พูดแต่ความจริงเถอะครับ..ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่เหลือใคร

เจ้าเริงร่า
                 สวัสดีครับ
ผมไม่รู้จะอธิบายให้ใครได้รับฟังอีกแล้วครับเพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวกับคนอื่นซักเท่าไรก็เลยอาศัย มาระบายกับบอร์ดที่  Pantip  ครับหวังว่าเรื่องราวของผมจะมีคนอ่านและแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่แรกมีอยู่ว่าผมเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ผมเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์เมื่อ ประ 5-6 ปีที่แล้วครับ
เม่าหอยทาก
                  ผมเป็นผู้ชายใส่แว่นตัวเล็ก ผิวคล้ำๆ หน้าตาไม่เป็นที่ต้องการของ  Lady market   ซักเท่าไรก้อเลยไม่ค่อยจะมีผู้หญิงมาสนใจมากครับที่มีมาสนใจก็ไม่ใช่เกิดอาการเป็นคนช่างเลือกมาซะอย่างงั้นก็เลยถือความเป็นโสด  สำมะเรเทเมากินเหล้า เล่นการพนัน ควบคู่กับทำกิจกรรมทางการศึกษาไปเรื่อยจนปล่อยเวลาร่วงเลยมาเกือบ  2  ปี
                  รู้ตัวอีกทีก้ออยู่ปี 2 ปลายๆเข้าไปแล้วเพื่อนๆที่ตามๆกันมาก็เริ่มมีแฟนไปกันหมด  ผมเลยมักถูกปล่อยให้อยู่ลำพังผู้เดียวอยู่บ่อยครั้งเลยต้องอาศัยคอมพิวเตอร์คลายเหงา(ไม่ใช่เปิดเวปโป๊นะครับ)  เล่น Chat ที่เวปหลักๆในสมัยนั้นก้อมี  Kapook  บ้าง sanook  บ้าง ไปวันๆ วันนั้นนึกฝันอะไรก้อไม่รู้ผมเข้าไปเล่น  Chat  แซวคนอื่นที่  sanook .com  เข้าไปก็ทักคนดะไปทั่วทักไปประมาณ เกือบ  10  คน แต่มีคนตอบมาเพียงคนเดียวเธอเป็นละอ่อน มัธยมปลายครับกำลังจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย รูปโปรไฟล์ของเธอช่างน่าสนใจอย่างมาก เพี้ยนติ่ง
เธอขาว น่ารัก ยิ้มหวาน จับใจครับเธอพิมพ์ตอบกลับมาผมดูรูปโปรไฟล์เธอไปคุยกะเธอไปผมคุยกับเธอเกือบชั่วโมงครับผมเหลือบดูเวลาโอ้ว.. เกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว ตอนนั้นเธอเลยบอกว่าจะนอนแล้วผมเลยขอ MSN จากเธอผมนึกว่าเธอจะไม่ให้เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าผมเพราะรูปโปรไฟล์ของผมเป็นรูปการ์ตูนซุปเปอร์ไซย่า แต่เธอกลับให้ผมมา ผมดีใจมากหลังจากนั้นผมก็กลายเป็นเพื่อนที่ในโลกออนไลน์
                   เธอมักจะปรึกษาเรื่องเรียนต่อกับผมซึ้งผมก็เรียนอยู่ อยู่แล้วผมเลยมีข้อมูลที่เธอต้องการอยู่มากโข๋..พอเธอเริ่มที่จะสนิทกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆเธอเลยอยากจะรู้ว่าผมหน้าตาอย่างไร เป็นคนที่ไหน พ่อ แม่ทำอะไรเรื่องมันก็เกิดขึ้นหลังจากนี่หละครับ  ที่ผมเริ่มจะโกหกเธอ ผมบอกกับเธอว่าผมเป็นที่ครอบครัวไม่อบอุ่น พ่อแม่แยกทางกัน ผมมาอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยง  ในตัวจังหวัดที่ผมเรียนต่อมหาวิทยาลัยนี่หละครับ  เพราะผมอยากให้เธอเข้าใจว่าผมผจญชะตากรรมเดียวกับเธอเราจะได้คุยกันในสถาณเดียวกัน เพราะผมอยากคุยกับเธอไปเรื่อยๆ โดยไม่หวังว่าจะได้เห็นตัวจริงของเธอหรือป่าว  แต่โชคชะตาเข้าข้างผมครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวครับนี่หละครับ พลุพลุ
