สวัสดีครับทุกท่าน,
ขอออกตัวก่อนว่าพึ่งเคยจะลงรีวิวครั้งนี้ครั้งแรก สืบเนื่องจากตัวผมเอง ย้ายที่ทำงานมาทำงานในเมือง เบื่อมากๆกับการจราจรของ กรุงเทพฯทุกวันนี้ จึงตัดสินใจหารถเล็กๆมาใช้ พยายามหาข้อมูลอ่านเพื่อช่วยในการตัดสินใจแต่ยังไม่ค่อยมีใครลงไว้เท่าไหร่ ผมเองไม่เคยขี่เวสป้ามาก่อน ดังนั้นข้อมูลเชิงลึก อาจจะไม่มากพอสำหรับผู้ที่เล่นเวสป้ามาครับ
วันนี้จึงขออนุญาตทำรีวิวเองซะเลยกับตัว New Vespa Sprint 2014 เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆและท่านที่สนใจ
มาเริ่มกันเลยครับ
Overview
ก่อนอื่นเรื่องของรุ่น เผื่อท่านที่ไม่เคยดูเวสป้ามาก่อน (เช่นผม) ถ้าพูดถึง New Vespa อย่างเดียวจะแบ่งรุ่นมาตามลำดับคือ
ไฟกลม: LX 2V > LX 3V > LXV > Primavera
ไฟเหลี่ยม: S > Sprint
ดังนั้นตัว Sprint ก็จะเป็นตัวที่ต่อมาจาก Vespa S นั่นเอง
Specification
Vespa Sprint ที่ขายอยู่บ้านเราจะมีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีแดง สีส้ม และสีเทาด้าน ส่วนราคาแบ่งตามรุ่นย่อยดังนี้ (อ้างอิงราคา ณ กลางๆปี 2014)
- Vespa Sprint 125 3V IE เครื่องยนต์ 125 ซีซี มีสีขาว ดำ แดง เหลือง และ ส้ม (เบาะดำ)
ราคา 98,400 บาท
- Vespa Sprint 150 3V IE เครื่องยนต์ 150 ซีซี มีสีขาว (เบาะแดง) และ ดำ (เบาะแดง)
ราคา 119,900 บาท
- Vespa Sprint 150 3V IE Matt เครื่องยนต์ 150 ซีซี มีสีเทาด้าน (เบาะดำ)
ราคา 121,000 บาท
ถ้าเปรียบเทียบกับรถยี่ห้ออื่นในซีซี เท่าๆกัน ราคาที่สูงกว่าคงจะมาจากเรื่องชื่อยี่ห้อ และรวมถึงโครงสร้างที่เป็นเหล็กของเวสป้านั่นเอง
ที่จะเห็นได้ชัดเจนจากตัวก่อนๆ ในรุ่นนี้ คือ มีการ mapping ECU ใหม่ ทำให้ได้แรงต้นทำได้ดีกว่าเดิม, ระบบไฟหรี่ด้านหน้ารถ (ตรงไฟแล้วซ้าย-ขวา เป็นไฟหลอด LED สีขาว 3 เม็ด เพิ่มความสวยงาม, ขยายความยาวระหว่างล้อหน้า-หลัง (จากโฉม LX) ขึ้นมาอีกเล็กน้อย, ระบบช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ (นุ่มนวลขึ้น), และที่ชัดที่สุดคือล้อลายใหม่ ที่ขนาดใหญ่ขึ้นจาก 11 เป็น 12 นิ้ว
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งาน
สำหรับรถผมนั้นเป็นตัว 150 สีขาวเบาะแดง แต่ได้หุ้มสีเบาะใหม่ตั้งแต่ออกรถกับศูนย์มา จึงอาจจะไม่เหมือนตามสเปคมาตรฐานนะครับ เครื่องยนต์ไม่ได้ปรับแต่งอะไร แต่มีติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อการใช้งาน คือกระจกข้าง (รถจะแคบลง มุดง่ายขึ้น), ที่พักเท้าคนซ้อน, ตะแกรงหลังแบบพับได้ ส่วนในรูปด้านล่างจะเป็นรถก่อนติดอุปกรณ์กับอีกคัน เดิมๆ เช่นกัน
