ให้เป็นปีสุดท้าย กับคนเดิมๆ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาว pantip ดิฉันเชื่อว่าหลายต่อหลายคนในที่นี้ ต้องมีโมเม้นเดียวกันกับดิฉันแน่นอนเลยใช่มั้ยคะ
ไม่เป็นไรค่ะ อย่างน้อยคุณก็มีดิฉันที่เหงาและโสดเคียงข้างคุณไปตลอดคืนข้ามปีแน่นอนค่ะ และแน่นอนล่ะค่ะว่า
ภารกิจหลักของคนโสดอย่างเราๆคงหนีไม่พ้น
1.นอนดูทีวีที่บ้าน
2.ปิ้งย่างหมูกะทะอยู่กับหลานๆเด็กๆ แถวบ้าน หรือไม่ก็คนสูงวัย
3.สวดมนต์ข้ามปี (เผลอหลับข้ามปีไปเลยทีเดียว)
และบลาๆ ที่คนมีคู่เขาไม่รู้หรอก 555555
เอาล่ะค่ะ สิ่งที่ จขกท จะมาเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่ จขกท รู้สึกจี๊ดทุกครั้งที่พูดถึง แต่ก็อยากจะเล่าดูนะคะเผื่อว่าจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนมองความรักในมุมที่แตกต่างไป
เรื่องมีอยู่ว่า จขกท เป็นคนที่เฟรนลี่มากๆ และชอบเม้าท์ แอบมองหนุ่มๆไปเรื่อยๆไม่ได้คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมีแฟนหรือต้องอกหักเพราะคิดว่าการที่เราได้แอบมอง แอบชอบเป็นอะไรที่ฟินเว่อร์ๆทึ่สุดแล้ว แต่แล้ววันนึงอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อ มีรุ่นที่ รร.เก่าคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าของเพื่อนที่สนิทกันมากก็ว่าได้ เราด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรก็เฉยๆยังคงติดต่อกันเรื่อยมาแม้ว่าเพื่อนเรากับเขาจะเลิกกันไปนานแล้ว พอเราเข้ามหาลัย เราก็ใช้ชีวิตปีหนึ่งของเราไปเรื่อย วุ่นวายกับการปรับตัว เหนื่อย ท้อ ตามประสาเด็กๆ แล้ววันหนึ่งก็มีสายโทรศัพท์ที่เราไม่คาดคิดโทรเข้ามา ใช่แล้วล่ะค่ะ คือน้องคนนั้น แรกๆเราก็สงสัยว่าโทรมาทำไม เพราะเราไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้ควรติดต่อกันแล้วป่ะ แต่ก็รับสายทำให้รู้ว่า อ๋อ เขาโทรมาปรึกษาเรื่องเรียน น้องเขาก็ถามเรื่องเรียนไรดี สอบไหนดี อ่านหนังสือยังไงดี ซึ่งเราก็ให้คำปรึกษาไปเสมือนผู้รู้แต่ที่จริงๆก็คือ กุก็เครียดกับชีวิตตัวเองอยู่เนี้ยยยยย 555 แต่ด้วยความที่บอกแล้วไงคะว่าเฟรนลี่มาก เขาถามอะไรเราก็ไปหาคำตอบมาให้หมดเลย จนเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ น้องเขาก็โทมาทุกคืน บ่อยมาก จากคุยแป๊บๆก็เริ่มชั่วโมง สองชั่วโมง เริ่มมีวอร์ทแอฟ ไลท์ สไกด์ บ้าง เยอะแระว่าม่ะ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไรก็ยังเฉยๆนะ ปล. จขกท ไม่เคยโรไปเลยนะคะซะครั้ง
จนเรื่องที่คุยกันมันไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเราเริ่มคุยกันเรื่องอื่นๆ เรื่องไร้สาระ หัวเราะคริคระ จนรูมเมทเราคิดว่าคุยกับแฟน เราคุยด้วยกันแบบนี้มาตลอดจนเราอยู่ปีสองความสนิทก็ยิ่งมากขึ้นๆ มีการร้องเพลงให้ฟังก่อนนอน เล่นกีต้าร์ หยอดคำหวาน สไกด์ทุกวัน แต่ก็ไม่มีสถานะที่ระบุความสัมพันธ์ของเราได้ หลายต่อหลายครั้งเขาชอบพูดถึง ผญ คนอื่นที่มาชอบเขาให้เราฟังแรกๆเราก็เฉยๆนะ แต่ทำไมหลังๆมานี้เราเริ่มหงุดหงิดและชอบประชดประชัน แต่ก็ไม่แสดงออกมากหรอกเพราะไม่มีสเตตัสของกันและกัน  จนเขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในใจเราตอนนั้นคือเราต้องคิดอะไรกับเขาบ้างแล้วล่ะ แต่ด้วยความที่เรามีฟอร์มจัดที่ค้ำคออยู่เลยคิดว่าจะถือโอกาสนี้ตัดขาดเขาไปเลย (ทั้งๆที่โคตรทรมานเลย รู้ตัวแล้วว่าชอบเขาไปแล้วล่ะ) หลังจากที่เขาไปต่างประเทศได้ไม่นาน เราก็ไม่ติดต่อเขาไปเลย ปกติก็ไม่ทำอยู่แล้ว ทุกๆวันแทบจะดิ้นตายคาห้องโคตรคิดถึงเลยอ่ะ แต่แล้วขณะที่เรากำลังเรียนอยู่โทรศัพท์เราก็สั่นๆ และโชว์ว่าเป็นเบอร์ต่างประเทศ ด้วยความที่ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกจึง รับแล้วบอกว่าเรียนอยู่ ในใจก็คิดว่า กุนี่บ้าจริงๆ คิดถึงแล้วจะฟอร์มจัดไปทำไม และก็แห้วตามเคยเพราะหลังเลิกเรียนเขาก็ไม่โทรมา เราก็รอๆๆ จะให้โทรกลับไปก็บอกแล้วไงว่าเราฟอร์มจัดมาก แต่ก็นะสุดท้ายหมายเลขต่างประเทศก็โชว์ขึ้นหน้าจออีกครั้ง เรานี่รีบรับเลยจ้าาาาาา ดีใจมาก จำได้ว่าตอนนั้นเสียงสั่นน้ำตาปริ่มๆเลยล่ะ คนที่เคยคุยกันทุกวัน ไม่ได้คุยกันมา เกือบสองเดือน เรายิ้มทั้งน้ำตาเลยล่ะ หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามโทรมาหาเราบ่อยๆ แต่เราก็เกรงใจค่าโทรทางไกลเลยบอกให้สไกด์เอาดีกว่าแต่เน็ตที่โน่นไม่ค่อยดีสไกด์ก็ติดๆขัดๆ แต่ด้วยความคิดถึงเราก็ทนได้แหละ ความสัมพันธ์เราพัฒนาถึงขั้นเรียกแทนกันว่าที่รัก แต่เราก็ไม่มีสเตตัสของกันและกันอีกตามเคย  เวลาผ่านไปสองเดือน สามเดือน จนมาจะสิ้นปี 55 เราก็เริ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มหายไป ไลน์ไปไม่ค่อยตอบ สไกด์ก็ไม่ค่อยรับ ลางสังหรณ์ของเราเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนช่วงต้นปีใหม่เราถึงรู้ว่าเขาไม่สบายใจเรื่องเรียน เราก็ได้แต่บอกไม่เป็นไรๆ อดทนถ้าทนไม่ไหวก็ลองปรึกษาพ่อแม่ดู เขาก็เลยตัดสิ้นใจว่าอาจจะกลับมาเรียนต่อที่ไทย เราก็แอบดีใจนะเพราะถ้ามาเรียนที่ไทยเราก็จะได้ใกล้กันมากขึ้นเผื่อว่าบางทีเราอาจจะมีสเตตัสที่ชัดเจนขึ้นก็ได้ แล้วหลังจากวันนั้นเขาก็หายไปอีกเกือบสองเดือน เรานี่ล่องลอยเลยนะ เราทำอะไรผิดรึเปล่าทำไมอยู่ๆเขาหายไปอีกแล้ว คิดไปโน่นนี่นั่น แต่สิ่งที่เราไม่เคยคิดเลยคือเขาจะมีคนอื่นเพราะเราเชื่อใจ แล้วราวๆต้นเดือนมิถุนายนปี 56 เขาก็โทรมาด้วยเบอร์เดิมคือเบอร์มือถือที่ไทยของเขา เราแอบงงก่อนเป็นอย่างแรกแต่ก็รับแหละ คำตอบจากปลายสายคือ "กลับมาแล้วนะ เซอร์ไพส์มั้ย" แต่ด้วยความน้อยใจว่าทำไมถึงหายไปและกลับมาก็ไม่บอกล่วงหน้า ทำให้เราพูดออกไปว่า "ก็รู้อยู่ว่าคนเป็นห่วง ติดต่อกันก็ลำบาก อยู่ๆกลับมาแบบนี้จะเซอร์ไพส์หรือน้อยใจ ก็คิดเอาเองนะ" น้อยใจมากค่ะ และที่ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อเขา เราก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนเลยบอกว่ากลับมาทั้งทีเพื่อนคงอยากเจอ ไปอยู่กับเพื่อนก่อนเถอะ ถ้าว่างแล้วค่อยโทมาก็ได้ คนดีมั้ยล่ะคะ ก็เพราะคิดว่าเขายังเหมือนเดิมเลยมั่นใจว่าถ้าเขาว่างแล้วเขาจะโทรกลับมาหาเอง แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างนั้นน่ะสิคะ .........
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่