ก่อนอื่นผมขอบอกว่าผมไม่ใช่นักรีวิวมืออาชีพ (จริงๆ ต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกถึงจะถูก) ไม่มีอุปกรณ์อะไรมากมาย ใช้เท่าที่หาได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากมีนักรีวิวมืออาชีพท่านใดอยากจะตั้งกระทู้เพิ่มก็ยินดีครับ ในส่วนของผมจะไม่ลงพวกรายละเอียดเชิงเทคนิคเยอะ แต่จะเน้นทางด้านประสบการณ์การใช้งานทั่วไปมากกว่า ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการใช้มือถือ android เลยถึงแม้ว่าจะเคยทำแอพ android เป็นโปรเจคจบก็ตาม เคยแต่ยืมเพื่อนเอามาทดสอบแอพเฉยๆ ซึ่งก็อาจจะมีลูกเล่นบางอย่างที่ผมไม่รู้และไม่ได้ทดสอบมา ซึ่งถ้าหากท่านอยากให้ผมทดสอบอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้นะครับที่ไม่ใช่ drop test กับ waterproof test 555
ก่อนที่จะอ่านรีวิว ผมอยากเล่าก่อนว่าทำไมอยู่ๆ ผมถึงมาเลือกใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ได้ (จริงๆ ข้ามไปก็ได้นะครับ)
ที่ผ่านมาผมใช้ iPhone 5 มาเกือบๆ 2 ปี และแล้วอยู่ๆ ผมก็เกิดอยากได้มือถือ dual sim lte ขึ้นมาเนื่องจากผมเคยใช้ซิม AIS มาก่อนเพราะชอบตรงที่ได้โปรโมชั่นโทรถูกแล้วก็สัญญาณดี ต่อมาหลังจากที่เปลี่ยนมาใช้ iPhone ผมก็เลือกค่าย True เพราะพื้นที่ 3g ในตอนนั้นครอบคลุมเยอะดี ก็เลยกลายเป็นว่าพกมือถือ 2 เครื่องมาพักใหญ่ๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มขี้เกียจเลยทิ้งเครื่อง AIS ไว้ที่หอพัก เลยกลายเป็นว่าใช้ iPhone อยู่เครื่องเดียว มีอยู่วันหนึ่งพอจะกลับมาใช้ AIS ก็กลายเป็นว่าโดนตัดสัญญาณไปแล้วเพราะไม่ได้ใช้นาน ผมเลยต้องขอเปิดสัญญาณต่อและคิดว่าจะ hold ไว้ให้ถึง 10 ปีแล้วค่อยกลับมาใช้ให้ถึงเดือนละ 300 บาท เพราะผมก็ชอบสิทธิ์ Serenade ของ AIS อยู่เหมือนกันนะ
เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม โจทย์ของผมตอนนั้นคือหามือถือ dual sim lte มาใช้สักเครื่องหนึ่ง เพราะจะได้ใช้ประโยชน์จาก 4g ของ True และค่าโทรถูก สัญญาณดีจาก AIS (จริงๆ คืออยากได้ทั้ง Serenade และ True Card) ผมก็เริ่มมองหามือถือและค้นพบว่าประเทศไทยเราทำไมถึงไม่มีขาย ถ้าใครรู้เหตุผลแล้วบอกผมจะยินดีมากครับ ซึ่งความคิดตรงนี้ของผมเหมือนกับกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32676033 ตรงข้อความที่ว่า "ซึ่งก็แปลกตรงที่ว่า รุ่นไหนๆก็แล้วแต่ ที่ดูสเป็กจากเว็บนอก มีสองซิม รองรับ 4G พอเข้ามาบ้านเราทีไร ไม่เหลือซิมเดียว ก็กลายเป็นไม่มี 4G" ตอนแรกผมก็ว่าจะซื้อ Nubia Z7 max นะ ชอบทั้ง design และสเปค แต่เนื่องจากราคาแพงไป ผมเงินเดือนน้อยเลยอยากได้มือถือถูกๆ สเปคดีมาเล่นสักเครื่อง จริงๆ ตอนแรกก็ดูไว้หลายรุ่นเช่น Huawei Honor 6 จริงๆ อันนี้ดีทุกอย่างยกเว้นตรงที่ 3g รองรับคลื่น 900/2100, HTC One E8 แพงไป ของไทยก็เป็นซิมเดียว, Zenfone 5 ที่เข้าไทยก็มีข่าวว่ายังไม่รองรับ 4g แต่เป็น dual sim ก็เลยตัดสินใจหามือถืออยู่นาน จนอยู่ๆ มาเจอรุ่นนี้ก็คิดว่าโอเค คุณสมบัติครบตามที่ต้องการและก็ราคาไม่แพง ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าจะขายเดือนตุลาคม จนเลื่อนมาเป็นกลางธันวาคม ผมรอมาเป็นเดือนเลยกว่าจะได้
