เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ส.คปี2556 แม่กับแฟนทำเรื่องกู้เงินเพื่อหมุนเวียนในธุระกิจ ทางกสิกรอนุมัติเงินกู้พ่วงด้วยเงินกู้เพื่อทำประกันชีวิตอีก 3แสนบาท ซึ่งเวลานั้นทางเราปฎิเสธเงินกู้เพื่อทำประกันชีวิต 3 แสนขอทำเบี้ยประกันเพื่อคุ้มครองวงเงินเข้าไป9หมื่น ทางน้องผู้ดูแลแจ้งว่าไม่เป็นไรไห้เซ็นสัญญาไปก่อนแล้วยอดเงิน2แสน1 จะคืนเป็นเช็คเข้าบัญชีเพื่อปิดสัญญาเงินกู้หลังจากวันนี้ไม่เกิน 2 เดือน และขอไห้เราเปลี่ยนจากประกันคุ้มครองวงเงินยอด2แสน 1 นี้เป็นประกันออมทรัพย์แทนซึ่งวันนั้นเราตกลงช่วยตัวเลขน้องเค้าไปโดยตีเช็คส่วนตัวเข้าบริษัทประกัน แทนอีก2แสนกว่าเพราะคิดว่าอย่างน้อยทำประกันแบบออมทรัพย์ก็ยังดีกว่าประกันคุ้มครองวงเงิน
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีการคืนเงินเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ยอด2แสน1เลย เราต้องส่งเงินรายเดือนเดือนละ6500 บาทมาปีกว่าๆ ตอนแรกเมื่อสิงหาปีนี้เราคุยกับน้องที่ดูแลบัญชีได้คำตอบว่าทางกสิกรจะคืนเงินเข้าบัญชีเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ไห้เรา ส่วนดอกเบี้ยที่เสียไปปีกว่าจะคืนด้วยวิธีลดดอกเบี้ยวงเงินกู้อื่นไห้
เราตอบตกลงเพราะคิดว่าอย่างน้อยถึงจะไม่ได้คืนเป็นเงินสดแต่ได้ส่วนลดบัญชีอื่นก็ยังดี แต่พอตอบตกลงก็เงียบอีก เมื่อต้นเดือนธันวาเราจึงร้องเรียนเข้าไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนธนาคารกสิกร จนได้สรุปว่าวันที่ 23 ธันวาที่ผ่านมาจะคืนเงินไห้เราแต่จะคืนเป็นเงินไห้เรา หรือ ปิดบัญชีเงินกู้ไห้ยังไม่แน่ชัดแต่จะคืนไห้วันที่ 23 ธันวา แน่นอน
วันนี้26 ธ.คแล้วยังไม่มีคำตอบว่าจะคืนกี่บาท คืนวันไหน เราเสนอเข้าไปว่า ขอเงินทั้งหมดที่เราเป็นหนี้โดยไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรคืน พร้อมทั้งดอกเบี้ยที่เราถูกเรียกเก็บเข้ามาปีกว่า แต่ได้คำตอบว่าจะคืนเงินปิดบัญชีเงินกู้ แต่ดอกเบี้ยไม่คืนแต่จะลดดอกเบี้ยวงเงินอื่นไห้แทน เป็นคำตอบเดียวกันเลยกับสิงหาที่ผ่านมา แล้วเรื่องก็เงียบต่อไป ส่วนเราก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อต่อไป
วันนี้เรารู้สึกติดลบกับทางธนาคารและผู้ดูแลมากๆ เหมือนถูกหลอกไห้เวลาผ่านไปวันๆเด๋วเราก็ลืม แป๊บเดียวเด๋วหนี้ก็หมด แต่บังเอิญหนี้ก้อนนี้ไม่ได้กู้เอามาใช้ต่อยอดธุกิจ เราอยากรู้ว่าถ้าเราไม่มีปัญญาผ่อน หรือปล่อยไห้เป็นหนี้เสีย เราก็ติดแบล๊คลิสอีก เราไม่รู้ว่าหนี้ก้อนนี้เกิดขึ้นจากอะไร โทรไปเช็คกับทางเมืองไทย ทางเมืองไทยก้แจ้งว่าไม่มีการทำประกันชีวิตเข้ามา หรือ หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่เกิดจากเห็นแก่ตัวของพนักงานอยากได้ผลงานโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของลูกค้า จับเซ็นสัญญาไป ยังไงคนธรรมดาๆจะสู้แบ๊งได้ยังไง วันนี้สถาบันการเงินที่ใหญ่อันดับแรกๆของประเทศไทยจะโกงเงินลูกค้า ทุจริตเงิน 2 แสน เราคงสู้อะไรไม่ได้
