ผมมีโอกาสได้ดู Horns จากแผ่นบลูเรย์บ้านเพื่อน (ไม่รู้แผ่นแท้หรือแผ่นปลอม ออกมาเร็วชะมัด)
แถมเพิ่งมาดูตอนกลางเรื่อง เพราะพาลูกสาวอายุเกือบๆ 2 ขวบไปว่ายน้ำ ยังอุตส่าห์มาเขียนรีวิวได้ 555+
จากที่เห็นการตัดต่อ การดำเนินเรื่อง และการใส่เสียงเพลงในช่วงต่างๆของภาพยนต์
ผมฟันธงเลยว่ามันเป็นหนังอินดี้ชัวร์ๆ (ในความหมายของผม คือเป็นหนังนอกกระแส)
มันไม่ควรนำมาฉายในโรงภาพยนต์ในเมืองไทยซะด้วยซ้ำ ถ้าคนเลือกหนังได้ดูมาก่อนตัดสินใจ
แต่ที่ได้ฉายในเมืองไทย มีเหตุผลคือ พระเอกเคยเป็น harry potter มาก่อน + เรื่องมันแฟนตาซีนิดๆ ดราม่าหน่อยๆ
ที่ผมมาเขียนริวิวหนังเรื่องนี้ เพราะถ้าคนดูไม่มีพื้นฐาน "คริสต์ศาสนา" คนดูก็จะไม่ค่อย get ในสิ่งที่ผู้กำกับสื่อ
และสิ่งที่ผมคิดว่าคนอื่นคงไม่มาเขียนรีวิวเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ค่อย get กัน
ผมบอกเลยว่า ด้วยความที่มันเป็นหนังอินดี้ นั่นหมายถึงหนังจะพยายามใส่สัญลักษณ์ให้เยอะๆเข้าไว้
อะไรที่คุณเห็นว่ามันเว่อร์ๆ มันก็เว่อร์ในแบบที่อยู่ในหนัง แต่คุณต้องดูแบบ "ไม่อิน" ไปกับมัน และต้องถอดความให้ได้
อย่างเช่นคุณดู harry potter เวลาคุณดู คุณต้องอินว่ามันมีอยู่จริง เสมือนว่าโลกเวทมนต์มันหลบซ่อนสายตาพวกมักเกิ้ลอย่างเราๆอยู่
แต่คุณต้องดู Horns แบบหนังที่เล่าถึงจินตนาการของเด็กคนหนึ่งอยู่เท่านั้น แล้วคุณจะเห็นมุมมองได้มากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่ผมจับจุดได้ก็คือ : ทำไมพระเอกต้องรับความเจ็บปวด จากสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ ?
ฟังดูแล้วเหตุผลมันไม่เข้าท่าเอาซะเลย ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ทำทั้งดีและชั่วก็ควรได้รับผลของมันไม่มากก็น้อย
แต่พระเอกไม่ได้ฆ่านางเอก แล้วสังคมทั้งในครอบครัว และนอกครอบครัว ต่างก็ตราหน้าว่าเขาเป็นคนฆ่านางเอก
เรื่องราว Horns นี้จึงถูกถ่ายทอดมาในรูปแบบที่พระเอกได้รับพลังพิเศษอะไรบางอย่าง เพื่อให้คนดูได้รับอะไรบางอย่าง
ความแค้น : บาปแรกที่ทำให้พระเอกกลายเป็นคนบาป
Horns(เขา) เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสิ่งชั่วร้ายที่เป็นสากล คนดูทั่วไปเข้าใจได้ว่าหมายถึงมารซาตาน หรืออะไรสักอย่างที่ชั่ว
ความแค้นทำให้พระเอกมีบาป ซึ่งต้นเหตุของความแค้นก็มาจากเพื่อนสนิทที่ไปข่มขืนแล้วฆ่านางเอก
เป็นเรา เราก็แค้น มนุษย์ทุกคนย่อมมีความรู้สึก ดังนั้น มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปได้ง่ายๆ ไม่ยากเลย เพียงแค่ "ความแค้น"
การล้างแค้น : การส่งต่อความบาป
ในการค้นหาคนร้ายตัวจริง พระเอกก็มีพลังพิเศษ คือ ไปทำให้คนอื่นพูดสิ่งเลวๆในใจออกมาได้ และกระทำชั่วต่อ
ตำรวจสองคนเป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยพูดสิ่งที่ปรารถนาในใจต่อกัน พระเอกก็ทำให้เขา xxx กัน
