สวัสดีคะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเพจ “ฟัน เคลื่อน – Dental Journey :
https://www.facebook.com/dentaljourney” เนื่องจากเพื่อนๆ ผู้หลงรักการเดินทางคุยกันว่า พวกเราอยากแบ่งปันประสบการณ์
การท่องเที่ยวเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ รวมถึงอยากให้การเดินทางของเราเป็นแรงบันดาลในการเดินทางท่องเที่ยวของทุกๆท่าน...
ขอฝากผลงานรีวิวที่ผ่านมาด้วยนะคะ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือ จขกท และเพื่อนๆ อยากไปเที่ยว ในช่วงวันหยุด (ช่วงวันที่ 10 – 14 กรกฎาคม 2557) จึงเริ่มมองหาจุดหมาย
ปลายทาง โดยมีเงื่อนไข คือ ประหยัด เดินทางไม่ไกล ใช้เวลาท่องเที่ยวไม่เกิน 5 วัน คิดไปคิดมา เลือกเลย ประเทศเพื่อนบ้านเราทาง
ภาคใต้ “มาเลเซีย” สำหรับอีกเหตุผลที่เลือกมาเลเซีย คือ จขกท อยากไป GEORGE TOWN เมืองเคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(กว่าจะได้เขียนรีวิว เวลาได้ล่วงเลยมาถึง 6 เดือน !!!)
เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ต่อมาคือ หาเพื่อนร่วมทาง...สรุปสิริรวม... มีผู้ร่วมการเดินทางในทริปนี้ 10 คน เรียกได้ว่าสามารถจัดทัวร์ได้เลยที
เดียว ทัวร์ยกแก๊งค์ก็ได้เริ่มขึ้น !!!
ปีนัง – คาเมรอน ไฮท์แลนด์ – กัวลาลัมเปอร์
เริ่มต้นกันที่สนามบินดอนเมือง ใช้บริการของแอร์เอเชีย จุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้คือ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
เมื่อถึงหาดใหญ่แล้ว เราใช้บริการรถตู้ของ KST TRAVEL เพื่อเดินทางต่อไปยังปีนัง มาเลเซีย เมืองมรดกโลก เราเลือกนั่งรถตู้ เพราะว่าไฟลท์บินตรง กรุงเทพ-ปีนัง ไปถึงค่อนข้างเย็น กลัวไม่มีเวลาเที่ยว แต่เอาเข้าจริงนั่งรถตู้ก็ไปถึงปีนังบ่ายแก่ๆ
การจองรถตู้ คือ จองล่วงหน้าก่อนวันเดินทางหนึ่งอาทิตย์ แล้วนัดหมายให้รถตู้มารับที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ค่าใช้จ่าย คนละ 400 บาท รวมค่าบริการไปรับที่สนามบินอีก 500 บาท
รถตู้คันนี้เป็นของเรา เย้ !!! เพราะสมาชิกพอดีกับจำนวนที่นั่งเป๊ะ (แอบโฆษณา : รถตู้ใหม่นั่งสบาย คุณลุงคนขับใจดี คอยเล่าเรื่องปีนัง สอนภาษามาเลให้พวกเราด้วย)
จากหาดใหญ่ ไป ปีนัง เราเข้ามาเลเซียทางด่านประกอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงปีนัง รถตู้ส่งถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ
คืนแรกเราพักกันที่ Red Inn Court เน้นใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่เราต้องการเป็นหลัก เน้นใกล้ๆ ตึกสวยๆ ที่สามารถเดินไปได้ในจอร์จทาวน์ ราคาไม่แพงมาก
Red Inn Court เป็นที่พักที่ปรับปรุงจากตึกเก่ามีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม เรากรุ๊ปใหญ่ก็จองมันทั้ง 2 แบบเลย มีคนรีวิวว่าห้องใกล้ถนน เสียงรถดัง แต่สงสัยหูตึงถึงไม่ทันได้ยิน พวกไปถึงรร.ที่พักจัดเก็บของสัมภาระ แล้วไปเที่ยวปีนังกันเลย
แต่ !!! ก่อนไปเที่ยวก็ต้องเติมพลังก่อน ตอนนั้น หิวกันมาก เลือกเป็นร้านอาหารจีนใกล้ๆ เลย
จากนั้นเริ่มชมเมืองปีนังกัน!!!
