ทริปตามฝันล่องไปตามสายน้ำ…พาตะลุย แม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติส แห่งตุรกีภาคตะวันออก
"The world is a book and those
who do not travel read only one page."
– St. Augustine
โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยเดินทางเลย
ก็เปรียบเหมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว
นักเดินทางทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และแม้ว่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตทุ่มเทกับมันอย่างไร ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการไปเยือนในทุก ๆ ที่ และเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การเดินทางไปเยือนที่ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอยากจะทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า มันคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ที่ทำให้ชีวิตดูมีคุณค่าขึ้นมาอีกเยอะ
ตั้งแต่เด็กผมฝันไว้ว่าวันหนึ่งผมจะต้องเดินทางไปในสถานที่สำคัญต่างๆในโลกให้ได้ ความทะยาน และความมุ่งหวัง ทำให้ผมรู้ว่า ไม่มีทางเลือกใดที่ผมจะไปในสถานที่ต่างๆที่ผมมโนจินตนาการไว้ได้นอกจากผมต้องขยันและเรียนๆ เพื่อที่จะเป็นไปเบิกทางความฝันของผม ตอนเด็กๆจนถึงมัธยมผมชอบเรียนวิชา ภูมิศาสตร์มากๆ ผมมักจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้ยินครูอาจารย์บอกเล่าสถานที่สำคัญต่างๆของโลก , ชื่อแม่น้ำ ภูเขา รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในดินแดนแห่งนั้น …
หนึ่งในนั้น คือคำว่า “อารยธรรมเมโสโปเตเมียแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส ยูเฟรติส”
คำนี้ติดหูผมมาตั้งแต่สมัยอยู่ประถม เพราะผมมีโอกาศเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งตอบปัญหาที่อำเภอหมวดวิชาสังคมศึกษา….. ซึ่งคำถามในข้อชิงชนะเลิศระหว่างสองโรงเรียนที่เหลือคือ “อารยธรรมแห่งแรกของโลกคือารยธรรมใด และเกี่ยวพันธ์กับแม่น้ำสายใด” คำตอบก็คือ “อารยธรรมเมโสโปเตเมียแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส ยูเฟรติส” เป็นคำถามที่ทำให้ผมได้รางวัลชนะเลิศในครานั้น และผมฝันมาตลอดว่า วันหนึ่งผมจะต้องไปยังแม่น้ำสองสายนี้ให้ได้
เมโสโปเตเมียเป็นแหล่งอารยธรรมที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เมโสโปเตเมีย แปลว่า ดินแดนระหว่างแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำไทกรีสและยูเฟรทีส ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำทั้งสองสายเป็นพื้นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้กลุ่มชนชาติต่างๆเข้ามาทำมาหากินและสร้างอารยธรรมขึ้น รวมทั้งถ่ายทอดอารยธรรมจากกลุ่มหนึ่งสู่กลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดอารยธรรมแบบผสม
เมโสโปเตเมียเป็นดินแดนที่อากาศร้อนและกันดารฝน น้ำที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นน้ำจากแม่น้ำที่มาจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาในอาร์มีเนีย น้ำจะพัดพาเอาโคลนตมมาทับถมชายฝั่งทั้งสอง ทำให้พื้นดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก การเอ่อล้นของน้ำอันเกิดจากหิมะละลายไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนและบางครั้งทำความเสียหายแก่บ้านเมือง ไร่นา ทรัพย์สิน และชีวิตผู้คน การกสิกรรมที่จะได้ผลดีในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ต้องอาศัยระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ
[CR] รีวิวทริป " พาตะลุย แม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติส " กับทริปตามฝันล่องไปตามสายน้ำในประเทศตุรกี
"The world is a book and those
who do not travel read only one page."
– St. Augustine
โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยเดินทางเลย
ก็เปรียบเหมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว
นักเดินทางทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และแม้ว่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตทุ่มเทกับมันอย่างไร ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการไปเยือนในทุก ๆ ที่ และเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การเดินทางไปเยือนที่ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอยากจะทำ ด้วยเหตุผลที่ว่า มันคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ที่ทำให้ชีวิตดูมีคุณค่าขึ้นมาอีกเยอะ
ตั้งแต่เด็กผมฝันไว้ว่าวันหนึ่งผมจะต้องเดินทางไปในสถานที่สำคัญต่างๆในโลกให้ได้ ความทะยาน และความมุ่งหวัง ทำให้ผมรู้ว่า ไม่มีทางเลือกใดที่ผมจะไปในสถานที่ต่างๆที่ผมมโนจินตนาการไว้ได้นอกจากผมต้องขยันและเรียนๆ เพื่อที่จะเป็นไปเบิกทางความฝันของผม ตอนเด็กๆจนถึงมัธยมผมชอบเรียนวิชา ภูมิศาสตร์มากๆ ผมมักจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้ยินครูอาจารย์บอกเล่าสถานที่สำคัญต่างๆของโลก , ชื่อแม่น้ำ ภูเขา รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในดินแดนแห่งนั้น …
หนึ่งในนั้น คือคำว่า “อารยธรรมเมโสโปเตเมียแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส ยูเฟรติส”
คำนี้ติดหูผมมาตั้งแต่สมัยอยู่ประถม เพราะผมมีโอกาศเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งตอบปัญหาที่อำเภอหมวดวิชาสังคมศึกษา….. ซึ่งคำถามในข้อชิงชนะเลิศระหว่างสองโรงเรียนที่เหลือคือ “อารยธรรมแห่งแรกของโลกคือารยธรรมใด และเกี่ยวพันธ์กับแม่น้ำสายใด” คำตอบก็คือ “อารยธรรมเมโสโปเตเมียแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส ยูเฟรติส” เป็นคำถามที่ทำให้ผมได้รางวัลชนะเลิศในครานั้น และผมฝันมาตลอดว่า วันหนึ่งผมจะต้องไปยังแม่น้ำสองสายนี้ให้ได้
เมโสโปเตเมียเป็นแหล่งอารยธรรมที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เมโสโปเตเมีย แปลว่า ดินแดนระหว่างแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำไทกรีสและยูเฟรทีส ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำทั้งสองสายเป็นพื้นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้กลุ่มชนชาติต่างๆเข้ามาทำมาหากินและสร้างอารยธรรมขึ้น รวมทั้งถ่ายทอดอารยธรรมจากกลุ่มหนึ่งสู่กลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดอารยธรรมแบบผสม
เมโสโปเตเมียเป็นดินแดนที่อากาศร้อนและกันดารฝน น้ำที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นน้ำจากแม่น้ำที่มาจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาในอาร์มีเนีย น้ำจะพัดพาเอาโคลนตมมาทับถมชายฝั่งทั้งสอง ทำให้พื้นดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก การเอ่อล้นของน้ำอันเกิดจากหิมะละลายไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนและบางครั้งทำความเสียหายแก่บ้านเมือง ไร่นา ทรัพย์สิน และชีวิตผู้คน การกสิกรรมที่จะได้ผลดีในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ต้องอาศัยระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