คืออารมณ์ว่าอยากแชร์อ่ะนะ เพราะว่าเคยอ่านแต่เรื่องแย่ๆในบางหัวข้อของธนาคารนี้ผ่านเว็บนี้ พอมีเรื่องเกิดขึ้นกับเรา เฮ๊ย! นางก็ดีเหมือนกันนี่นา 555+
คือเราเป็นสมาชิกบัตร UOB Preferred Platinum กับนาง (ปกติใช้แต่กสิกร Platinum กับ กรุงศรี มาสเตอร์ธรรมดา ตอนสมัครยูโอบีเซลล์ขอให้ช่วยสมัคร ผ่านไปสักพักเคลียร์ยอดบัตรเก่าหมดเลยอยากลองใช้นางดูมั่ง) แล้วเดือนก่อนนางส่งใบโปรโมชั่นบัตรกับบุฟเฟ่ต์มาให้ ของโรงแรมบันยันทรี มื้อกลางวันเป็นโปร มา 4 จ่าย 2 เงื่อนไขมีแค่ จำกัด 12 ท่าน/บัตร/โต๊ะ และเป็นเฉพาะค่าอาหารเท่านั้น ยกเว้นวันหยุดเทศกาลและนักขัตฤกษ์
เราก็เลยชวนพี่สาว พี่เขย กับหลาน (อายุ 9 ขวบ) ไปกิน แบบว่าอยากเลี้ยงพี่สาวกับครอบครัวบ้างเพราะเค้าเลี้ยงเราบ่อย อิอิ จากนั้นเราโทรไปจองกับพนักงานพร้อมบอกจะใช้โปรของบัตรนี้ด้วย 4 จ่าย 2 วันที่จองวันเสาร์ที่ 6 ธันวา ตกอยู่ที่หัวละ 2,100 บาท ไป 4 จ่าย 2 ก็อยู่ทีประมาณ สองพันนิดๆ
พอวันที่ไปถึงร้านอาหาร ก็เข้าไปแจ้ง แล้วบอกว่ามาตามนี้ 4 คนตามที่จองไว้ พนักงานก็พาเราเข้าไปที่โต๊ะ เราก็นั่งทานปกติ จนผ่านไปชม.นึงได้ พนักงานก็เดินมาบอกว่าโปร 4 จ่าย 2 นี้ไม่รวมเด็ก ดังนั้นเราต้องจ่ายเต็ม คือราคารวม 7,415.10 บาท เราก็เลยแย้งว่า ไม่เห็นแจ้งตอนเข้ามาตั้งแต่แรก , ใบโบรชัวร์ก็ไม่แจ้ง อีกอย่างเด็กมาทานนี่ทานน้อยกว่าผู้ใหญ่อีกนะ โปรโมชั่นไม่ค่อย make sense เท่าไหร่ พนักงานนางนั้นก็เลยพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของทางร้านอาหาร บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ไปกล่าวโทษธนาคารจ้าาาาา หลังจากนั้นเรานี่ทานไม่ลงเลยอ่ะ อีกอย่างเราว่าอาหารวันนั้นที่ทานมันไม่ค่อยต่างกับโรงแรมอื่นมากมาย อาจจะดูดีตรงที่มีตับห่าน กับไวน์ป่ะ เพราะอย่างซีฟู๊ดส์วันนั้นก็ธรรมดา หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาแซลมอน กุ้งแม่น้ำ ที่เหลือก็เหมือนๆโรงแรมทั่วไป เราก็เลยรู้สึกว่าแพงเกินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนเหตุที่จะต้องจ่ายเกือบแปดพัน / ปล.