[CR] มหากาพย์การรักษาสิวด้วยตัวเอง ... และรีวิวเจลแต้มสิวที่ใช้


สวัสดีค่ะทุกคน ขอโทษทีที่เปิดเข้ามาก็เจอรูปที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่เนื่องจากกระทู้นี้เมย์ต้องการที่จะมาแชร์วิธีการดูแลผิว และวิธีการรักษาสิวด้วยตัวเอง เมย์หมายถึงไม่ได้มีการไปพบแพทย์ ไม่ได้ไปฉีดสิว กดสิว และก็ไม่ได้ทานยาลดสิวด้วย ...​ แต่มีการใช้เจลแต้มสิวบ้าง ซึ่งเมย์จะเขียนรีวิวตัวที่เมย์ใช้ไว้ในช่วงท้ายค่ะ

ปกติเมย์ก็มีสิวบ้างประปราย ส่วนมากจะเป็นสิวในช่วงวันนั้นของเดือน และก็มักจะเป็นสิวหัวช้างเม็ดสองเม็ด แต่หลังจากที่เมย์กลับบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงเดือนสิงหาคม (จำขึ้นใจเลย) แล้วเมย์ไม่ได้พกผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางไปด้วยทำให้ล้างเครื่องสำอางไม่ค่อยสะอาด สิวก็เลยบุก และบุกเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่าเห่อ ...​ ชนิดที่ว่า เมย์เดินผ่านกระจกแล้วยังตกใจหน้าตัวเองอ่ะค่ะ

กระทู้นี้ก็เลยจะมาแชร์วิธีการดูแลผิวของเมย์ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งตอนนี้สิวของเมย์ลดลงเยอะแล้วค่ะ และสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก เหลือรอยแดงและรอยดำที่ต้องดูแลอีกนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ไม่รีบ (ทุกรูปเป็นหน้าสด และส่วนมากจะถ่ายหลังอาบน้ำ อาจจะก่อนทาครีมหรือหลังทาครีมก็จำไม่ได้ แต่รูปที่ถ่ายวันนี้ 24 ธ.ค. 57 คือถ่ายหลังจากที่ทาครีมกันแดดเสร็จแล้ว)

โดยเมย์จะเรียงตามลำดับการดูแลผิวที่เมย์ทำเป็นประจำนะคะ เพื่อความเข้าใจง่าย (อยากบอกว่า ก่อนที่ทุกคนจะได้เห็นกระทู้นี้ เมย์พิมพ์เสร็จไปแล้วรอบนึง แต่มือดันไปกด back แงงงงง ข้อมูลหายหมดเลย ...​ ต้องนั่งพิมพ์ใหม่ ผมนี่หมดแรงเลยค้าบบบบ)

เริ่มจากขั้นตอนแรกคือการล้างเครื่องสำอาง เมย์ผิวแห้งมาก และชอบใช้คลีนซิ่งออยล์ในการล้างเครื่องสำอาง แล้วจำได้ว่าตัวเองเคยดู Socialcam ที่มีคนรีวิวการล้างเครื่องสำอางด้วยน้ำมันมะกอก เลยขอทำบ้าง ... เพราะคลีนซิ่งออยขวดนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ไง แล้วเมย์ใช้ค่อนเยอะ และใช้ทุกวัน ที่สำคัญคือน้ำมันมะกอกมันเป็นธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวด้วย ลองแล้วไม่แพ้ ก็เลยใช้มาตลอด เป็นเวลามากกว่า 4 เดือนแล้วค่ะ

โดยวิธีของเมย์คือการหยดน้ำมันมะกอกลงบนฝ่ามือและลูบให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ นวดเบาๆ ให้เครื่องสำอางละลายไปกับน้ำมัน เสร็จแล้วก็ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดให้ชุ่ม บิดน้ำออกเล็กน้อย ไม่ต้องหมาดมาก แล้วเช็ดคราบน้ำมันมะกอกและเครื่องสำอางบนผิวออกให้หมด เช็ดไปเรื่อยๆ จนกว่าสำลีจะสะอาด ซึ่งปกติเมย์จะใช้สำลีอยู่ที่ประมาณ 2-4 แผ่นค่ะ

