คราวก่อน พูดถึงเรื่อง ๆ ความพร้อมของตัวเอง (ซึ่งจะมีปลีกย่อย อีกนิดหน่อย ไว้ค่อยสรุปทีเดียว )
http://pantip.com/topic/33036740
ครั้งนี้จะมาพูดถึง ความพร้อมของเงินทุน
ซึ่ง ในการประกวดราคา /สอบราคา /ประกวดแบบ E-Auction ส่วนใหญ่เงินทุน จะต้องเสีย ไปกลับเรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้น อาทิ ( ค่าซื้อซองสอบราคา ,
ค่าเอกสารสำหรับทำสอบราคา , ค่าเดินทาง ,ค่าติดต่อประสานงาน ประมาณคร่าว ๆ งานละ ไม่เกิน 20,000 บาท )
แต่จะหนักหน่อย สำหรับ การประกวดราคา แบบ E-Auction หรือ ประกวดราคาบางงาน เพราะจะต้องมีการค้ำประกันซอง ส่วนใหญ่ จะเสียร้อยละ 5 ของราคาที่ประกาศไว้ ตามงบประมาณ อาทิ เช่น 10,000,000 ก็จะประมาณ 500,000 บาท
ซึ่งค้ำประกันซอง นี้ จะใช้ เงินสด / เช็ค / หรือหลักประกันอื่นๆ เช่น พันธบัตร /หนังสือค้ำประกันของธนาคาร หรือ BG ก็ได้
แต่แนะนำไม่ให้ ใช้ เงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค เพราะ หน่วยงานที่ประกวดราคา จะคืนช้า มาก แนะนำให้ใช้ BG แทน ถ้าเป็นไปได้
และจะคืนให้ ถ้าเราไม่ผ่านการคัดเลือก เบื้องต้น แต่ถ้าเราผ่านการคัดเลือก เบื้องต้น ก็จะเข้าสู่การประกวดราคา จริง
( จะขอยังไม่กล่าวถึง การเข้าประกวดราคา ซึ่งมีเทคนิค มากมาย สำหรับการจะเข้าประกวดราคา เพื่อให้ได้งาน )
สมมติว่า ผ่านการประกวดราคา เรียบร้อย แล้วได้งาน
เราจะต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น มาอีก โดยเฉพาะ ถ้าเป็นงาน ประกวดราคา สอบราคา หรือ E-Auction
โดย จะต้องเสียค้ำประกัน เพิ่ม จาก 5% มาเป็น 10% และจะคืนค้ำได้ เมื่องานแล้วเสร็จ แต่ถ้า เป็น E-Auction จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประเภทค่าธรรมเนียม
การประกวดแบบ E-Auction ด้วย เมื่อได้งาน จะต้องมีการเซนต์สัญญา
อันนี้แหล่ะ เราต้องเริ่ม ลงทุนแล้วหล่ะ ( แต่ทุกงานที่ ดิวกับราชการ ไม่ต้องกลัว เรื่องไม่ได้เงิน แต่อาจจะช้าหน่อย เรียกว่าได้ชัวร์แต่ต้องรอหน่อย )
บางงาน ต้องลงทุนเกือบ 100% แต่บางงานลงทุน ตามงวดงาน ที่ได้มา )
ข้อแนะนำ คือ เงินลงทุน พวกนี้ ควรมีสายป่าน ดี ๆ หน่อย เช่น ต้องมี Bank เป็นตัวช่วย หรือ เงินทุนหมุนเวียน
โดยมาก บริษัท / ห้างหุ้นส่วน มักจะมีเงินทุน หมุนเวียนดี แล้วพร้อมที่จะเริ่มรับงาน ภาครัฐ แต่ถ้า สะดุด ปัญหา อาจจะตามมา
อาทิ งานไม่จบ หรือ ส่งไม่ทันตามเวลา ก็อาจจะโดนค่าปรับ