เครื่องยนต์
สำหรับผมถือว่าตอบสนองได้ดีนุ่มนวล แรงบิดต้นดี เรียกว่าออกไฟแดงเร่งได้ ไม่อายใครถ้าเทียบกับรถที่ไม่มีเกียร์ในพิกัดเดียวกัน และถ้าเทียบกับรถเดิมๆด้วยกัน ที่ลองขี่ตัว LXV มา ตัวนี้แรงต้นจะดีกว่าแบบรู้สึกได้พอสมควรครับ (เป็นเหตุผลหลักๆที่ผมตัดใจจาก LXV ไฟกลม น่ารักที่เล็งไว้ตอนแรก)
ความเร็วสูงสุดประมาณ 110 km/h ครับ (100 จะเริ่มตื้อละครับ, ทั้งนี้ขึ้นอยู๋กับแรงลมต้าน และความลาดชันของถนนด้วย)
ระบบช่วงล่าง
ออกไปทางนุ่มนวลถ้าคนชอบ sport อาจจะว่านิ่มไป แต่สำหรับผมใช้งานปกติ ผมโอเคครับ
ระบบเบรค
ส่วนตัวอยากให้เบรคหน้าดีกว่านี้ และเบรคหลังที่ตั้งมาจากโรงงานนิ่มเกินไป ประมาณว่า บีบจนสุดแล้วล้อก็ไม่ล๊อค ซึ่งถ้าให้คิดแทนอาจจะตั้งมาเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่เป็นไรครับ เราสามารถตั้งความตึงเบรคได้เองโดยใช้ประแจขันที่เบรคหลัง ตอนนี้ผมตั้งตึงๆตามใจตัวเองเรียบร้อยแล้ว
หน้าจอแสดงผล
มีให้ตามมาตรฐานครับ น้ำมัน (เต็ม 7 แถบ), นาฬิกา, ODO หรือระยะทางรวม, Trip A, Trip B
ถังน้ำมันขนาด 8 ลิตร
ศูนย์แจ้งว่าให้เติม อ๊อกเทน 95 ผมเติม Gasohol 95 อยู่ จากไฟส้ม ถึงเต็มถัง อยู่ประมาณ 150-200 บาท ขึ้นอยู่ว่าจะลากไฟส้มไปนานขนาดไหน เท่าที่คำนวนแบบคร่าวๆการใช้งานของผมคือในเมืองที่มุดไปมุดมาและทางโล่งแบบลาก Max speed ยาวๆเป็นบางช่วง ตกออกมาที่ กิโลละ 1 บาทครับ
ล้อและยาง
ล้อขอบ 12" ยางขนาด F:110/70 และ R: 120/70
ลมยางศูนย์แจ้งว่าหน้า 28 หลัง 30 แต่ผมเติมอยู่ หน้า 30 หลัง 32
ยังขี่ได้ไม่นานครับ ยังไม่ขอ comment
กุญแจ
โดยจะเป็นกุญแจระบบ Immobilizer ป้องกันกุญแจก๊อป เวลาจอดรถก็จะมีไฟสีแดงกระพริบที่หน้าจอ โดยศูนย์จะให้มา 2 ดอก สีฟ้ากับสีน้ำตาล
แนะนำให้ใช้ดอกสีฟ้าครับ เพราะถ้าหาย สามารถเอาดอกสีน้ำตาลไปให้ร้านหรือศูนย์ copy รหัสข้อมูลไปทำดอกใหม่ให้ได้ ราคาประมาณ 700-800 บาท (ศูนย์ว่ามาเท่านี้ ร้านข้างนอก ไม่รู้ครับ)
ช่องเก็บของ
ที่เก๊ะหน้า ชอบกว่าตัว LX มากคือมีแผ่นปิดกันของหล่นมาให้ด้วย (แผ่นสีดำๆในรูป) ที่เห็นเป็นตัวแขวนสีขาวๆนั่นไม่เกี่ยวนะครับ ผมเอามาติดเอง ไว้ห้อยหูฟัง แว่นตาและรีโมทประตูบ้าน, วิธีการเปิด-ปิดเกะ ทำได้โดยกดตรงรูที่เสียบกุญแจลงไปนั่นเอง ซึ่งเวลาที่เราจอดรถล๊อคคอ ตัวเก๊ะนี้ก็จะถูกล๊อคไปด้วยครับ พอจะเก็บของมีค่าได้บ้าง (ถ้าไม่กลัวโดนงัด) 555