                   หลิ่วตาหลิ่วตาทางโรงเรียนของเธอจัดงานกีฬาสี เธอต้องการมาทำเสื้อทีมที่ในตัวจังหวัดของผม ผมเลยอาสาพาเธอไปครับ ผมนัดเจอกันที่ ศูนย์ บขส  ในตัวจังหวัด ผมได้แลกเบอร์โทรของเธอกับของผมมาเพื่อเอามาไว้ติดต่อเธอเมื่อเธอมาถึง พอเธอมาถึงเธอโทรหาผม ผมเดินเข้าไปหาเธอแว๊ปแรกที่ผมเห็นเธอ เธอใส่บิ๊กอายนัยตาสีเขียว ผมสั้นๆ ตามมาตราฐานเด็กเรียน ตัวเธอขาวมาก ยิ้มของเธอที่ยิ้มให้ผมมันติดตาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ผมอาสา พาเธอไปแต่วันนั้นเธอกลับบอกว่าเด๋วจะไปกับแฟนเพื่อนแทนให้ผมมาเธอตอนที่เธอเสร็จงานก่อนกลับบ้านแทนก็แล้วกัน
                                                                ผู้หญิงผู้หญิงสาวแว่นสาวแว่น
                          ผมนั่งรออยู่สถานที่ใกล้แถวนัดพบคือบริเวณริมแม่น้ำน่านตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ๆเธอโทรมาหาผมผมนั่งคุยกับเธอผมสังเกตเห็นสายตาเธอที่มองผมมันไม่เหมือนกับผู้หญิงในอดุมการณ์ที่ผมพยายามจีบแต่จีบไม่สำเร็จเลย เธอกลับมองด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย สนุกที่ได้คุยกัน ผมนั่งคุยกับเธอ  เธอพลางเอา ยาใส่แผลที่เท้าขึ้นมาอย่างไม่เขินอาย รู้ไหม ว่าผมเกิดความรู้สึกใจกล้าอาสาใส่ยาที่เท้าให้เธอแต่โชคร้ายที่เธอไม่ให้ผมทำให้  คุยกันเกือบเย็นเพื่อนเธอโทรมาให้ไป ศูนย์ บขส. ผมไปส่งเธอที่ศูนย์ ส่งเธอกลับบ้านหลังจากครั้งแรกที่ได้เจอกันผมก็เริ่มผูกพันธ์กับเธอไปมากขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่สิ่งที่ผมยังทำอยู่คือการโกหกเธอต่อไปเรื่อยๆเช่นกัน ผมนับเป็นที่ปรึกษาให้กับเธอเป็นอย่างดีจนเธอสอบโค้วต้าเสร็จ รอฟังผลสอบในผลประกาศออกมา ผมเป็นคนดูว่าเธอสอบติดโควต้าหรือไม่ ปรากฎว่าเธอสอบได้แต่ได้คณะที่เธอบอกว่าไม่อยากจะเรียน เธอเลยยังไม่แน่ใจว่าจะรับผมโควต้าหรือไม่ ส่วนผมก็ชักเอาแม่น้ำทั้ง  5  ว่านล้อมให้เธอเรียนต่อที่นี่ให้ได้ เพราะในใจตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ไม่ได้เป็นแฟนก็ไม่เป็นไร ขอแค่อยู่ใกล้ก็พอแล้ว  จากนั้นไม่นานถึงเวลาเธอก็มายืนยันเธอได้มายืนยันสิทธิ์สอบเอาไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะเข้าเรียนหรือไม่
                          เม่ารดน้ำเม่ารดน้ำ    หลังจากที่เธอจบมัธมยมปลายเธอได้เข้ามาเรียนพิเศษต่อในตัวจังหวัดที่ผมอยู่ ตอนแรกเธอจะเช่าห้องพัก อยู่ที่ใกล้ๆแต่ผมบอกกับเธอว่ามาอยู่ที่ห้องผมก่อนก็ได้นะ ผมจะย้ายไปอยู่กับเพื่อนห้องข้างๆก่อนในช่วงที่เธอมาอยู่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป เธอเลยตอบตกลง ในระหว่างที่เธออยู่ที่ห้องผมวางตัวดีตลอดเรื่อยมา ผมไปนอนกับเพื่อน  ส่วนเธอก็นอนที่ห้องผม ผมอาบน้ำก็ที่ห้องเพื่อน ไปเรียนก็ไปกับเพื่อน ส่วนรถของผมก็ให้เธอใช้ ทำแบบนี้จนวันสุดท้ายที่เธอเรียน  ผมเสนอเลี้ยงเหล้ากับเธอ  เธอกินเหล้าปั่น ผมกินเหล้าแดง ผมนั่งกินกันสองคนครับชวนเธอคุยไปเรื่อย  เรื่องสัพเพเหระคับ
