เรื่องมีอยู่แว่
มีศิลปินอยู่สองคน มีความพยายามจะเปลี่ยนสี กิ้งก่าตัวหนึ่ง อย่างถาวร
ศิลปินคนที่หนึ่ง
จับกิ้งก่ามานั่งระบายสีตามใจที่อยากให้เป็น เสร็จแล้วก็ปล่อย กลับคืนสู่แหล่งธรรมชาติ
กับอีกคนหนึ่ง
มองเห็นสัจธรรมความจริงที่ว่า การเปลี่ยนสีของกิ้งก่า
แท้จริงแล้วมันคือสัญชาตญาณ การพรางตัว เป็นธรรมชาติของสัตร์ที่ถูกล่า
เมื่อต้องการเปลี่ยนสีกิ้งก่าอย่างถาวร
ก็ควรไปเปลี่ยนที่สภาพแวดล้อม เพื่อให้กิ่งก่าเปลี่ยนสีตาม น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องกว่า
------------
การแก้ปัญหาการเมืองไทยเวลานี้ ก็เหมือนศิลปินคนที่หนึ่ง
คือมองทุกอย่างเกิดจากตัวนักการเมือง
โดยผู้แก้ปัญหา ไม่เคยถามตัวเองว่าเข้าใจธรรมชาติ ของการเมือง หรือ นักการเมือง ดีพอหรือยัง
การที่จับนัการเมืองมาระบาย ต้องการให้เป็นสีนั้นสีนี้ ตามความนึกคิด ของตัวเอง ที่อยากให้เป็น
โดยที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของนักการเมือง จึงเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดนัก
เพราะวันหนึ่ง เมื่อสีลอก ก็ต้องจับมานั่งระบายสีกันใหม่ ไม่สิ้นสุด
แล้วที่มีคนบางคน ในสภาร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้ความเห็น
จะร่างรัฐธรรมนูญให้เหมาะกับ สภาพสังคมไทย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่าแบบไหนเหมาะกับสภาพ สังคมไทย
เพราะสังคมไทยมีความหลากหลาย
ทําไมไม่ให้สภาพสังคม เป็นผู้กําหนดเอง
เหมือนกับ
สภาพแวดล้อมของตัวกิ้งก่า เป็นผู้กําหนดสีของกิ้งก่า
ก็คือการปล่อยให้กลไก มันพัฒนาไปด้วยตัวมันเอง
หรือหากไม่ทันใจ ก็ควรไปเปลี่ยนที่สภาพแวดล้อม
หากเปลี่ยนที่ตัวกิ้งก่า
สักวันหนึ่งหนึ่งมันก็ต้องเปลี่ยนสีกลับไป เป็นเหมือนสภาพแวดล้อมอย่างที่ว่าอีก
*** ที่ผมเปรียบเทียบ นักการเมืองเป็นกิ้งก่า
ก็เพราะนักการเมืองมีสภาพเป็นผู้ถูกล่า เหมือนกัน
และ สิ่งที่นักการเมืองกลัวมากที่สุดคือ กลัวไม่ได้รับการเลือกตั้ง จากประชาชน
***สภาพแวดล้อมของนักการเมือง ในที่นี่ก็คือ
วิถีชุมชน วัฒนธรรม ตลอดจน ชีวิตความเป็นอยู่ ในแต่ละท้องถิ่น
เหล่านี้แหละครับ ที่สะท้อนตัวตนของนักการเมือง


---------------------------
" ทฤษฏีกิ้งก่าเปลี่ยนสี " กับการเมืองไทย
มีศิลปินอยู่สองคน มีความพยายามจะเปลี่ยนสี กิ้งก่าตัวหนึ่ง อย่างถาวร
ศิลปินคนที่หนึ่ง
จับกิ้งก่ามานั่งระบายสีตามใจที่อยากให้เป็น เสร็จแล้วก็ปล่อย กลับคืนสู่แหล่งธรรมชาติ
กับอีกคนหนึ่ง
มองเห็นสัจธรรมความจริงที่ว่า การเปลี่ยนสีของกิ้งก่า
แท้จริงแล้วมันคือสัญชาตญาณ การพรางตัว เป็นธรรมชาติของสัตร์ที่ถูกล่า
เมื่อต้องการเปลี่ยนสีกิ้งก่าอย่างถาวร
ก็ควรไปเปลี่ยนที่สภาพแวดล้อม เพื่อให้กิ่งก่าเปลี่ยนสีตาม น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องกว่า
------------
การแก้ปัญหาการเมืองไทยเวลานี้ ก็เหมือนศิลปินคนที่หนึ่ง
คือมองทุกอย่างเกิดจากตัวนักการเมือง
โดยผู้แก้ปัญหา ไม่เคยถามตัวเองว่าเข้าใจธรรมชาติ ของการเมือง หรือ นักการเมือง ดีพอหรือยัง
การที่จับนัการเมืองมาระบาย ต้องการให้เป็นสีนั้นสีนี้ ตามความนึกคิด ของตัวเอง ที่อยากให้เป็น
โดยที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของนักการเมือง จึงเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดนัก
เพราะวันหนึ่ง เมื่อสีลอก ก็ต้องจับมานั่งระบายสีกันใหม่ ไม่สิ้นสุด
แล้วที่มีคนบางคน ในสภาร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้ความเห็น
จะร่างรัฐธรรมนูญให้เหมาะกับ สภาพสังคมไทย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่าแบบไหนเหมาะกับสภาพ สังคมไทย
เพราะสังคมไทยมีความหลากหลาย
ทําไมไม่ให้สภาพสังคม เป็นผู้กําหนดเอง
เหมือนกับ สภาพแวดล้อมของตัวกิ้งก่า เป็นผู้กําหนดสีของกิ้งก่า
ก็คือการปล่อยให้กลไก มันพัฒนาไปด้วยตัวมันเอง
หรือหากไม่ทันใจ ก็ควรไปเปลี่ยนที่สภาพแวดล้อม
หากเปลี่ยนที่ตัวกิ้งก่า
สักวันหนึ่งหนึ่งมันก็ต้องเปลี่ยนสีกลับไป เป็นเหมือนสภาพแวดล้อมอย่างที่ว่าอีก
*** ที่ผมเปรียบเทียบ นักการเมืองเป็นกิ้งก่า
ก็เพราะนักการเมืองมีสภาพเป็นผู้ถูกล่า เหมือนกัน
และ สิ่งที่นักการเมืองกลัวมากที่สุดคือ กลัวไม่ได้รับการเลือกตั้ง จากประชาชน
***สภาพแวดล้อมของนักการเมือง ในที่นี่ก็คือ
วิถีชุมชน วัฒนธรรม ตลอดจน ชีวิตความเป็นอยู่ ในแต่ละท้องถิ่น
เหล่านี้แหละครับ ที่สะท้อนตัวตนของนักการเมือง
---------------------------