พนักงานเสริ์ฟส่วนใหญ่บริการดีมากนะที่บุฟเฟ่ต์กลางวันที่ห้องอาหารร่มไทร ยกเว้นพนักงานที่มาคุยกับเราเรื่องราคานี่แหละ หน้านางไม่รับแขกมาก หน้านางจีนๆซีดๆอ่ะ โค ต ร ไม่รับแขก พูดจาก็ไม่ค่อยดีสีหน้าแบบไม่พอใจ เราเลยรู้สึกแย่ไปอีก
จากนั้นก็เลยโทรหาธนาคาร ร้องเรียนในลักษณะว่าเหมือนโดนธนาคารกับทางร้านลวงเบาๆ และขอปฏิเสธการจ่ายส่วนต่าง (เฉพาะส่วนต่างเท่านั้น) นางก็บอกว่าจะติดต่อกลับ จากนั้นวันสองวัน นางโทรมาอัพเดทว่าเรื่องโปร 4 จ่าย 2 ไม่รวมเด็ก ทางธนาคารก็ไม่ทราบเรื่อง เพิ่งรู้เหมือนกัน ... เราก็ อ้าววววววววว แล้วไงต่อ? (เพราะปกติเราทำโฆษณานิตยสารกับพวกโรงแรม โปรโมชั่นต้องเคลียร์มาก ต้องเช็คก่อนทุกครั้งก่อนตีพิมพ์แล้วส่งให้ลูกค้า)... จากนั้นอีกวันสองวันนางโทรมาขอชดใช้เป็นบัตรสตาร์บัค 1,000 บาทกับแต้มสะสม 7,000 แต่เราไม่รับ เพราะเราไม่ดื่มกาแฟกับแต้ม 7,000 นี่มันไม่ค่อยมีอะไร จากนั้นนางก็ขอติดต่อกลับมาใหม่ ผ่านไปอีกสองวันนางโทรมาเสนอเป็นบัตรส่วนลด 50% ของร้านอาหารในเครือบันยันทรี เราเลยบอกว่า ใครจะกล้าไปอีกค่ะ กลัวบันยันทรีแล้วจร้า โดยเฉพาะแคชเชียร์ผู้หน้าบึ้งตึงเหมือนคนเพิ่งโดนสามีกัดหูมาไรเง้ 55555555+
จากนั้นนางโทรมาใหม่ บอกว่าจะคืนยอดที่ตัดเกินโปรโมชั่นให้... เท่านั้นแหละ เราก็รู้สึกดีกับธนาคารขึ้นมาทันที เพราะตอนแรกคิดว่าคงจบไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ จบเรื่องคงเอากรรไกรตัดบัตรทิ้งแล้วโยนลงถังขยะในห้องน้ำออฟฟิศเลยทีเดียว (คิดไว้แล้วเบาๆ) แต่ตอนนี้กลายเป็นเปลี่ยนใจคงใช้บริการนางต่อ
ก็เลยเห็นว่ามุมดีๆของนางก็มีนะ (หรืออาจจะมีการปรับปรุงทางด้านบริการที่มีเหตุผลและสมเหตุสมผลมากขึ้น) อย่างน้อยนางก็คิดถึงลูกค้าเหมือนกัน เพราะใจเค้าใจเรา ไม่มีใครอยากโดนเอาเปรียบหรอก ตอนนี้เลยกลายเป็นรักยูโอบี...แต่กรูส์เกลียดอิแคชเชียร์ห้องอาหารร่มไทรที่บันยันทรีวะ 5555555+ (ย้ำอีกครั้ง พนักงานบริการคนอื่นๆในห้องอาหารบริการดีมาก)...
