คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
สำหรับ ชารีล ชัปปุยส์ ถ้าจะบอกว่าไม่ได้ระดับสูงขนาดนั้นก็อาจจะใช่ แต่ก็ต้องบอกว่าระดับของเค้าก็ไม่ได้ต่ำอย่างที่คิดเช่นกัน
ความจริงแล้วผมติดตามชารีล ชัปปุยส์มาตลอด ตั้งแต่ก่อนแข่งนัดชิงแชมป์โลกแล้วเพราะตอนนั้นมีกระทู้ที่ใครซักคนเคยตั้งว่ามีนักเตะที่มีเชื้อสายไทยทะลุเข้าไปถึงนัดชิงแชมป์โลก U17 แล้ว ซึ่งก็ตามสูตร คนไทยก็เห่อกันมาก เข้าไปขอแอด Facebook ของเจ้าตัวกันอย่างล้นหลาม จนสุดท้ายเจ้าตัวได้แชมป์โลก คนไทยก็ไปกระหน่ำชวนเจ้าตัวคุยว่ามาจากไทยนะยินดีด้วย ชัปปุยส์ก็คุยและตอบหลายๆคนอย่างเป็นมิตร แต่มันมีจุดเปลี่ยน ที่มีคนไปชวนเค้ามาเล่นไทยลีก มาเล่นทีมชาติไทย แต่ชัปปุยส์ปฏิเสธไปว่าเค้าคงไม่มา เพราะเค้าไม่คุ้นเคยกับประเทศไทยเท่าไหร่ พูดภาษาก็ไม่ได้ไม่รู้จะใช่ชีวิตอยู่ยังไง แถมอากาศก็ร้อนด้วย หลังจากมีคนเอาคำตอบนี้ของเจ้าตัวมาแปลแฟนบอลไทยที่รักชาติจนเลือดขึ้นหน้าก็ไปถล่มเจ้าตัวซะเละไปเลยเหมือนกัน แล้วนั่นก็เลยทำให้กระแสของ ชัปปุยส์ ของคนไทยที่ไปเห่ออยู่พักนึงหมดไป แต่ผมก็ยังแอบตามความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวอยู่ตลอด
ซึ่งเพราะยังคงติดตามต่อ ก็เลยได้รู้ว่า นักเตะสวิสเนี่ย เค้าจะแอบแบ่งเป็นเกรดๆไปในตัว คือ นักเตะที่เล่นต่างประเทศ , นักเตะที่เล่นกับ 4 ทีมใหญ่ในประเทศ, นักเตะทั่วไป และนักเตะจากลีกรอง (ถือเป็นนักเตะที่ตกเกรดไม่ผ่านมาตรฐาน) ซึ่งประเทศสวิสเป็นแหล่งส่งออกนักเตะชั้นดีประเทศนึงเลยทีเดียว จะมีสโมสรจากลีกชั้นนำมาสอดส่องอยู่ตลอดแล้วก็จะมาสอยนักเตะจากประเทศนี้ตั้งแต่ก่อนจะอายุครบ 18 (เซ็นก่อน 18 จะเซ็นในฐานะนักเตะเยาวชน ฉวยโอกาสมาดึงไปก่อนที่จะเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับต้นสังกัด)
และถ้านักเตะคนไหนก็ตามที่พ้นจาก U17 ขึ้นมาสู่ U19 แล้วยังไม่สามารถเบียดแย่งลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรยักษใหญ่ทั้ง 4 ทีมของประเทศคือ เอฟซี ซูริค, บาเซิ่ล, กลาสฮอปเปอร์, ยัง บอยส์ ได้ หรือถูกสโมสรต่างประเทศมาดึงตัวไปร่วมทีม นักเตะเหล่านั้นแทบจะถูกตัดเกรดให้ลงไปอยู่ในลีกรอง หรือไปอยู่ในกลุ่มที่ต่ำกว่าทันที และแทบจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ของสวิสอยู่แล้ว เพราะเค้าพร้อมจะป้อนเด็กชุดใหม่ขึ้นมาทุกปี
ซึ่ง ชัปปุยส์ คือ 1 ในนั้น เพราะอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของกล๊าสฮอปเปอร์ได้ ปีถัดมาจึงได้ถูกส่งตัวไปเล่นให้กับทีมที่อยู่ในลีกต่ำกว่า เพื่อเปิดทางให้กับเด็กเยาวชนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมา เข้ามาอยู่ในทีมสำรองของกล๊าสฮอปเปอร์