                                            อมยิ้ม11อมยิ้ม11พาพันอาบน้ำเพี้ยนmbptเพี้ยนmbpt
                         เวลานานเข้าเธอเริ่มหน้าแดงตาเธอเหมือนจะปิดส่วนผมก็กรึ่ม ได้ที่เลยครับ ผมเลยชวนเธอกลับ พอถึงหน้าห้อง ปรากฏว่าเธอเมามาก อ้วกออกมาเป็นทางเลยครับ  ผมเลยไปส่งเธอถึงในห้องผมวางเธอลงเตียงนั่งสังเกตว่าเธอเมา จะอ้วกอีกไหม ผมนั่งอยู่ซักพักตาผมก็เริ่มจะปิด ส่วนเธอก็นอนไม่มีอาการจะอ้วกต่อ  ผมเลยบอกกับเธอว่าผมจะไปนอนห้องเพื่อนแล้วนะผมจะ ล็อคห้องไว้ให้ ผมลุกไปกำลังจะล็อคห้องเธออ้วกอีกรอบผมเลยหิ้วปีกเธอไปอ้วกที่คอห่านแล้วพาเธอมานอนต่อ เธอจับมือผมไว้แน่นผมล้มกอดเธอไว้หลังจากนั้นผมก้อคุมสติไม่อยู่ผมกับเธอมีอะไรกันซึ่งถือว่าผมผิดมากที่คุมสติไว้ไม่ได้ หลังจากเหตุการณ์นั้นผมยังติดต่อกับเธออยู่เธอคงพยายามลืมเรื่องนั้นแต่ผมจำไม่มีวันลืมเธอหลังจากนั้นไม่นาน เธอได้ตอบตกลงเรียนต่อที่ มหาลัยเดียวกับผม ไซบีเรียนฮัสกี้ไซบีเรียนฮัสกี้
หลังจากที่เธอตกลงจะมาเรียนต่อที่ มหาลัยเดียวกับผม เวลาก็เลยผ่านมาถึงวันที่เธอจะมารายงานตัวที่ มหาวิทยาลัยผมรู้สึกเหมือนสิ่งที่ผมเฝ้าภาวนาขอจากพระเจ้าก็เป็นจริงเธอ  เธอมามอบตัวเข้าที่คณะที่เธอบอกว่าไม่อยากจะเรียนมันซักเท่าไร หลังจากที่เธอมามอบตัวไม่นานชมรมที่ผมทำอยู่ก็จัดค่ายวิชาการ(เป็นค่ายเตรียมความพร้อมก่อนเข้ามาเรียน สอนวิชาพื้นฐานให้กับน้อง มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำร่วมกัน) ผมบอกเธอเป็นคนแรกหลังจากที่ประชุมกำหนดวันจัดงานเธอชั่งใจอยู่หลายวันเหมือนกันจนวันรับสมัครค่าย เปิดรับสมัครเกือบจะปิดรับสมัคร เธอตอบตกลงสมัครมาร่วมค่าย
                        นานาเรียนนานาเรียน   ค่ายนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 12-14 วันผมเลยมีโอกาสดูแลเธอนานในระหว่างที่เธออยู่ในค่ายผมเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลาจนเป็นที่ผิดสังเกตของเพื่อนๆแต่ก็ไม่เป็นไรแล้วหละครับเพราะใจผมได้ประกาศไปแล้วว่าจะใช้เวลาที่ค่ายนี้ได้อยู่ดูแลเธอนานที่สุด เวลาทำค่ายเธอต้องทำกิจกรรมต่างที่ทางค่ายจัดทั้งเข้าติวในช่วงเช้าแล้วทำสันทนาการต่อในเย็น ต้องกินต้องนอนต้องอาบน้ำในอาคารเรียนของคณะ (เวลาที่จัดค่ายจะเป็นช่วงปิดภาคเรียนของนักศึกษา) มีบ้างที่เธอไม่สบายผมก็คอยส่งยาให้เธอทั้งๆที่พี่ๆในค่ายก็มีพยาบาลประจำค่าย  ผมค่อยส่งขนมที่เธออยากกิน ผลไม้ที่เธออยากกิน  ( ในค่ายไม่อนุญาติให้ออกไปข้างนอกค่าย)
