกบันได คือคิดหาทางเอาตัวรอด แล้วมีแวบหนึ่งทีาคิดขึ้นมาถ้าตายที่นี่ทำไงดีวะ ไม่ได้บอกใครเลย เพื่อนรู้ว่ามา พ่อแม่ไม่ได้บอกเพราะถ้าบอกคงไม่ได้มา( แอบชั่ว) แต่ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นาง service ดีเว่อร์ถึงขั้นจะมา set wifi ใน ipad ให้ในห้อง เอิ่ม..... ห้องพักที่ได้พักก็โอเคแต่เหม็นน้ำหอมแขกมาก อาจบอกได้ว่าคือยิ่งกว่า รร. จิ้งหรีด no reception,ตอน check out ก็ไม่รู้จะทำไง เจอฝรั่งพักห้องข้างๆถามว่า ตรูจะ check out ยังไง นางก็บอกว่า โรงแรมนี้น่ะมัน บ้า บอ ไปแล้ว เราก็เลยวางกุญแจไว้ในห้องและจากไป
มุมที่ recommend ในฮ่องกง
Starbuck ที่ Avene of star มันชิวมาก โดยเฉพาะจิบอะไรร้อนๆ ดูเค้าเล่นไฟตอน 2 ทุ่ม ไม่เหนื่อยไม่ต้องเดินต้องเดินทั่ว
โดยส่วนตัวเราไปฮ่องกงมา 5 ครั้งใน 2 ปี คิดว่าถ้าไปอีกรอบคงไป shopping 2 วัน 1 คืน ไม่คิดว่าจะพาพ่อแม่ไปอยากพาไปญี่ปุ่นมากกว่า
อันนี้เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวของเจ้าของกระทู้มาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันถ้ามีส่วนใดผิดพลาดรึขัดใจใครก็ขออภัยด้วยค่ะ
first trip of my life....Hongkong
การวางแผนการเดินทาง : โดยอ่านพันทิปอย่างเดียวพิกัดเป๊ะอัพเดตสุดๆ หนังสือนำเที่ยวชิดซ้ายคิดอะไรไม่ออกอ่านพันทิป
ตั๋วเครื่องบิน : ซื้อก่อนประมาณ 3-4 เดือน เคยนั่งตั้งแต่ airasia ประมาณ 4000 บาทไปกลับ การบินไทย 6600 บาทไปกลับราคาโปร emirates 8800 บาท ไปกลับ ราคาโปร ( รึเปล่า) เดินทางประมาณ 2 รึ 3 ชั่วโมงจำไม่ได้ ตอนนี้ถ้าจะไปอีกคง airasia
ความรู้สึกที่ไปฮ่องกงครั้งแรก :เป็นประเทศที่วุ่นวายมาก คนไม่รู้จะรีบไปไหน ขยันเวอร์ ขนาดอาซิ่ม อาม่าแก่ๆยังเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านโจ๊ก คนจีนไม่รู้จะรีบไปไหน ลัดคิวตลอด ถูกเดินชนตัวปลิวได้อีก ขนาดเพื่อนเราอ้วนๆก็ปลิว เอิ่ม..มองบน แต่ถือว่าเปิดโลกกว้างเรียนรู้ว่า บ้านเมืองอื่นเค้าเป็นยังไง ไปถึงไหนแล้วคืออารมณ์ได้ไปเที่ยวอ่ะ หัวใจมันจะพองโตทุกครั้งที่จะขึ้นไปเที่ยวต่างประเทศแบบว่า กรี๊ด ตรูจะไปเที่ยวแล้ว..
