เท่าที่ผมสังเกต แพทย์หญิงจบแล้ว หรือ แพทย์หญิงกลุ่ม D
จะมีคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างชัดเจนมากขึ้น
แต่ละสาขาก็ไม่เหมือนกัน น่าสนใจมากครับ

(รูปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใดๆทั้งสิ้น แปะๆไปหยั่งงั้น)
แพทย์หญิง ศัลยกรรม
จะดูแข็งๆหน่อย ไม่หวานมาก รูปร่างไม่ล่ำอย่างที่เข้าใจกัน
มีสองแบบ ไม่หุ่นดี ก็แม่มอ้วนไปเลย
นิสัยผู้ชายๆ
ไม่ค่อยออกกำลังกาย ซึ่งตรงนี้ตรงข้ามกับที่เรามักจะเข้าใจกันนะครับ
น้ำหอม เสื้อผ้า หน้าผม นอกงานนี่ เป๊ะมาก มักจะเปิดกว้างสำหรับผู้ชายนอกวงการมากกว่าพวกหมอเมด
ข้อนี้สำคัญนะครับ หนุ้มนอกวงการใจต้องกล้า
ถ้าชอบก็จีบเลย อย่าไปกลัว โอกาสติดมีไม่น้อย
แพทย์หญิง อายุรกรรม
หน้าตาบ้านๆ ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินผ่านๆ
นึกว่าทำงานขายเสื้อผ้าออนไลน์
น่ารักมีแต่น้อย หน้ากลางๆ หนักไปทาง ocd perfectionist
ทุกอย่างต้องละเอียด
จะทำอะไร มักจะต้องมีแพลนล่วงหน้าเสมอ
พูดน้ำไหลไฟดับ เริ่มแล้วหยุดยาก
ถ้ารักจะเป็นแฟนหมอเมด ต้องหัดฟังเยอะๆ
ออกกำลังกายไว้อัพลงเฟสให้เพื่อนๆมากดไลค์
โสดเยอะ เพื่อนเพียบ เข้าหาง่าย (แต่มักไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าหา) หน้ามันๆ หัวยุ่งๆ หน่อย
ผมเคยทักเพื่อนนะ หันไปตกใจสะดุ้ง
'เฮ้ย หน้าแม่มมันมาก เติมอะไรหน่อยดิ'
'เติมอะไร'
'ก็แป้ง เปิ้ง อะไรเงี้ย'
'เติมมาแล้ว หน้ากรูแห้งได้แค่นี้'
แพทย์หญิง สูติกรรม
ข้อได้เปรียบกว่าแพทย์หญิงสาขาอื่น คือ ได้หนาครับ
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากว่าจะเทรนจนจบมาเป็นสูติแพทย์ได้นั้น
ทั้งงัด ทั้งกด ทั้งบิด ทั้งหมุน ไม่ว่าจะมือเปล่า หรือ ใช้อุปกรณ์
ได้ทั้งไหล่ ได้ทั้งปีก
อาจจะไม่ใหญ่มากแต่แน่นแน่ๆ
หัตถการอาจจะไม่ได้ใช้แรงเท่าออโธก็จริง
แต่การเลือกผ่อนแรง ทั้งหนัก และเบาแบบ fine tuning นั้น
ต้องมีกล้ามเนื้อส่วนต้นของระยางค์ที่แข็งแรงมาก ผมพูดตรงนี้เลย
หลายคนอาจจะคิดว่าหัตถการทำคลอดต้องใช้กล้ามเนื่อส่วนบนเป็นหลัก
แต่จริงๆแล้วมาจากขา เหมือน มวย หรือ เทนนิส นะครับ
ดูผ่านๆเหมือนใช้แต่มือ
แต่พลังต้องถ่ายออกมาตั้งแต่หัวแม่ teen เลย
กล้ามขา และ บอดี้บาลานส์ ถือว่าดีที่สุดในกลุ่ม
เวลาขึ้นรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ airport link
ไม้ต้องจับราวนะฮะ ไม่จำเป็น รถจะกระชากจะเอียงยังไง
คนไหลเซกันทั้งโบกี้ ชียืนส่งไลน์ได้นิ่งๆเลย ผมเห็นมากะตา
แพทย์หญิง รังสี