พอเข้ามาอยู่ในค่ายได้ 1  อาทิตย์เธอป่วยเป็นไข้หนักเอาการอยู่ผมเลยใช้สิทธิ์ที่เป็นกรรมการค่ายพาเธอไปหาหมอ  แล้วให้ไปนอนพักที่ห้องผมที่เธอยึดใช้อยู่คนเดียว    ประมาณ 3 วัน ที่เธอนอนไข้ ผมจะอยู่ใกล้ๆเธอไม่ห่างยามเธอนอนไข้ขึ้นผมจะคอยเอาน้ำมาชุบผ้ามาปิดหน้าผากให้เธอ  เช็ดแขน-ขาเพื่อลดไข้ให้เธอค่อยป้อนข้าวป้อนยา (ในระหว่างที่ดูแลเธอผมก็แว๊บไปที่ค่ายไปช่วยน้องๆค่ายทำงานบ้างไปประชุมดึกบ้างแล้วก็กลับมาดูเธอต่อ)
                        ดอกไม้ทำอย่างนี้จนเธอหายดีแล้วส่งเธอไปสนุกันต่อที่ค่ายเพื่อนๆที่ทำค่ายด้วยกันถามผมว่าน้องเค้ากลับบ้านไปแล้วใช่ไหมผมปิดเป็นความลับเรื่องที่เธอมาอยู่ที่ห้องของผมไม่อยากให้เธอถูกมองว่าเป็นเด็กมีสังกัดใน แต่ทุกครั้งที่ผมเข้าไปคุยกับเธอในค่ายในช่วงเวลาที่ว่างในค่ายเธอชอบมาเล่าให้ฟังว่าชอบพี่ค่ายคนนู้น ปิ้งเพื่อนในค่ายคนนั้นอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ของเด็กสาวที่กำลังจะเป็นเฟรชชี่ในรั้วของมหาวิทยาลัยแต่ความรู้สึกผมคิดอยู่อย่างเดียว คือ เออ...คิดดีแล้วหร่อและพยายามจะหาข้อเสียของแต่ละคนที่ชอบมาบอกกับเธอทุกครั้งออกแนวกันท่าใครต่อใครที่เข้ามาหาเธอ
                                    pompom มันเป็นแผนลับที่ผมทำโดยที่ผมไม่คิดว่ามันจะสำเร็จแค่อยากจะอยู่แบบนี้ได้ดูแลให้คำปรึกษาแบบนี้ไปนานๆและแล้วก็ถึงวันที่ค่ายสิ้นสุดลงเธอขนของกลับบ้านผมไปส่งเธอที่รถเมล์ประจำทางกลับบ้านแต่ข้าวของที่ของเธอที่เธอซื้อไว้ใช้ในค่ายอาทิเช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เธอขอผมฝากเก็บไว้ให้ผมอาสาเก็บไว้ด้วยความยินดี เธอกลับบ้านไปอยู่ที่บ้านได้ช่วงเวลาหนึ่งที่คณะของเธอเองมีค่าย   เธอมาค่ายที่คณะของเธอที่จัดขึ้นผมก็คอยไปรับไปส่งขนมสิ่งของที่เธออยากได้เหมือนเดิมครับที่ต่างออกไปคือผมไม่ได้เป็นพี่ในค่ายเท่านั้นเองไม่นาน ค่ายของคณะเธอเสร็จสิ้นลงมันยังมีเวลาอีก 2-3 วันว่างๆ ก่อนที่ มหาวิทยาลัยจะเปิดให้นักศึกษาขนของเข้ามาในหอในได้ ผมชวนเธอเที่ยวอยู่ดูหนังกับเธอก่อน 1 วันเธอตอบตกลงผมเลี้ยงหนังเธอพาเธอไปเที่ยวห้าง พอดูหนังเสร็จผมก็ชวนเธอไปเดินตลาดไนท์ต่อ แล้วก็กลับมากินข้าวที่มหาลัย แล้วผมก็ไปส่งเธอนอน  ผมก็กลับมานอนที่ห้องเพื่อนเหมือนเดิม

เรื่องราวของผมยังไม่จบขอแบ่งเป็นไตรภาคแล้วกันนะครับอมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม21อมยิ้ม33อมยิ้ม33

ผมอยากให้เพื่อนๆชาวพันทิปช่วยกันดันหน่อยนะครับ ผมอยากให้เรื่องราวของผมเป็นเรื่องราวเตือนสติของคนที่มีคนรักอยู่ ไม่อยากให้ใครมาเจอเหมือนผม อีกเรื่องที่สำคัญ ผมอยากให้เธอได้รู้ครับว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ผมไม่เคยลืมเธอได้เลยสักวัน ภาพรอยยิ้มของเธอที่ยังตรึงในใจของตลอดมา เธอเป็นคนที่ชอบออ่านกระทู้พันทิปมาก และถ้ากระทู้นี้เธอบังเอิญได้อ่านอยากบอกให้เธอรู้ว่าผม ยังรอเธออยู่ที่เดิม
พาพันขอบคุณพาพันปั่นจักรยานพาพันดี๊ด๊า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่