เสร็จแล้วก็ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าตามปกติ ช่วงก่อนหน้านี้เมย์ใช้ของ Reskin แต่ตอนนี้ Reskin หมดแล้วเลยเปลี่ยนมาใช้ของ La - Roche Posay เพราะเค้าเคลมว่ามันสามารถล้างเครื่องสำอางได้ ซึ่งเมย์เคยทดสอบ (ตัว Reskin) ด้วยการนำไปล้างอายไลเนอร์แล้ว ปรากฎว่าล้างออกได้ดีมาก ก็เลยใช้มาตลอด และคิดว่าการที่เราใช้โฟมล้างหน้าที่สามารถล้างเครื่องสำอางได้นั้น จะเป็นการช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ตกค้างอีกรอบหนึ่ง ...​ ส่วนช่วงเช้า เนื่องจากผิวแห้งมากเมย์ก็เลยล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ยกเว้นวันไหนที่ผิวมันย่องจึงจะล้างด้วยสบู่ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เช่น Acne Aid

ขั้นตอนต่อมาคือการเช็ดโทนเนอร์ หลังจากที่เป็นสิวรอบนี้เมย์ก็หันมาลองใช้โทนเนอร์เพิ่มอีกขึ้นตอน เพื่อเป็นการเช็คว่าผิวของเราสะอาดแล้วหรือยัง อยากบอกว่าติดมาก วันไหนไม่ได้ใช้จะรู้สึกไม่มั่นใจ จะกังวลว่าเราทำความสะอาดเครื่องสำอางหมดหรือยังนะ? มีสิ่งสกปรกตกคางอยู่บนผิวเราหรือเปล่า? ... โทนเนอร์ขวดแรกที่เริ่มใช้เป็นของป้าพอลล่า แต่เนื่องจากเมย์เช็ดทุกวันเช้า-เย็น และโทนเนอร์ป้าพอลล่าก็ราคา 800-900 ใช้ได้ประมาณสองเดือนมั้ง ซึ่งเอิ่มมม ไม่มีตังค์ หลังจากที่ใช้โทนเนอร์ป้าพอลล่าหมด เมย์ก็เลยค้นคลังสกินแคร์ของตัวเอง (อันนี้ก็ Over) ก็เจอกับโทนเนอร์ขวดเล็กของ Clarins ก็ใช้โอเคเลยนะ แม้ว่าจะเป็นสูตรที่เหมาะกับผิวมัน ส่วนตอนนี้เมย์ใช้โทนเนอร์ของ Clean&Clear ขวดสีชมพูอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมดแล้วจะใช้ของอะไรต่อ ... แต่ขอแค่ให้เป็นโทนเนอร์อ่ะ เอาแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คัน เมย์ก็ใช้ได้หมดอ่ะ ไม่แคร์ยี่ห้อเท่าไหร่

หลังจากเช็ดโทนเนอร์เสร็จเมย์ก็จะใช้ BHA ของป้าพอลล่า ซื้อมาพร้อมโทนเนอร์ขวดแรกนั่นแหละค่ะ เมย์ซื้อมาใช้เพราะคิดว่าสาเหตุที่เราเป็นสิว นอกจากผิวที่สกปรกแล้ว ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะผิวอุดตัน ไขมันออกมาไม่ได้ จึงเกิดการอุดตันและอักเสบอะไรทำนองนั้น จึงตัดสินใจซื้อ BHA ผลัดเซลล์ผิวที่เน้นเรื่องสิวตัวนี้มาใช้ ซึ่งพอได้ใช้แล้วก็โอเคมาก

ถึงจะเป็นสิวแต่เรื่องบำรุงผิวก็ห้ามขาด เพราะเมย์ผิวแห้งมากกกกก หากวันไหนไม่ทาครีมบำรุงผิว ผิวเมย์จะตึงๆ เหมือนจะแตก หรือไม่ก็แห้ง ลอกเป็นขุยๆ เลยค่ะ ดังนั้นเมย์จึงต้องทาครีมบำรุงทุกวันเช้า-เย็น แต่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบามากขึ้น เพื่อลดการอุดตันของผิว และถ้าวันไหนรู้สึกว่าผิวแห้งมากๆ ก่อนนอนเมย์ก็จะทา Sleeping Pack บางๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แต่ก็จะทาบางๆ น้อยกว่าปกติ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับการอุดตันของผิวเหมือนเดิม

ขั้นตอนถัดมาคือการทาครีมกันแดด บอกเลยว่าจำเป็นมาก ขนาดคุณหมอยังแนะนำเลย (อ่านหนังสือมา) แต่ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ ซึ่งครีมกันแดดที่เป็นที่สุดของเมย์คือ SpectraBAN SC40 กันแดดเนื้อเจลกึ่งซิลิโคน เกลี่ยง่าย ไม่มีสี ทาให้เยอะแค่ไหนก็ไม่วอก แต่ราคาก็สูงอยู่ อยู่ที่ประมาณ 800-1100 บาท แล้วแต่ร้านค้าและโปรโมชั่น เมย์ก็เลยมีครีมกันแดดอีกตัวที่ชอบรองลงมาคือ Garnier UV Complete ที่ชอบตัวนี้เพราะอ่านรีวิวแล้วเค้าบอกว่ากันแดดเสถียร กันแดดได้ยาวนาน แถมยังเป็นเบสเมคอัพไปในตัว ใช้แล้วผิวขาวกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับวอก ... การทาครีมกันแดด เมย์จะใช้ในปริมาณที่เยอะมาก เพื่อให้มันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คืออย่างน้อยก็ต้องปรืมาณ 2 ข้อนิ้วหรือเท่าเหรียญ 10 บาทต่อการทาผิวหน้า ไม่เกี่ยวกับลำคอ และถ้ากลัวว่ามันจะซึมไม่ทัน ก็แบ่งทาทีละครึ่งค่ะ

สุดท้ายเนื่องจากเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม เมย์ก็มักจะแต่งหน้าก่อนออกไปข้างนอกเสมอ แต่จะเน้นแต่งให้บางเบาและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งในรูปนี้เมย์ทาแค่แป้งผสมบีบีของพอนด์กระป๋องสีชมพู เขียนคิ้ว ปัดแก้ม และทาปากค่ะ ...​ และอีกอย่างหนึ่งคือเมย์จะไม่ให้เครื่องสำอางค้างอยู่บนหน้านานจนเกินไป เมื่อกลับถึงที่พักและไม่จำเป็นต้องออกไปไหนอีก เมย์ก็จะล้างเครื่องสำอางทันทีค่ะ

และนี่ก็คือวิธีการดูแลผิวและรักษาสิวของเมย์ค่ะ ... ใจเย็นๆ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ตังค์มาก ก็หายได้

รูปนี้ถ่ายไว้ตอนที่นอนป่วยช่วงสอบไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ คือถึงจะป่วย แต่หน้าสดแล้วโอเคกว่าตอนที่สุขภาพดีแต่เป็นสิวอีกอ่ะ เมย์ว่า เดินผ่านกระจกแล้วไม่ค่อยตกใจล่ะ

อ่อ อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น นอกจากการดูแลผิวที่ร่ายยาวมากจนถึงบรรทัดนี้ เมย์ก็มีการใช้เจลแต้มสิวร่วมด้วย แต่ในช่วงแรกๆ เมย์จะพยายามพึ่งพาเจ้าพวกนี้ให้น้อยที่สุด เพราะไม่ต้องการให้สิวดื้อยา หรือจำเป็นที่จะต้องใช้ยาตลอดเวลา ...​ แต่เมย์ก็มียาแต้มสิวเหล่าติดโต๊ะเครื่องแป้งตลอดเวลานะ 55555 เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้


เหล่านี้คือยาแต้มสิวที่เมย์ใช้เองคนเดียว ย้ำว่าคนเดียว ... เยอะไปไหม? แต่มันก็แบบว่ารักพี่เสียดายน้อง หลอดนี้ไว้สำหรับสิวอักเสบ หลอดนี้ไว้สำหรับสิวอุดตัน หลอดนี้ไว้สำหรับสิวเสี้ยน ... ไรงี้  

มาดูไปทีละตัวนะคะ

เริ่มจาก Clindalin gel ราคา 70 บาท ตัวนี้ใช้มาตลอดตั้งแต่อยู่ม.ปลายจนตอนนี้อยู่ปี 4 แล้วค่า ใช้มากี่หลอดแล้วก็จำไม่ได้ แอบมีหลอดใหม่มาแซกแทรกบ้าง แต่หลอดนี้ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตลอดตั้งแต่เพื่อนแนะนำให้ใช้ เมย์เอาไว้แต้มสิว ตั้งแต่แบบรู้สึกเจ็บๆ เหมือนสิวจะขึ้น จนถึงแบบหัวสิวสุก (เรียกถูกมั้ย?) มันช่วยให้สิวออกหัวเร็วขึ้น และบางทีไอ้ที่เป็นสิวเจ็บๆ  เหมือนจะเป็นสิวหัวช้าง บางทีทาตัวนี้ไปสิวก็ไม่ขึ้นอีกเลยนะ แต่ต้องใช้เวลา และทาเป็นประจำสม่ำเสมอ