อันนี้เป็นภาพเครื่องโดยรวม ขออภัยถ้าภาพไม่ค่อยชัด
-
การออกแบบและลักษณะของตัวเครื่อง
- ผมไม่ค่อยชอบดีไซน์ของเครื่องนี้สักเท่าไร ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ของ Elephone ยังคิดว่าตัวเครื่องหนาอยู่ แต่น้ำหนักเบาใช้ได้
- ลำโพงที่อยู่ด้านหลังทำให้เวลาจะเปิดเพลงต้องคว่ำโทรศัพท์ไม่งั้นจะไม่ค่อยได้ยินเสียง ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงก็กลางๆ แต่ปกติผมจะชอบใส่หูฟังอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เปิดลำโพง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไรสำหรับผม
- ตัวสแกนนิ้วมือไม่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ไว้เล็บ ขนาดผมเล็บไม่ยาวมากยังรู้สึกลำบากเวลาใช้เพราะกลัวไปข่วนกล้องและแฟรชมาก ตอนแรกใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่หลังจากที่ตัดเล็บจนสั้นกุดก็ใช้งานได้ดีขึ้น ลองหลอกใช้นิ้วอื่นสแกนแล้วก็ไม่สำเร็จ นับว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง
- วิธีการ capture หน้าจอคือกดปุ่ม - (เบาเสียง) กับปุ่มล๊อคหน้าจอพร้อมกัน
-
ความเร็ว หน่วยความจำ
- สำหรับคนที่คิดว่ามือถือของฉันจะต้องใช้ CPU Snapdragon เท่านั้น อันนี้ไม่ว่ากันเพราะผมก็ไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกว่าอันไหนดีกว่ากันยังไง แต่ถ้าวัดจากประสิทธิภาพโดยรวมแล้วก็ค่อนข้างโอเคสำหรับผม
- เสียตรงที่ว่า CPU อันนี้ไม่ใช่ 64 bit ซึ่งถ้าเป็น 64 bit เมื่อใช้กับ Android L จะทำให้แอพที่รองรับ 64 bit ดึงประสิทธิภาพออกมาได้มากขึ้น
- หน่วยความจำภายใน 16 GB แต่มีช่องใส่ SD Card ก็นับว่าไม่เลว
- จากการทดสอบเล่น Asphalt 8, Cookie Run, Jump Flower แล้วค่อนข้างไหลลื่นดี ไม่พบการกระตุกอย่างมีนัยสำคัญ
-
การแสดงผล กล้อง แบตเตอรี่
- หน้าจอแสดงผลแบบ HD ก็ถือว่าโอเค แต่อาจจะไม่ชินตาสำหรับคนที่เคยใช้ iPhone หรือมือถือแพงๆ มาก่อน
- สำหรับภาพที่ผมถ่ายผมไม่ได้ปรับแต่งรูป หรือปรับเปลี่ยนโหมดแต่อย่างใด (ใช้แบบ default) แน่นอนว่าคุณภาพสู้ iPhone ไม่ได้ แต่สำหรับผมมันก็โอเคนะ เพราะผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปด้วย แต่สำหรับสาวๆ ที่เน้นกล้องแล้ว มือถือราคาถูกแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสม
- แบตเตอรี่แบบถอดได้ 3150 mAh นับว่าดี ใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ ไม่ต้องพกสายชาร์จ
4G Test บริเวณสยาม
4G Test บริเวณสีลม
3G Test
-
อื่นๆ
- มี NFC มาด้วยก็นับว่าดี จริงๆ คือดูฮอร์โมน 2 แล้วเห็นใครสักคนใช้มือถือแตะ BTS แล้วเท่ห์ดีเลยอยากทำบ้าง แต่เท่าๆ ที่ดูจากมือถือรุ่นอื่นที่ไม่ใช่ซัมซุงแล้วมันยังไม่ค่อยลื่น เพื่อนๆ ญาติๆ ผมก็ไม่มีใครใช้ซิม Rabbit ก็เลยยังไม่กล้าเสี่ยง ถ้าหากใครมีมือถือรุ่นแปลกๆ และทดสอบกับซิม Rabbit แล้วอยากให้มาแชร์ข้อมูลกันหน่อยว่าพอจะใช้ได้ไหม ถึงจะไม่ลื่นไหลแบบซัมซุงผมก็โอเคนะ ขอแค่อย่าน่าเกลียดเกินไปแบบต้องยืนแช่ 5 วินาทีกว่าจะออกมาได้
- จากการทดสอบความเร็วบริเวณ BTS สยาม สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์และบริเวณใกล้เคียง ในเวลาเลิกงานซึ่งมีคนอยู่มหาศาล พบว่าความเร็วดาวโหลด 3G อยู่ที่ 2-3 Mbps และ 4G อยู่ที่ 3-6 Mbps อันนี้ไม่รู้ว่าผมผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าเพราะคิดว่า 4g จะเร็วกว่านี้ ตอนที่ใช้ iPhone ก็ไม่เคยลองทดสอบ ส่วนบริเวณสีลมจะได้ความเร็วประมาณ 13-15 Mbps และที่ใช้เว็บนั้นทดสอบเพราะเห็นสนับสนุนโดย กสทช. เลยคิดว่าน่าจะมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
- เพิ่งรู้ว่าควรเปิด Roaming ด้วยเวลาใช้ 4g ของ Android จากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/31304210
- สำหรับซิมที่จะใช้งาน 3g/4g สามารถใส่เป็น Standard Sim หรือ Micro Sim ก็ได้ แล้วเข้าไปเปลี่ยนในการตั้งค่าทีหลัง
- ความถี่คลื่นที่รองรับคือ 2G: GSM 850/900/1800/1900MHz, 3G: WCDMA 850/900/1900/2100MHz, 4G: FDD-LTE:800/1800/2100/2600MHz ซึ่งก็แปลว่าใช้ได้กับทุกเครือข่ายในประเทศไทย
-
ปัญหาที่พบ
- เวลาเล่นมือถือระหว่างชาร์จแบตแล้วมือถือจะรวน อันนี้ก็เป็นความรู้ใหม่จากกระทู้
http://pantip.com/topic/23083488 ทำให้รู้ว่า Adapter ไม่ดี ซึ่งจริงๆ ผมก็รู้สึกว่าเวลาเสียบแล้วมันจะหลวมๆ ถ้าไม่ได้เสียบจากเต้าปลั๊กไฟหลัก แต่พอลองเสียบกับ Powerbank แล้วมันก็หายจริงๆ ก็เลยคิดว่าจะลองไปซื้อตัวแปลงหัวปลั๊กจากกลมๆ มาเป็นเหลี่ยมๆ ดู ถ้าไม่หายจะเอา Adapter ของไอโฟนมาใช้เพราะตรวจสอบแล้วว่าค่า I/O ของกระแสไฟและความต่างศักย์เท่ากัน
- รายชื่อใน Contact ไม่ยอมซิงค์กับ Facebook app วิธีแก้คือหาแอพ HaxSync มาลง
- ตอนใช้ครั้งแรกพบว่าไอคอนไม่มีวงกลมแจ้งเตือนเหมือนใน iPhone หลังจากค้นหาข้อมูลจนพบกระทู้
http://pantip.com/topic/30035560 ทำให้รู้ว่าต้องหาตัว Launcher ใหม่มาลง
-
สรุป
- ข้อดีคือได้มือถือ Dual sim lte nfc คุณภาพปานกลาง ราคาถูกมาใช้
- ข้อเสียคือขายต่อยาก ฟิล์มกับเคสหาซื้อในไทยไม่ได้ มีปัญหาแล้วส่งเคลมยาก โชคดีที่คนขายยังแถมฟิล์มมาให้