เบื้องต้น คงจะพอแค่นี้ก่อน คราวต่อไป จะมาต่อให้อีก นะ
ประสบการณ์ประกวดราคางานราชการ (ต่อ)
http://pantip.com/topic/33036740
ครั้งนี้จะมาพูดถึง ความพร้อมของเงินทุน
ซึ่ง ในการประกวดราคา /สอบราคา /ประกวดแบบ E-Auction ส่วนใหญ่เงินทุน จะต้องเสีย ไปกลับเรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้น อาทิ ( ค่าซื้อซองสอบราคา ,
ค่าเอกสารสำหรับทำสอบราคา , ค่าเดินทาง ,ค่าติดต่อประสานงาน ประมาณคร่าว ๆ งานละ ไม่เกิน 20,000 บาท )
แต่จะหนักหน่อย สำหรับ การประกวดราคา แบบ E-Auction หรือ ประกวดราคาบางงาน เพราะจะต้องมีการค้ำประกันซอง ส่วนใหญ่ จะเสียร้อยละ 5 ของราคาที่ประกาศไว้ ตามงบประมาณ อาทิ เช่น 10,000,000 ก็จะประมาณ 500,000 บาท
ซึ่งค้ำประกันซอง นี้ จะใช้ เงินสด / เช็ค / หรือหลักประกันอื่นๆ เช่น พันธบัตร /หนังสือค้ำประกันของธนาคาร หรือ BG ก็ได้
แต่แนะนำไม่ให้ ใช้ เงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค เพราะ หน่วยงานที่ประกวดราคา จะคืนช้า มาก แนะนำให้ใช้ BG แทน ถ้าเป็นไปได้
และจะคืนให้ ถ้าเราไม่ผ่านการคัดเลือก เบื้องต้น แต่ถ้าเราผ่านการคัดเลือก เบื้องต้น ก็จะเข้าสู่การประกวดราคา จริง
( จะขอยังไม่กล่าวถึง การเข้าประกวดราคา ซึ่งมีเทคนิค มากมาย สำหรับการจะเข้าประกวดราคา เพื่อให้ได้งาน )
สมมติว่า ผ่านการประกวดราคา เรียบร้อย แล้วได้งาน
เราจะต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น มาอีก โดยเฉพาะ ถ้าเป็นงาน ประกวดราคา สอบราคา หรือ E-Auction
โดย จะต้องเสียค้ำประกัน เพิ่ม จาก 5% มาเป็น 10% และจะคืนค้ำได้ เมื่องานแล้วเสร็จ แต่ถ้า เป็น E-Auction จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประเภทค่าธรรมเนียม
การประกวดแบบ E-Auction ด้วย เมื่อได้งาน จะต้องมีการเซนต์สัญญา
อันนี้แหล่ะ เราต้องเริ่ม ลงทุนแล้วหล่ะ ( แต่ทุกงานที่ ดิวกับราชการ ไม่ต้องกลัว เรื่องไม่ได้เงิน แต่อาจจะช้าหน่อย เรียกว่าได้ชัวร์แต่ต้องรอหน่อย )
บางงาน ต้องลงทุนเกือบ 100% แต่บางงานลงทุน ตามงวดงาน ที่ได้มา )
ข้อแนะนำ คือ เงินลงทุน พวกนี้ ควรมีสายป่าน ดี ๆ หน่อย เช่น ต้องมี Bank เป็นตัวช่วย หรือ เงินทุนหมุนเวียน
โดยมาก บริษัท / ห้างหุ้นส่วน มักจะมีเงินทุน หมุนเวียนดี แล้วพร้อมที่จะเริ่มรับงาน ภาครัฐ แต่ถ้า สะดุด ปัญหา อาจจะตามมา
อาทิ งานไม่จบ หรือ ส่งไม่ทันตามเวลา ก็อาจจะโดนค่าปรับ
เบื้องต้น คงจะพอแค่นี้ก่อน คราวต่อไป จะมาต่อให้อีก นะ