อุ้ย ขอชม Call Center UOB ด้วย พูดจาดีมากๆตั้งแต่เราส่งเรื่องร้องเรียน จากนั้นรู้สึกจะคนเดิมนะโทรมาทุกครั้ง พูดจาดี จนเราแบบว่าหงุดหงิดนี่ เราก็พูดจาดีกลับอ่ะ ไม่ใช้อารมณ์ไม่เหวี่ยงพูดให้ฟังด้วยเหตุผล บางทีน้ำเสียงการพูดจาของ Call Center ก็มีผลต่ออารมณ์ลูกค้าเหมือนกันนะ 55555+
ใกล้จะสิ้นปีแล้วไงขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จด้านการงานนะค่ะ ขอให้ได้โบนัสกันเยอะๆตู๊มๆน๊าาาา ส่วนเรานะเหรอ ได้เดือนนึงก็บุญละ 555+
สวัสดีปีใหม่ ฮิ๊วววววววววว
อยากแชร์ประสบการณ์ดีๆกับธนาคาร UOB
คือเราเป็นสมาชิกบัตร UOB Preferred Platinum กับนาง (ปกติใช้แต่กสิกร Platinum กับ กรุงศรี มาสเตอร์ธรรมดา ตอนสมัครยูโอบีเซลล์ขอให้ช่วยสมัคร ผ่านไปสักพักเคลียร์ยอดบัตรเก่าหมดเลยอยากลองใช้นางดูมั่ง) แล้วเดือนก่อนนางส่งใบโปรโมชั่นบัตรกับบุฟเฟ่ต์มาให้ ของโรงแรมบันยันทรี มื้อกลางวันเป็นโปร มา 4 จ่าย 2 เงื่อนไขมีแค่ จำกัด 12 ท่าน/บัตร/โต๊ะ และเป็นเฉพาะค่าอาหารเท่านั้น ยกเว้นวันหยุดเทศกาลและนักขัตฤกษ์
เราก็เลยชวนพี่สาว พี่เขย กับหลาน (อายุ 9 ขวบ) ไปกิน แบบว่าอยากเลี้ยงพี่สาวกับครอบครัวบ้างเพราะเค้าเลี้ยงเราบ่อย อิอิ จากนั้นเราโทรไปจองกับพนักงานพร้อมบอกจะใช้โปรของบัตรนี้ด้วย 4 จ่าย 2 วันที่จองวันเสาร์ที่ 6 ธันวา ตกอยู่ที่หัวละ 2,100 บาท ไป 4 จ่าย 2 ก็อยู่ทีประมาณ สองพันนิดๆ
พอวันที่ไปถึงร้านอาหาร ก็เข้าไปแจ้ง แล้วบอกว่ามาตามนี้ 4 คนตามที่จองไว้ พนักงานก็พาเราเข้าไปที่โต๊ะ เราก็นั่งทานปกติ จนผ่านไปชม.นึงได้ พนักงานก็เดินมาบอกว่าโปร 4 จ่าย 2 นี้ไม่รวมเด็ก ดังนั้นเราต้องจ่ายเต็ม คือราคารวม 7,415.10 บาท เราก็เลยแย้งว่า ไม่เห็นแจ้งตอนเข้ามาตั้งแต่แรก , ใบโบรชัวร์ก็ไม่แจ้ง อีกอย่างเด็กมาทานนี่ทานน้อยกว่าผู้ใหญ่อีกนะ โปรโมชั่นไม่ค่อย make sense เท่าไหร่ พนักงานนางนั้นก็เลยพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของทางร้านอาหาร บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ไปกล่าวโทษธนาคารจ้าาาาา หลังจากนั้นเรานี่ทานไม่ลงเลยอ่ะ อีกอย่างเราว่าอาหารวันนั้นที่ทานมันไม่ค่อยต่างกับโรงแรมอื่นมากมาย อาจจะดูดีตรงที่มีตับห่าน กับไวน์ป่ะ เพราะอย่างซีฟู๊ดส์วันนั้นก็ธรรมดา หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาแซลมอน กุ้งแม่น้ำ ที่เหลือก็เหมือนๆโรงแรมทั่วไป เราก็เลยรู้สึกว่าแพงเกินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนเหตุที่จะต้องจ่ายเกือบแปดพัน / ปล.พนักงานเสริ์ฟส่วนใหญ่บริการดีมากนะที่บุฟเฟ่ต์กลางวันที่ห้องอาหารร่มไทร ยกเว้นพนักงานที่มาคุยกับเราเรื่องราคานี่แหละ หน้านางไม่รับแขกมาก หน้านางจีนๆซีดๆอ่ะ โค ต ร ไม่รับแขก พูดจาก็ไม่ค่อยดีสีหน้าแบบไม่พอใจ เราเลยรู้สึกแย่ไปอีก
