ทริปนี้ให้เผื่อใครตั้งใจจะไปดอยอ่างขางค่ะ เดินทางจากปทุมธานี แวะค้างคืนที่ อุตรดิตถ์ ทริปนี้ใช้เส้นทาง อุตรดิตถ์ - แพร่ - ลำปาง - ลำพูนและสถานีปลายทาง เชียงใหม่ค่ะ ต้อนรับสายหมอกแรกกับ เส้นทางผ่านแพร่ หมอกลงสวยมว๊ากจ้า....
ช่วงที่ผ่านเวลา 8 โมงกว่า แล้วค่ะ ระหว่างทางขึ้น - ลงเขา มีหมอกตลอดทางค่ะ
ระหว่างทางก็แวะไปค่ะ มาถึงเชียงใหม่แล้ว ต้องแวะค่ะ ดอยสุเทพซ้อมขึ้นเขาและโค้ง เบา ๆ ค่ะ (บางช่วงก็โค้งมากหน่อย ฝึกฝีมือค่ะ)
เดี๋ยวมาต่อ ไปติดต่องานแป๊บจ้า
แนะนำว่า ก่อนจะขึ้นดอยก็เตรียมเติมน้ำมันให้พร้อมนะคะ รถที่ จขกท. ขับไป เติม E 85 หายห่วงค่ะ เชียงใหม่มีพรึ่บค่ะ ระหว่างทางใช้เส้นทาง ไชยปราการ มีปั้มให้เลือกเย๊อะค่ะ เติมเลยจ้า ให้เต็มถังเตรียมพร้อมสำหรับขึ้นดอย และก็เสบียงทั้งหลาย ขนม เครื่องดื่ม พร้อมแล้วก็เริ่มขึ้นดอยกันจ้า ครั้งแรกกับการเห็นดอกบัวตอง ตื่นเต้นค่ะ อากาศช่วง 4 โมงกว่า เย็น ๆ แล้ว
เข้าที่พักกันค่ะ เราเลือกพักที่บ้านพักเล่าติง 4 ท่าน ราคา 2,500 บาท ไม่มีอาหารเช้าค่ะ ดูและตัวเอง (แอบเสียดาย น่าจะมีอาหารเช้า กาแฟ ขนมปัง ข้าวต้มนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดีค่ะ คือ ราคานี้ ไม่มีอะไรเลย แต่ก็ทำใจค่ะ ที่พักหายาก ช่วงเทศการ) ภายในห้องปกติค่ะ มีที่นอน 2 เตียงใหญ่ ระบบน้ำอุ่นเป็นแบบจุดเตาแก๊ส ตื่นเต้นดีค่ะ เค้ามีคู๋มือแนะนะ ว่าทำอย่างไร อ่าน ๆ ดูลองค่ะ ไม่อาบไม่ได้เหนียวตัวเหลือเกิน รูปบ้านพักค่ะ ถ่ายมาแต่วิวข้างนอก
วิวจากห้องพักจะมองเห็นทั่ว ๆ บริเวณที่พักชุมชนแถว ๆ ดอยอ่างขางค่ะ
ทีนี้เริ่มหิวค่ะ เย็นค่ำและ ร้านอาหารมีให้เลือกไม่มากนัก ร้านที่เค้า Review กันบ่อย ๆ สีเหลือง ๆ (ไม่กล้าเอ่ยนามกลัวโดนฟ้อง งี้ ) คนเย๊อะค่ะ แต่แบบ เราก็ตั้งใจไปกินแหละ แต่พอเข้าไปในร้าน รู้สึกเค้าคงดูแลไม่ทั่วถึง เกือบ 10 นาทีโต๊ะยังเก็บไม่เสร็จ สายตาแอบเหลืบไปเห็นป้ายข้างกำแพง บอกว่าถ้าอยากสั่งอาหารแล้วได้เร็วๆ กรุณาสั่งเหมือน ๆ กัน และ ไม่รับทำอาหารข้าวกล่อง อาหารจานเดียว เท่านั้นแหละค่ะ ความเรื่องมากของเจ้าของกระทู้ เดินออกค่ะ หาร้านใหม่ก็ได้ เดินรอบ ๆ เลยลองร้านนี้ค่ะ "ครัวคุ้มไท"