เราเดินไปตามถนนสายศิลปะของปีนัง PENANG STREET ART AND MURAL BY ERNEST ZACHAREVIC เดินเพลินๆ ถ่ายรูปไป อากาศค่อนข้างร้อนและอบอ้าว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับชาวแก๊งค์
รูปวาดฝาผนัง มีอยู่หลายๆ มุม ให้แวะถ่ายรูป ตลอดทางเดิน
จขกท คิดว่า ศิลปะฝาผนัง คือ เสน่ห์ของเมืองปีนัง ที่ดึงดูดนักเที่ยวให้มาเยือน
เดินชมเมือง GEORGE TOWN ไปเรื่อยๆ ตกเย็นเราก็เดินผ่าน โบสถ์เซนต์จอร์จ
เดินไปจนถึง Food court มื้อเย็นฝากท้องที่นี่เลย
คนมาเลพนักงานร้านน้ำพยายามเข้ามาขายน้ำให้กับกรุ๊ปทัวร์ของเรา เขาแนะน้ำบอกว่า น้ำกระเจี๊ยบ อร่อย (พยายามพูดภาษาไทย) พวกเราก็โอเค สั่งน้ำกระเจี๊ยบตามคำแนะนำของเจ้าถิ่น
เมื่อน้ำมาเสิร์ฟ พบว่า ไม่ใช่น้ำกระเจี๊ยบอย่างเมืองไทย มันคือน้ำสีเขียว คล้ายน้ำฝรั่ง แต่รสชาติ ไม่ใช่ ชิมไปชมมา สรุป คือ น้ำมะกอก (พวกเราจัดการสอนพนักงานไปเรียบร้อย ว่า คือ น้ำมะกอกนะจ๊ะ) รสชาติดี อร่อยเลยล่ะ ต้องลองดูนะคะ
อิ่มแล้วก็เดินกลับ โรงแรม เดินผ่าน ซิตี้ ฮอลล์
หอนาฬิกา QUEEN VICTORIA MEMORIAL CLOCK TOWER
ปิดท้ายด้วยตึกยามค่ำคืนของเมืองปีนัง
วันที่ 2 ตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปวัด KEK LOK SI โดยขึ้นรถเมล์ สาย 203 จากถนน LEBUH CHULIA นั่งรถประมาณ 30-45 นาที ถึงทางเข้าวัด เดินต่อไปอีกนิดก็ถึงวัดแล้ว สิ่งแรกที่เห็นแล้วคิดว่ามาถึงวัดเขาเต่าแห่งนี้ คือ เต่าจำนวนมากมาย
พวกเราขึ้นรถรางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม
บรรยากาศยามเช้าของเมืองปีนังดูครึ้มฟ้า ครึ้มฝน
หลังจากภารกิจชมวัดเขาเต่าเรียบร้อย พวกเรารีบนั่งรถเมล์สายเดิมกลับ เพราะมีเป้าหมายต่อไป คือ คาเมรอน ไฮท์แลนด์
เมื่อมาถึง โรงแรมที่พักพวกเราก็เก็บกระเป๋าสัมภาระ พอเห็นว่ามีเวลาสำหรับมื้อกลางวัน ประมาณ 30 นาที คิดกันว่า ควรกินอาหารรองท้อง จึงเดินไปที่ย่าน LITTLE INDIA เลือกทานร้านอาหารอินเดีย แต่กว่าจะสั่งอาหารกันเสร็จก็ปาไป 20 นาที ไม่ทันแล้ว!!!
รถที่จะมารับไป คาเมรอน ไฮท์แลนด์ มารอเราแล้ว อาหารอินเดียทั้งหมดต้องใส่ถุงใส่ห่อ แทบไม่ทัน เราได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานในร้านเป็นอย่างดี (ทั้งหิว ทั้งตื่นเต้น กลัวตกรถค่า)
ลักษณะอาหารจะวางข้าว กับข้าวบนใบตองแผ่นใหญ่ มีน้ำซุปเป็นเครื่องเคียง
รถที่เรานั่งไปคาเมรอน ไฮท์แลนด์ เป็นรถตู้ สภาพค่อนข้างเก่า แต่ดีหน่อยที่คนขับรถขับทางขึ้นเขาได้ดี
หลังจากเดินทางข้ามภูเขา ผ่านทางคดเคี้ยว เราก็มาถึงคาเมรอน ไฮท์แลนด์
รถตู้พาเราไปส่งที่พัก คืนนี้พักที่ DO CHIC IN ที่พักจะเป็นลักษณะของโฮสเทล โดยดัดแปลงคอนโดขนาดใหญ่ให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
ลักษณะตึกหรือคอนโดจะเป็นแบบนี้คะ
คำนิยามของDO CHIC IN คือ คอนโดขนาดใหญ่ที่เจ้าของได้นำมาทำเป็นโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว โดยรวมคือ สะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การตกแต่งน่ารัก แต่ HOST หรือ เจ้าของจะมีความเป๊ะ มีระเบียบมาก พวกเราต้องระมัดระวังในการพักคืนนั้นพอสมควร อุ๊ป!!!