-
ข้อเสนอแนะ
- พูดถึงเรื่องราคาแล้ว ผมแนะนำว่าค่าเครื่อง + ค่าส่งควรอยู่ที่ $180-200
- ถ้าไม่ต้องการ NFC และยอมลดความเร็ว CPU, Ram แล้ว Elephone p3000 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- ถ้าไม่ได้ต้องการ dual sim lte มากนัก ก็มีของดีราคาถูกนอกจากรุ่นนี้ให้คุณได้เลือกอีกเยอะ แต่ถ้าต้องการ รุ่นนี้ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี
[CR] Elephone p3000s (Dual Sim LTE) ของดีที่ไม่ควรมองข้าม
ก่อนที่จะอ่านรีวิว ผมอยากเล่าก่อนว่าทำไมอยู่ๆ ผมถึงมาเลือกใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ได้ (จริงๆ ข้ามไปก็ได้นะครับ)
ที่ผ่านมาผมใช้ iPhone 5 มาเกือบๆ 2 ปี และแล้วอยู่ๆ ผมก็เกิดอยากได้มือถือ dual sim lte ขึ้นมาเนื่องจากผมเคยใช้ซิม AIS มาก่อนเพราะชอบตรงที่ได้โปรโมชั่นโทรถูกแล้วก็สัญญาณดี ต่อมาหลังจากที่เปลี่ยนมาใช้ iPhone ผมก็เลือกค่าย True เพราะพื้นที่ 3g ในตอนนั้นครอบคลุมเยอะดี ก็เลยกลายเป็นว่าพกมือถือ 2 เครื่องมาพักใหญ่ๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มขี้เกียจเลยทิ้งเครื่อง AIS ไว้ที่หอพัก เลยกลายเป็นว่าใช้ iPhone อยู่เครื่องเดียว มีอยู่วันหนึ่งพอจะกลับมาใช้ AIS ก็กลายเป็นว่าโดนตัดสัญญาณไปแล้วเพราะไม่ได้ใช้นาน ผมเลยต้องขอเปิดสัญญาณต่อและคิดว่าจะ hold ไว้ให้ถึง 10 ปีแล้วค่อยกลับมาใช้ให้ถึงเดือนละ 300 บาท เพราะผมก็ชอบสิทธิ์ Serenade ของ AIS อยู่เหมือนกันนะ
เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม โจทย์ของผมตอนนั้นคือหามือถือ dual sim lte มาใช้สักเครื่องหนึ่ง เพราะจะได้ใช้ประโยชน์จาก 4g ของ True และค่าโทรถูก สัญญาณดีจาก AIS (จริงๆ คืออยากได้ทั้ง Serenade และ True Card) ผมก็เริ่มมองหามือถือและค้นพบว่าประเทศไทยเราทำไมถึงไม่มีขาย ถ้าใครรู้เหตุผลแล้วบอกผมจะยินดีมากครับ ซึ่งความคิดตรงนี้ของผมเหมือนกับกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32676033 ตรงข้อความที่ว่า "ซึ่งก็แปลกตรงที่ว่า รุ่นไหนๆก็แล้วแต่ ที่ดูสเป็กจากเว็บนอก มีสองซิม รองรับ 4G พอเข้ามาบ้านเราทีไร ไม่เหลือซิมเดียว ก็กลายเป็นไม่มี 4G" ตอนแรกผมก็ว่าจะซื้อ Nubia Z7 max นะ ชอบทั้ง design และสเปค แต่เนื่องจากราคาแพงไป ผมเงินเดือนน้อยเลยอยากได้มือถือถูกๆ สเปคดีมาเล่นสักเครื่อง จริงๆ ตอนแรกก็ดูไว้หลายรุ่นเช่น Huawei Honor 6 จริงๆ อันนี้ดีทุกอย่างยกเว้นตรงที่ 3g รองรับคลื่น 900/2100, HTC One E8 แพงไป ของไทยก็เป็นซิมเดียว, Zenfone 5 ที่เข้าไทยก็มีข่าวว่ายังไม่รองรับ 4g แต่เป็น dual sim ก็เลยตัดสินใจหามือถืออยู่นาน จนอยู่ๆ มาเจอรุ่นนี้ก็คิดว่าโอเค คุณสมบัติครบตามที่ต้องการและก็ราคาไม่แพง ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าจะขายเดือนตุลาคม จนเลื่อนมาเป็นกลางธันวาคม ผมรอมาเป็นเดือนเลยกว่าจะได้