เหมือน The Dark Knight Rises ทำงานอยู่ในถ้ำ ที่มืดๆ สแคลชแผ่นแบบดีเจ ม่านตาลุกโพรงตลอดเวลา
เพราะแสงแม่มน้อย แต่หน้าตาแต่ละคนนี่ เกาหลี สุดๆ สวยเยอะมาก
หน้างานก็ไม่ค่อยเห็นตัว นอกงานนี่แทบไม่รู้เลยว่าทำงานอะไร
ผมขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของผมให้ฟัง
มีอยู่ครั้งนึง ตอนนั้นเข้าไปปรึกษาเคส อาจารย์อาวุโสรังสี
นั่งดู MRI ด้วยกันหน่าคอม ว่าจะเอาไงต่อดีว้าาเคสนี้
อ้อใช่ๆ ขอแทรกนิดนึง
หลายคนอาจจะนึกภาพที่ทำงานขอพวกเธอไม่ออกนะครับ
มันจะเป็นห้องมืดๆ แอร์เย็นๆ
แสงในห้องมาจากหน้าจอคอมขนาดใหญ่หลายๆตัวที่รายล้อมรอบห้องอยู่
จอพวกนี้จะกะพริบๆ ไปเรื่อยๆตามแต่คุณหมอเค้าจะคลิ๊กหน้าจอไป
โต๊ะก็จะมี กาแฟ กระเป๋าต่างๆ วางกันเรียงราย
คุณหมอรังสี นั่งประจำการอ่านฟิล์ม หน้าตาเกาหลีมากๆ
ผมนั่งคุยกับอาจารย์ซักพัก ก็เห็นน้องหมอเมดผู้หญิง
หน้าตากระหัดกระหอบ ผมยุ่งๆ หน้ามันๆ ถือชาร์ทคนไข้มาปรึกษาเคส ที่ส่ง CTA เหงื่อซึมๆ นั่งไปปาดเหงื่อที่แก้มไป
หันไปมองแล้วรู้สึกได้เลยว่า ราศีมันช่างต่างกันจริงๆ 55555
แพทย์หญิง ดมยา
เก้งเยอะมากเอ๊ยไม่ใช่ สวยน่ารักหุ่นดี เป็นส่วนใหญ่
ถ้าไม่ใช่คนในวงการเดียวกันเข้าถึงยากมาก
เปรียบเหมือนนินจาสาว เพราะใส่ชุด OR ปิด mask ตลอดเวลา
พอแปลงร่างกลับไปเป็นร่างปกติ ก็ดูไม่ออกเลยทีนี้ ใครเป็นใคร
เห็นได้แค่ดวงตา
เราอาจจะได้เห็นพวกเธอบนโลกมนุษย์บ้าง เช่น ตอนใส่ tube ไม่เข้า
อันนี้จะได้เห็นสกิลเทพ ที่เราต้องอึ้งอ่ะ เฮ้ยทำได้ไงวะ
เดินมาหน้าชิลๆด่วย นิ่งมาก
เธออาจจะมาพร้อมกับพยาบาลผู้ช่วยกับกระเป๋าโดเรมอน
ที่บรรจุยาพิเศษต่างๆที่หมอทั้วๆไปอย่างเราไม่กล้าใช้
ทำให้นึกถึงหนังจีนกำลังภายในสมัยก่อน ตอนผมตัวกะเปี๊ยกเดียว
ที่จะมีสำนักนึงที่เจ้าสำนักเป็นผู้หญิง แต่งตัวเหมือนนางฟ้า
เคลื่อนไหวไร้รูปร่าง ดูสงบนิ่งแต่วรยุทธสูงส่ง
แพทย์หญิง กุมาร
น่ารักแบบโนเนะ หุ่นเหมือนเด็กๆ อาจเป็นเพราะอยู่กับเด็กๆตลอดเวลา เวลาพูดจะยิ้มไปด้วยแบบนางสาวไทย
บางทีมันติดๆออกมา นอกงานเหมือนกันนะครับ
รูปร่างเล็กมาก ไซส์เค้าจะแบบคนญี่ปุ่นสมัยก่อน
ดูเล็กไปหมดทุกส่วน มองตรงไหนก็เล็กไปหมด
กินข้าวกินปลาบ้างป่าวเนี่ย
แต่ตกดึกเพลงมานี่ออกสเตปลืมตาย ผมเคยเจอบ่อยๆ หมอเด็กเนี่ยไม่รู้เป็นอะไร
ท่าเต้นแต่ละท่า ไม่รู้ท่านได้แต่ใดมา เหมือนซ้อมมาจากบ้าน
คือมันฮาตรงที่ หน้าตาคิกขุสุดแต่เต้นที นึกว่า step up ภาคใหม่
แพทย์หญิง ER
อันนี้ถือเป็นสำนักเปิดใหม่นะครับ ผมเองไม่ค่อยได้มีโอกาสคลุกคลีมากนัก
เนื่องจาก N ยังน้อยอยู่ ไว้ปีถัดไปได้ข้อมูลมามากกว่านี้จะมารีวิวให้ฟังนะครับ