ที่เบาะจะมีตัวแขวนซ่อนอยู่ ดึงออกมาได้ครับ แต่จากการใช้งานจริงผมว่าก้านมันอ้วนไปหน่อย ห่วงเงินๆที่ไว้แขวนหมวกกันน๊อคผม คล้องเข้าไปไม่ได้ คงออกแบบไว้ห้อยถุงพลาสติคเวลาไปชอปปิ้ง มามากกว่า
เปิดใต้เบาะมา (ต้องใช้กุญแจไขมืออย่างเดียว ไม่มีปุ่มให้กดเปิดเหมือนรุ่น GTS) จะเป็นช่องเก็บของที่ใหญ่ขึ้นกว่าตัว LX ซึ่งข้อดีคือสามารถใส่หมวกแบบครึ่งใบได้เลยครับ (ช่องใหญ่ขึ้นจากตัวเก่าเนื่องจากย้ายแบตเตอรี่ลงไปตรงกลางรถ ระหว่างขาเรานั่นแหละ) และแง่ง เล็กๆไว้แขวนหมวกได้ 2 ข้างซ้ายขวา
สำหรับอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ มีมากมายตามสไตล์เวสป้า ทั้งชิลล์หน้า ตะแกรงหน้า หลัง พักเท้า ฯลฯ รูปตัวอย่างจะเป็นการติดกันล้มด้านหลัง ใส่มาหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ (ไม่ใช่รถผม ขออนุญาตเจ้าของรถด้วย)
สิ่งที่ต้องระวัง
- เท่าที่หาข้อมูลมา เจอกันบ่อยๆจะเป็นไฟหลังที่น้ำเข้าครับ เห็นมีเคลมกันเยอะ แต่ได้ยินว่าในลอตหลังๆนี้แก้ไขแล้ว รถผมเองก็ไม่มีอาการนี้ครับ
- ควรตรวจเช็คพวกแหวนรัดท่อต่างๆ บางทีใส่มาไม่ลงล๊อคครับ (อันนี้รถผมก็ไม่เจออะไรผิดปกติครับ)
- เกย์วัดน้ำมันค้าง อันนี้เจอมากับตัว อาการคือ ขี่ไปน้ำมันไม่ลง บางจังหวะ น้ำมันลงแต่ไปเติมแล้ว ก็ไม่ขึ้น
เอาเข้าศูนย์ แจ้งว่า ท่ออากาศถ่ายเทของถังน้ำมัน มันพับอยู่ครับ อารมณ์เหมือน ในถังน้ำมันมันก็เป็นสูญญากาศ ทำให้การทำงานของตัววัดมันเพี้ยนไป (ตอนนี้ปกติแล้วครับ)
- เวลาเติมน้ำมัน ต้องระวังน้ำมันล้น เพราะรูที่เต็มค่อนข้างเล็ก และเด็กปั้มจะมองไม่เห็น ผมล้นมา 2 ทีแล้ว เห็นว่าถ้าเป็นรถตัวสีด้าน (Matt) ยิ่งต้องดูดีๆ เพราะถ้าน้ำมันโดนสีรถ จะด่างเอาง่ายๆนะครับ
- ในรถล๊อตแรกๆ เห็นว่าบางคัน ไม่มีที่ยึดชิลหน้า (ที่ใต้แฮนด์ ซ้าย-ขวา จะเห็นเป็นรูๆอยู่ สองข้าง) คือมีรูโหว่ๆอยู่ แต่ไม่มีตัวยึดที่ไว้ขันเกลียวข้างใน ต้องเอากลับไปให้ศูนย์ ใส่ให้ใหม่
คงขอจบการรีวิวคร่าวๆแค่นี้ครับ สำหรับผม Vespa Sprint เหมาะมากในเมืองจนลืมรถใหญ่และรถยนต์ไปเลยทีเดียวกลัวอย่างเดียวคือหน้าฝนนี่หละ
ยังไงหวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่หาข้อมูลรุ่นนี้อยู่ ….. มีความสุขและขับขี่ปลอดภัยครับ