- การออกแบบและลักษณะของตัวเครื่อง
- ผมไม่ค่อยชอบดีไซน์ของเครื่องนี้สักเท่าไร ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ของ Elephone ยังคิดว่าตัวเครื่องหนาอยู่ แต่น้ำหนักเบาใช้ได้
- ลำโพงที่อยู่ด้านหลังทำให้เวลาจะเปิดเพลงต้องคว่ำโทรศัพท์ไม่งั้นจะไม่ค่อยได้ยินเสียง ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงก็กลางๆ แต่ปกติผมจะชอบใส่หูฟังอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เปิดลำโพง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไรสำหรับผม
- ตัวสแกนนิ้วมือไม่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ไว้เล็บ ขนาดผมเล็บไม่ยาวมากยังรู้สึกลำบากเวลาใช้เพราะกลัวไปข่วนกล้องและแฟรชมาก ตอนแรกใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่หลังจากที่ตัดเล็บจนสั้นกุดก็ใช้งานได้ดีขึ้น ลองหลอกใช้นิ้วอื่นสแกนแล้วก็ไม่สำเร็จ นับว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง
- วิธีการ capture หน้าจอคือกดปุ่ม - (เบาเสียง) กับปุ่มล๊อคหน้าจอพร้อมกัน
- ความเร็ว หน่วยความจำ
- สำหรับคนที่คิดว่ามือถือของฉันจะต้องใช้ CPU Snapdragon เท่านั้น อันนี้ไม่ว่ากันเพราะผมก็ไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกว่าอันไหนดีกว่ากันยังไง แต่ถ้าวัดจากประสิทธิภาพโดยรวมแล้วก็ค่อนข้างโอเคสำหรับผม
- เสียตรงที่ว่า CPU อันนี้ไม่ใช่ 64 bit ซึ่งถ้าเป็น 64 bit เมื่อใช้กับ Android L จะทำให้แอพที่รองรับ 64 bit ดึงประสิทธิภาพออกมาได้มากขึ้น
- หน่วยความจำภายใน 16 GB แต่มีช่องใส่ SD Card ก็นับว่าไม่เลว
- จากการทดสอบเล่น Asphalt 8, Cookie Run, Jump Flower แล้วค่อนข้างไหลลื่นดี ไม่พบการกระตุกอย่างมีนัยสำคัญ
- การแสดงผล กล้อง แบตเตอรี่
- หน้าจอแสดงผลแบบ HD ก็ถือว่าโอเค แต่อาจจะไม่ชินตาสำหรับคนที่เคยใช้ iPhone หรือมือถือแพงๆ มาก่อน
- สำหรับภาพที่ผมถ่ายผมไม่ได้ปรับแต่งรูป หรือปรับเปลี่ยนโหมดแต่อย่างใด (ใช้แบบ default) แน่นอนว่าคุณภาพสู้ iPhone ไม่ได้ แต่สำหรับผมมันก็โอเคนะ เพราะผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปด้วย แต่สำหรับสาวๆ ที่เน้นกล้องแล้ว มือถือราคาถูกแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสม
- แบตเตอรี่แบบถอดได้ 3150 mAh นับว่าดี ใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ ไม่ต้องพกสายชาร์จ
- อื่นๆ
- มี NFC มาด้วยก็นับว่าดี จริงๆ คือดูฮอร์โมน 2 แล้วเห็นใครสักคนใช้มือถือแตะ BTS แล้วเท่ห์ดีเลยอยากทำบ้าง แต่เท่าๆ ที่ดูจากมือถือรุ่นอื่นที่ไม่ใช่ซัมซุงแล้วมันยังไม่ค่อยลื่น เพื่อนๆ ญาติๆ ผมก็ไม่มีใครใช้ซิม Rabbit ก็เลยยังไม่กล้าเสี่ยง ถ้าหากใครมีมือถือรุ่นแปลกๆ และทดสอบกับซิม Rabbit แล้วอยากให้มาแชร์ข้อมูลกันหน่อยว่าพอจะใช้ได้ไหม ถึงจะไม่ลื่นไหลแบบซัมซุงผมก็โอเคนะ ขอแค่อย่าน่าเกลียดเกินไปแบบต้องยืนแช่ 5 วินาทีกว่าจะออกมาได้