มาเที่ยวคาเมรอน ไฮท์แลนด์ทั้งทีต้องมากินหม้อไฟ พวกเราได้รับคำแนะนำร้านเด็ดจากโฮสท์ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รสชาติอร่อย กินกันอย่างอิ่มหน่ำสำราญ (ไม่มีรูปอาหารมื้อนี้คะ สนุกสนานกับการกินจนถ่ายไม่ทันเลยคะ )
ตกดึกอากาศเริ่มเย็นลง ตอนก่อนมาไม่คิดว่าจะหนาวเย็นขนาดนี้ ที่พักไม่มีทั้งแอร์ ทั้งเครื่องทำความร้อนนะจ๊ะ ดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
รุ่งเช้า เราเช่าทัวร์เที่ยวคาเมรอนไฮท์แลนด์ เป็นทัวร์แบบครึ่งวัน
เริ่มจากไร่สตรอเบอร์รี่ อากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็นเลย
นอกจากจะมีสตรอเบอร์รี่แล้วยังมีสวนผักไฮโดรโพนิคด้วยนะคะ
จากนั้นมาต่อที่จุดที่พลาดไม่ได้คือ ไร่ชา (คล้ายๆดอยแม่สลอง เชียงราย แต่มีชาเยอะกว่า กว้างสุดลูกหูลูกตา)
ก่อนไปถึง MOSSY FOREST ไกด์พาเราไปยังจุดชมวิว ซึ่งมีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิว ตอนที่ จขกทและชาวคณะขึ้นไปชมวิว ลมพัดแรงมาก ชวนให้ขาสั่นเมื่อขึ้นไปจุดสูงสุดของหอคอย
หลังจากชมวิวเรียบร้อย จขกทและชาวคณะ ไม่รอช้า รีบลงมาถ่ายรูปกับรถ Jeep ยานพาหนะคู่ใจในวันนี้ ประสบการณ์นั่งรถ Jeep ขึ้นภูเขา มันส์และสนุกไม่เบาเลยคะ
จุดสุดท้ายของทัวร์คาเมรอน ไฮท์แลนด์ คือ นังรถ JEEP ไปเที่ยว MOSSY FOREST สวย มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก
MOSSY FOREST จะมีทางเดินชมธรรมชาติ มีจุดให้พักเป็นระยะๆ
[CR] รีวิว ปีนัง คาเมรอนไฮท์แลนด์ กัวลาลัมเปอร์ 5 วัน 4 คืน
https://www.facebook.com/dentaljourney” เนื่องจากเพื่อนๆ ผู้หลงรักการเดินทางคุยกันว่า พวกเราอยากแบ่งปันประสบการณ์
การท่องเที่ยวเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ รวมถึงอยากให้การเดินทางของเราเป็นแรงบันดาลในการเดินทางท่องเที่ยวของทุกๆท่าน...
ปลายทาง โดยมีเงื่อนไข คือ ประหยัด เดินทางไม่ไกล ใช้เวลาท่องเที่ยวไม่เกิน 5 วัน คิดไปคิดมา เลือกเลย ประเทศเพื่อนบ้านเราทาง
ภาคใต้ “มาเลเซีย” สำหรับอีกเหตุผลที่เลือกมาเลเซีย คือ จขกท อยากไป GEORGE TOWN เมืองเคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(กว่าจะได้เขียนรีวิว เวลาได้ล่วงเลยมาถึง 6 เดือน !!!)
เดียว ทัวร์ยกแก๊งค์ก็ได้เริ่มขึ้น !!!