ประสบการณ์ที่จำไม่ลืมในฮ่องกง
เนื่องจากฮ่องกงเป็นประเทศที่ผู้คนเร่งรีบมาก เวลาไปกินข้าวกับเพื่อนในร้านอาหาร เช่น ร้านโจ๊กชื่อดัง ถ้ากินเสร็จจะโดนไล่ที่ไปจ่ายเงิน ส่วนเพื่อนเราก็คง continue กินต่อโดยตรูรอข้างนอก และอีกครั้งคือไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มแล้วเหมือนในกลุ่มมีบางคนกินเสร เพื่อนเราที่กินไม่เสร็จก็หน้าแบบว่า เอิ่ม....ตรูต้องกินให้เสร็จใช่มั๊ย
อีกประสบการณ์หนึ่ง คือมีครั้งหนึ่งไปฮ่องกงคนเดียวไปถึงประมาณสี่ทุ่มครึ่งแล้วนั่งรถไ ป จิมซาจุ่ยเพื่อไปพักใน guesthouse ที่จองไว้แล้วพอไปถึงตึกที่เป็น guesthouse ขอเล่าก่อนว่า พวก guesthouse หรือ โรงแรมในฮ่องกงนี่ ตึกหนึ่งจะมีประมาณ แสน โรงแรมได้ (ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะก็ประมาณ 10-20 มั้ง) ตึกที่จอง guesthouse ไว้ครั้งนี้ขอเรียกว่าตึกแขกเพราะมีแขกขายของอยู่ชั้นล่างของตึกแบบ คิดในใจ ตรูมาถูกรึเปล่าวะ ทำไมแขกเยอะขนาดนี้พอไปถึง guesthouse ที่จองจำได้ว่าชั้น 15 ปรากฏว่า จองผิดวัน ซวยละตรู ผู้หญิงคนเดียว อินเตอร์ไม่มี โทรศัพท์ไม่โรมมิ่ง ก็เลยบอกอาแปะที่เฝ้าโรงแรมนั้นว่า ขอใช้อินเตอร์เน็ตหน่อย อาแป๊ะใจดีให้ password wifi แต่ว่าเน็ตเต่ามากทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้น 5 ทุ่มครึ่งแบกเป้ 1 ใบ แล้วคิดหาทางแก้ปัญหา แผนหนึ่งกลับไปนอนสนามบินค่อยเที่ยวพรุ่งนี้แต่ว่ารถไฟน่าจะหมดแล้ว ทางที่สอง walk in หาโรงแรมใหม่ ออกจากประตู guesthouse นั้นปุ๊บ เจอแขกดักหน้าประตู บอกว่า สนใจมั๊ยชั้นมีห้องให้พักแต่ค่าเช่าแพงกว่าราคาปกติ 400 บาท ต่อราคาอยู่พักหนึ่งจากแพงกว่าปกติ 800 บาท จนเหลือ 400 บาท ก็เลยเอาวะตายเป็นตายดีกว่านอนอยู่ข้างทาง ข้างล่างก็มีแขกอยู่อีกเป็นแสน มองเราซะตามัน แขกคนนั้นก็บอกว่า ห้องพักอยู่ชั้น 18 เดินไปทางบันไดหนีไฟเถอะ เราก็ว่าไปลิฟท์ได้มั๊ย มันไม่มืด ตอนนั้นคิดในใจมันจะปล้ำตรูป่ะวะ ตอนเดินขึ้นทางบันไดหนีไฟมืดมากไม่มีไฟ คิดตลอดว่าถูกข่มขืนจะเอาไรดีตี ในกระเป๋ามีอะไรบ้าง กระเป๋าเป้ 9 โล ตีมันจะสลบป่ะ รึทำให้ตกบันได คือคิดหาทางเอาตัวรอด แล้วมีแวบหนึ่งทีาคิดขึ้นมาถ้าตายที่นี่ทำไงดีวะ ไม่ได้บอกใครเลย เพื่อนรู้ว่ามา พ่อแม่ไม่ได้บอกเพราะถ้าบอกคงไม่ได้มา( แอบชั่ว) แต่ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นาง service ดีเว่อร์ถึงขั้นจะมา set wifi ใน ipad ให้ในห้อง เอิ่ม..... ห้องพักที่ได้พักก็โอเคแต่เหม็นน้ำหอมแขกมาก อาจบอกได้ว่าคือยิ่งกว่า รร. จิ้งหรีด no reception,ตอน check out ก็ไม่รู้จะทำไง เจอฝรั่งพักห้องข้างๆถามว่า ตรูจะ check out ยังไง นางก็บอกว่า โรงแรมนี้น่ะมัน บ้า บอ ไปแล้ว เราก็เลยวางกุญแจไว้ในห้องและจากไป
มุมที่ recommend ในฮ่องกง
Starbuck ที่ Avene of star มันชิวมาก โดยเฉพาะจิบอะไรร้อนๆ ดูเค้าเล่นไฟตอน 2 ทุ่ม ไม่เหนื่อยไม่ต้องเดินต้องเดินทั่ว
โดยส่วนตัวเราไปฮ่องกงมา 5 ครั้งใน 2 ปี คิดว่าถ้าไปอีกรอบคงไป shopping 2 วัน 1 คืน ไม่คิดว่าจะพาพ่อแม่ไปอยากพาไปญี่ปุ่นมากกว่า
อันนี้เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวของเจ้าของกระทู้มาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันถ้ามีส่วนใดผิดพลาดรึขัดใจใครก็ขออภัยด้วยค่ะ