จากกระแสสังคมในปัจจุบัน มุมมองทางด้านอาชีพครูถูกหลายฝ่ายประณามว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีคุณภาพ สังคมเห็นว่าคนเก่งไม่มาเรียนครู คนเรียนครูคือคนท้ายแถว เหลือเลือก และ ยังมองว่าเป็นวงการอาชีพที่เห็นแก่ตัว เนื่องจากปิดกั้นบุคคลอื่นที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพให้เข้ามาเป็นครู สงวนไว้ให้เพียงแค่บัณฑิตที่เรียนครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์เท่านั้น จนส่งผลให้ทางคุรุสภาต้องพิจารณาและสุดท้ายก็เปิดกว้างสำหรับคนที่ไม่ได้จบด้านการศึกษาหรือผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาเป็นครูได้
แต่ทว่าก่อนที่บุคคลเหล่านั้นจะเข้ามาทำอาชีพครู เขาก็ไปทำมาหลากหลายอาชีพซึ่งสุดท้ายก็มาจบตรงที่การทำงานเป็นครู ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของตนตั้งแต่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้ ทำให้ใครหลายๆ คนมองว่าการเข้ามาเป็นครูไม่ได้ยาก จะมาเป็นตอนไหนก็ได้ ลองไปทำงานอื่นก่อน ถ้าไม่ไหวก็ค่อยมาสมัครเป็นครู ที่สำคัญบัณฑิตที่จบทางด้านการศึกษาในสมัยนี้ถูกมองว่าเป็นบัณฑิตที่อ่อน วงการการศึกษาสมควรที่จะให้คนเก่งๆ เข้ามาเป็นครูดีกว่าเอาบัณฑิตที่จบครูแต่เนื้อหาไม่แน่นพอมาสอน
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ได้คนเก่งๆ มาเป็นครู มาช่วยผลักดันการศึกษาให้ดีขึ้น แต่ถ้าถึงกระนั้นแล้ว ทางกระทรวงก็สมควรที่จะยกเลิกคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ไปเลยเพื่อให้นักศึกษาได้ไปเรียนเนื้อหาที่แน่นๆ เพราะบางสาขาที่ครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์เปิดสอน คณะอื่นก็เปิดสอนเช่นเดียวกัน พอเรียบจบหลักสูตรแล้ว ใครอยากจะเป็นครูค่อยมาสมัครสอบแข่งขันกัน มันจะได้ไม่เป็นเรื่องถกเถียงกันอีกว่าทำไมคนที่เรียนอย่างอื่นมา ถึงมาเป็นครูไม่ได้ มันจะไม่มีข้อพิพาทเรื่องว่าบัณฑิตศาสตร์นี้เก่ง ศาสตร์นี้อ่อน และไม่เป็นการทำร้ายจิตใจของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตที่ต้องเรียนอย่างยากลำบากถึง 5 ปี อีกต่อๆ ไป
ผมไม่ใช่คนที่อยากมาเป็นครูแต่ไม่ได้เป็น เพราะตอนนี้ผมคือครูคนหนึ่ง แต่ผมแค่อยากให้ใครๆ ได้รับรู้ว่าการที่เราจะเป็นครูนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรียนไปวันๆ แล้วก็จบออกมาได้ใบประกอบวิชาชีพ แต่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง จากการเรียนวิชาเอก คู่ขนานไปกับวิชาทางด้านการศึกษา นักศึกษาครูเขาเรียนด้านการศึกษามาไม่น้อย แต่ถ้าจะเอาใครก็ได้มาเป็นครู แล้วกระทรวงศึกษาธิการจะมีวิชาเหล่านี้มาทำไม แล้วจะมีใครมาเรียนครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์อีกต่อไปหรือครับ
ถ้าคุณเข้าใจผม คุณจะรู้ว่าผมเขียนในเชิงใด โปรดอย่าด่ากันก็พอครับ ขอแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ขอบคุณครับ
คุณคิดอย่างไรกับคำพูดที่ว่า “อาชีพครูเป็นอาชีพเหลือเลือก”
แต่ทว่าก่อนที่บุคคลเหล่านั้นจะเข้ามาทำอาชีพครู เขาก็ไปทำมาหลากหลายอาชีพซึ่งสุดท้ายก็มาจบตรงที่การทำงานเป็นครู ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของตนตั้งแต่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้ ทำให้ใครหลายๆ คนมองว่าการเข้ามาเป็นครูไม่ได้ยาก จะมาเป็นตอนไหนก็ได้ ลองไปทำงานอื่นก่อน ถ้าไม่ไหวก็ค่อยมาสมัครเป็นครู ที่สำคัญบัณฑิตที่จบทางด้านการศึกษาในสมัยนี้ถูกมองว่าเป็นบัณฑิตที่อ่อน วงการการศึกษาสมควรที่จะให้คนเก่งๆ เข้ามาเป็นครูดีกว่าเอาบัณฑิตที่จบครูแต่เนื้อหาไม่แน่นพอมาสอน
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ได้คนเก่งๆ มาเป็นครู มาช่วยผลักดันการศึกษาให้ดีขึ้น แต่ถ้าถึงกระนั้นแล้ว ทางกระทรวงก็สมควรที่จะยกเลิกคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ไปเลยเพื่อให้นักศึกษาได้ไปเรียนเนื้อหาที่แน่นๆ เพราะบางสาขาที่ครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์เปิดสอน คณะอื่นก็เปิดสอนเช่นเดียวกัน พอเรียบจบหลักสูตรแล้ว ใครอยากจะเป็นครูค่อยมาสมัครสอบแข่งขันกัน มันจะได้ไม่เป็นเรื่องถกเถียงกันอีกว่าทำไมคนที่เรียนอย่างอื่นมา ถึงมาเป็นครูไม่ได้ มันจะไม่มีข้อพิพาทเรื่องว่าบัณฑิตศาสตร์นี้เก่ง ศาสตร์นี้อ่อน และไม่เป็นการทำร้ายจิตใจของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตที่ต้องเรียนอย่างยากลำบากถึง 5 ปี อีกต่อๆ ไป
ผมไม่ใช่คนที่อยากมาเป็นครูแต่ไม่ได้เป็น เพราะตอนนี้ผมคือครูคนหนึ่ง แต่ผมแค่อยากให้ใครๆ ได้รับรู้ว่าการที่เราจะเป็นครูนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรียนไปวันๆ แล้วก็จบออกมาได้ใบประกอบวิชาชีพ แต่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง จากการเรียนวิชาเอก คู่ขนานไปกับวิชาทางด้านการศึกษา นักศึกษาครูเขาเรียนด้านการศึกษามาไม่น้อย แต่ถ้าจะเอาใครก็ได้มาเป็นครู แล้วกระทรวงศึกษาธิการจะมีวิชาเหล่านี้มาทำไม แล้วจะมีใครมาเรียนครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์อีกต่อไปหรือครับ
ถ้าคุณเข้าใจผม คุณจะรู้ว่าผมเขียนในเชิงใด โปรดอย่าด่ากันก็พอครับ ขอแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
ขอบคุณครับ