แต่ถึงแบบนั้น ถ้าย้อนกลับไปจริงๆแล้ว ชารีล ชัปปุยส์ เป็น 1 ใน 3 นักเตะร่วมกับคู่กองหน้าของทีม จากชุดแชมป์โลกสวิสที่ถูกทีมจากต่างประเทศติดต่อขอดึงตัวไปหลังจากได้แชมป์โลก (สุดท้ายนักเตะ 2 คนนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ของสวิส) ซึ่งทีมที่สนจะดึงตัว ชัปปุยส์ ไปคือ ยูเวนตุส กับ ฮัมบูร์ก (อีก 2 คนไป ฟิออเรนติน่า กับ โวฟบวร์ก) ซึ่งถ้าในเวลานั้น ชัปปุยส์ สามารถทำให้ดีลนั้นสำเร็จได้ เจ้าตัวจะถูกตัดเกรดเป็นเยาวชนเกรด A และเข้าไปอยู่ใน Squad list ที่จะถูกติดตามจากทีมชาติชุดใหญ่ไปในทันที แต่เพราะการบาดเจ็บในครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตเจ้าตัวที่จากจะอยู่ในแคนดิเดตทีมชาติสวิส มากลายเป็นนักเตะเกรด 2 ในลีกพระรองที่เจ้าตัวก็รู้สถานะดีว่าหมดสิทธิ์กับคำว่าทีมชาติชุดใหญ่ไปเรียบร้อยตั้งแต่เวลานั้นแล้ว
ต้องบอกว่านั่นคือโชคดีของประเทศไทย ที่บุรีรัมย์ ติดต่อไปหาเจ้าตัวที่อยู่ในสถานะที่ต้องบอกว่าไม่มีความท้าทายใดๆเกี่ยวกับทีมชาติแล้ว เป็นแค่การค้าแข้งเพื่อประคองตัวให้อยู่รอดต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น เต็มที่ก็แค่ขึ้นไปอยู่ในลีกสูงสุด แต่โอกาสเล่นทีมชาติแทบไม่มี เพราะการถูกตัดเกรดลงมาจากประเทศที่มีการแข่งขันในเรื่องของการส่งออกทรัพยากรนักเตะสูงแบบนั้น ก็เหมือนประตูถูกปิดไปแล้ว เพราะเค้าจะไปโฟกัสนักเตะที่อยู่นอกประเทศมากกว่า ต่อให้พาทีมเลื่อนแชมป์ขึ้นมาก็ไม่มีผลอะไรอยู่ดี
การเลือกของ ชัปปุยส์ ในการมาเล่นกับบุรีรัมย์ในตอนนั้น ผมเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเจ้าตัวจะยอมมาเล่นให้ทีมชาติไทย เพราะคิดว่าเจ้าตัวแค่ต้องการมาแสดงความสามารถใน ACL เพื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักเตะที่ค้าแข่งนอกประเทศด้วยซ้ำไป แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกเล่นให้ทีมชาติไทยจริงๆซึ่งต้องบอกว่าเหมือนประเทศไทยถูกหวยจากความโชคร้ายของเจ้าตัวด้วยซ้ำไป (แต่จะโชคดีกว่านี้ถ้าไม่มาเจ็บตอนอยู่บุรีรัมย์)
มีอีกสิ่งนึงที่ผมอยากพูดเกี่ยวกับ ชัปปุยส์ ที่เมื่อ 5 ปีก่อน ที่เจ้าตัวปฏิเสธการมาเล่นในไทยจนเคยถูกแฟนบอลไทยกลุ่มนึงไปป่วน ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเค้า เพิ่งได้แชมป์โลกมา มีโอกาสไปค้าแข้งกับทีมที่ใหญ่กว่า เล่นให้กับชาติที่ผูกพันธ์มาตั้งแต่เกิด อยู่ๆจะให้เค้ามาเล่นที่ไทยได้อย่างไร และอีกเหตุผลนึงที่สำคัญคือเจ้าตัวเป็นคนที่กลัวความเปลี่ยนแปลง และกลัวว่าตัวเองจะปรับตัวไม่ได้ ไม่ใช่แค่เจ้าตัวจะปฏิเสธแต่ประเทศไทยเท่านั้นในเวลานั้น ขนาดถูกติดต่อให้ไปเล่นกับยูเวนตุสที่อิตาลี เจ้าตัวยังปฏิเสธเพียงเพราะว่ากลัวสื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเลย ฉะนั้นไม่ว่าจะเพราะอะไร ตอนนี้ก็ให้ภูมิใจกับเค้าเถอะ ที่เลือกที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทยแล้ว และเล่นด้วยความภาคภูมิใจอีกด้วย