ออกตัวก่อนว่า กินร้านนี้ทำใจอย่างนะคะ รอนานมาก ๆๆๆๆ คือ สั่งอาหารไปเลย ไม่ต่ำกว่า 30 นาที คุณจะได้กินจานแรกค่ะ ระหว่างรอก็เดินไปซื้อน้ำขิงร้อน ๆ กะ ซาโมซ่าทอด แถว ๆ นั้นแหละค่ะ กินเรียกน้ำย่อยไปก่อน รอผ่านไปกว่า 30 นาที สั่งอาหารเสร็จ จนผู้ชายคนนึงเดินมาถามว่าอาหารยังไม่ออกอีกเหรอคะ เลยบอกว่า นานแล้วค่ะ ไม่ออกซักกะจาน เค้าเลยบอกอ๋อครับ เด๋วตามให้ เท่านั้นแหละค่ะ นางก็เดินไปในครัว พร้อมกับ ผัด ๆๆๆๆ เราเริ่มเห็นแล้วว่าโต๊ะข้าง ๆ อาหารมาแล้ว หน้าตาดีด้วย เลยอดทนรอค่ะ เพราะแต่ละโต๊ะนั่งมองหน้ากัน พออาหารเริ่มออก พูดเลยไม่ผิดหวังค่ะ สั่งข้าวไป 1 โถเล็ก (แนะนำว่า มา 4-5 ท่าน สั่งโถเล็กพอ) ข้าวโถเล็ก แต่อัดแน่น หอมมะลิอย่างดีค่ะ เริ่มเมนูแรก
จานแรกหน้าตาดีค่ะ
อันนี้ก็อร่อยจ้า แต่จะอ่อนเปรี้ยวไปหน่อย
ร้อน ๆ ต้มยำปลาทับทิม แก้อากาศหนาวค่ะ
จริง ๆ ฝากท้องไว้กับร้านนี้ 2 มื้อเลยค่ะ ทั้งมื้อเย็นวันที่เดินทางไปถึง และ มื้อเช้าก่อนกลับ ถ่ายรูปบ้าง ลืมบ้าง เพราะมัวแต่กิน หิวค่ะ ทีนี้กองทัพพร้อมแล้ว เริ่มไปทัวร์ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันจ้า
ค่าเข้าท่านละ 50 บาทค่ะ รถยนต์คันละ 50 ราคานี้แยกระหว่างคนกะรถนะคะ รอบแรกเนี่ยขับรถเข้าไป แต่แบบ ต้องเด๋วขับ เด๋วจอดแวะถ่ายรูปตรงนั้น ตรงนี้ เลยสรุปวนออกค่ะ เอารถมาไว้ด้านนอกเลย แล้วเดินเข้าใหม่ ค่อย ๆ เดินแวะชมแต่ละจุดไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะยังไงก็มีเวลาให้ทั้งวันอยู๋แล้ว
กลับมา Update ต่อค่ะ ช่วงที่ไปอุณภูมิช่วง 8 โมงเช้านี่ น่าจะประมาณ 19 - 20 ค่ะ เลยอดเห็นแม่คะนิ้ง เสียใจเบา ๆ แต่มุมอื่นยังสวยเหมือนเดิม ตั้งใจว่าจะไปดูไร่สะตอเบอรี่ ถามเจ้าหน้าที่เค้าก็ชีมือไป ขับไปขับมาเลยออกมานอกเขตสถานีเกษตรค่ะ ด้านหลัง เลยได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า ไร่สะตอเบอรี่อยู่ไหน เค้าเลยชี้ว่ากลับรถตรงนั้น เลี้ยวตรงนี้ แล้วก็มาถึงหมู่บ้านเชิงเขา "หมู่บ้านนอแล" ค่ะ