เมื่อถึงหาดใหญ่แล้ว เราใช้บริการรถตู้ของ KST TRAVEL เพื่อเดินทางต่อไปยังปีนัง มาเลเซีย เมืองมรดกโลก เราเลือกนั่งรถตู้ เพราะว่าไฟลท์บินตรง กรุงเทพ-ปีนัง ไปถึงค่อนข้างเย็น กลัวไม่มีเวลาเที่ยว แต่เอาเข้าจริงนั่งรถตู้ก็ไปถึงปีนังบ่ายแก่ๆ
การจองรถตู้ คือ จองล่วงหน้าก่อนวันเดินทางหนึ่งอาทิตย์ แล้วนัดหมายให้รถตู้มารับที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ค่าใช้จ่าย คนละ 400 บาท รวมค่าบริการไปรับที่สนามบินอีก 500 บาท
รถตู้คันนี้เป็นของเรา เย้ !!! เพราะสมาชิกพอดีกับจำนวนที่นั่งเป๊ะ (แอบโฆษณา : รถตู้ใหม่นั่งสบาย คุณลุงคนขับใจดี คอยเล่าเรื่องปีนัง สอนภาษามาเลให้พวกเราด้วย)
จากหาดใหญ่ ไป ปีนัง เราเข้ามาเลเซียทางด่านประกอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงปีนัง รถตู้ส่งถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ
คืนแรกเราพักกันที่ Red Inn Court เน้นใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่เราต้องการเป็นหลัก เน้นใกล้ๆ ตึกสวยๆ ที่สามารถเดินไปได้ในจอร์จทาวน์ ราคาไม่แพงมาก
Red Inn Court เป็นที่พักที่ปรับปรุงจากตึกเก่ามีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม เรากรุ๊ปใหญ่ก็จองมันทั้ง 2 แบบเลย มีคนรีวิวว่าห้องใกล้ถนน เสียงรถดัง แต่สงสัยหูตึงถึงไม่ทันได้ยิน พวกไปถึงรร.ที่พักจัดเก็บของสัมภาระ แล้วไปเที่ยวปีนังกันเลย
แต่ !!! ก่อนไปเที่ยวก็ต้องเติมพลังก่อน ตอนนั้น หิวกันมาก เลือกเป็นร้านอาหารจีนใกล้ๆ เลย
จากนั้นเริ่มชมเมืองปีนังกัน!!!
เราเดินไปตามถนนสายศิลปะของปีนัง PENANG STREET ART AND MURAL BY ERNEST ZACHAREVIC เดินเพลินๆ ถ่ายรูปไป อากาศค่อนข้างร้อนและอบอ้าว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับชาวแก๊งค์
รูปวาดฝาผนัง มีอยู่หลายๆ มุม ให้แวะถ่ายรูป ตลอดทางเดิน
จขกท คิดว่า ศิลปะฝาผนัง คือ เสน่ห์ของเมืองปีนัง ที่ดึงดูดนักเที่ยวให้มาเยือน
เดินชมเมือง GEORGE TOWN ไปเรื่อยๆ ตกเย็นเราก็เดินผ่าน โบสถ์เซนต์จอร์จ
เดินไปจนถึง Food court มื้อเย็นฝากท้องที่นี่เลย
คนมาเลพนักงานร้านน้ำพยายามเข้ามาขายน้ำให้กับกรุ๊ปทัวร์ของเรา เขาแนะน้ำบอกว่า น้ำกระเจี๊ยบ อร่อย (พยายามพูดภาษาไทย) พวกเราก็โอเค สั่งน้ำกระเจี๊ยบตามคำแนะนำของเจ้าถิ่น
เมื่อน้ำมาเสิร์ฟ พบว่า ไม่ใช่น้ำกระเจี๊ยบอย่างเมืองไทย มันคือน้ำสีเขียว คล้ายน้ำฝรั่ง แต่รสชาติ ไม่ใช่ ชิมไปชมมา สรุป คือ น้ำมะกอก (พวกเราจัดการสอนพนักงานไปเรียบร้อย ว่า คือ น้ำมะกอกนะจ๊ะ) รสชาติดี อร่อยเลยล่ะ ต้องลองดูนะคะ
อิ่มแล้วก็เดินกลับ โรงแรม เดินผ่าน ซิตี้ ฮอลล์
หอนาฬิกา QUEEN VICTORIA MEMORIAL CLOCK TOWER
ปิดท้ายด้วยตึกยามค่ำคืนของเมืองปีนัง
วันที่ 2 ตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปวัด KEK LOK SI โดยขึ้นรถเมล์ สาย 203 จากถนน LEBUH CHULIA นั่งรถประมาณ 30-45 นาที ถึงทางเข้าวัด เดินต่อไปอีกนิดก็ถึงวัดแล้ว สิ่งแรกที่เห็นแล้วคิดว่ามาถึงวัดเขาเต่าแห่งนี้ คือ เต่าจำนวนมากมาย
พวกเราขึ้นรถรางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม
บรรยากาศยามเช้าของเมืองปีนังดูครึ้มฟ้า ครึ้มฝน
หลังจากภารกิจชมวัดเขาเต่าเรียบร้อย พวกเรารีบนั่งรถเมล์สายเดิมกลับ เพราะมีเป้าหมายต่อไป คือ คาเมรอน ไฮท์แลนด์
เมื่อมาถึง โรงแรมที่พักพวกเราก็เก็บกระเป๋าสัมภาระ พอเห็นว่ามีเวลาสำหรับมื้อกลางวัน ประมาณ 30 นาที คิดกันว่า ควรกินอาหารรองท้อง จึงเดินไปที่ย่าน LITTLE INDIA เลือกทานร้านอาหารอินเดีย แต่กว่าจะสั่งอาหารกันเสร็จก็ปาไป 20 นาที ไม่ทันแล้ว!!!