ความจริงแล้วผมติดตามชารีล ชัปปุยส์มาตลอด ตั้งแต่ก่อนแข่งนัดชิงแชมป์โลกแล้วเพราะตอนนั้นมีกระทู้ที่ใครซักคนเคยตั้งว่ามีนักเตะที่มีเชื้อสายไทยทะลุเข้าไปถึงนัดชิงแชมป์โลก U17 แล้ว ซึ่งก็ตามสูตร คนไทยก็เห่อกันมาก เข้าไปขอแอด Facebook ของเจ้าตัวกันอย่างล้นหลาม จนสุดท้ายเจ้าตัวได้แชมป์โลก คนไทยก็ไปกระหน่ำชวนเจ้าตัวคุยว่ามาจากไทยนะยินดีด้วย ชัปปุยส์ก็คุยและตอบหลายๆคนอย่างเป็นมิตร แต่มันมีจุดเปลี่ยน ที่มีคนไปชวนเค้ามาเล่นไทยลีก มาเล่นทีมชาติไทย แต่ชัปปุยส์ปฏิเสธไปว่าเค้าคงไม่มา เพราะเค้าไม่คุ้นเคยกับประเทศไทยเท่าไหร่ พูดภาษาก็ไม่ได้ไม่รู้จะใช่ชีวิตอยู่ยังไง แถมอากาศก็ร้อนด้วย หลังจากมีคนเอาคำตอบนี้ของเจ้าตัวมาแปลแฟนบอลไทยที่รักชาติจนเลือดขึ้นหน้าก็ไปถล่มเจ้าตัวซะเละไปเลยเหมือนกัน แล้วนั่นก็เลยทำให้กระแสของ ชัปปุยส์ ของคนไทยที่ไปเห่ออยู่พักนึงหมดไป แต่ผมก็ยังแอบตามความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวอยู่ตลอด
ซึ่งเพราะยังคงติดตามต่อ ก็เลยได้รู้ว่า นักเตะสวิสเนี่ย เค้าจะแอบแบ่งเป็นเกรดๆไปในตัว คือ นักเตะที่เล่นต่างประเทศ , นักเตะที่เล่นกับ 4 ทีมใหญ่ในประเทศ, นักเตะทั่วไป และนักเตะจากลีกรอง (ถือเป็นนักเตะที่ตกเกรดไม่ผ่านมาตรฐาน) ซึ่งประเทศสวิสเป็นแหล่งส่งออกนักเตะชั้นดีประเทศนึงเลยทีเดียว จะมีสโมสรจากลีกชั้นนำมาสอดส่องอยู่ตลอดแล้วก็จะมาสอยนักเตะจากประเทศนี้ตั้งแต่ก่อนจะอายุครบ 18 (เซ็นก่อน 18 จะเซ็นในฐานะนักเตะเยาวชน ฉวยโอกาสมาดึงไปก่อนที่จะเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับต้นสังกัด)
และถ้านักเตะคนไหนก็ตามที่พ้นจาก U17 ขึ้นมาสู่ U19 แล้วยังไม่สามารถเบียดแย่งลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรยักษใหญ่ทั้ง 4 ทีมของประเทศคือ เอฟซี ซูริค, บาเซิ่ล, กลาสฮอปเปอร์, ยัง บอยส์ ได้ หรือถูกสโมสรต่างประเทศมาดึงตัวไปร่วมทีม นักเตะเหล่านั้นแทบจะถูกตัดเกรดให้ลงไปอยู่ในลีกรอง หรือไปอยู่ในกลุ่มที่ต่ำกว่าทันที และแทบจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ของสวิสอยู่แล้ว เพราะเค้าพร้อมจะป้อนเด็กชุดใหม่ขึ้นมาทุกปี
ซึ่ง ชัปปุยส์ คือ 1 ในนั้น เพราะอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของกล๊าสฮอปเปอร์ได้ ปีถัดมาจึงได้ถูกส่งตัวไปเล่นให้กับทีมที่อยู่ในลีกต่ำกว่า เพื่อเปิดทางให้กับเด็กเยาวชนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมา เข้ามาอยู่ในทีมสำรองของกล๊าสฮอปเปอร์