[CR] New Vespa Sprint 2014 / Review รีวิว
ขอออกตัวก่อนว่าพึ่งเคยจะลงรีวิวครั้งนี้ครั้งแรก สืบเนื่องจากตัวผมเอง ย้ายที่ทำงานมาทำงานในเมือง เบื่อมากๆกับการจราจรของ กรุงเทพฯทุกวันนี้ จึงตัดสินใจหารถเล็กๆมาใช้ พยายามหาข้อมูลอ่านเพื่อช่วยในการตัดสินใจแต่ยังไม่ค่อยมีใครลงไว้เท่าไหร่ ผมเองไม่เคยขี่เวสป้ามาก่อน ดังนั้นข้อมูลเชิงลึก อาจจะไม่มากพอสำหรับผู้ที่เล่นเวสป้ามาครับ
วันนี้จึงขออนุญาตทำรีวิวเองซะเลยกับตัว New Vespa Sprint 2014 เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆและท่านที่สนใจ
มาเริ่มกันเลยครับ
Overview
ก่อนอื่นเรื่องของรุ่น เผื่อท่านที่ไม่เคยดูเวสป้ามาก่อน (เช่นผม) ถ้าพูดถึง New Vespa อย่างเดียวจะแบ่งรุ่นมาตามลำดับคือ
ไฟกลม: LX 2V > LX 3V > LXV > Primavera
ไฟเหลี่ยม: S > Sprint
ดังนั้นตัว Sprint ก็จะเป็นตัวที่ต่อมาจาก Vespa S นั่นเอง
Specification
Vespa Sprint ที่ขายอยู่บ้านเราจะมีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีแดง สีส้ม และสีเทาด้าน ส่วนราคาแบ่งตามรุ่นย่อยดังนี้ (อ้างอิงราคา ณ กลางๆปี 2014)
- Vespa Sprint 125 3V IE เครื่องยนต์ 125 ซีซี มีสีขาว ดำ แดง เหลือง และ ส้ม (เบาะดำ)
ราคา 98,400 บาท
- Vespa Sprint 150 3V IE เครื่องยนต์ 150 ซีซี มีสีขาว (เบาะแดง) และ ดำ (เบาะแดง)
ราคา 119,900 บาท
- Vespa Sprint 150 3V IE Matt เครื่องยนต์ 150 ซีซี มีสีเทาด้าน (เบาะดำ)
ราคา 121,000 บาท
ถ้าเปรียบเทียบกับรถยี่ห้ออื่นในซีซี เท่าๆกัน ราคาที่สูงกว่าคงจะมาจากเรื่องชื่อยี่ห้อ และรวมถึงโครงสร้างที่เป็นเหล็กของเวสป้านั่นเอง
ที่จะเห็นได้ชัดเจนจากตัวก่อนๆ ในรุ่นนี้ คือ มีการ mapping ECU ใหม่ ทำให้ได้แรงต้นทำได้ดีกว่าเดิม, ระบบไฟหรี่ด้านหน้ารถ (ตรงไฟแล้วซ้าย-ขวา เป็นไฟหลอด LED สีขาว 3 เม็ด เพิ่มความสวยงาม, ขยายความยาวระหว่างล้อหน้า-หลัง (จากโฉม LX) ขึ้นมาอีกเล็กน้อย, ระบบช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ (นุ่มนวลขึ้น), และที่ชัดที่สุดคือล้อลายใหม่ ที่ขนาดใหญ่ขึ้นจาก 11 เป็น 12 นิ้ว
ข้อมูลทั่วไปและการใช้งาน
สำหรับรถผมนั้นเป็นตัว 150 สีขาวเบาะแดง แต่ได้หุ้มสีเบาะใหม่ตั้งแต่ออกรถกับศูนย์มา จึงอาจจะไม่เหมือนตามสเปคมาตรฐานนะครับ เครื่องยนต์ไม่ได้ปรับแต่งอะไร แต่มีติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อการใช้งาน คือกระจกข้าง (รถจะแคบลง มุดง่ายขึ้น), ที่พักเท้าคนซ้อน, ตะแกรงหลังแบบพับได้ ส่วนในรูปด้านล่างจะเป็นรถก่อนติดอุปกรณ์กับอีกคัน เดิมๆ เช่นกัน
