พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ แก้ไขใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๗
มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา
โดยมีการแก้ไข ๓ ประเด็นด้วยกันคือ
๑. แก้ไขมาตรา ๑๔๐ : เพื่อรองรับการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ในการตรวจจับผู้กระทำความผิดให้มีความชัดเจนขึ้น
และเจ้าหน้าที่ฯ สามารถจัดส่งใบสั่งไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถโดยทาง
ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
และให้ถือว่าได้รับใบสั่งเมื่อพ้นกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันส่ง
๒. เพิ่มวรรคสามของมาตรา ๒๔ : โดยกำหนดให้การแสดงสัญญาณจราจรของเจ้าหน้าที่ สามารถใช้
อุปกรณ์เรืองแสงได้
*๓. แก้ไขมาตรา ๑๔๒ : กรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าคนขับเมาสุรา แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ (เป่าแอลกอฮอล์) โดยไม่มีเหตุอันควร
ให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้น
เมาแล้วขับ
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๕๗
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/089/11.PDF
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/089/14.PDF
*แก้ไขเลขมาตรา
พรบ.จราจรทางบก แก้ไขใหม่ (๒๕๕๗) มีผลใช้บังคับแล้ว (ต้อนรับ ๗ วันอันตราย)
มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา
โดยมีการแก้ไข ๓ ประเด็นด้วยกันคือ
๑. แก้ไขมาตรา ๑๔๐ : เพื่อรองรับการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ในการตรวจจับผู้กระทำความผิดให้มีความชัดเจนขึ้น
และเจ้าหน้าที่ฯ สามารถจัดส่งใบสั่งไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
และให้ถือว่าได้รับใบสั่งเมื่อพ้นกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันส่ง
๒. เพิ่มวรรคสามของมาตรา ๒๔ : โดยกำหนดให้การแสดงสัญญาณจราจรของเจ้าหน้าที่ สามารถใช้อุปกรณ์เรืองแสงได้
*๓. แก้ไขมาตรา ๑๔๒ : กรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าคนขับเมาสุรา แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ (เป่าแอลกอฮอล์) โดยไม่มีเหตุอันควร
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้น เมาแล้วขับ
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๕๗
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*แก้ไขเลขมาตรา