รถที่จะมารับไป คาเมรอน ไฮท์แลนด์ มารอเราแล้ว อาหารอินเดียทั้งหมดต้องใส่ถุงใส่ห่อ แทบไม่ทัน เราได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานในร้านเป็นอย่างดี (ทั้งหิว ทั้งตื่นเต้น กลัวตกรถค่า)
ลักษณะอาหารจะวางข้าว กับข้าวบนใบตองแผ่นใหญ่ มีน้ำซุปเป็นเครื่องเคียง
รถที่เรานั่งไปคาเมรอน ไฮท์แลนด์ เป็นรถตู้ สภาพค่อนข้างเก่า แต่ดีหน่อยที่คนขับรถขับทางขึ้นเขาได้ดี
หลังจากเดินทางข้ามภูเขา ผ่านทางคดเคี้ยว เราก็มาถึงคาเมรอน ไฮท์แลนด์
รถตู้พาเราไปส่งที่พัก คืนนี้พักที่ DO CHIC IN ที่พักจะเป็นลักษณะของโฮสเทล โดยดัดแปลงคอนโดขนาดใหญ่ให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
ลักษณะตึกหรือคอนโดจะเป็นแบบนี้คะ
คำนิยามของDO CHIC IN คือ คอนโดขนาดใหญ่ที่เจ้าของได้นำมาทำเป็นโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว โดยรวมคือ สะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การตกแต่งน่ารัก แต่ HOST หรือ เจ้าของจะมีความเป๊ะ มีระเบียบมาก พวกเราต้องระมัดระวังในการพักคืนนั้นพอสมควร อุ๊ป!!!
มาเที่ยวคาเมรอน ไฮท์แลนด์ทั้งทีต้องมากินหม้อไฟ พวกเราได้รับคำแนะนำร้านเด็ดจากโฮสท์ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รสชาติอร่อย กินกันอย่างอิ่มหน่ำสำราญ (ไม่มีรูปอาหารมื้อนี้คะ สนุกสนานกับการกินจนถ่ายไม่ทันเลยคะ )
ตกดึกอากาศเริ่มเย็นลง ตอนก่อนมาไม่คิดว่าจะหนาวเย็นขนาดนี้ ที่พักไม่มีทั้งแอร์ ทั้งเครื่องทำความร้อนนะจ๊ะ ดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
รุ่งเช้า เราเช่าทัวร์เที่ยวคาเมรอนไฮท์แลนด์ เป็นทัวร์แบบครึ่งวัน
เริ่มจากไร่สตรอเบอร์รี่ อากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็นเลย
นอกจากจะมีสตรอเบอร์รี่แล้วยังมีสวนผักไฮโดรโพนิคด้วยนะคะ
จากนั้นมาต่อที่จุดที่พลาดไม่ได้คือ ไร่ชา (คล้ายๆดอยแม่สลอง เชียงราย แต่มีชาเยอะกว่า กว้างสุดลูกหูลูกตา)
ก่อนไปถึง MOSSY FOREST ไกด์พาเราไปยังจุดชมวิว ซึ่งมีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิว ตอนที่ จขกทและชาวคณะขึ้นไปชมวิว ลมพัดแรงมาก ชวนให้ขาสั่นเมื่อขึ้นไปจุดสูงสุดของหอคอย
หลังจากชมวิวเรียบร้อย จขกทและชาวคณะ ไม่รอช้า รีบลงมาถ่ายรูปกับรถ Jeep ยานพาหนะคู่ใจในวันนี้ ประสบการณ์นั่งรถ Jeep ขึ้นภูเขา มันส์และสนุกไม่เบาเลยคะ
จุดสุดท้ายของทัวร์คาเมรอน ไฮท์แลนด์ คือ นังรถ JEEP ไปเที่ยว MOSSY FOREST สวย มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก
MOSSY FOREST จะมีทางเดินชมธรรมชาติ มีจุดให้พักเป็นระยะๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น