เครื่องยนต์
สำหรับผมถือว่าตอบสนองได้ดีนุ่มนวล แรงบิดต้นดี เรียกว่าออกไฟแดงเร่งได้ ไม่อายใครถ้าเทียบกับรถที่ไม่มีเกียร์ในพิกัดเดียวกัน และถ้าเทียบกับรถเดิมๆด้วยกัน ที่ลองขี่ตัว LXV มา ตัวนี้แรงต้นจะดีกว่าแบบรู้สึกได้พอสมควรครับ (เป็นเหตุผลหลักๆที่ผมตัดใจจาก LXV ไฟกลม น่ารักที่เล็งไว้ตอนแรก)
ความเร็วสูงสุดประมาณ 110 km/h ครับ (100 จะเริ่มตื้อละครับ, ทั้งนี้ขึ้นอยู๋กับแรงลมต้าน และความลาดชันของถนนด้วย)
ระบบช่วงล่าง
ออกไปทางนุ่มนวลถ้าคนชอบ sport อาจจะว่านิ่มไป แต่สำหรับผมใช้งานปกติ ผมโอเคครับ
ระบบเบรค
ส่วนตัวอยากให้เบรคหน้าดีกว่านี้ และเบรคหลังที่ตั้งมาจากโรงงานนิ่มเกินไป ประมาณว่า บีบจนสุดแล้วล้อก็ไม่ล๊อค ซึ่งถ้าให้คิดแทนอาจจะตั้งมาเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่เป็นไรครับ เราสามารถตั้งความตึงเบรคได้เองโดยใช้ประแจขันที่เบรคหลัง ตอนนี้ผมตั้งตึงๆตามใจตัวเองเรียบร้อยแล้ว
หน้าจอแสดงผล
มีให้ตามมาตรฐานครับ น้ำมัน (เต็ม 7 แถบ), นาฬิกา, ODO หรือระยะทางรวม, Trip A, Trip B
ถังน้ำมันขนาด 8 ลิตร
ศูนย์แจ้งว่าให้เติม อ๊อกเทน 95 ผมเติม Gasohol 95 อยู่ จากไฟส้ม ถึงเต็มถัง อยู่ประมาณ 150-200 บาท ขึ้นอยู่ว่าจะลากไฟส้มไปนานขนาดไหน เท่าที่คำนวนแบบคร่าวๆการใช้งานของผมคือในเมืองที่มุดไปมุดมาและทางโล่งแบบลาก Max speed ยาวๆเป็นบางช่วง ตกออกมาที่ กิโลละ 1 บาทครับ
ล้อและยาง
ล้อขอบ 12" ยางขนาด F:110/70 และ R: 120/70
ลมยางศูนย์แจ้งว่าหน้า 28 หลัง 30 แต่ผมเติมอยู่ หน้า 30 หลัง 32
ยังขี่ได้ไม่นานครับ ยังไม่ขอ comment
กุญแจ
โดยจะเป็นกุญแจระบบ Immobilizer ป้องกันกุญแจก๊อป เวลาจอดรถก็จะมีไฟสีแดงกระพริบที่หน้าจอ โดยศูนย์จะให้มา 2 ดอก สีฟ้ากับสีน้ำตาล
แนะนำให้ใช้ดอกสีฟ้าครับ เพราะถ้าหาย สามารถเอาดอกสีน้ำตาลไปให้ร้านหรือศูนย์ copy รหัสข้อมูลไปทำดอกใหม่ให้ได้ ราคาประมาณ 700-800 บาท (ศูนย์ว่ามาเท่านี้ ร้านข้างนอก ไม่รู้ครับ)
ช่องเก็บของ
ที่เก๊ะหน้า ชอบกว่าตัว LX มากคือมีแผ่นปิดกันของหล่นมาให้ด้วย (แผ่นสีดำๆในรูป) ที่เห็นเป็นตัวแขวนสีขาวๆนั่นไม่เกี่ยวนะครับ ผมเอามาติดเอง ไว้ห้อยหูฟัง แว่นตาและรีโมทประตูบ้าน, วิธีการเปิด-ปิดเกะ ทำได้โดยกดตรงรูที่เสียบกุญแจลงไปนั่นเอง ซึ่งเวลาที่เราจอดรถล๊อคคอ ตัวเก๊ะนี้ก็จะถูกล๊อคไปด้วยครับ พอจะเก็บของมีค่าได้บ้าง (ถ้าไม่กลัวโดนงัด) 555