แต่ขอประกาศไห้สังคมได้รับรู้ว่าวันนี้ เกิดเรื่องแบบนี้กับเรา ขอไห้ระวัง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
กสิกรไห้เซ็นสัญญาเงินกู้ เราเป็นหนี้แต่ไม่ได้ใช้เงินเป็นปีทวงคืนก็ไม่ได้คืน
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีการคืนเงินเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ยอด2แสน1เลย เราต้องส่งเงินรายเดือนเดือนละ6500 บาทมาปีกว่าๆ ตอนแรกเมื่อสิงหาปีนี้เราคุยกับน้องที่ดูแลบัญชีได้คำตอบว่าทางกสิกรจะคืนเงินเข้าบัญชีเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ไห้เรา ส่วนดอกเบี้ยที่เสียไปปีกว่าจะคืนด้วยวิธีลดดอกเบี้ยวงเงินกู้อื่นไห้
เราตอบตกลงเพราะคิดว่าอย่างน้อยถึงจะไม่ได้คืนเป็นเงินสดแต่ได้ส่วนลดบัญชีอื่นก็ยังดี แต่พอตอบตกลงก็เงียบอีก เมื่อต้นเดือนธันวาเราจึงร้องเรียนเข้าไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนธนาคารกสิกร จนได้สรุปว่าวันที่ 23 ธันวาที่ผ่านมาจะคืนเงินไห้เราแต่จะคืนเป็นเงินไห้เรา หรือ ปิดบัญชีเงินกู้ไห้ยังไม่แน่ชัดแต่จะคืนไห้วันที่ 23 ธันวา แน่นอน
วันนี้26 ธ.คแล้วยังไม่มีคำตอบว่าจะคืนกี่บาท คืนวันไหน เราเสนอเข้าไปว่า ขอเงินทั้งหมดที่เราเป็นหนี้โดยไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรคืน พร้อมทั้งดอกเบี้ยที่เราถูกเรียกเก็บเข้ามาปีกว่า แต่ได้คำตอบว่าจะคืนเงินปิดบัญชีเงินกู้ แต่ดอกเบี้ยไม่คืนแต่จะลดดอกเบี้ยวงเงินอื่นไห้แทน เป็นคำตอบเดียวกันเลยกับสิงหาที่ผ่านมา แล้วเรื่องก็เงียบต่อไป ส่วนเราก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อต่อไป
วันนี้เรารู้สึกติดลบกับทางธนาคารและผู้ดูแลมากๆ เหมือนถูกหลอกไห้เวลาผ่านไปวันๆเด๋วเราก็ลืม แป๊บเดียวเด๋วหนี้ก็หมด แต่บังเอิญหนี้ก้อนนี้ไม่ได้กู้เอามาใช้ต่อยอดธุกิจ เราอยากรู้ว่าถ้าเราไม่มีปัญญาผ่อน หรือปล่อยไห้เป็นหนี้เสีย เราก็ติดแบล๊คลิสอีก เราไม่รู้ว่าหนี้ก้อนนี้เกิดขึ้นจากอะไร โทรไปเช็คกับทางเมืองไทย ทางเมืองไทยก้แจ้งว่าไม่มีการทำประกันชีวิตเข้ามา หรือ หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่เกิดจากเห็นแก่ตัวของพนักงานอยากได้ผลงานโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของลูกค้า จับเซ็นสัญญาไป ยังไงคนธรรมดาๆจะสู้แบ๊งได้ยังไง วันนี้สถาบันการเงินที่ใหญ่อันดับแรกๆของประเทศไทยจะโกงเงินลูกค้า ทุจริตเงิน 2 แสน เราคงสู้อะไรไม่ได้
แต่ขอประกาศไห้สังคมได้รับรู้ว่าวันนี้ เกิดเรื่องแบบนี้กับเรา ขอไห้ระวัง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