แพทย์หญิง จิตเวช
ไม่น่าเชื่อนะครับ ผมว่าคุณก็อาจจะไม่เชื่อเหมือนผม
คุณหมอจิตเวชสาว มีบุคลิกและการพูดจาที่ดูดัที่สุดในกลุ่ม
คือผมก็รู้นะว่า เค้าไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้หรอก
แต่ดูดีจริงๆครับ
หนุ่มนอกวงการสนใจนี่จีบได้เลย ส่วนใหญ๋อัธยาศรัยดีมาก
แพทย์หญิง สกิน
ยุน อาว์ แต่ละคนเหมือนก๊อปออกมาจากเบ้าเดียวกัน เป๊ะเว่อ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง
เป็นยังไง คือใช่เลยอ่ะคุณ ไม่เหมือนหมอในละครแบบป้าแว่น
ที่ฝังหัวเรามาตั้งแต่เด็กๆ
เป็นแพทย์สาขาที่หน้าตาโดยเฉลี่ยดีที่สุดแล้ว
มักเป็นที่หมายปองของหนุ่มนอกวงการ
แพทย์หญิง GP
หน้าจะตรงข้ามกับสายสกิน คือคุณเห็นสกินยังไง อันนี้ตรงข้ามอ่ะ หน้าเครียด
หัวยุ่ง อารมณ์ขันไม่ค่อยมี เวลาหัวเราะจะ หัวเราะไม่เกินสามพยางค์ 'หึ หึ หึ' หลอนมาก
พูดน้อย เวลาคุยกันตอบไม่เกินสามสี่คำ ถาม ทำไม บอกกรูเซฟกล่องเสียง
แพทย์หญิง Eyes
นี่แหละ นางเอกตัวจริง น่ารักเกิน 90%
ผมแนะนำ คุณไปหาเค้าบอกเคืองตา ไปกี่ทีก็ เคืองตา บอก dry eyes
เป็นได้เรื่อยๆ ตรวจไปก็ไม่เจอ
หมอถาม ทำไมไม่หยอดน้ำตาเทียม
บอกเลย หยอดไม่เป็น หยอดทีไรก็โดนแก้มทุกที ให้หมอหยอดให้ดู อะไรต่างๆ
เทคนิคในการจีบแพทย์หญิงปี 2015
จะมีคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างชัดเจนมากขึ้น
แต่ละสาขาก็ไม่เหมือนกัน น่าสนใจมากครับ
(รูปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใดๆทั้งสิ้น แปะๆไปหยั่งงั้น)
แพทย์หญิง ศัลยกรรม
จะดูแข็งๆหน่อย ไม่หวานมาก รูปร่างไม่ล่ำอย่างที่เข้าใจกัน
มีสองแบบ ไม่หุ่นดี ก็แม่มอ้วนไปเลย
นิสัยผู้ชายๆ
ไม่ค่อยออกกำลังกาย ซึ่งตรงนี้ตรงข้ามกับที่เรามักจะเข้าใจกันนะครับ
น้ำหอม เสื้อผ้า หน้าผม นอกงานนี่ เป๊ะมาก มักจะเปิดกว้างสำหรับผู้ชายนอกวงการมากกว่าพวกหมอเมด
ข้อนี้สำคัญนะครับ หนุ้มนอกวงการใจต้องกล้า
ถ้าชอบก็จีบเลย อย่าไปกลัว โอกาสติดมีไม่น้อย
แพทย์หญิง อายุรกรรม
หน้าตาบ้านๆ ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินผ่านๆ
นึกว่าทำงานขายเสื้อผ้าออนไลน์
น่ารักมีแต่น้อย หน้ากลางๆ หนักไปทาง ocd perfectionist
ทุกอย่างต้องละเอียด
จะทำอะไร มักจะต้องมีแพลนล่วงหน้าเสมอ
พูดน้ำไหลไฟดับ เริ่มแล้วหยุดยาก
ถ้ารักจะเป็นแฟนหมอเมด ต้องหัดฟังเยอะๆ
ออกกำลังกายไว้อัพลงเฟสให้เพื่อนๆมากดไลค์
โสดเยอะ เพื่อนเพียบ เข้าหาง่าย (แต่มักไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าหา) หน้ามันๆ หัวยุ่งๆ หน่อย
