เรามีฝันตั้งแต่เด็กๆ เราอยากจะเป็นแอร์โฮสเตทค่ะ

อาจจะเพราะครอบครัวพาเราไปเที่ยวต่างประเทศ และเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ มันเลยทำให้เรามองว่าคนที่หน้าที่นี้สวย และเก่ง

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากจะเป็นแอร์ค่ะ

แต่ด้วยเราเกิดมานั้นเรามีความผิดปกติทางสายตา เราสายตายาว เอียง และเข เมื่อเราโตขึ้นเราเข้าใจถึงข้อจำกัดนี้ เราเลยไม่คิดจะสนใจความฝันที่จะเป็นแอร์อีกเลย เพราะเราคิดว่ามันคงไม่มีวันเป็นไปได้

นอกจากนั้น เราเคยมารีวิวเครื่องสำอางค์ และแต่งหน้าใน pantip.com ในสมัยยังเป็นห้อง ญ หญิง เราถูก Celeb ที่เค้ารีวิวบ่อยๆ และแฟนคลับของ Celeb เรียกเราว่า น้องเข น้องเหล่

สำหรับ Celeb และ The Gang ของเค้าอาจจะตลก สนุกสนาน

แต่สำหรับเรามันแย่มากนะคะ เหมือนเราเป็นคนที่ผิดปกติ เป็นตัวตลกของสังคม

มันยิ่งทำให้เราอับอาย และคิดว่าเราคงไม่มีหวัง ไม่มีวันแล้วละ ถึงจะแต่งหนเาได้ แก้ไขได้จากการแต่งหน้า แต่การที่ถูกคนมาเรียกน้องเข น้องเหล่ มันทำให้ความมั่นใจของเราถดถอยลงไปมากมายเหลือเกิน จนเรียกว่าหมดลงไปเลยค่ะ

แต่ระหว่างนั้น เราก็ยังคงเข้าเว็บพวกสมัครแอร์ และได้คุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลายๆ คน จนทำให้เราคิดว่าลองดูอีกสักตั้ง

และตอนนั้น เราได้ไปหาหมอรักษาสายตา แล้วลองคุยปรึกษาว่ามันมีวิธีการอะไรมั้ยที่ช่วยให้เราหายจากปัญหาทางสายตานี้

ซึ่งจักษุแพทย์ได้แจ้งว่า เราจะต้องทำ Lasik แก้ปัญหาสายตายาว และเอียงก่อน แล้วถึงค่อยมาผ่าตัดแก้ปัญหาสายตาเขจากกล้ามเนื้อตา

เราเลยตัดสินใจขอเงินแม่ไปทำ Lasik โดยบอกแม่ว่าอยากสมัครแอร์

เป็นโชคดีของเรา ที่คุณแม่เราสนับสนุนให้เราตามฝันเรา และอีกนัยหนึ่ง มันเป็นการรักษาสายตาของเราให้ดีขึ้น คุณแม่เลยสนับสนุนเงินให้เราไปทำค่ะ

อาจจะเป็นโชคดีของเราอีกเช่นกัน ที่การทำ Lasik มันดันข่วยทำให้สายตาเราที่ยาวกลับมาเป็นค่าสายตาปกติ ปัญหาสายตาเอียงถูกยิงแก้ไปจนหมด และที่ surprise เรามากๆ คือสายตาเราเขน้อยลง จนจักษุแพทย์ที่เราตรวจรักษาทั้ง 2 ท่าน 2 โรงพยาบาลแจ้งว่าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขแล้ว แค่รอเวลาให้กล้ามเนื้อตามันทำงานได้เป็นปกติเท่านั้น

เมื่อเราแก้ไขจุดด้อยทางสายตาของเราได้แล้ว เราจึงเริ่มสมัครแอร์ค่ะ ครั้งแรกคือเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 กับสายการบิน Qatar แต่เราก็ตกรอบแรกบ้าง รอบสองบ้าง รอบไฟนอลบ้าง