ที่เบาะจะมีตัวแขวนซ่อนอยู่ ดึงออกมาได้ครับ แต่จากการใช้งานจริงผมว่าก้านมันอ้วนไปหน่อย ห่วงเงินๆที่ไว้แขวนหมวกกันน๊อคผม คล้องเข้าไปไม่ได้ คงออกแบบไว้ห้อยถุงพลาสติคเวลาไปชอปปิ้ง มามากกว่า
เปิดใต้เบาะมา (ต้องใช้กุญแจไขมืออย่างเดียว ไม่มีปุ่มให้กดเปิดเหมือนรุ่น GTS) จะเป็นช่องเก็บของที่ใหญ่ขึ้นกว่าตัว LX ซึ่งข้อดีคือสามารถใส่หมวกแบบครึ่งใบได้เลยครับ (ช่องใหญ่ขึ้นจากตัวเก่าเนื่องจากย้ายแบตเตอรี่ลงไปตรงกลางรถ ระหว่างขาเรานั่นแหละ) และแง่ง เล็กๆไว้แขวนหมวกได้ 2 ข้างซ้ายขวา
สำหรับอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ มีมากมายตามสไตล์เวสป้า ทั้งชิลล์หน้า ตะแกรงหน้า หลัง พักเท้า ฯลฯ รูปตัวอย่างจะเป็นการติดกันล้มด้านหลัง ใส่มาหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ (ไม่ใช่รถผม ขออนุญาตเจ้าของรถด้วย)
สิ่งที่ต้องระวัง
- เท่าที่หาข้อมูลมา เจอกันบ่อยๆจะเป็นไฟหลังที่น้ำเข้าครับ เห็นมีเคลมกันเยอะ แต่ได้ยินว่าในลอตหลังๆนี้แก้ไขแล้ว รถผมเองก็ไม่มีอาการนี้ครับ
- ควรตรวจเช็คพวกแหวนรัดท่อต่างๆ บางทีใส่มาไม่ลงล๊อคครับ (อันนี้รถผมก็ไม่เจออะไรผิดปกติครับ)
- เกย์วัดน้ำมันค้าง อันนี้เจอมากับตัว อาการคือ ขี่ไปน้ำมันไม่ลง บางจังหวะ น้ำมันลงแต่ไปเติมแล้ว ก็ไม่ขึ้น
เอาเข้าศูนย์ แจ้งว่า ท่ออากาศถ่ายเทของถังน้ำมัน มันพับอยู่ครับ อารมณ์เหมือน ในถังน้ำมันมันก็เป็นสูญญากาศ ทำให้การทำงานของตัววัดมันเพี้ยนไป (ตอนนี้ปกติแล้วครับ)
- เวลาเติมน้ำมัน ต้องระวังน้ำมันล้น เพราะรูที่เต็มค่อนข้างเล็ก และเด็กปั้มจะมองไม่เห็น ผมล้นมา 2 ทีแล้ว เห็นว่าถ้าเป็นรถตัวสีด้าน (Matt) ยิ่งต้องดูดีๆ เพราะถ้าน้ำมันโดนสีรถ จะด่างเอาง่ายๆนะครับ
- ในรถล๊อตแรกๆ เห็นว่าบางคัน ไม่มีที่ยึดชิลหน้า (ที่ใต้แฮนด์ ซ้าย-ขวา จะเห็นเป็นรูๆอยู่ สองข้าง) คือมีรูโหว่ๆอยู่ แต่ไม่มีตัวยึดที่ไว้ขันเกลียวข้างใน ต้องเอากลับไปให้ศูนย์ ใส่ให้ใหม่
คงขอจบการรีวิวคร่าวๆแค่นี้ครับ สำหรับผม Vespa Sprint เหมาะมากในเมืองจนลืมรถใหญ่และรถยนต์ไปเลยทีเดียวกลัวอย่างเดียวคือหน้าฝนนี่หละ
ยังไงหวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่หาข้อมูลรุ่นนี้อยู่ ….. มีความสุขและขับขี่ปลอดภัยครับ