ผมเคยทักเพื่อนนะ หันไปตกใจสะดุ้ง
'เฮ้ย หน้าแม่มมันมาก เติมอะไรหน่อยดิ'
'เติมอะไร'
'ก็แป้ง เปิ้ง อะไรเงี้ย'
'เติมมาแล้ว หน้ากรูแห้งได้แค่นี้'
แพทย์หญิง สูติกรรม
ข้อได้เปรียบกว่าแพทย์หญิงสาขาอื่น คือ ได้หนาครับ
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากว่าจะเทรนจนจบมาเป็นสูติแพทย์ได้นั้น
ทั้งงัด ทั้งกด ทั้งบิด ทั้งหมุน ไม่ว่าจะมือเปล่า หรือ ใช้อุปกรณ์
ได้ทั้งไหล่ ได้ทั้งปีก
อาจจะไม่ใหญ่มากแต่แน่นแน่ๆ
หัตถการอาจจะไม่ได้ใช้แรงเท่าออโธก็จริง
แต่การเลือกผ่อนแรง ทั้งหนัก และเบาแบบ fine tuning นั้น
ต้องมีกล้ามเนื้อส่วนต้นของระยางค์ที่แข็งแรงมาก ผมพูดตรงนี้เลย
หลายคนอาจจะคิดว่าหัตถการทำคลอดต้องใช้กล้ามเนื่อส่วนบนเป็นหลัก
แต่จริงๆแล้วมาจากขา เหมือน มวย หรือ เทนนิส นะครับ
ดูผ่านๆเหมือนใช้แต่มือ
แต่พลังต้องถ่ายออกมาตั้งแต่หัวแม่ teen เลย
กล้ามขา และ บอดี้บาลานส์ ถือว่าดีที่สุดในกลุ่ม
เวลาขึ้นรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ airport link
ไม้ต้องจับราวนะฮะ ไม่จำเป็น รถจะกระชากจะเอียงยังไง
คนไหลเซกันทั้งโบกี้ ชียืนส่งไลน์ได้นิ่งๆเลย ผมเห็นมากะตา
แพทย์หญิง รังสี
เหมือน The Dark Knight Rises ทำงานอยู่ในถ้ำ ที่มืดๆ สแคลชแผ่นแบบดีเจ ม่านตาลุกโพรงตลอดเวลา
เพราะแสงแม่มน้อย แต่หน้าตาแต่ละคนนี่ เกาหลี สุดๆ สวยเยอะมาก
หน้างานก็ไม่ค่อยเห็นตัว นอกงานนี่แทบไม่รู้เลยว่าทำงานอะไร
ผมขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของผมให้ฟัง
มีอยู่ครั้งนึง ตอนนั้นเข้าไปปรึกษาเคส อาจารย์อาวุโสรังสี
นั่งดู MRI ด้วยกันหน่าคอม ว่าจะเอาไงต่อดีว้าาเคสนี้
อ้อใช่ๆ ขอแทรกนิดนึง
หลายคนอาจจะนึกภาพที่ทำงานขอพวกเธอไม่ออกนะครับ
มันจะเป็นห้องมืดๆ แอร์เย็นๆ
แสงในห้องมาจากหน้าจอคอมขนาดใหญ่หลายๆตัวที่รายล้อมรอบห้องอยู่
จอพวกนี้จะกะพริบๆ ไปเรื่อยๆตามแต่คุณหมอเค้าจะคลิ๊กหน้าจอไป
โต๊ะก็จะมี กาแฟ กระเป๋าต่างๆ วางกันเรียงราย
คุณหมอรังสี นั่งประจำการอ่านฟิล์ม หน้าตาเกาหลีมากๆ
ผมนั่งคุยกับอาจารย์ซักพัก ก็เห็นน้องหมอเมดผู้หญิง
หน้าตากระหัดกระหอบ ผมยุ่งๆ หน้ามันๆ ถือชาร์ทคนไข้มาปรึกษาเคส ที่ส่ง CTA เหงื่อซึมๆ นั่งไปปาดเหงื่อที่แก้มไป
หันไปมองแล้วรู้สึกได้เลยว่า ราศีมันช่างต่างกันจริงๆ 55555
แพทย์หญิง ดมยา
เก้งเยอะมากเอ๊ยไม่ใช่ สวยน่ารักหุ่นดี เป็นส่วนใหญ่
ถ้าไม่ใช่คนในวงการเดียวกันเข้าถึงยากมาก
เปรียบเหมือนนินจาสาว เพราะใส่ชุด OR ปิด mask ตลอดเวลา