- จากการทดสอบความเร็วบริเวณ BTS สยาม สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์และบริเวณใกล้เคียง ในเวลาเลิกงานซึ่งมีคนอยู่มหาศาล พบว่าความเร็วดาวโหลด 3G อยู่ที่ 2-3 Mbps และ 4G อยู่ที่ 3-6 Mbps อันนี้ไม่รู้ว่าผมผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าเพราะคิดว่า 4g จะเร็วกว่านี้ ตอนที่ใช้ iPhone ก็ไม่เคยลองทดสอบ ส่วนบริเวณสีลมจะได้ความเร็วประมาณ 13-15 Mbps และที่ใช้เว็บนั้นทดสอบเพราะเห็นสนับสนุนโดย กสทช. เลยคิดว่าน่าจะมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
- เพิ่งรู้ว่าควรเปิด Roaming ด้วยเวลาใช้ 4g ของ Android จากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/31304210
- สำหรับซิมที่จะใช้งาน 3g/4g สามารถใส่เป็น Standard Sim หรือ Micro Sim ก็ได้ แล้วเข้าไปเปลี่ยนในการตั้งค่าทีหลัง
- ความถี่คลื่นที่รองรับคือ 2G: GSM 850/900/1800/1900MHz, 3G: WCDMA 850/900/1900/2100MHz, 4G: FDD-LTE:800/1800/2100/2600MHz ซึ่งก็แปลว่าใช้ได้กับทุกเครือข่ายในประเทศไทย
- ปัญหาที่พบ
- เวลาเล่นมือถือระหว่างชาร์จแบตแล้วมือถือจะรวน อันนี้ก็เป็นความรู้ใหม่จากกระทู้ http://pantip.com/topic/23083488 ทำให้รู้ว่า Adapter ไม่ดี ซึ่งจริงๆ ผมก็รู้สึกว่าเวลาเสียบแล้วมันจะหลวมๆ ถ้าไม่ได้เสียบจากเต้าปลั๊กไฟหลัก แต่พอลองเสียบกับ Powerbank แล้วมันก็หายจริงๆ ก็เลยคิดว่าจะลองไปซื้อตัวแปลงหัวปลั๊กจากกลมๆ มาเป็นเหลี่ยมๆ ดู ถ้าไม่หายจะเอา Adapter ของไอโฟนมาใช้เพราะตรวจสอบแล้วว่าค่า I/O ของกระแสไฟและความต่างศักย์เท่ากัน
- รายชื่อใน Contact ไม่ยอมซิงค์กับ Facebook app วิธีแก้คือหาแอพ HaxSync มาลง
- ตอนใช้ครั้งแรกพบว่าไอคอนไม่มีวงกลมแจ้งเตือนเหมือนใน iPhone หลังจากค้นหาข้อมูลจนพบกระทู้ http://pantip.com/topic/30035560 ทำให้รู้ว่าต้องหาตัว Launcher ใหม่มาลง
- สรุป
- ข้อดีคือได้มือถือ Dual sim lte nfc คุณภาพปานกลาง ราคาถูกมาใช้
- ข้อเสียคือขายต่อยาก ฟิล์มกับเคสหาซื้อในไทยไม่ได้ มีปัญหาแล้วส่งเคลมยาก โชคดีที่คนขายยังแถมฟิล์มมาให้
- ข้อเสนอแนะ
- พูดถึงเรื่องราคาแล้ว ผมแนะนำว่าค่าเครื่อง + ค่าส่งควรอยู่ที่ $180-200
- ถ้าไม่ต้องการ NFC และยอมลดความเร็ว CPU, Ram แล้ว Elephone p3000 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- ถ้าไม่ได้ต้องการ dual sim lte มากนัก ก็มีของดีราคาถูกนอกจากรุ่นนี้ให้คุณได้เลือกอีกเยอะ แต่ถ้าต้องการ รุ่นนี้ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี