เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ แถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึง 3% โดยมาจาก 3 ปัจจัยหลักที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี และงบลงทุนถึง 732,748 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2557 โดยสิ้นเดือนธันวาคมนี้ น่าจะมีการเบิกจ่ายถึง 8 แสนล้านบาท
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า 2.การบริโภคภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ประชาชนมีเงินเหลือเฉลี่ยต่อเดือนละ 800-900 บาท ทำให้มีเงินสำหรับใช้จ่ายซื้อของได้ 3.การลงทุนภาคเอกชน โดยหลังจากมีการปรับลดขั้นตอนและระยะเวลาพิจารณาขออนุญาตโรงงาน (ร.ง.4) จากเดิม 90 วัน เป็น 30 วัน ทำให้เอกชนได้รับใบอนุญาตทำกิจการโรงงานใหม่ และขยายโรงงานรวมทั้งสิ้น 2,957 ราย จะก่อให้เกิดการลงทุนเป็นวงเงินถึง 251,350.43 ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 112,180 คน โดย จีดีพีทั้งปี 2557 คาดว่าน่าจะเติบโตที่ 1% ส่วนไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จีดีพีมีสัญญาณจะโตถึง 4% และในปี 2558 คาดว่าจีดีพีน่าจะโต 4.5%
"หลังจากฟังผมรายงานภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่" ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวถึงภาวะปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในปีหน้าว่า เป็นห่วงมาก ทั้งประเทศรัสเซีย และเรื่องอื่นๆ โดยตัวสำคัญคือ ราคาน้ำมัน มีทั้งบวกและลบ แง่บวกคือ ไทยซื้อน้ำมันลดลง ทำให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้น แง่ลบคือ เวลาน้ำมันลง ส่งผลต่อวัตถุ พืชผลอย่างอื่น เช่น โลหะในโลกราคาลดลง พืชผลลง ราคาน้ำตาลลง พืชผลอย่างถั่วเหลือง ไม่รู้จะไปถึงข้าวสาลีหรือไม่ และจะลามถึงข้าวด้วย แต่ที่มีผลเข้าเนื้อเลยคือ ยางเทียมลง ยางเทียมลดเกือบครึ่ง ทำให้กดราคายางไปไม่ถึง 60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เรื่องนี้ที่หนักใจที่สุด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางว่า ขณะนี้ราคายางแผ่นดิบชั้นที่ 3 อยู่ที่ 58 บาทต่อ กก. แล้ว คาดว่าจะถึง 60 บาทต่อ กก.ช่วงปีใหม่ โดยในส่วนของโครงการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง 1,000 บาทต่อไร่นั้น รัฐบาลได้จ่ายเงินให้ชาวสวนยางแล้ว 19,000 ครัวเรือน วงเงิน 190 ล้านบาท จากเป้าหมาย 8.5 แสนล้านครัวเรือน หรือวงเงิน 8,500 ล้านบาท กำลังเปลี่ยนวิธีให้จ่ายเงินชาวสวนยางก่อนแล้วค่อยตรวจสอบเรื่องการทุจริตภายหลัง เพื่อเป็นของขวัญชาวสวนยาง เพราะการขึ้นทะเบียนชาวสวนยางนั้นมีบัญชีเกษตรกรเดิมอยู่แล้ว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า ส่วนการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ได้เชิญนักธุรกิจยางจีนมาลงทุนในประเทศไทย ขณะนี้มีนักลงทุน 8 ราย ตกลงมาตั้งโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์ในประเทศไทย โดยตอนนี้มี 1 ราย มาสร้างโรงงานที่ไทยแล้ว และอีก 7 ราย จะตามมาภายหลัง นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนสนใจตั้งโรงงานอีก 2 รายด้วย เชื่อว่าการตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์จะทำให้เกิดการใช้ยางในประเทศเพิ่มถึง 1 ล้านตัน หรือคิดเป็น 25% จากเดิมที่ไทยมีการใช้ยางในประเทศเพียง 14% และคาดว่าในอีก 2 ปีจะส่งผลดีต่อราคายางในประเทศด้วย
"หม่อมอุ๋ย"โชว์รบ.ทำเศรษฐกิจดี! จีดีพี3เดือนโต3% จีนแห่มาลงทุน ปีหน้าโต 4.5%แน่!
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า 2.การบริโภคภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ประชาชนมีเงินเหลือเฉลี่ยต่อเดือนละ 800-900 บาท ทำให้มีเงินสำหรับใช้จ่ายซื้อของได้ 3.การลงทุนภาคเอกชน โดยหลังจากมีการปรับลดขั้นตอนและระยะเวลาพิจารณาขออนุญาตโรงงาน (ร.ง.4) จากเดิม 90 วัน เป็น 30 วัน ทำให้เอกชนได้รับใบอนุญาตทำกิจการโรงงานใหม่ และขยายโรงงานรวมทั้งสิ้น 2,957 ราย จะก่อให้เกิดการลงทุนเป็นวงเงินถึง 251,350.43 ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 112,180 คน โดย จีดีพีทั้งปี 2557 คาดว่าน่าจะเติบโตที่ 1% ส่วนไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จีดีพีมีสัญญาณจะโตถึง 4% และในปี 2558 คาดว่าจีดีพีน่าจะโต 4.5%
"หลังจากฟังผมรายงานภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่" ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวถึงภาวะปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในปีหน้าว่า เป็นห่วงมาก ทั้งประเทศรัสเซีย และเรื่องอื่นๆ โดยตัวสำคัญคือ ราคาน้ำมัน มีทั้งบวกและลบ แง่บวกคือ ไทยซื้อน้ำมันลดลง ทำให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้น แง่ลบคือ เวลาน้ำมันลง ส่งผลต่อวัตถุ พืชผลอย่างอื่น เช่น โลหะในโลกราคาลดลง พืชผลลง ราคาน้ำตาลลง พืชผลอย่างถั่วเหลือง ไม่รู้จะไปถึงข้าวสาลีหรือไม่ และจะลามถึงข้าวด้วย แต่ที่มีผลเข้าเนื้อเลยคือ ยางเทียมลง ยางเทียมลดเกือบครึ่ง ทำให้กดราคายางไปไม่ถึง 60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เรื่องนี้ที่หนักใจที่สุด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางว่า ขณะนี้ราคายางแผ่นดิบชั้นที่ 3 อยู่ที่ 58 บาทต่อ กก. แล้ว คาดว่าจะถึง 60 บาทต่อ กก.ช่วงปีใหม่ โดยในส่วนของโครงการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง 1,000 บาทต่อไร่นั้น รัฐบาลได้จ่ายเงินให้ชาวสวนยางแล้ว 19,000 ครัวเรือน วงเงิน 190 ล้านบาท จากเป้าหมาย 8.5 แสนล้านครัวเรือน หรือวงเงิน 8,500 ล้านบาท กำลังเปลี่ยนวิธีให้จ่ายเงินชาวสวนยางก่อนแล้วค่อยตรวจสอบเรื่องการทุจริตภายหลัง เพื่อเป็นของขวัญชาวสวนยาง เพราะการขึ้นทะเบียนชาวสวนยางนั้นมีบัญชีเกษตรกรเดิมอยู่แล้ว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า ส่วนการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ได้เชิญนักธุรกิจยางจีนมาลงทุนในประเทศไทย ขณะนี้มีนักลงทุน 8 ราย ตกลงมาตั้งโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์ในประเทศไทย โดยตอนนี้มี 1 ราย มาสร้างโรงงานที่ไทยแล้ว และอีก 7 ราย จะตามมาภายหลัง นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนสนใจตั้งโรงงานอีก 2 รายด้วย เชื่อว่าการตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์จะทำให้เกิดการใช้ยางในประเทศเพิ่มถึง 1 ล้านตัน หรือคิดเป็น 25% จากเดิมที่ไทยมีการใช้ยางในประเทศเพียง 14% และคาดว่าในอีก 2 ปีจะส่งผลดีต่อราคายางในประเทศด้วย