จากนั้นก็เลยโทรหาธนาคาร ร้องเรียนในลักษณะว่าเหมือนโดนธนาคารกับทางร้านลวงเบาๆ และขอปฏิเสธการจ่ายส่วนต่าง (เฉพาะส่วนต่างเท่านั้น) นางก็บอกว่าจะติดต่อกลับ จากนั้นวันสองวัน นางโทรมาอัพเดทว่าเรื่องโปร 4 จ่าย 2 ไม่รวมเด็ก ทางธนาคารก็ไม่ทราบเรื่อง เพิ่งรู้เหมือนกัน ... เราก็ อ้าววววววววว แล้วไงต่อ? (เพราะปกติเราทำโฆษณานิตยสารกับพวกโรงแรม โปรโมชั่นต้องเคลียร์มาก ต้องเช็คก่อนทุกครั้งก่อนตีพิมพ์แล้วส่งให้ลูกค้า)... จากนั้นอีกวันสองวันนางโทรมาขอชดใช้เป็นบัตรสตาร์บัค 1,000 บาทกับแต้มสะสม 7,000 แต่เราไม่รับ เพราะเราไม่ดื่มกาแฟกับแต้ม 7,000 นี่มันไม่ค่อยมีอะไร จากนั้นนางก็ขอติดต่อกลับมาใหม่ ผ่านไปอีกสองวันนางโทรมาเสนอเป็นบัตรส่วนลด 50% ของร้านอาหารในเครือบันยันทรี เราเลยบอกว่า ใครจะกล้าไปอีกค่ะ กลัวบันยันทรีแล้วจร้า โดยเฉพาะแคชเชียร์ผู้หน้าบึ้งตึงเหมือนคนเพิ่งโดนสามีกัดหูมาไรเง้ 55555555+
จากนั้นนางโทรมาใหม่ บอกว่าจะคืนยอดที่ตัดเกินโปรโมชั่นให้... เท่านั้นแหละ เราก็รู้สึกดีกับธนาคารขึ้นมาทันที เพราะตอนแรกคิดว่าคงจบไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ จบเรื่องคงเอากรรไกรตัดบัตรทิ้งแล้วโยนลงถังขยะในห้องน้ำออฟฟิศเลยทีเดียว (คิดไว้แล้วเบาๆ) แต่ตอนนี้กลายเป็นเปลี่ยนใจคงใช้บริการนางต่อ
ก็เลยเห็นว่ามุมดีๆของนางก็มีนะ (หรืออาจจะมีการปรับปรุงทางด้านบริการที่มีเหตุผลและสมเหตุสมผลมากขึ้น) อย่างน้อยนางก็คิดถึงลูกค้าเหมือนกัน เพราะใจเค้าใจเรา ไม่มีใครอยากโดนเอาเปรียบหรอก ตอนนี้เลยกลายเป็นรักยูโอบี...แต่กรูส์เกลียดอิแคชเชียร์ห้องอาหารร่มไทรที่บันยันทรีวะ 5555555+ (ย้ำอีกครั้ง พนักงานบริการคนอื่นๆในห้องอาหารบริการดีมาก)...
อุ้ย ขอชม Call Center UOB ด้วย พูดจาดีมากๆตั้งแต่เราส่งเรื่องร้องเรียน จากนั้นรู้สึกจะคนเดิมนะโทรมาทุกครั้ง พูดจาดี จนเราแบบว่าหงุดหงิดนี่ เราก็พูดจาดีกลับอ่ะ ไม่ใช้อารมณ์ไม่เหวี่ยงพูดให้ฟังด้วยเหตุผล บางทีน้ำเสียงการพูดจาของ Call Center ก็มีผลต่ออารมณ์ลูกค้าเหมือนกันนะ 55555+
ใกล้จะสิ้นปีแล้วไงขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จด้านการงานนะค่ะ ขอให้ได้โบนัสกันเยอะๆตู๊มๆน๊าาาา ส่วนเรานะเหรอ ได้เดือนนึงก็บุญละ 555+
สวัสดีปีใหม่ ฮิ๊วววววววววว