พอมาถึงจะมีน้อง ๆ ชาวเขาเดินมาแนะนำ นู้นนี้นั้น คือ สรุปพาดูได้ แต่ห้ามเด็ด ห้ามกินค่ะ เค้าปลูกส่งให้โครงการหลวงเท่านั้นค่ะ แต่ก็จะมีชาวเขาบางคนแอบขายให้นักท่องเที่ยว จริง ๆเป็นเรื่องที่ผิดนะคะ น้อง ๆ อธิบายว่า ถ้ากรณีใครแอบขายเจ้าหน้าที่จับได้จะไม่ให้ปลูกอีกค่ะ คือ เป็นต้นพันธุ์ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ปลูกแล้วส่งเข้าโครงการหลวงหรือใครสนใจซือ้ก็ที่สถานีเกษตรหลวงมีจำหน่ายค่ะ และเราก็จะมีเห็นจำหน่ายข้างทางบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกค่ะ
หลังจากเที่ยวทั่วสถานีเกษตรแล้วกลับออกมาถึงที่พักเพื่อเตรียม check out ค่ะ เก็บข้าวของ เตรียมเดินทางกลับ มีเรื่องที่แนะนำสำหรับนักเดินทางที่ห่วงว่าเอ๊ะ รถเก๋งจะขึ้นได้ไหม เฟริมว่าขึ้นได้ค่ะ ที่สำคัญตรวจสภาพรถดีดีด้วยค่ะ เพราะสภาพทางบางช่วงรถขึ้นทางชันจะอืด ๆ มาก ๆ เราเห็นบางคนเอารถเครื่อง 1300 CC ขึ้น ก็เอาขึ้นได้ค่ะ คนขับก็ต้องมีประสบการณ์หน่อยค่ะ ขนาดรถที่เอาไปช่วงลงเขา รถใหม่ ยังได้กลิ่นน่าจะเป็นเบรคไหม้นิด ๆ ล่ะค่ะ ไม่ต้องตกใจอย่างที่เค้าว่าไว้ ถ้ามีความมั่นใจ ขับไปเลยค่ะ ตรวจสภาพรถให้พร้อม คนพร้อม เงินในกระเป๋าพร้อม (อันนี้สำคัญมาก) เดินทางได้เลยค่ะ ส่วนใครที่มีแพลนจะไป ขอให้สนุกกับทริปนี้ค่ะ....
[CR] ดอยอ่างขาง ทริป วันที่ 4 ธ.ค. 57 จ้า
ช่วงที่ผ่านเวลา 8 โมงกว่า แล้วค่ะ ระหว่างทางขึ้น - ลงเขา มีหมอกตลอดทางค่ะ
ระหว่างทางก็แวะไปค่ะ มาถึงเชียงใหม่แล้ว ต้องแวะค่ะ ดอยสุเทพซ้อมขึ้นเขาและโค้ง เบา ๆ ค่ะ (บางช่วงก็โค้งมากหน่อย ฝึกฝีมือค่ะ)
เดี๋ยวมาต่อ ไปติดต่องานแป๊บจ้า
แนะนำว่า ก่อนจะขึ้นดอยก็เตรียมเติมน้ำมันให้พร้อมนะคะ รถที่ จขกท. ขับไป เติม E 85 หายห่วงค่ะ เชียงใหม่มีพรึ่บค่ะ ระหว่างทางใช้เส้นทาง ไชยปราการ มีปั้มให้เลือกเย๊อะค่ะ เติมเลยจ้า ให้เต็มถังเตรียมพร้อมสำหรับขึ้นดอย และก็เสบียงทั้งหลาย ขนม เครื่องดื่ม พร้อมแล้วก็เริ่มขึ้นดอยกันจ้า ครั้งแรกกับการเห็นดอกบัวตอง ตื่นเต้นค่ะ อากาศช่วง 4 โมงกว่า เย็น ๆ แล้ว