พี่ชายเสพยา มีปมความผิดในใจ พระเอกก็ทำให้เขาเสพยาเกินขนาด เพื่อหวังที่เขาจะได้รับความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น
เมื่อคนเรามีบาปแล้ว มันก็ง่ายที่จะทำบาปอีก และบาปก็จะถูกส่งต่อไปให้คนอื่นเรื่อยๆ
ทางศาสนาคริสต์ เรามองว่าความบาปคือสิ่งทีเราถูกส่งต่อๆกันมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยังไงเราก็ต้องทำบาปอยู่ดี
ความรัก : เหตุแห่งการให้อภัย
พระเอกไม่ฆ่าคนร้าย(เพื่อนสนิท) เพราะได้รู้ความจริงว่า นางเอกก็ยังรักเขาอยู่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ความจริงนี้ทำให้พระเอกบอกให้คนร้ายไปมอบตัวกับตำรวจ
"ความรัก" จึงเป็นหัวใจหลักของศาสนาคริสต์ เพราะถ้าไม่มีความรัก การให้อภัยก็จะไม่เกิดขึ้น
ไม้กางเขน : พระเยซูช่วยได้
จะสังเกตได้ว่า สร้อยคอไม้กางเขนของนางเอก ตอนที่คนร้ายใส่สร้อยอยู่นั้น เขากลับมองไม่เห็น Horns(เขา) ของพระเอก
พอพระเอกกระชากสร้อยคอเท่านั้นแหละ คนร้ายเห็นเขาบนหัวทันที
นั่นหมายถึง พระเยซูสามารถทำให้เราไม่มองความผิดพลาด หรือความชั่วร้ายของผู้อื่น
การที่มีสายตาว่าผู้อื่นย่อมดีกว่าตนเองอยู่เสมอ และไม่มองความผิดบาปของคนอื่น เป็นสายตาของพระเยซูอย่างแท้จริง
และเมื่อพระเอกสวมสร้อย Horns(เขา) ของพระเอกได้หายไป หมายถึง พระเยซูสามารถลบความผิดบาปของมนุษย์ได้นั่นเอง
ยิ่งในฉากจบ เมื่อพระเอกตั้งใจถอดสร้อยไม้กางเขนของนางเอก เพราะกำลังจะลงมือฆ่าคนร้าย
ปีกฑูตสวรรค์ก็ได้โผล่ออกมา และถูกเผาไหม้กลายเป็นซาตานในทันที
แสดงถึงว่าคนที่เคยเชื่อในพระเยซู ถ้าถอดใจก็กลับกลายเป็นคนบาปได้อีกเช่นเดียวกัน
การพิพากษา : เป็นเรื่องของพระเจ้าเท่านั้น
จะเห็นได้ว่า ระหว่างเรื่องพระเอกก็ได้พยายามจะฆ่าคน แต่ไม่ได้ลงมือเอง จะมีงูคอยฆ่าคนแทนพระเอก
แต่ละคนที่ถูกงูฆ่า รวมถึงคนร้าย ก็เป็นคนที่ได้ทำความผิดบาป และไม่สำนึกในความบาปของตนเอง
ดังนั้น หัวใจของการพิพากษาของพระเจ้า ที่คนๆนึงจะได้รับชีวิตในแผ่นดินสวรรค์
ไม่ได้ดูที่ว่าคนๆนั้นจะทำดีทำชั่วมามากน้อยเพียงใด เพียงแต่ดูการสำนึกในความผิดบาปของตนเองเท่านั้น
รักแท้ : ไม่ใช่ความหวังดีที่เราคิดแทน
นางเอกป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เลยบอกเลิกพระเอกว่าตัวเองมีคนใหม่
เพราะไม่อยากให้พระเอกต้องมาแต่งงาน และจมปลักอยู่กับคนป่วย หวังให้พระเอกไปมีคนใหม่ เพื่อชีวิตที่สดใส
ผลของการกระทำนี้คือเจ็บกันทั้งสองฝ่าย แถมเปิดโอกาสให้คนร้ายได้ทำบาป เป็นเรื่องเป็นราวมากมาย
แต่เสียดายที่เรื่อง Horns ไม่ได้สอนว่า "ความรักแท้ควรทำอย่างไร?" แต่ที่แน่ๆคือไม่ควรทำอย่างนี้
พื้นฐานก็คือความรักไม่โกหก ไม่หลอกลวง (มีสอนในไบเบิล) ดังนั้นเราก็จึงไม่ควรโกหกความรู้สึกของตนเอง
กลับมาคำถามแรก : ทำไมพระเอกต้องได้รับความเจ็บปวดในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อไว้ ?
เพราะนี่คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอครับ คือเป็นทุกข์เพราะคนอื่น รับความบาปที่ส่งมาจากคนอื่น
และเราก็จะได้ยินบ่อยๆว่า "พระเจ้า... ทำไมต้องให้ฉันเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ฉันทำอะไรผิด?"
พระเจ้าก็ตอบตรงๆว่า "เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่อยากให้เจ้าเจอเหตุการณ์นี้"
เพราะนี่คือบททดสอบจากพระเจ้า และเราก็มีโอกาสทำบาป มีโอกาสสำนึกผิด มีโอกาสขอความช่วยเหลือจากพระเยซู
ฉากจบในเรื่องนี้ ก็จบสไตล์อินดี้อย่างที่ผมคิดไว้ คือจบแบบ "แค่นี้หรอ???" ดีหน่อยที่มันไม่หักมุม
[CR] Horns : หนังอินดี้ ที่เล่าเรื่องความบาป ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ (สปอลย์)
แถมเพิ่งมาดูตอนกลางเรื่อง เพราะพาลูกสาวอายุเกือบๆ 2 ขวบไปว่ายน้ำ ยังอุตส่าห์มาเขียนรีวิวได้ 555+
จากที่เห็นการตัดต่อ การดำเนินเรื่อง และการใส่เสียงเพลงในช่วงต่างๆของภาพยนต์
ผมฟันธงเลยว่ามันเป็นหนังอินดี้ชัวร์ๆ (ในความหมายของผม คือเป็นหนังนอกกระแส)
มันไม่ควรนำมาฉายในโรงภาพยนต์ในเมืองไทยซะด้วยซ้ำ ถ้าคนเลือกหนังได้ดูมาก่อนตัดสินใจ
แต่ที่ได้ฉายในเมืองไทย มีเหตุผลคือ พระเอกเคยเป็น harry potter มาก่อน + เรื่องมันแฟนตาซีนิดๆ ดราม่าหน่อยๆ
ที่ผมมาเขียนริวิวหนังเรื่องนี้ เพราะถ้าคนดูไม่มีพื้นฐาน "คริสต์ศาสนา" คนดูก็จะไม่ค่อย get ในสิ่งที่ผู้กำกับสื่อ
และสิ่งที่ผมคิดว่าคนอื่นคงไม่มาเขียนรีวิวเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ค่อย get กัน
ผมบอกเลยว่า ด้วยความที่มันเป็นหนังอินดี้ นั่นหมายถึงหนังจะพยายามใส่สัญลักษณ์ให้เยอะๆเข้าไว้
อะไรที่คุณเห็นว่ามันเว่อร์ๆ มันก็เว่อร์ในแบบที่อยู่ในหนัง แต่คุณต้องดูแบบ "ไม่อิน" ไปกับมัน และต้องถอดความให้ได้
อย่างเช่นคุณดู harry potter เวลาคุณดู คุณต้องอินว่ามันมีอยู่จริง เสมือนว่าโลกเวทมนต์มันหลบซ่อนสายตาพวกมักเกิ้ลอย่างเราๆอยู่
แต่คุณต้องดู Horns แบบหนังที่เล่าถึงจินตนาการของเด็กคนหนึ่งอยู่เท่านั้น แล้วคุณจะเห็นมุมมองได้มากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่ผมจับจุดได้ก็คือ : ทำไมพระเอกต้องรับความเจ็บปวด จากสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ ?