แต่ถึงแบบนั้น ถ้าย้อนกลับไปจริงๆแล้ว ชารีล ชัปปุยส์ เป็น 1 ใน 3 นักเตะร่วมกับคู่กองหน้าของทีม จากชุดแชมป์โลกสวิสที่ถูกทีมจากต่างประเทศติดต่อขอดึงตัวไปหลังจากได้แชมป์โลก (สุดท้ายนักเตะ 2 คนนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ของสวิส) ซึ่งทีมที่สนจะดึงตัว ชัปปุยส์ ไปคือ ยูเวนตุส กับ ฮัมบูร์ก (อีก 2 คนไป ฟิออเรนติน่า กับ โวฟบวร์ก) ซึ่งถ้าในเวลานั้น ชัปปุยส์ สามารถทำให้ดีลนั้นสำเร็จได้ เจ้าตัวจะถูกตัดเกรดเป็นเยาวชนเกรด A และเข้าไปอยู่ใน Squad list ที่จะถูกติดตามจากทีมชาติชุดใหญ่ไปในทันที แต่เพราะการบาดเจ็บในครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตเจ้าตัวที่จากจะอยู่ในแคนดิเดตทีมชาติสวิส มากลายเป็นนักเตะเกรด 2 ในลีกพระรองที่เจ้าตัวก็รู้สถานะดีว่าหมดสิทธิ์กับคำว่าทีมชาติชุดใหญ่ไปเรียบร้อยตั้งแต่เวลานั้นแล้ว
ต้องบอกว่านั่นคือโชคดีของประเทศไทย ที่บุรีรัมย์ ติดต่อไปหาเจ้าตัวที่อยู่ในสถานะที่ต้องบอกว่าไม่มีความท้าทายใดๆเกี่ยวกับทีมชาติแล้ว เป็นแค่การค้าแข้งเพื่อประคองตัวให้อยู่รอดต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น เต็มที่ก็แค่ขึ้นไปอยู่ในลีกสูงสุด แต่โอกาสเล่นทีมชาติแทบไม่มี เพราะการถูกตัดเกรดลงมาจากประเทศที่มีการแข่งขันในเรื่องของการส่งออกทรัพยากรนักเตะสูงแบบนั้น ก็เหมือนประตูถูกปิดไปแล้ว เพราะเค้าจะไปโฟกัสนักเตะที่อยู่นอกประเทศมากกว่า ต่อให้พาทีมเลื่อนแชมป์ขึ้นมาก็ไม่มีผลอะไรอยู่ดี
การเลือกของ ชัปปุยส์ ในการมาเล่นกับบุรีรัมย์ในตอนนั้น ผมเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเจ้าตัวจะยอมมาเล่นให้ทีมชาติไทย เพราะคิดว่าเจ้าตัวแค่ต้องการมาแสดงความสามารถใน ACL เพื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักเตะที่ค้าแข่งนอกประเทศด้วยซ้ำไป แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกเล่นให้ทีมชาติไทยจริงๆซึ่งต้องบอกว่าเหมือนประเทศไทยถูกหวยจากความโชคร้ายของเจ้าตัวด้วยซ้ำไป (แต่จะโชคดีกว่านี้ถ้าไม่มาเจ็บตอนอยู่บุรีรัมย์)
มีอีกสิ่งนึงที่ผมอยากพูดเกี่ยวกับ ชัปปุยส์ ที่เมื่อ 5 ปีก่อน ที่เจ้าตัวปฏิเสธการมาเล่นในไทยจนเคยถูกแฟนบอลไทยกลุ่มนึงไปป่วน ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเค้า เพิ่งได้แชมป์โลกมา มีโอกาสไปค้าแข้งกับทีมที่ใหญ่กว่า เล่นให้กับชาติที่ผูกพันธ์มาตั้งแต่เกิด อยู่ๆจะให้เค้ามาเล่นที่ไทยได้อย่างไร และอีกเหตุผลนึงที่สำคัญคือเจ้าตัวเป็นคนที่กลัวความเปลี่ยนแปลง และกลัวว่าตัวเองจะปรับตัวไม่ได้ ไม่ใช่แค่เจ้าตัวจะปฏิเสธแต่ประเทศไทยเท่านั้นในเวลานั้น ขนาดถูกติดต่อให้ไปเล่นกับยูเวนตุสที่อิตาลี เจ้าตัวยังปฏิเสธเพียงเพราะว่ากลัวสื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเลย ฉะนั้นไม่ว่าจะเพราะอะไร ตอนนี้ก็ให้ภูมิใจกับเค้าเถอะ ที่เลือกที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทยแล้ว และเล่นด้วยความภาคภูมิใจอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
อยากรู้ว่า ทำไมชาริล ชัปปุยส์ ถึงเลือกเล่นให้ทีมชาติไทย?
เพราะถึงขั้นไปถึงระดับแชมป์เยาวชนโลกได้แล้ว ก็ไม่ธรรมดา
ทำไมไม่เลือกเล่นให้สวิส หรือว่ายกระดับไปไม่ถึงจริงๆ
ขอบคุณล่วงหน้าจ้า