พอแปลงร่างกลับไปเป็นร่างปกติ ก็ดูไม่ออกเลยทีนี้ ใครเป็นใคร
เห็นได้แค่ดวงตา
เราอาจจะได้เห็นพวกเธอบนโลกมนุษย์บ้าง เช่น ตอนใส่ tube ไม่เข้า
อันนี้จะได้เห็นสกิลเทพ ที่เราต้องอึ้งอ่ะ เฮ้ยทำได้ไงวะ
เดินมาหน้าชิลๆด่วย นิ่งมาก
เธออาจจะมาพร้อมกับพยาบาลผู้ช่วยกับกระเป๋าโดเรมอน
ที่บรรจุยาพิเศษต่างๆที่หมอทั้วๆไปอย่างเราไม่กล้าใช้
ทำให้นึกถึงหนังจีนกำลังภายในสมัยก่อน ตอนผมตัวกะเปี๊ยกเดียว
ที่จะมีสำนักนึงที่เจ้าสำนักเป็นผู้หญิง แต่งตัวเหมือนนางฟ้า
เคลื่อนไหวไร้รูปร่าง ดูสงบนิ่งแต่วรยุทธสูงส่ง
แพทย์หญิง กุมาร
น่ารักแบบโนเนะ หุ่นเหมือนเด็กๆ อาจเป็นเพราะอยู่กับเด็กๆตลอดเวลา เวลาพูดจะยิ้มไปด้วยแบบนางสาวไทย
บางทีมันติดๆออกมา นอกงานเหมือนกันนะครับ
รูปร่างเล็กมาก ไซส์เค้าจะแบบคนญี่ปุ่นสมัยก่อน
ดูเล็กไปหมดทุกส่วน มองตรงไหนก็เล็กไปหมด
กินข้าวกินปลาบ้างป่าวเนี่ย
แต่ตกดึกเพลงมานี่ออกสเตปลืมตาย ผมเคยเจอบ่อยๆ หมอเด็กเนี่ยไม่รู้เป็นอะไร
ท่าเต้นแต่ละท่า ไม่รู้ท่านได้แต่ใดมา เหมือนซ้อมมาจากบ้าน
คือมันฮาตรงที่ หน้าตาคิกขุสุดแต่เต้นที นึกว่า step up ภาคใหม่
แพทย์หญิง ER
อันนี้ถือเป็นสำนักเปิดใหม่นะครับ ผมเองไม่ค่อยได้มีโอกาสคลุกคลีมากนัก
เนื่องจาก N ยังน้อยอยู่ ไว้ปีถัดไปได้ข้อมูลมามากกว่านี้จะมารีวิวให้ฟังนะครับ
แพทย์หญิง จิตเวช
ไม่น่าเชื่อนะครับ ผมว่าคุณก็อาจจะไม่เชื่อเหมือนผม
คุณหมอจิตเวชสาว มีบุคลิกและการพูดจาที่ดูดัที่สุดในกลุ่ม
คือผมก็รู้นะว่า เค้าไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้หรอก
แต่ดูดีจริงๆครับ
หนุ่มนอกวงการสนใจนี่จีบได้เลย ส่วนใหญ๋อัธยาศรัยดีมาก
แพทย์หญิง สกิน
ยุน อาว์ แต่ละคนเหมือนก๊อปออกมาจากเบ้าเดียวกัน เป๊ะเว่อ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง
เป็นยังไง คือใช่เลยอ่ะคุณ ไม่เหมือนหมอในละครแบบป้าแว่น
ที่ฝังหัวเรามาตั้งแต่เด็กๆ
เป็นแพทย์สาขาที่หน้าตาโดยเฉลี่ยดีที่สุดแล้ว
มักเป็นที่หมายปองของหนุ่มนอกวงการ
แพทย์หญิง GP
หน้าจะตรงข้ามกับสายสกิน คือคุณเห็นสกินยังไง อันนี้ตรงข้ามอ่ะ หน้าเครียด
หัวยุ่ง อารมณ์ขันไม่ค่อยมี เวลาหัวเราะจะ หัวเราะไม่เกินสามพยางค์ 'หึ หึ หึ' หลอนมาก
พูดน้อย เวลาคุยกันตอบไม่เกินสามสี่คำ ถาม ทำไม บอกกรูเซฟกล่องเสียง
แพทย์หญิง Eyes
นี่แหละ นางเอกตัวจริง น่ารักเกิน 90%
ผมแนะนำ คุณไปหาเค้าบอกเคืองตา ไปกี่ทีก็ เคืองตา บอก dry eyes
เป็นได้เรื่อยๆ ตรวจไปก็ไม่เจอ
หมอถาม ทำไมไม่หยอดน้ำตาเทียม
บอกเลย หยอดไม่เป็น หยอดทีไรก็โดนแก้มทุกที ให้หมอหยอดให้ดู อะไรต่างๆ