ฟังดูแล้วเหตุผลมันไม่เข้าท่าเอาซะเลย ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ทำทั้งดีและชั่วก็ควรได้รับผลของมันไม่มากก็น้อย
แต่พระเอกไม่ได้ฆ่านางเอก แล้วสังคมทั้งในครอบครัว และนอกครอบครัว ต่างก็ตราหน้าว่าเขาเป็นคนฆ่านางเอก
เรื่องราว Horns นี้จึงถูกถ่ายทอดมาในรูปแบบที่พระเอกได้รับพลังพิเศษอะไรบางอย่าง เพื่อให้คนดูได้รับอะไรบางอย่าง
ความแค้น : บาปแรกที่ทำให้พระเอกกลายเป็นคนบาป
Horns(เขา) เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสิ่งชั่วร้ายที่เป็นสากล คนดูทั่วไปเข้าใจได้ว่าหมายถึงมารซาตาน หรืออะไรสักอย่างที่ชั่ว
ความแค้นทำให้พระเอกมีบาป ซึ่งต้นเหตุของความแค้นก็มาจากเพื่อนสนิทที่ไปข่มขืนแล้วฆ่านางเอก
เป็นเรา เราก็แค้น มนุษย์ทุกคนย่อมมีความรู้สึก ดังนั้น มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปได้ง่ายๆ ไม่ยากเลย เพียงแค่ "ความแค้น"
การล้างแค้น : การส่งต่อความบาป
ในการค้นหาคนร้ายตัวจริง พระเอกก็มีพลังพิเศษ คือ ไปทำให้คนอื่นพูดสิ่งเลวๆในใจออกมาได้ และกระทำชั่วต่อ
ตำรวจสองคนเป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยพูดสิ่งที่ปรารถนาในใจต่อกัน พระเอกก็ทำให้เขา xxx กัน
พี่ชายเสพยา มีปมความผิดในใจ พระเอกก็ทำให้เขาเสพยาเกินขนาด เพื่อหวังที่เขาจะได้รับความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น
เมื่อคนเรามีบาปแล้ว มันก็ง่ายที่จะทำบาปอีก และบาปก็จะถูกส่งต่อไปให้คนอื่นเรื่อยๆ
ทางศาสนาคริสต์ เรามองว่าความบาปคือสิ่งทีเราถูกส่งต่อๆกันมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยังไงเราก็ต้องทำบาปอยู่ดี
ความรัก : เหตุแห่งการให้อภัย
พระเอกไม่ฆ่าคนร้าย(เพื่อนสนิท) เพราะได้รู้ความจริงว่า นางเอกก็ยังรักเขาอยู่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ความจริงนี้ทำให้พระเอกบอกให้คนร้ายไปมอบตัวกับตำรวจ
"ความรัก" จึงเป็นหัวใจหลักของศาสนาคริสต์ เพราะถ้าไม่มีความรัก การให้อภัยก็จะไม่เกิดขึ้น
ไม้กางเขน : พระเยซูช่วยได้
จะสังเกตได้ว่า สร้อยคอไม้กางเขนของนางเอก ตอนที่คนร้ายใส่สร้อยอยู่นั้น เขากลับมองไม่เห็น Horns(เขา) ของพระเอก
พอพระเอกกระชากสร้อยคอเท่านั้นแหละ คนร้ายเห็นเขาบนหัวทันที
นั่นหมายถึง พระเยซูสามารถทำให้เราไม่มองความผิดพลาด หรือความชั่วร้ายของผู้อื่น
