▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ น้องสี่แนะ "ปี 2558 - 2559 เตรียมรับมือกองทุน/สถาบันในประเทศ ให้ดีนะ" เพราะอะไร? มาดูกันจ้า █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂

เนื่องในวาระนี้ การซื้อ-ขาย ได้ครบปีแล้ว น้องสี่จึงคิดว่า โอกาสนี้แหละ น่าจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมแล้ว
ในการสรุปยอด Net Buy / Net Sell ในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาจ้า พอได้ลองสรุปแล้ว ก็ได้เห็นตัวเลขบางอย่างในนั้นครับ

ยอดสะสมครบปี 1992 - 2014 จ้า

(ที่มาของตารางข้อมูล : Bsis 2.2 ของ Bualuang จ้า)

1. ต่างชาติ
ยังคง Net Buy สะสมประมาณ 200,000 ล้านบาท แปลว่าอาจจะปล่อยของได้อีก และ ต้นทุนเฉลี่ยก็คงไม่น่าจะสูงมากนัก
ซึ่ง Theme การลงทุนของต่างชาติ ในปี 2558 นั้น ก็ยังจับทิศทางได้ยาก เพราะด้วยเหตุผลบางประการในประเทศ

2. กองทุน/สถาบันในประเทศ
Net Buy 140,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก แบบไม่เคยเจอมาก่อน = =''
เพราะทำไม?? เด่วไปดูอีกตารางข้างล่างจะเห็นภาพชัดเจนมายิ่งขึ้น

3. โบรคเกอร์
Net Sell สะสมประมาณ 30,000 ล้านบาท (สงสัยขายทำกำไรออกไปตอนช่วงปี 1992 - 1999 เป็นส่วนใหญ่นะ)

แต่อย่างไรก็ตาม สไตล์การลงทุนของ Broker นั้นจะเป็นแบบนักเก็งกำไรหุ้นสุดๆ เลยก็ได้ว่า
ลองกลับไปสังเกตนะ โบรคเกอร์จะเล่นเก็งกำไรใน 1 ปี เท่านั้น (ถือยาวน้อยมาก เพราะจากยอดสะสมยังเป็น Net Sell เลยอะ -*-)
และที่สำคัญ ณ วันที่ Set ลงแรงๆ ในช่วงเดือนธันวาคม 2557 ทางโบรคเกอร์เองก็กระหน่ำเทขายกันแบบสุดๆ

ซึ่งก่อนหน้านั้น เพื่อนๆ คงยังจำกันได้นะ มีบางสำนักมองว่า ดัชนีจะไป XXXX จุด เท่านั้น เท่านี้
โอโหแม่เจ้าาาาาาาาาาาาาา ไม่กี่วันต่อมา ทุบกระจุย เลยจ้าาาาาาาาา - ... - ''

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า
ถ้าเดือนไหนโบรคเกอร์ ซื้อหุ้นสะสมเยอะแบบผิดปกติมากๆ (สังเกตยอดสะสมเดือน พฤศจิกายน 2014)
แปลว่า ให้ระวังไว้ให้ดี เพราะไม่แน่ว่าเค้าจะทุบหนักๆ ก็ได้เป็นได้จ้า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล. น้องสี่แอบสงสัยอยู่นะ ช่วงกลางเดือนธันวาคม 57 ช่วงนั้น Broker + ต่างชาติ เทกระจาดพร้อมกันเลย
เค้าจะรู้กันหรือเปล่าหนอ = . =''

4. รายย่อย
Net Sell ไปราวๆ 320,000 ล้านบาท (ยอดแอบเยอะจัง = ='')
อาจจะมองได้ว่า ทั้งๆ ในบางทีเรามีของดีอยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ดันปล่อยของดีหลุดมือไป???
แต่ในอีกด้านนึง ก็อาจมองได้ว่า เพราะรูปแบบการลงทุนของแต่ละคนนั้น มันไม่เหมือนกันไง ใช่ม้าาาา
คนนึงลงทุนสั้น Day Trade อีกคนถือหุ้นระยะยาวหน่อย 2 - 3 ปี แต่บางคนก็ถือแล้วไม่ขายเลยก็มี ถือเอาปันผลระยะยาวมากๆ

ดังนั้น การที่รายย่อย Net Sell มาเป็นเวลาสะสม 20 ปี ก็จึงไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะ
จะเหมารวมไปว่า Net Sell มา 20 ปี แปลว่า รายย่อยขายหมูตลอดเลยสินะ 5555+ (จะบ้าหรอ!! คิดแบบนั้นได้ไง สะมง สมอง ไปหมดละ)

เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นว่ารายย่อยที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้นแบบระยาว นั่นก็คือ Value Investor นั่นเอง
การที่เราไม่ไปกะเก็งกับวงจรมากจนเกินไป ก็อาจจะเป็นผลดีต่อเราก็ได้นะ เพราะหากหุ้นดี มี Growth มีปันผล
สุดท้าย สิ่งเรานี่ก็จะสะท้อนกลับไปที่ราคาหุ้นนั่นเองจ้า