แต่เราก็ยังคงสมัครมาเรื่อยๆ และก็พยายามทำงานที่มันจะส่งเสริมให้เราดูเหมาะกับงานแอร์มากที่สุด

เช่น ทำงานเป็นฟรอนท์ที่โรงแรม แล้วก็ย้ายมาทำงานในห้างสรรพสินค้าเป็น Customer Relations ที่ Siam Paragon แล้วก็ย้ายมาทำงาน PR ที่ Thai Airways ค่ะ

นอกจากเรื่องความงาม และเรื่องการทำงานที่จะฝึกฝน skill นั่นนี่ให้กับตัวเรานั้น เรายังพัฒนาด้านภาษาของเราด้วยค่ะ

เป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่ถึงแม้เราจะเกลียดภาษาอังกฤษมากๆ แต่ด้วยที่ครอบครัวเราทำงานสายการบิน พี่สาวเลยบังคับเราให้หัดอ่าน เขียน เรียนพิเศษ และท่องศัพท์มาตั้งแต่เด็กๆ และพี่ชายเราก็เช่นกันค่ะ เค้าเป็นพวกเรียนเก่ง เค้าก็จะคอบกรอกหูให้เราสนใจการเรียนภาษา กรอกหูให้พยายามขยันค่ะ

ส่วนคุณแม่ไม่ดุ ไม่อะไร แต่คุณแม่สนับสนุนจ่ายค่าเรียนให้ค่ะ

จนมาทำงาน แม่ และพี่สาว ก็ยังสนับสนุนค่าเรียนภาษาให้อยู่ตลอดค่ะ

ความพยายามของเราทั้งปรับปรุงด้านกายภาพ บุคลิกภาพ การคิด วิธีการ เสริมสร้างบุคลิกจากการทำงาน เสริมสร้าง skill จากการทำงาน

เราค่อยๆ พยายามมาตั้งแต่ปี 2008 จนถึงตอนนี้ ปี 2014 เวลาผ่านไป 6 จะ 7 ปีแล้ว

ชีวิตเราใกล้ความฝันเข้ามามากค่ะ

จากคนที่เคยคิดว่าชีวิตนี้ เราคงไม่มีวันแล้วละที่จะได้ทำงานในสายการบิน แต่เราก็ได้แล้วละทำงานเป็น PR ในสายการบินแห่งชาติ

และตอนนี้ เมื่ออาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมา เราได้สัมภาษณ์รอบ Final กับสายการบินที่เราฝัน ที่เราอยากจะทำงานด้วยมากที่สุด และเป็นสายการบินแรกที่เราสมัครงานแอร์ด้วยคือ EK

เรามีความรู้สึกว่า เฮ้ย คนเราทำไดดทุกอย่างนะ แต่ขอแค่อย่าละทิ้งความฝัน อย่ายอมแพ้ อย่าท้อ อย่าถอย ขอแค่ทำมันไปเถอะ

ทำๆ มันไป สักวันคุณจะใกล้ความฝัน และถ้าเวลาเหมาะ อะไรเหมาะ คุณก็อาจจะได้เป็นในสิ่งที่คุณฝันนะ

ของเราตอนนี้ ฝันเรามันใกล้มามากขึ้นละ ตอนนี้เหมือนเราเดินทางมา 90% แล้วละ รอผลอีก 10% ว่ากรรมการทาง Dubai จะเอาเรามั้ย

หากเขาตอบว่ารับ เราจะทำได้สำเร็จตามที่เราฝัน

แต่ถ้ามันไม่ใช่ เราก็คงจะไม่ท้อแท้จนเลิกตามฝันเราหรอก

เรากล้าบอกได้เลยว่าเราทำได้ตามที่เราฝัน ที่เราต้องการทุกอย่าง

เราอาจจะไม่ใช่คนที่โชคดีที่สามารถทำอะไรๆ สำเร็จได้ในครั้งเดียว และก็ในครั้งแรกที่ทำ