หลอดต่อมาคือ Retin A  ราคา 90 บาท ช่วยเรื่องสิวเหมือนกัน เมย์ใช้ทาก่อนนอน ทาแล้วปิดไฟนอนเลยค่ะ เพราะที่ใบกำกับยาบอกให้หลีกเลี่ยงการโดนแสง ความเข้มข้นของแต่ละตัวก็แล้วแต่บุคคลค่ะ เพิ่งเริ่มใช้ก็เริ่มจากความเข้มข้นน้อยๆ ก่อน บางคนอาจทาบางๆ ทั้งหน้า แต่เมย์ทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว

ตัวที่สามคือ Brevoxyl (เบรว๊อกซิล) ขนาด 10 กรัม ราคา 150 บาท จริงๆ ที่เริ่มใช้แรกๆ คือ Panoxyl  แต่เมย์หาซื้อไม่ได้แล้ว เภสัชกรร้านขายยาที่เมย์ไปซื้อเขาบอกว่า "Brevoxyl ผลิตขึ้นมาแทน Panoxyl เพราะว่าตัวเดิมมันค่อนข้างแรง ระคายเคืองง่าย” ใครมีตัวไหน หรือสามารถหาซื้อตัวไหนได้ ก็ใช้ได้ทั้งสองแบบนะคะ

เมย์ใช้ทาบริเวณจมูกตอนเช้าก่อนล้างหน้าประมาณ 15 นาที ใช้แรกๆ เกิดอาการแสบบริเวณที่ทามาก (Panoxyl) ผิวบริเวณที่ทาแดง แต่ถามคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ใช้ไปซักพักเดี๋ยวก็หาย ... หรือไม่ก็ลดปริมาณการใช้ อันนี้ช่วยเรื่องสิวเสี้ยน แต่ถ้าเลิกใช้สิวเสี้ยนก็กลับมาเยือนอยู่ดีนะคะ (แล้วแต่ความขยัน) เมย์ใช้ได้ประมาณ 2 หลอด (ใช้ๆ หยุดๆ) ส่วนตัว Brevoxyl เมย์ใช้แล้ว มันอ่อนกว่าจริงๆ ไม่ระคายเคืองเลย


ตัวที่ 4 กับ 5 เพิ่งได้มาใหม่ เป็นของ Provamed ราคาหลอดละ 195 บาท สีฟ้าสำหรับสิวอุดตัว ส่วนสีม่วงสำหรับสิวอักเสบ ทาแล้วจะจี๊ดๆ โดยเฉพาะหลอดสีม่วง สะใจมาก ทาแล้วสิวสุกเร็วมาก แล้วก็แห้งและหลุดเร็วด้วย เมย์เคยลองใช้สีฟ้าทาบริเวณที่เป็นสิวอุดตันก่อน พอมันผุดขึ้นมาแล้วก็ใช้สีม่วงทา ทาจนมันขึ้นหัวสีเหลืองๆ แล้วก็ทาไปเรื่อยจนมันแห้งหลุดไปเองอ่ะค่ะ ถือว่าเป็นไอเท็มใหม่ที่มาแรง และเมย์ชอบมากกก บางวันถึงขั้นทาติดกันหลายๆ ครั้ง แบบว่าหายจี๊ดแล้วก็ทาใหม่ หายจี๊ดแล้วก็ทาใหม่

ส่วนตัวสุดท้ายคือ Dermatix Ultra Gel จริงๆ มันไม่ใช่เจลแต้มสิวนะคะ มันคือเจลแต้มลดรอย แต่ช่วงที่ใช้แรกๆ ไม่ได้อ่านไง เพราะมันเป็นของเพื่อน (เลยไม่ทราบราคา) เพื่อนบอกว่าใช้แต้มสิว เมย์ก็ใช้แต้มสิวตาม แล้วมันก็ช่วยได้ดีนะคะ และที่สำคัญคือรอยสิวหายเร็วขึ้น ก็ใช้จนติดก็เลยจิ๊กมาเป็นของตัวเอง ... ใช้ตั้งแต่หลอดเล็กๆ จนมาเป็นหลอดใหญ่ๆ อ่ะคิดดู แต่โดยส่วนตัวแล้วเมย์ชอบหลอดเล็กมากกว่า เมย์ว่าเจลมันร้อนๆ ดี

เจลแต้มสิวทุกตัว เมย์ไม่ได้ใช้พร้อมกันนะคะ เพราะถ้าใช้พร้อมกันฤทธิ์ยามันอาจจะหักล้างกันเอง ... ดังนั้นเมย์จะเลือกใช้ทีละตัว ตามแต่ความชอบ ณ ช่วงเวลานั้นๆ

หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ ... สวัสดีค่ะ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   เจลแต้มสิว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่