การที่มีสายตาว่าผู้อื่นย่อมดีกว่าตนเองอยู่เสมอ และไม่มองความผิดบาปของคนอื่น เป็นสายตาของพระเยซูอย่างแท้จริง
และเมื่อพระเอกสวมสร้อย Horns(เขา) ของพระเอกได้หายไป หมายถึง พระเยซูสามารถลบความผิดบาปของมนุษย์ได้นั่นเอง
ยิ่งในฉากจบ เมื่อพระเอกตั้งใจถอดสร้อยไม้กางเขนของนางเอก เพราะกำลังจะลงมือฆ่าคนร้าย
ปีกฑูตสวรรค์ก็ได้โผล่ออกมา และถูกเผาไหม้กลายเป็นซาตานในทันที
แสดงถึงว่าคนที่เคยเชื่อในพระเยซู ถ้าถอดใจก็กลับกลายเป็นคนบาปได้อีกเช่นเดียวกัน
การพิพากษา : เป็นเรื่องของพระเจ้าเท่านั้น
จะเห็นได้ว่า ระหว่างเรื่องพระเอกก็ได้พยายามจะฆ่าคน แต่ไม่ได้ลงมือเอง จะมีงูคอยฆ่าคนแทนพระเอก
แต่ละคนที่ถูกงูฆ่า รวมถึงคนร้าย ก็เป็นคนที่ได้ทำความผิดบาป และไม่สำนึกในความบาปของตนเอง
ดังนั้น หัวใจของการพิพากษาของพระเจ้า ที่คนๆนึงจะได้รับชีวิตในแผ่นดินสวรรค์
ไม่ได้ดูที่ว่าคนๆนั้นจะทำดีทำชั่วมามากน้อยเพียงใด เพียงแต่ดูการสำนึกในความผิดบาปของตนเองเท่านั้น
รักแท้ : ไม่ใช่ความหวังดีที่เราคิดแทน
นางเอกป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เลยบอกเลิกพระเอกว่าตัวเองมีคนใหม่
เพราะไม่อยากให้พระเอกต้องมาแต่งงาน และจมปลักอยู่กับคนป่วย หวังให้พระเอกไปมีคนใหม่ เพื่อชีวิตที่สดใส
ผลของการกระทำนี้คือเจ็บกันทั้งสองฝ่าย แถมเปิดโอกาสให้คนร้ายได้ทำบาป เป็นเรื่องเป็นราวมากมาย
แต่เสียดายที่เรื่อง Horns ไม่ได้สอนว่า "ความรักแท้ควรทำอย่างไร?" แต่ที่แน่ๆคือไม่ควรทำอย่างนี้
พื้นฐานก็คือความรักไม่โกหก ไม่หลอกลวง (มีสอนในไบเบิล) ดังนั้นเราก็จึงไม่ควรโกหกความรู้สึกของตนเอง
กลับมาคำถามแรก : ทำไมพระเอกต้องได้รับความเจ็บปวดในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อไว้ ?
เพราะนี่คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอครับ คือเป็นทุกข์เพราะคนอื่น รับความบาปที่ส่งมาจากคนอื่น
และเราก็จะได้ยินบ่อยๆว่า "พระเจ้า... ทำไมต้องให้ฉันเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ฉันทำอะไรผิด?"
พระเจ้าก็ตอบตรงๆว่า "เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่อยากให้เจ้าเจอเหตุการณ์นี้"
เพราะนี่คือบททดสอบจากพระเจ้า และเราก็มีโอกาสทำบาป มีโอกาสสำนึกผิด มีโอกาสขอความช่วยเหลือจากพระเยซู
ฉากจบในเรื่องนี้ ก็จบสไตล์อินดี้อย่างที่ผมคิดไว้ คือจบแบบ "แค่นี้หรอ???" ดีหน่อยที่มันไม่หักมุม