แต่เราก็พยายามจะทำมันซ้ำๆ เข้าไป แล้วสุดท้าย ความพยายามที่เราทุ่มเท มันไม่เคยทำให้เราผิดหวังแม้สักครั้งเดียว

//

กระทู้นี้ ก็เป็นอีกปีหนึ่ง ที่เรามาอัพเดทนั่นนี่ของเราในพันทิป หากสมาชิกบางท่านที่เล่นมานานแล้ว ก็อาจจะเคยผ่านหูผ่านตากระทูเราที่จะชอบมาตั้งกระทู้อัพเดทแบบนี้เรื่องชีวิต ความคิด และก็เรื่องการทำ Lasik ที่เราทำมา ว่ามันยังโอเคอยู่ไหมนะ

การเขียนกระทู้แบบนี้ของเราทุกๆ ปี มันเป็นการแค่อยากบอกเล่า ให้คนที่มีฝัน แล้วท้อถอยว่าทำไมมันยากเย็นเหลือเกินนั่นนี่แล้วท้อ จะได้มีกำลังใจ

นอกจากนั้น เราอยากจะย้ำให้ตัวเราจำว่าสมัยก่อนเราเป็นยังไง กว่าจะมีวันที่คนอื่นๆ มาบอกว่าเราดูดี หรือเราแต่งหน้าสวยนั่นนี่ เราเป็นมายังไง

เราไม่อยากจะลืมตัว แล้วไปพูดกดใครให้เขารู้สึกแย่จนท้อถอย หมดกำลังใจ และต้องเสียกำลังใจแบบที่เราเจอ

//

หากใครกำลังท้อถอย ขอให้คุณท่องไว้ ว่าความพยายามของคุณมันจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ ขอแค่คุณอย่าท้อจนหยุดพยายาม

วันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ยังมี

คนเรามันจะแพ้ชนะกันก็อยู่ที่ความเพียร ความพยายามนี่แหละค่ะ

และนี่ รูปพัฒนาการของเรา ^_^

เราภูมิใจนะ จากจุดเริ่มต้นที่แบบ เอิ่มมมมม

ตามภาพที่เรียงปีนะคะ มาจนตอนนี้

55555+

นี่เป็นเจ้าของรูปก็ยังเอิ่มมมม ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายเลยเนี่ย

กร๊ากกกกกกกกกก



//

สุดท้ายนี้

"ชีวิตเป็นของคุณ อย่าให้ใคร หรืออะไรมาบั่นทอน มาบอกว่าคุณทำไม่ได้ คุณไม่มีวันจะทำสำเร็จ ไม่มีใครจะรู้ดีเท่าตัวเราค่ะ"

ยิ้ม เชิดหน้า และสู้

และรอรับกับความสำเร็จค่ะ

ปล. หวังว่ากระทู้เราจะเติมกำลังใจ หรือเติมเชื้อไฟให้ใครๆ ได้นะคะ

ส่วนใครกำลังสมัครแอร์อยู่ และกำลังเตรียมตัวจะสมัคร EK รอบ มกราคม 2015 นี้ สามารถอ่านขั้นตอนต่างๆ ในการคัดเลือกได้จากกระทู้ของเรา ที่เคยโพสต์ไว้นะคะ

ประสบการณ์สมัคร และสัมภาษณ์กับ Emirates Airline ณ London ประเทศอังกฤษ

http://pantip.com/topic/33010204

อันนี้ Clip มอ มอ เมาท์มอย เรื่องสมัคร Emirates ที่ London (ปล. เราเป็นคนพูดแบบ งงๆ นะ อย่าว่ากันนะ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆ)



//

หากท่านใดที่อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้น หรือท่านใดที่ไม่กล้าทำตามฝัน อ่านแล้วทำให้ฮึดอยากทำฝัน

ขอให้ผลบุญจากเขียนกระทู้นี้ส่งผลให้เราสำเร็จดังที่เราหวัง และขออุทิศผลบุญ และกุศลให้กับเจ้ากรรม นายเวร ขอให้อดโทษ งดโทษแก่เราด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