เข้าที่พักกันค่ะ เราเลือกพักที่บ้านพักเล่าติง 4 ท่าน ราคา 2,500 บาท ไม่มีอาหารเช้าค่ะ ดูและตัวเอง (แอบเสียดาย น่าจะมีอาหารเช้า กาแฟ ขนมปัง ข้าวต้มนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดีค่ะ คือ ราคานี้ ไม่มีอะไรเลย แต่ก็ทำใจค่ะ ที่พักหายาก ช่วงเทศการ) ภายในห้องปกติค่ะ มีที่นอน 2 เตียงใหญ่ ระบบน้ำอุ่นเป็นแบบจุดเตาแก๊ส ตื่นเต้นดีค่ะ เค้ามีคู๋มือแนะนะ ว่าทำอย่างไร อ่าน ๆ ดูลองค่ะ ไม่อาบไม่ได้เหนียวตัวเหลือเกิน รูปบ้านพักค่ะ ถ่ายมาแต่วิวข้างนอก
วิวจากห้องพักจะมองเห็นทั่ว ๆ บริเวณที่พักชุมชนแถว ๆ ดอยอ่างขางค่ะ
ทีนี้เริ่มหิวค่ะ เย็นค่ำและ ร้านอาหารมีให้เลือกไม่มากนัก ร้านที่เค้า Review กันบ่อย ๆ สีเหลือง ๆ (ไม่กล้าเอ่ยนามกลัวโดนฟ้อง งี้ ) คนเย๊อะค่ะ แต่แบบ เราก็ตั้งใจไปกินแหละ แต่พอเข้าไปในร้าน รู้สึกเค้าคงดูแลไม่ทั่วถึง เกือบ 10 นาทีโต๊ะยังเก็บไม่เสร็จ สายตาแอบเหลืบไปเห็นป้ายข้างกำแพง บอกว่าถ้าอยากสั่งอาหารแล้วได้เร็วๆ กรุณาสั่งเหมือน ๆ กัน และ ไม่รับทำอาหารข้าวกล่อง อาหารจานเดียว เท่านั้นแหละค่ะ ความเรื่องมากของเจ้าของกระทู้ เดินออกค่ะ หาร้านใหม่ก็ได้ เดินรอบ ๆ เลยลองร้านนี้ค่ะ "ครัวคุ้มไท"
ออกตัวก่อนว่า กินร้านนี้ทำใจอย่างนะคะ รอนานมาก ๆๆๆๆ คือ สั่งอาหารไปเลย ไม่ต่ำกว่า 30 นาที คุณจะได้กินจานแรกค่ะ ระหว่างรอก็เดินไปซื้อน้ำขิงร้อน ๆ กะ ซาโมซ่าทอด แถว ๆ นั้นแหละค่ะ กินเรียกน้ำย่อยไปก่อน รอผ่านไปกว่า 30 นาที สั่งอาหารเสร็จ จนผู้ชายคนนึงเดินมาถามว่าอาหารยังไม่ออกอีกเหรอคะ เลยบอกว่า นานแล้วค่ะ ไม่ออกซักกะจาน เค้าเลยบอกอ๋อครับ เด๋วตามให้ เท่านั้นแหละค่ะ นางก็เดินไปในครัว พร้อมกับ ผัด ๆๆๆๆ เราเริ่มเห็นแล้วว่าโต๊ะข้าง ๆ อาหารมาแล้ว หน้าตาดีด้วย เลยอดทนรอค่ะ เพราะแต่ละโต๊ะนั่งมองหน้ากัน พออาหารเริ่มออก พูดเลยไม่ผิดหวังค่ะ สั่งข้าวไป 1 โถเล็ก (แนะนำว่า มา 4-5 ท่าน สั่งโถเล็กพอ) ข้าวโถเล็ก แต่อัดแน่น หอมมะลิอย่างดีค่ะ เริ่มเมนูแรก
จานแรกหน้าตาดีค่ะ
อันนี้ก็อร่อยจ้า แต่จะอ่อนเปรี้ยวไปหน่อย
ร้อน ๆ ต้มยำปลาทับทิม แก้อากาศหนาวค่ะ
จริง ๆ ฝากท้องไว้กับร้านนี้ 2 มื้อเลยค่ะ ทั้งมื้อเย็นวันที่เดินทางไปถึง และ มื้อเช้าก่อนกลับ ถ่ายรูปบ้าง ลืมบ้าง เพราะมัวแต่กิน หิวค่ะ ทีนี้กองทัพพร้อมแล้ว เริ่มไปทัวร์ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันจ้า
