ขอความกรุณาให้ข้อมูลหน่อยค่ะ
เคยอ่านเรื่องการประนอมหนี้หรือการขอลดหย่อนนี้มาบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะต้องเลือกทางไหนและคุยกับทางธนาคารยังไง
คุณแม่ดิฉันมีธุรกิจเล็กๆ มีห้องเช่ารายเดือนให้เช่า ประมาณ 10 ห้อง (ห้องละประมาณ 2,500 - 3,000 บาทต่อเดือน) ตอนแรกก็กู้เงินธนาคารมาซื้อตึกนี้และเพิ่งผ่อนธนาคารหมดไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ตอนนี้หมดภาระตรงนี้ไปแล้วแต่โชคร้ายที่การท่องเที่ยวของเมืองซบเซามาก คนก็ย้ายออกเกือบหมด เหลือคนเช่าอยู่แค่ 3 ห้อง และก็ยังขอลดค่าเช่าอีก.... ทำให้คุณแม่แทบจะไม่มีรายรับเลย
ขณะนี้คุณแม่ดิฉันมีรายจ่ายใหญ่ๆดังนี้
ค่าผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านหลังแรกประมาณเดือนละ 12,000 บาท (กู้มา 1ล้าน3แสน เหลือต้องผ่อน 6แสน 6หมื่น)
ค่าผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านหลังที่สองประมาณ 10,000 บาท (กู้มา 8แสน8หมื่น เหลือ 5แสน6หมื่น)
ค่าที่ดินเหลือต้องผ่อนอีก 30,000 บาท (ผ่อนกับบุคคล)
คุณพ่อดิฉันเคยรับราชการ ตอนนี้เกษียร รับเงินบำนาญประมาณเกือบ 30,000 บาทต่อเดือน
แต่คุณพ่อดิฉันเป็นหนี้สหกรณ์ ซึ่งดิฉันไม่ทราบว่าเท่าไหร่
หนี้ธนาคารออมสินที่ยังต้องผ่อนอีก 1แสน5หมื่น
หนี้ธนาคารกรุงไทยอีก 7แสน
เงินบำนาญแต่ละเดือนจึงไม่เหลือ......
ดิฉันเองอยู่ต่างประเทศ แต่ยังหางานทำไม่ได้ จึงไม่ทราบจะช่วยคุณแม่ได้ยังไง
เคยอ่านมาบ้างว่ามีการขอประนอมหนี้หรือลดหย่อนหนี้ จึงอยากให้คุณแม่ไปคุยกับทางธนาคารดู
(ตอนนี้คุณแม่ยังไม่เคยขาดส่งเลยค่ะ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ก็ไม่แน่ เพราะไม่มีรายได้เลย)
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าคุณแม่ควรไปคุยแบบไหนดี
ดิฉันควรเขียนจดหมายให้คุณแม่ถือไปด้วยดีรึเปล่าคะ เพราะคุณแม่น่าจะพูดไม่ค่อยเป็นค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ป.ล. ที่คุณพ่อดิฉันกู้เงินจากธนาคารออมสิน น่าจะมีการปลอมลายเซ็นคุณแม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าทางธนาคารต้องรับผิดชอบอะไรรึเปล่าคะ ส่วนอีกธนาคารนึงตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าใช้ชื่อกู้ร่วมหรือกู้คนเดียว.....
รายรับลดลงมากทำให้ผ่อนจ่ายเงินกู้ซื้อบ้านไม่ไหว ควรคุยกับทางธนาคารยังไงดีคะ
เคยอ่านเรื่องการประนอมหนี้หรือการขอลดหย่อนนี้มาบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะต้องเลือกทางไหนและคุยกับทางธนาคารยังไง
คุณแม่ดิฉันมีธุรกิจเล็กๆ มีห้องเช่ารายเดือนให้เช่า ประมาณ 10 ห้อง (ห้องละประมาณ 2,500 - 3,000 บาทต่อเดือน) ตอนแรกก็กู้เงินธนาคารมาซื้อตึกนี้และเพิ่งผ่อนธนาคารหมดไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ตอนนี้หมดภาระตรงนี้ไปแล้วแต่โชคร้ายที่การท่องเที่ยวของเมืองซบเซามาก คนก็ย้ายออกเกือบหมด เหลือคนเช่าอยู่แค่ 3 ห้อง และก็ยังขอลดค่าเช่าอีก.... ทำให้คุณแม่แทบจะไม่มีรายรับเลย
ขณะนี้คุณแม่ดิฉันมีรายจ่ายใหญ่ๆดังนี้
ค่าผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านหลังแรกประมาณเดือนละ 12,000 บาท (กู้มา 1ล้าน3แสน เหลือต้องผ่อน 6แสน 6หมื่น)
ค่าผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านหลังที่สองประมาณ 10,000 บาท (กู้มา 8แสน8หมื่น เหลือ 5แสน6หมื่น)
ค่าที่ดินเหลือต้องผ่อนอีก 30,000 บาท (ผ่อนกับบุคคล)
คุณพ่อดิฉันเคยรับราชการ ตอนนี้เกษียร รับเงินบำนาญประมาณเกือบ 30,000 บาทต่อเดือน
แต่คุณพ่อดิฉันเป็นหนี้สหกรณ์ ซึ่งดิฉันไม่ทราบว่าเท่าไหร่
หนี้ธนาคารออมสินที่ยังต้องผ่อนอีก 1แสน5หมื่น
หนี้ธนาคารกรุงไทยอีก 7แสน
เงินบำนาญแต่ละเดือนจึงไม่เหลือ......
ดิฉันเองอยู่ต่างประเทศ แต่ยังหางานทำไม่ได้ จึงไม่ทราบจะช่วยคุณแม่ได้ยังไง
เคยอ่านมาบ้างว่ามีการขอประนอมหนี้หรือลดหย่อนหนี้ จึงอยากให้คุณแม่ไปคุยกับทางธนาคารดู
(ตอนนี้คุณแม่ยังไม่เคยขาดส่งเลยค่ะ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ก็ไม่แน่ เพราะไม่มีรายได้เลย)
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าคุณแม่ควรไปคุยแบบไหนดี
ดิฉันควรเขียนจดหมายให้คุณแม่ถือไปด้วยดีรึเปล่าคะ เพราะคุณแม่น่าจะพูดไม่ค่อยเป็นค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ป.ล. ที่คุณพ่อดิฉันกู้เงินจากธนาคารออมสิน น่าจะมีการปลอมลายเซ็นคุณแม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าทางธนาคารต้องรับผิดชอบอะไรรึเปล่าคะ ส่วนอีกธนาคารนึงตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าใช้ชื่อกู้ร่วมหรือกู้คนเดียว.....