Important !!
หากตัดยอดสะสมปี 2013 และ 2014 ออกไป จะพบว่า

(ที่มาของตารางข้อมูล : Bsis 2.2 ของ Bualuang จ้า)

กองทุน/สถาบันในประเทศ มีรูปแบบการลงทุนแบบ Broker ???
เพราะหากสังเกตดูยอดสะสมที่ผ่านมา 1992 - 2012 กองทุนซื้อๆ ขายๆ มาโดยตลอด
และจบท้ายปีสรุป 20 ปีที่ผ่านมา อยู่ในด้านของ Net Sell ราวๆ 30,000 ล้านบาท

ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์การลงทุนของกลุ่มกองทุน / สถาบันในประเทศ มองได้ 3 ทางคือ

1. ทยอยปล่อยของในมือให้ นักลงทุนต่างประเทศ หรือไม่ก็รายย่อยในประเทศ เป็นหลัก
2. ทุบแรง แบบเทกระจาด? ซึ่งคงต้องไปดูข้อกำหนด + รายละเอียดของแต่ละกองทุนว่า
เวลาจะขาย ขายได้ทั้งหมดทีเดียวไหม? หรือว่าขายได้ในสัดส่วนจำกัดไม่เกินกี่ % ของการลงทุนในหุ้น??
3. ลองสังเกตยอด Net Buy ที่ผ่านมา กองทุนไม่เคย Net Buy เกิน 3 ปีนะ
เพราะดูจากที่ๆ ผ่านมา ปีที่ 4 กองทุนจะ Net Sell ในปีที่ 4 เป็นส่วนใหญ่จ้า เวลาคือคำตอบ ^^

อันนี้ต้องลองเจาะลึกกันอีกทีนึงนะ แต่ที่แน่ๆ รอบนี้ปี 2013 + 2014 คนดัน SET ขึ้นมาจาก 1200 ไป 1500 - 1600 จุด
ก็คือกองทุนนะจ๊ะ อย่าลืมตรงจุดนี้ละ รู้เขา รู้เรา นะเออ ^o^

ในอีกมุมหนึ่ง ตัวเลขที่น่าสนใจอีกด้านนึงก็คือ ฝั่งของการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ
จากปี 2009 - 2012 Net Buy มาโดยตลอด
(ยกเว้นปี 2011 เป็นปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ จริงๆ น้องสี่มองว่า ยอดการซื้อขายปี 2011
ของนักลงทุนต่างประเทศน่าจะ Net Buy นะ ถ้าน้ำไม่ท่วมซะก่อนนะ ไม่งั้นก็จะชัดเจนเลยว่า 4 ปีเต็ม นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อตลอดจ้า)

เวลากลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศเข้ามากันที เค้าจะเข้ามาหนักมากๆ
อย่างยอดสะสมที่แสดงดังรูป ก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่า เวลาเข้า เค้าเอาจริงๆ นะ (2009 2010 2011 2012)

แต่อย่างว่า เวลาเข้า เข้าหนัก ดังนั้น เวลาออก ก็ออกหนักจ้าาาาาาาาาาาา
ปี 2013 2014 เห็นๆ กันอยู่ 2 ปี ขายไปรวมยอดแล้วราวๆ 230,000 ล้านบาท !!!
เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะเนี่ย แต่อย่างว่ามันเป็น เกมการเงิน การลงทุน คมเฉือนคม > . <"

ดังนั้น น้องสี่จึงขอสรุปโดยรวมว่า ใน 1 - 2 ปีข้างหน้านี้
การลงทุนจะเป็นช่วงเวลาที่ Challenge มากๆ จ้าาาาาาา


*** เพิ่มเติมวิธีการเข้าไปดูสรุปยอดการซื้อ-การขาย จ้า ***
ถ้ามีบัญชีหลักทรัพย์ของบัวหลวง สามารถเข้าไปโหลดตาราง Excel ได้ตามรูปเลยจ้า


วิธีการเข้าน้า

1. เข้า Bsis 2.2 ทางด้านซ้ายบน

2. ไปที่หัวข้อ Market เลือก Customer Type

3. เลือกช่วงเวลา(วันที่)ที่จะดูยอดซื้อ ยอดขาย
สามารถเลือกดูเป็นยอดของแต่ละ วัน Daily , เดือน Monthly หรือ เป็นปี Yearly ก็ได้จ้า
จากนั้นกด >> Go <<

4. หลังจากเลือกวันที่ + ช่วงเวลาแล้ว ให้ไปที่ด้านขวาบน จะมีคำว่า Export to Excel
เราจะสามารถ Download ออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้เลยน้า จากนั้น ก็ปรับแต่งตารางตามอัธยาศัยได้เลยจ้า

พาพันอยากรู้ Link ด้านล่างนี้เป็นไฟล์ตาราง Excel น้า เผื่อเพื่อนๆ อยากโหลดเก็บไว้ดูกันจ้า พาพันอยากรู้

https://www.dropbox.com/s/arzb9ozkie18ijj/Market%20Customer%20Type%20%5E%5E.xls?dl=0


น้องสี่ขอแนะนำว่า "การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในความรู้ นะครับ"

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับอมยิ้ม36

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" ครับหัวใจ

https://www.facebook.com/StockTrader.Club


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่