ค่าเข้าท่านละ 50 บาทค่ะ รถยนต์คันละ 50 ราคานี้แยกระหว่างคนกะรถนะคะ รอบแรกเนี่ยขับรถเข้าไป แต่แบบ ต้องเด๋วขับ เด๋วจอดแวะถ่ายรูปตรงนั้น ตรงนี้ เลยสรุปวนออกค่ะ เอารถมาไว้ด้านนอกเลย แล้วเดินเข้าใหม่ ค่อย ๆ เดินแวะชมแต่ละจุดไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะยังไงก็มีเวลาให้ทั้งวันอยู๋แล้ว
กลับมา Update ต่อค่ะ ช่วงที่ไปอุณภูมิช่วง 8 โมงเช้านี่ น่าจะประมาณ 19 - 20 ค่ะ เลยอดเห็นแม่คะนิ้ง เสียใจเบา ๆ แต่มุมอื่นยังสวยเหมือนเดิม ตั้งใจว่าจะไปดูไร่สะตอเบอรี่ ถามเจ้าหน้าที่เค้าก็ชีมือไป ขับไปขับมาเลยออกมานอกเขตสถานีเกษตรค่ะ ด้านหลัง เลยได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า ไร่สะตอเบอรี่อยู่ไหน เค้าเลยชี้ว่ากลับรถตรงนั้น เลี้ยวตรงนี้ แล้วก็มาถึงหมู่บ้านเชิงเขา "หมู่บ้านนอแล" ค่ะ
พอมาถึงจะมีน้อง ๆ ชาวเขาเดินมาแนะนำ นู้นนี้นั้น คือ สรุปพาดูได้ แต่ห้ามเด็ด ห้ามกินค่ะ เค้าปลูกส่งให้โครงการหลวงเท่านั้นค่ะ แต่ก็จะมีชาวเขาบางคนแอบขายให้นักท่องเที่ยว จริง ๆเป็นเรื่องที่ผิดนะคะ น้อง ๆ อธิบายว่า ถ้ากรณีใครแอบขายเจ้าหน้าที่จับได้จะไม่ให้ปลูกอีกค่ะ คือ เป็นต้นพันธุ์ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ปลูกแล้วส่งเข้าโครงการหลวงหรือใครสนใจซือ้ก็ที่สถานีเกษตรหลวงมีจำหน่ายค่ะ และเราก็จะมีเห็นจำหน่ายข้างทางบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกค่ะ
หลังจากเที่ยวทั่วสถานีเกษตรแล้วกลับออกมาถึงที่พักเพื่อเตรียม check out ค่ะ เก็บข้าวของ เตรียมเดินทางกลับ มีเรื่องที่แนะนำสำหรับนักเดินทางที่ห่วงว่าเอ๊ะ รถเก๋งจะขึ้นได้ไหม เฟริมว่าขึ้นได้ค่ะ ที่สำคัญตรวจสภาพรถดีดีด้วยค่ะ เพราะสภาพทางบางช่วงรถขึ้นทางชันจะอืด ๆ มาก ๆ เราเห็นบางคนเอารถเครื่อง 1300 CC ขึ้น ก็เอาขึ้นได้ค่ะ คนขับก็ต้องมีประสบการณ์หน่อยค่ะ ขนาดรถที่เอาไปช่วงลงเขา รถใหม่ ยังได้กลิ่นน่าจะเป็นเบรคไหม้นิด ๆ ล่ะค่ะ ไม่ต้องตกใจอย่างที่เค้าว่าไว้ ถ้ามีความมั่นใจ ขับไปเลยค่ะ ตรวจสภาพรถให้พร้อม คนพร้อม เงินในกระเป๋าพร้อม (อันนี้สำคัญมาก) เดินทางได้เลยค่ะ ส่วนใครที่มีแพลนจะไป ขอให้สนุกกับทริปนี้ค่ะ....
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น